น ก ก ร ะ จิ บ เ ล่ า เ รื่ อ ง
ธรรมะเป็นคำตอบของคนหนุ่มสาว
Group Blog
 
All Blogs
 
บันทึกเรื่อยเปื่อย (2) - บางสิ่งเราอาจจะ "ชอบ" แต่ ไม่ได้ "อยากได้"

ธรรมะอยู่เต็มโลกไปหมด
วันนี้ แดดเช้าขอนินทาเพื่อนอีกดีกว่า ....
ความจริง เพื่อนคนนี้ก็มีอะไรดีๆ เยอะไปหมด
แต่ชอบทำตัวบ๊องๆ
ลึกจนหาไม่เจอ

ขอขมาด้วยนะ ....
เอานายมาเป็นพระเอกอีกสักเรื่อง

เสียงตามสายโทรศัพท์
"ไหนว่าจะพาเราไปเลี้ยงข้าว ดูดวงให้ตั้งเยอะแล้ว"
"เดี๋ยวก่อนดิ ไม่ใช่วันนี้หรอก"
"แล้วเมื่อไหร่ล่ะ"
"วันนี้ เหนื่อย ไม่มีรถจะไปด้วย ไม่มีเงินด้วย"
"โถๆ น่าเห็นใจ"

คุยกันได้สักพักหนึ่ง เขาก็บอกว่า หิวข้าว
"มากินกะเราดิ เราจะพาไปกิน"
"ไม่มีเงินจริงๆ เราเลี้ยงไม่ได้"
"เราเลี้ยงเองก็ได้"
"ไม่มีรถไปจริงๆ รถที่บ้านเอาออกไปใช้หมดแล้ว อีกคันหนึ่งก็กินน้ำมัน"
"อืม ... น่าจะมาให้เห็นหน้ากันสักหน่อย"
"นายอยากเห็นหน้าเราจริงๆ อะ"
"ใช่ดิ อยากรู้ว่าเหมือนกับที่เราเห็นในนิมิตหรือเปล่า"
"นายเห็นเราเป็นยังไงบ้าง"
"บอกไม่ถูกหรอก รู้ว่า ผิวขาว ปากแดงๆ ร่างไม่สูงนัก ร่างบางๆ ด้วย"
"อืม ถ้าเธอเจอเรา เธอหลงรักเรา แอบชอบเราจะทำไง"
"ไม่เห็นเป็นไรเลย ชอบก็ชอบดิ ชอบ แต่ไม่อยากได้ รู้จักป่ะ อย่างเช่น เคยไหม? เห็นเสื้อสวยๆ แล้วชอบ แต่ไม่อยากได้"
"มันแพงเกินไป"
"ใช่ แพงเกินไปด้วย และก็อีกอย่าง เสื้อผ้ามีแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อ และรองเท้าบางคู่ก็สวยๆ แต่เราไม่อยากได้ เพราะไม่เหมาะกับเรา"
"อืม แล้วถ้าเราเกิดหน้ามืดขึ้นมาทำไง ไม่กลัวเหรอ"
"ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่มีใครหน้ามืดกับเราได้หรอก เห็นหน้าเราแล้วก็กามดับหมดทุกคน"
"ยังไง เราก็ได้เจอกันอยู่ดีแหละ แต่ตอนนี้ไม่ได้จริงๆ หรือเธอจะมาหาเราล่ะ"
"เราคงไม่ไปหรอกนะ .... แถวนั้นมีอะไรกินอะ"
"ไม่มีอะไรกินเลย ข้างทาง 20 บาท"
"เหรอๆ เธอเบื่อบ้างไหม ไม่ค่อยมีอะไรกิน มากินแถวๆ นี้ดีกว่า"
"เราไปไม่ได้จริงๆ ถ้าเธอมา ก็โทร.มาหาเราแล้วกัน จะออกมารับ"
"ไม่อะนะ .... ไว้โอกาสหน้าแล้วกัน"
"งั้นแค่นี้ก่อนนะ เราหิวข้าว นะ นะ"
"ได้ๆ ไว้คุยกันนะ"

ชอบแต่ไม่อยากได้
ก็เหมือนๆ กับว่า อารมณ์ที่น่าพอใจมากระทบเรา เรารู้สึกพอใจ แต่เราไม่ปรุงต่อ
เช่นเดียวกัน ....
แดดเช้าก็ยังเห็นชายหนุ่มหลายๆ คนหน้าตาดี นิสัยดี เป็นคนดี แต่แดดเช้าไม่ได้คิดจะครอบครอง
ไม่ได้อยากได้เอามาเป็นของเรา
เรื่องมันก็ "จบ" ลงง่ายๆ

กิเลสกาม ..... ทำให้มีการเกิด
เกิดเป็น ภพ เป็น ชาติ

ใดใดในโลกล้วน สมมุติ แต่เราติดว่า สมมุติ เป็นสิ่งจริง
สมมุติว่า แดดเช้าเป็นเพื่อนกับคนๆ นั้น
แดดเช้าก็สำคัญตัวเองว่าเป็นเพื่อนจริงๆ
เวลาเขาทำอะไรไม่ดีกับแดดเช้า
แดดเช้าก็จะโกรธ
เขาทำอะไรดีๆ ให้แดดเช้า
แดดเช้าก็จะชื่นชอบ

ทั้งๆ ความเป็น "เพื่อน" ก็เป็นเพียงบทบาท
แต่แดดเช้าไปสำคัญตัวเอง
แดดเช้าก็ผูกใจว่า แดดเช้าเป็นเพื่อนจริงๆ

ความคาดหวังอะไรต่อมิอะไรก็ตามมา
เพราะแดดเช้าคิดว่า ความเป็นเพื่อน เป็นสิ่งจริง

ถ้าแดดเช้า เป็นเพื่อนเพียงแต่สักแต่ว่าเป็นเพื่อน
ทำหน้าที่เพื่อนให้ดีที่สุด

แดดเช้าก็จะทุกข์น้อยๆ

ไม่ว่าจะเป็นอะไรกับแดดเช้า
พี่ น้อง เพื่อน คนรัก พ่อ แม่ ญาติ ครูบาอาจารย์
สิ่งที่จะเป็น "เกราะป้องกันตัว"ได้อย่างดีที่สุดก็คือ การตระหนักชัดถึงความเป็น สมมุติ

เราจึงทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
เพราะเราเข้าใจในบทบาทของตัวเอง
และเราก็จะทุกข์น้อยๆ เพราะเราเข้าใจชีวิตว่า ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ

ทุกข์เหลือเกิน ..... แฟนขอเปลี่ยนมาเป็นเพื่อน
มีหลายคนที่ทำใจไม่ได้
ถ้าคนสำคัญในชีวิตคนหนึ่ง ขอเปลี่ยนบทบาท
หรือขอ "เลิก" กัน

แดดเช้าอาจจะเข้าใจในจุดนี้ไม่ชัดพอ
เพราะแดดเช้าก็เคยถูกเปลี่ยนบทบาทกะทันหัน
จาก "แฟน" มาเป็น "เพื่อน"
แต่แดดเช้าปรับตัวกับบทบาทได้เป็นอย่างดี

คนอื่นๆ จะเป็นอย่างไร แดดเช้าก็พอจะเข้าใจได้บ้าง
การปรับตัวต่อบทบาทเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ยาก

มุมมองของแดดเช้านะ...
แดดเช้ามองว่า คนทุกคนเป็นก้อนเนื้อ
ก้อนเนื้อที่มีจิตเป็นประธานในการบังคับบัญชา

เมื่อก้อนเนื้อสองก้อน
จิตสองดวง
มาเกี่ยวพัน สัมพันธ์กัน
ก็ย่อมเกิดเป็น "เรื่องราว"

แดดเช้ามองแยกส่วนกันออกไป
ก้อนเนื้อ
จิต
เรื่องราว
สุดท้ายแล้ว ....
นำมารวมกัน ก็ง่ายขึ้นไปอีก

แต่ถ้าเราไม่มองแยกส่วน
เราก็จะไม่เห็นเชือกที่ยึดระหว่างสามส่วนนี้เลย
เชือกนั้นบางเส้นก็บาง
บางเส้นก็หนา
บางเส้นก็เหนียวแน่น
บางเส้นก็มีปม
บางเส้นก็เปราะบาง
บางเส้นก็ใหญ่
บางเส้นก็เล็ก
ตามแต่ความสำคัญที่เราจะยึดมันเอาไว้

แล้วยังไงล่ะ?
เชือกเหล่านี้แหละที่ทำให้เราเจ็บปวด
กับความสัมพันธ์อันไม่พึงประสงค์

ก้อนเนื้อ
จิต
เรื่องราว
ก็ล้วนแต่ทำหน้าที่ของมัน
แต่เชือกนี่แหละที่ไปทำให้มันเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา

สุดท้ายแล้ว...
ก้อนเนื้อ ก็แปรสภาพไปตามกาลเวลา
จิต ก็ดำเนินไปตามสภาวะของการตั้งอยู่แห่งแต่ละบุคคล
เรื่องราว ผ่านแล้วก็ผ่านเลยไป

มีแต่จิต ที่เป็นสิ่งจริง...
แต่เราไปทำให้จิตของเราโยงก้อนเนื้อ กับ เรื่องราว เข้าด้วยกัน
เกิดเป็นปมๆ ขึ้นที่จิต
จิตจึงเจ็บปวด เป็น กองทุกข์ ขึ้นมา

ไม่ว่า ทุกข์ หรือสุข
มันก็เป็นปม
เพราะจิตไปติดว่า เป็นสิ่งจริง
เชือกจึงไม่หลุด ไม่ขาด
มัดตรึงอยู่กับจิต

จนเป็นความเคยชิน
มีเชือกปมๆ มัดที่จิตมากๆ เข้า ก็ไม่เห็นปม
สุดท้าย เชือกเหล่านั้น ก็เป็นสิ่งที่จิตสร้างขึ้นมา
เพราะจิตหลงไปคิดว่า ก้อนเนื้อ กับ เรื่องราว เป็นของจริง
เชือกจึงพลอยเป็นของจริงไปด้วย

เหนื่อยใจแท้ๆ กับทุกข์ที่เกิดขึ้น
เพราะเราไม่เห็นความจริงอย่างแยกส่วนตรงนี้เลย

แสดงบทบาทของตัวเองด้วยการระลึกรู้ เป็นการคลายปมกองทุกข์
ถ้าเรารู้จักบทบาทตัวเอง
เห็นกาย เห็นจิตของตัวเอง อย่างไม่ปล่อยวาง
ไม่หลงไปกับสิ่งที่ไม่จริง

ชีวิตของเราก็จะพบกับความสุข
แล้วพบว่า เราสามารถทำอะไรได้เยอะแยะ
และได้เป็นอย่างดี

ถ้าเราไม่ไปคิดว่า เราเป็นโน่น เป็นนี่
"เรื่องส่วนตัว" ของเราก็จะไม่ไปปะปนกับเรื่องอื่นๆ
และเราก็จะทำสิ่งอื่นๆ ที่เราไม่เคยคิดว่า เราทำได้ ได้เป็นอย่างดี

เราไม่สำคัญว่า เราทำเป็นแต่สิ่งนี้
เพราะเราเป็นนั่น เป็นนี่
เราจะกล้าที่จะเรียนรู้ในการทำสิ่งอื่นๆ
ในสิ่งที่เราไม่เป็น ได้อีกด้วย

นี่แหละนะ .... ชีวิตที่แท้ล่ะค่ะ

ฉันเป็นศิลปิน จะให้มาคิดแบบเป็นระบบได้อย่างไร
แดดเช้าเคยหลง
แดดเช้าเป็นศิลปิน
ความคิดต้องเป็นแบบมีจินตนาการสร้างสรรค์

ฉะนั้น ... แดดเช้าจึงต่อต้านระบบ
แล้วชีวิตของแดดเช้า ก็แหลกราญ

ไม่มีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา
และจมปลัก ขาดการพัฒนา

เป็นเช่นนี้มานานระยะหนึ่ง ...
กว่าจะซาบซึ้งถึงความเป็นจริงของชีวิตได้
ก็ต้องใช้ "กรรมฐาน" เป็นตัวช่วย
ทำให้แดดเช้ารู้จักตัวเอง

ถ้าเรามีเพียงความคิดเตลิดเปิดเปิง
แต่ขาดวินัย
ชีวิตก็สับสน

ถ้าเรามีแต่วินัย
แต่ขาดความยืดหยุ่น ผ่อนปรน
ชีวิตก็หยุดอยู่กับที่

ฉะนั้น ....
จึงต้องควบคู่กันไป

แดดเช้ารู้สึกปีติ
ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่แดดเช้าได้รู้จัก
ได้ปฏิบัติตาม มีความหมายลึกซึ้ง และ งดงาม
ไม่ว่าในวาระโอกาสใดๆ

พระองค์ตรัสถึง พระธรรมวินัย
การเข้าถึงธรรมะ ไร้กฎเกณฑ์
แต่ต้องมี วินัย จึงจะสมบูรณ์

ไม่เช่นนั้น ....
สิ่งที่เราค้นพบก็ขาดระเบียบ
ก็ไม่ใช่ธรรมะ
เพราะกลไกธรรมชาติ มีกฎเกณฑ์ดีอยู่

ขอให้ทุกท่านค้นพบธรรมะที่แท้ เป็นสภาวะที่งดงาม ลึกซึ้ง ขอให้ทุกสิ่งที่ทุกท่านปรารถนาจงสัมฤทธิผล ด้วยอานุภาพคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยเทอญ


Create Date : 22 มีนาคม 2548
Last Update : 22 มีนาคม 2548 9:57:20 น. 4 comments
Counter : 289 Pageviews.

 
หลายครั้งค่ะที่ชอบ แต่ไม่อยากได้

ขอบคุณค่ะ ^^ ...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 22 มีนาคม 2548 เวลา:11:12:00 น.  

 
ชอบ แต่รู้ว่าเอาไม่ได้
ก็ยังชอบ แต่ไม่ดิ้นรนจะเอา
มันก็ไม่เดือดร้อนใจมากมาย


โดย: ชมทะเล วันที่: 23 มีนาคม 2548 เวลา:14:15:38 น.  

 
จริงอย่างท่านว่าเสื้อบางตัวชอบอ่ะแต่ไม่ต้องการ


โดย: fern_south วันที่: 3 เมษายน 2548 เวลา:21:07:57 น.  

 
ดีครับ


โดย: ขนุน IP: 161.200.255.162 วันที่: 5 เมษายน 2548 เวลา:1:35:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แดดเช้า
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[จะเป็นสะพานพาคนให้พ้นทุกข์]
...........................................................
หวังเกื้อกูลพระศาสนา
จึงตั้งค่าการหยั่งรู้ สู่มรรคผล
เพื่อรู้แจ้ง แห่งสัจธรรม นำใจคน
พาหลุดพ้น เป็นคันฉ่อง ครรลองธรรม : )

เกิดตายมาหลายหนจนนับไม่ถ้วน
ชาติหน้า หน่ายแล้ว ไม่อยากเกิดอีกแล้ว )

..............................................................
นาม ฉันนั้นแดดเช้า ........... ทอทอง
รูป แจ่มสดใสมอง ................ สุขล้ำ
จุดหมาย ดั่งครรลอง ............. หวังวาด
คติ แน่นในเนื้อน้ำ .......... ดิ่งซึ้งรสธรรม

หวัง นำชนสู่เป้า ................... แดนฝัน
กิจ ที่อธิษฐานพลัน ............... หยั่งรู้
ใน ชีวิตคิดสรรค์ .................... สร้างโลก
ธรรม สถิตมั่นสู้ ........... ปราบสิ้นกิเลสมาร

สานชีวิตแดดเช้า .................... หยาดอรุณ
มองโลกเพื่อเจือจุน ................. แหล่งหล้า
อาบอุ่นประกายคุณ .............. ไตรรัตน์
เพียงนบสนองแกล้วกล้า ..... แจ่มแจ้งปัญญา

ค่าแห่งอุดมคติเน้น .............. ตรงธรรม
ประกาศศาสน์น้อมนำ ........ อริยะแจ้ง
ฉุดผองเหล่าชนถลำ ............ จมทุกข์
ชี้ฝั่งให้เห็นแห้ง ......... แห่งห้วงทะเลกรรม

จึงบำเพ็ญตบะกล้า ......... ทางใจ
เพื่อมรรคผลอำไพ ........... จิตแจ้ง
เห็นอริยสัจจ์สว่างใส...... ทุกข์ปลด
แล้วจึ่งล้างขัดแย้ง .......... เบิกฟ้าสันติธรรม

หวังนำคุณพระแพร้ว......... ชี้ทาง
สถิตจิตในสิ่งวาง ............. มั่นเข้า
แผ่คุณเมตตาถาง .............. อุปสรรค
สู่ทุกจิตค่ำเช้า ........... พบแผ้วผ่องใส.

Friends' blogs
[Add แดดเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.