สุภารัตถะ บล็อก
Group Blog
 
All Blogs
 
อันว่า..ความเหงา ความเบื่อ..


อันว่า..ความเหงา ความเศร้า ความเบื่อ ฯลฯ

บ่อยครั้ง ที่จู่ๆ ใครหลายคนก็เกิดความเหนื่อยหน่ายทุกอย่างรอบตัวเหลือทน จนอยากทิ้งทุกอย่างไปแม้กระทั่งชีวิต นี่ไม่ได้อาจไม่ได้หมายถึงการอยากฆ่าตัวตาย แต่เผอิญการรับรู้ว่าหากไม่ต้องการมีตัวเราต่อไป นั่นก็คือ..ทำลายตัวตนนี้ลง

ตัวตนที่ทนได้ยาก ทั้งที่รักนักรักหนา อยากสำแดงความยิ่งใหญ่ของมันออกไปให้ใครต่อใครยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงทางด้านไหนๆ ก็ตาม ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ ความสามารถด้านใดด้านหนึ่ง ฯลฯ แต่บ่อยครั้งที่เราเบื่อหน่ายมัน และไม่เป็นไปดังปรารถนา
ความไม่ได้ดังใจ ความไม่คงทนของร่างกายตัวตน อีกทั้งสมบัติที่มีทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ความสามารถเฉพาะตัว หรือการมีการศึกษามีฐานะ ที่อยากจะให้มันดี มันงาม มันเจริญ มันแข็งแรง หรือได้ดังใจ ต่างกลับแสดงความเสื่อมให้ปรากฏตามกฎไตรลักษณ์ และสิ่งใดที่ยังตกอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ย่อมเป็นทุกข์

บางคนรูปร่างหน้าตาดี ร่ำรวย แต่ก็ยังไม่อาจทนต่อความผิดหวังด้านการเรียน ความรัก ฯลฯ ประสาอะไรกับคนที่ต้องผิดกับเรื่องหลายเรื่อง ทั้งหน้าตา การงาน ฐานะ ครอบครัว อื่นๆ จิปาถะ

เราโทษเหตุของความผิดหวังในชีวิต ว่าเป็นเรื่องนอกตัว แต่แท้จริงแล้ว แทบไม่น่าเชื่อ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องของตัวตน ตัวตนที่เกิดการเปรียบเทียบ ไม่พอใจ ไม่สามารถทนอยู่กับตัวเองได้อย่างแท้จริง

หลายคนอาจไม่รู้สึกว่า ตัวตนเป็นเรื่องต้องทนแต่อย่างใด เพราะจิตเตลิดออกนอกตัวตลอด ใช้ชีวิตเพื่อความสนุกสนาน กิน ดื่ม เที่ยว เสพ หรือแม้แต่การไปวัด ทำบุญ เล่นไพ่นกกระจอก นี้ก็เพื่อหนีตัวตนออกไปทั้งนั้น ทำไมเราไม่สามารถทนอยู่กับตัวเองได้ แม้ในเวลาไม่นาน เรายังต้องหาหนังสืออ่าน ฟังเพลง พูดคุย ออกนอกบ้าน แม้แต่การมีคนรัก มีเพศสัมพันธ์ นี้ก็เพื่อให้เราพ้นไปจากตัวตนของตัวเองหรือเปล่า...

บางคนโชคดีขนาดไม่ต้องเจอเรื่องผิดหวังใดๆ เลยในชีวิต แต่พอเอาเข้าจริง ก็กลับไม่รู้สึกเป็นสุขกับครอบครัว เงินทอง ความสำเร็จ ทั้งที่แต่ก่อนสุขกับมันจนล้น ความเบื่อหน่าย ความว้าเหว่ เหมือนยังไม่พบความสุข จู่โจมเข้ามาแทรกในความรู้สึกเสมอ ตัวตนไม่เคยพอใจอะไรง่ายๆ ได้นาน

ตัวตนของเรามันอยู่เฉยๆ ไม่เบื่อ เหงา ไม่ทุกข์ ไม่กลัว ไม่ขลาด ได้สักช่วงเวลายาวๆ ได้หรือไม่ มันสำแดงความอัศจรรย์ให้หนีพ้นออกไปนอกตัวได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะด้านดี เป็นนักคิด นักเขียน นักคณิตศาสตร์ นักก่อสร้าง สถาปนิก วิศวกร ฯลฯ หรือแม้แต่ในด้านร้าย นักเที่ยว ดื่ม เสพ ขโมย ค้ายา ฆาตรกร ฯลฯ

แต่สุดท้าย มันก็ต้องกลับมาอยู่กับตัวเอง และช่วงเวลาที่มันต้องอยู่กับตัวเอง มีใครบ้างที่จะลองอยู่กับมันอย่างจริงจัง ไม่วิ่งหนี มองดูความผิดหวัง ความเปล่าเปลี่ยว ความกลัว ความเหงา ความเบื่อ ความอยากจะออกไปทำอะไรดีๆ และทนอยู่กับมันอย่างจริงจัง ทนดูมันสำแดงอาการต่างๆ ให้เห็น
การเอาชนะตัวตนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันดิ้นรนตลอดเวลา ทางธรรมะเรียกการควบคุมมันว่า การปรับจิต หากหดหู่เซื่องซึมก็ต้องยกจิต หากลิงโลดก็ต้องข่มจิต การรู้เท่าทันอาการของจิตหรือตัวตนนั้น เท่ากับเป็นการต่อสู้กับตัวเอง ศัตรูที่แท้จริงที่ไม่มีอะไรร้ายเท่าอีกแล้ว..

ความเบื่อ ความเหงา ความเศร้า ยังคงจู่โจมเราอยู่เสมอ แต่หากเราเท่าทัน ก็พอจะมีหนทางชนะ โดยไม่ต้องวิ่งหนีไปทำอะไรมากมายเพื่อหนีมันอีก.. แต่หากจะหนี ก็ควรหนีโดยการไปทำอะไรที่มีประโยชน์สร้างสรรค์ในด้านบวก การวิ่งหนีโดยใช้อบายมุขเข้าช่วย หรือการทำลายตัวตนโดยการทำลายชีวิต ไม่ได้แก้ปัญหา ซ้ำดึงให้เราเข้าไปอยู่ในปัญหาที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ แม้ในภพหน้า..

การทำลายตัวตนในทางศาสนา คือการกลับเข้าสู่จิตเดิมที่ไร้ตัวตน เห็นตัวตนที่จิตปรุงแต่งดับลงไปทุกขณะ ด้วยการเฝ้ามองและอยู่กับมัน เห็นธรรมชาติของมัน และการปล่อยวางเพราะเท่าทัน ไม่ตกเข้าไปในกระแสสร้างตัวตนใหม่ๆ และอาจทำให้คุณเข้าไปสัมผัสบางช่วงเวลาที่ไร้ตัวตน แม้แค่เพียงชั่วขณะ คุณจะรู้ว่าไม่มีอะไรเป็นสุขเท่า..



Create Date : 23 กรกฎาคม 2548
Last Update : 23 กรกฎาคม 2548 16:14:31 น. 16 comments
Counter : 938 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมนะคะ

ฝากด้วยนะคะ

//nuinirvana.cjb.net


โดย: what for ^.~ วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:15:53 น.  

 
ขอบคุณที่เอามาฝากกัน

อ่านแล้วรู้สึกดีมากค่ะ


โดย: zaesun วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:38:10 น.  

 
เหงาเหมือนกันค่ะ
แต่ก็เหงา แบบมีความสุข


โดย: oho_oomyim วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:43:03 น.  

 
อยู่ที่ใจอย่างเดียวเลย

มองทุกสิ่งทุกอย่างให้มีความสุข

คิดให้มีความสุข ไม่อิจฉาริษยา

ไม่อยากได้ใคร่ดี

พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่

แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ไม่เหงา ไม่เซื่องซึม

บอกแล้วมันอยู่ที่ใจ


โดย: แหม่มค่ะ (พฤษภาคม 2510 ) วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:59:44 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณสุภาฯ

รักดีอ่านแล้วก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง

พยายามอ่านอยู่หลายเที่ยวค่ะ

บางครั้งเป็นคนทำใจได้แต่บางครั้ง

ก็ทำใจไม่ได้ ในเรื่องบางอย่าง

แต่ก็เป็นไม่นาน

ถ้านานคงเป็นบ้าไปแล้ว

ปกติจะเป็นคนอยู่นิ่งๆไม่ค่อยได้

ถ้าอยู่นิ่งๆ จะหลับเอาง่ายๆ

ถ้าไม่นอนก็จะหาอะไรทำไปเรื่อยๆ

ทำอย่างไรคนเราจะอยู่กับตัวตนได้

แบบนานๆคะ หรือว่าต้องนั่งสมาธิไปเรื่อยๆ

หรือว่านั่งเฉยๆนิ่งๆ

ถ้าคุณสุภาฯพอมีเวลา

รบกวนช่วยบอกรักดีเพื่อเป็นวิทยาทานหน่อยนะคะ

รักดีจะพยายามปฎิบัติตามค่ะ


โดย: รักดี วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:16:53:21 น.  

 
ครั้งก่อนไปวัดเห็นแม่ชีทะเลาะกัน
ทำให้คิดได้ว่า ตัวกิเลสมันคงอยู่ตลอดจนเราตาย
ขนาดแม่ชียังทะเลาะกัน
ที่เรานั่งสมาธิเพื่อชำระจิต และมีสติกับการคิดและทำ อยู่ตลอดเวลาจะได้ไม่พลั้งเผลอทำผิดหรือคิดอกุศล
แต่มันทำยากจริงๆ





โดย: อยู่ไกลบ้าน วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:18:23:08 น.  

 
สาธุ อนุโมทนาค่ะ



ท้องฟ้าก็มีครึ้มมีสว่าง ผันแปรไปตลอดเวลา จิตก็แปรไปตามผัสสะที่มากระทบ..

เบื่อก็ให้รู้..
เหงาก็ให้รู้..
เศร้าก็ให้รู้..


โดย: ป่ามืด วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:06:35 น.  

 
ง่า.. คิดว่าเข้าใจง่ายทำยากเสียอีก
ตกลงเป็นเข้าใจยากด้วยใช่เปล่า..

คือถ้าอธิบายต่อ..ไม่รู้จะยิ่งยากขึ้นไหม??

จริงๆ ตัวตนไม่มี แต่ที่มีเป็นจิตสร้าง แล้วมันก็ไม่ยอมหยุดง่ายๆ (ความคิด) มันต้องการแสดงตัวของมันออกมา เป็นตัวเรา ของเรา เราอยากทำนั่น ไม่อยากทำนี่ ...

การกลับไปอยู่กับสิ่งที่เป็นตัวเราเดิมจริงๆ นั้น คือความว่าง จิตจะไม่ชินเอาเลย.. และจะวิ่งหนีดิ้นรนออกมา เพราะจิตชินกับตัวตน อัตตา ซึ่งเต็มไปด้วยกิเลส โลภ โกรธ หลง (ตัวหลงจะหมายถึง รัก หลงใหล อยาก ค่อนข้างตีความได้กว้างมาก) มันจะอยากเล่นกับโลกอยู่ตลอดเวลา

การที่จะล่อไม่ให้จิต ออกไป เบื่อ เหงา เศร้า เซ็ง สนุก โกรธ หลง ฯลฯ ก้ต้องหาที่ให้จิตเกาะ หรือคิดอะไรในด้านบวก

ลมหายใจ เป็นที่นิยม ให้จิตเกาะ แต่อาจเบาและหลุดได้ง่าย

การเคลือ่นไหว อันนี่ จะชัดขึ้นมาอีก

การงาน ถ้ารักดี ชอบทำงาน จะใช้งานเป็นตัวเกาะก้ได้ คิดการคิดงาน ก็เป็นที่เกาะชั้นดีอย่าหนึ่ง ไม่งั้นจิต จะวิ่งไปหานิวรณ์ได้อย่างรวดเร็ว (อาฆาตพยาบาท ฟุ้งซ่าน กาม ลังเลสงสัย ง่วงหงาวหาวนอน)

การอยู่กับตัวตนได้ ทนเห็นมันคิดนั่นคิดนี่ ต้องมีสติตามรู้ตลอด ไม่งั้นจะถูกมันสั่งงานทันที

หากเห็นกลไกของความคิด แทนที่จะถูกกิเลสพาไปกิน เราก็อาจกำหนดการกระทำเราได้ดีขึ้น เช่น อาจจะไปหลงรักคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน ตัวรู้หรือสติก็จะกำกับให้อยู่ในศีลแทน อื่นๆ อีกมากมาย

การนั่งสมาธิ เป็นวิธ๊หนึ่ง ที่จะเห็นตัวตนได้ชัด เห็นมันสั่งให้ทำนั่นนี่ ตลอด เห็นตัวตนที่เกิดตลอด แต่ไม่ลุกไปทำ อย่างตอนที่มีชีวิตประจำวันทั่วไป เพราะเราสั่งตัวเองให้นั่งสมาธิ 1 ชั่วโมง การเห็นจิตที่สร้างตัวตนตรงนี้ จะเห็นธรรมชาติ ของการคิด ปรุง และดับไป โดยเรายังไม่ได้ไปทำตามที่มันสั่ง
ต่างจากความคิดที่เป็นการเป็นงาน อันนี้จะไม่มีกิเลส แต่จะเป็นเรื่องของหน้าที่ ที่เรารุ้ว่าตัวเองจะต้องไปทำอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ต้องจักการกับครอบครัว งาน ลูก เพื่อน ฯลฯ อะไรแบบนี้ เรียกว่าคิดงานคิดการ ที่ควรทำ

ส่วนการจะเข้าไปเห้นความว่างของจิตเดิมได้เลยนั้น จะต้องที่อินทรีย์ห้า หรือพละห้าแก่กล้า ถ้ารักดี อ่านเรื่องเทวดาประจำกาย อาจพอจำได้

คือการที่เรามีสติมากขึ้น สติจะจับความคิดปรุงแต่ง ไม่ให้มันต่อเนื่องได้ หากจิตหยุดสร้างตัวตนเรือ่ยๆ (ไม่คิดปรุ่งแต่ง) จิตจะเกิดกำลัง (ไม่หมดไปกับการคิด) กำลังห้าหรือพละห้านั้น หากมีมากพอ จนดับความคิด(ตัวตน)ลงได้ ก็จะได้สัมผัสเดิม คือความไม่มีตัวตน ซึ่ง ไม่หนักไปด้วยรูปขันธ์ (ร่างกาย) และสังขารขันธ์ (ความคิดปรุงแต่ง) มันก็ประมาณว่าสุข อย่างนั้นแล..


โดย: สุภาฯ IP: 202.57.166.175 วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:16:42 น.  

 
ขอบคุณน้า ที่ what for มาเที่ยว

เปลี่ยนเป็นเงินได้ปะ zaeson

เหงาแบบมีความสุข อิจฉาโอโฮ จัง

จริงจ้า คุณแหม่ม

ง่า..รักดี ใช้งานเป็นตัวเกาะก็ดีจ้า แต่นานๆ หาทาง ไปปฏิบัติธรรมบ้าง ถ้าถึงจุดที่จิตสงบ ไม่ดิ้นรนซัดซ่าย มีกำลัง ก็จะเข้าใจจ้า

แม่ชีทะเลาะกันเหรอ ก็แบบว่า เรื่องปฏิบัติ มันก็ยากเอาการอยู่

ที่บล๊อกป่ามือ ท้องฟ้ามีแต่ครึ้มอะ


โดย: สุภาฯ IP: 202.57.166.175 วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:23:28 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณสุภาฯ

เมื่อคืน รักดีเป็นไรไม่รู้

พออ่าน ที่คุณสุภาฯตอบเอาไว้

รักดีเป็นลมเลยค่ะ

วันนี้ยังปวดหัวไม่หายเลย

คงจะตั้งใจอ่านเกินไปไงไม่รู้

กะว่าจะเข้ามาขอบคุณในตอนเช้า

แต่ก็ลืมจนได้ แย่จังเลย นิสัยรักดี

ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยอธิบายให้ทราบ

ขอบคุณมากๆค่ะ


โดย: รักดี วันที่: 24 กรกฎาคม 2548 เวลา:16:40:45 น.  

 
ใช้เสียงเพลงบรรเลง เสียงจิ้งหรีดเรไร เสียงหยดน้ำ เสียงนาฬิกาเดิน คลื่นเสียงในอากาศ เป็นตัวเกาะได้หรือเปล่า เราฟังเสียงเหล่านี้แล้ว รู้สึกจิตนิ่ง และบางทีช่วยให้หลับง่ายด้วย


โดย: แดดสวย IP: 218.58.58.74 วันที่: 4 กันยายน 2548 เวลา:8:52:39 น.  

 
มันก็ดีนะที่มีอยางนี้อยู่มันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมันสบายใจดีแต่ที่มีใครสักคนที่ยอมรับฝังเรานั้นมันคงดีมิใช้น้อยแต่จะมีใครที่จะยอมรับฝังเราได้บ้างแต่ถ้าใครมีอะไรให้ช่วยก็เข้ามาหากกันได้นะพร้อมที่จะให้คำปึกษานะคับขอให้ทุกคนโชคดีนะคับ


โดย: แมน IP: 203.113.45.196 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:39:18 น.  

 
ขอบคุณครับ เข้าใจแล้วครับ


โดย: แจ๊ค IP: 202.12.97.115 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:06:14 น.  

 
เป็นประโยชน์ และไม่ธรรมดาเลยครับ บทความนี้


โดย: คนคู IP: 58.9.136.147 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:23:00 น.  

 
มีคนเป็นล้านๆคน ที่กล้าอาจหาญคิด แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าอาจหาญทำในสิ่งที่ควรทำ


โดย: คนธรรมดาๆ IP: 58.9.144.134 วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:21:50:11 น.  

 
มีคนเหงาเยอะดี


โดย: ความเหงา IP: 118.173.62.124 วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:9:55:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

suparatta
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร..
..ท่านนาคารชุนะ..
วิภาษวิธี..เกริ่นนำ..ตอนจบ..

๐ สมุดเยี่ยมและบ่นได้..
**ทางลัด**
๐ สารบัญทักทาย(ทั้งหมด)
๐ ชวนคุย&ฟังเพลงปี48(ทั้งหมด)
๐ นอนดูจันทร์..(ส่วนตัว)

**log in หน่อยน่า..



Google.co.th
Friends' blogs
[Add suparatta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.