น ก ก ร ะ จิ บ เ ล่ า เ รื่ อ ง
ธรรมะเป็นคำตอบของคนหนุ่มสาว
Group Blog
 
All Blogs
 
ลมหายใจ คือ ชีวิต

ปฏิบัติกรรมฐาน สำคัญที่ "ลม"
แดดเช้าเพิ่งได้ปัญญาผุดรู้ที่แจ่มชัดขึ้นเกี่ยวกับเรื่อง "ลม" ในกรรมฐานเมื่อไม่นานมานี้เอง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อแดดเช้าสนทนากับใครคนหนึ่ง
"มีใครไม่หายใจบ้าง" เป็นประเด็นที่แดดเช้านึกตั้งขึ้นมา เพราะเห็นความหมายที่ซ่อนอยู่ใน "ลมหายใจ"
พี่คนหนึ่ง เปรยกับแดดเช้าขึ้นมาว่า
"นั่นสินะ ... มีใครไม่หายใจบ้างน้อ"
"ลมหายใจ คือ ชีวิต การดูลม ก็คือ การดูชีวิต" แดดเช้าพูดตามที่แดดเช้าคิด
"แต่บางคนไม่ดูลม ก็มีชีวิต"
"ใช่ แต่เขาจะใช้ชีวิตแบบไม่รู้จักชีวิต เพราะเขาไม่รู้จักลม"
"แต่เขาก็ยังหายใจ"
"ก็ใช่อีก แต่ว่า การที่เราดูลม เท่ากับเรามีสติ รู้จักชีวิตของเรา และทำให้เรามีปัญญารู้แจ้งอริยสัจ"
"ไม่ดูลม ก็มีปัญญาได้"
แดดเช้าอึ้งกึก!!!

แดดเช้ามานั่งคิดใคร่ครวญดู ...
ไม่ดูลม จะเกิดปัญญาได้ยังไง
สติปัฏฐาน 4 ก็ยังไม่เกิด จะรู้จักกาย รู้จักจิต ได้อย่างไร
แล้วจะเห็นอริยสัจได้อย่างไร
การดูลมหายใจ คือ การเจริญอานาปานสติ มิใช่หรือ?

แดดเช้าจึงเรียนถามหลวงปู่
"หลวงปู่เจ้าคะ รุ่งคุยกับคนๆ หนึ่ง เขาบอกรุ่งว่า ไม่ดูลม ก็มีปัญญาได้ แต่ว่า รุ่งคิดว่าไม่ใช่นะเจ้าคะ รุ่งคิดว่า เราไม่ดูลม เราจะเกิดปัญญาได้อย่างไร รุ่งทดลองดูแล้วล่ะค่ะ"
"ทำไมไม่รู้จักถามว่า ไม่ดูลมแล้วมีปัญญาได้ยังไงเล่า" หลวงปู่ดุเอาสักที
อืม .... ทำไมเราไม่รู้จักถามเขานะ ปัญญาในการถ่ายทอดธรรมะของเรายังไม่ถึงจริงๆ
"หลวงปู่เจ้าคะ รุ่งนึกไม่ถึงที่จะถามเจ้าคะ จริงสินะคะ ... การที่ถามย้อนไปอย่างนั้นดีจริงๆ ด้วย แต่ว่า รุ่งเห็นว่า จิตใจขณะนั้น มานะรุ่งฟูขึ้นเจ้าค่ะ มันพุ่งขึ้นทันทีเลย นึกตำหนิเขาเลยว่า ทำไมโง่อย่างนี้นะ คิดว่า ไม่ดูลมแล้วจะเกิดปัญญาได้ยังไง รุ่งเห็นอารมณ์เคืองๆ ตรงนี้ของตัวเอง เลยคิดว่า นิ่งเสียดีกว่า ถ้าไปอธิบายธรรมะกับเขา หรือไปชี้ความจริงให้เขาเห็นตอนที่กิเลสเราพุ่งอย่างนี้ แทนที่เขาจะเกิดปัญญา อาจจะทำให้เสียได้นะเจ้าคะ เราทำไปด้วยกิเลส เราไม่ทำไปตามธรรม

รุ่งกลับมาทดลองทำสมาธินะเจ้าคะ รุ่งไม่ดูลม รุ่งเพ่งกสินอย่างอื่น ดูนิมิตอย่างอื่น ... ยังไงๆ ก็ไม่เกิดปัญญาเจ้าค่ะ เพราะเป็นการเอากระแสจิตไปเป็นสมาธิข้างนอก เหมือนกับฌานของฤๅษีที่ไม่ดูกาย ไม่ดูลม สติปัฏฐาน 4 ก็เกิดไม่ได้ จะเห็นทุกข์ เห็นกิเลสก็ไม่ชัดนะเจ้าคะ

หลวงปู่เจ้าคะ .... สิ่งที่รุ่งเข้าใจน่ะถูกต้องดีแล้วหรือยังเจ้าคะ ที่รุ่งเห็นว่า การดูลมเป็นสิ่งสำคัญอันจะทำให้เกิดปัญญารู้แจ้ง และเห็นอริยสัจ เจ้าค่ะ ขอขมาหลวงปู่เจ้าค่ะกรุณาอธิบายสิ่งถูกต้องให้รุ่งเข้าใจบ้าง"
หลวงปู่ท่านก็อธิบายว่า
"การที่เราดูลม ทำให้เราเห็นกาย สติปัฏฐาน 4 ก็เกิดขึ้น และเมื่อเราเห็นกาย สติปัฏฐาน 4 เกิดขึ้น ก็ทำให้เราเห็นลมในร่างกายได้"

ชัดเจนดีจังเลยนะเจ้าคะ ... หลวงปู่

ทำงานไม่ละเอียด กรรมฐานจึงไม่ละเอียด
หลวงปู่บอกแดดเช้าว่า ให้แดดเช้าดูกิเลสกามของตัวเองให้ดีๆ

"รุ่ง ดูกิริยาอาการของตัวเองด้วยนะ ชอบทำเอียงหน้าเอียงคอเวลาพูด พูดเสียงสูงๆ ต่ำๆ จะทำให้สวยงามน่ารัก มันเป็นกิเลสกาม

อาตมาเอง เคยเห็นกามของตัวเอง เป็นกามราคะ กามหยาบกว่าของรุ่งอีก อาตมาก็ดูมันนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้น แล้วปัญญาก็แตกพลั๊วะขึ้นมา

ทำสมาธิให้มากๆ เข้า แล้วดูให้ชัด ดูเอาไว้ ไม่ต้องคิดเอา ไม่ต้องคิดละ
รุ่งยังเห็นอุปาทานแบบหลอกๆ เอาน่ะ เพราะติดคิดฟุ้งอยู่ ถ้าทำสติที่กายที่จิตมั่นๆ เข้าไว้ แล้วทุกข์จะมาให้เราเห็น เราจะรู้สึกว่า ทุกข์เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ไม่ว่าเกิดมากี่ครั้งๆ แล้ว แล้วอุปาทานจะโผล่ขึ้นมาให้เห็นอีก จนกระทั่งดับวับไป ปัญญาก็จะแตกพลั๊วะขึ้นมา"
แดดเช้าก็ยังเห็นกิเลสกามของตัวเองไม่ชัด ไม่ทัน สักที
แก้ไขนิสัยพูดมาก พูดเสียงสูงๆ ต่ำๆ เอียงหน้าเอียงคอเวลาพูดไม่ค่อยจะได้

แดดเช้าเก็บถุง เผอิญว่า ถุงนั้นเลอะ แดดเช้าจึงทิ้ง
หลวงปู่ถามว่า ถุงไปไหน
"มันเลอะกาแฟเจ้าค่ะ จึงทิ้ง"
"มาดูซิว่า เลอะยังไง"
แดดเช้าเอามาให้หลวงปู่ดู
"เฮ้ย ... ไม่เห็นเลอะเลย ล้างออกก็ได้ ไอ้รุ่งนี่นะ มันทำงานไม่ละเอียด กรรมฐานมันจึงไม่ละเอียด"
จริงอย่างที่ท่านว่า ...

แดดเช้าเป็นคนไม่ค่อยเรียบร้อย ข้าวของก็วางไม่เป็นที่
ทำครัวหรือกินข้าวเสร็จก็ไม่ขยันจะเก็บล้าง
เสื้อผ้าก็ไม่รู้จักเก็บให้ดีๆ
อ่านหนังสือเสร็จก็วางแหมะอยู่ตรงนั้นแหละ
กลับมาถึงที่ห้อง ก็ไม่รู้จักเก็บห้อง เอาแต่นอนคิดฟุ้ง
เป็นนิสัยของแดดเช้าหมดเลย ....

นิสัยที่อยากจะแก้ แต่มันติดความคิดฟุ้ง
เพลิดเพลินไปกับการคิด แล้วเพลิดเพลินไปกับการพูด

ญาติธรรมหลายท่านเตือนสติแดดเช้าซะเรื่อย
"ที่พูดน่ะ สติไม่อยู่เลย รุ่งทำสติหน่อย"
"เราเป็นคนไม่เรียบร้อย เลยทำให้ขวางการปฏิบัติของเรารู้ไหม บางคนเขามาวัด เขาถึงชอบที่จะทำความสะอาด เก็บล้าง ล้างห้องน้ำ เพราะเป็นการชะล้างกิเลสภายในของเราเอง"

วันหนึ่ง แดดเช้าคุยกับหลวงปู่
"หลวงปู่เจ้าคะ รุ่งรู้สึกอยากพูด อยากอวดจัง ความคิดมันเยอะไปหมดเลยเจ้าค่ะ อึดอัดจัง รู้สึกตัวเองสกปรกมากๆ กิเลสหนาเตอะเลย

วันก่อน รุ่งมีปัญหาจะถามหลวงปู่ เหมือนๆ หลวงปู่จะรู้เลยว่า รุ่งคิดอะไรอยู่ หลวงปู่แสดงธรรมให้คนอื่นฟัง เป็นคำตอบให้รุ่งได้เลยว่า คนที่ยังเป็นปุถุชนอยู่นั้น ทำสมาธิได้หน่อยหนึ่ง ก็อยากพูด อยากอวด ก็ต้องมาเล่าให้ฟังว่า เป็นยังไงๆ อยากจะแสดงให้รู้ว่า ตัวเองปฏิบัติถึงตรงนั้นๆ แล้วนะ แต่ถ้าปฏิบัติจนถึงที่จริงๆ จะรู้สึกว่า ไม่อยากพูดในเวลาไม่สมควรพูด ถ้าพูดไปแล้วไม่ทำให้ใครเกิดประโยชน์ เวลาพูดก็พูดในจังหวะที่พอเหมาะพอควรที่จะทำให้คนเขาเข้าใจได้ ไม่ใช่พูดเพื่อแสดงตนว่า เก่ง ทำได้แล้ว

รุ่งก็เลยคิดว่า รุ่งเกิดอาการทางสมาธิบางอย่าง อยากเรียนถามหลวงปู่อยู่เหมือนกัน แต่มาคิดอีกทีมันเหมือนกับว่า เราพยายามจะอวดเลยว่า เราทำได้ด้วยนะ เลยนิ่งดีกว่า ทำให้นิ่งแล้วถึงที่ก่อนจะดีกว่า ถ้ายังติดปัญหาอย่างนี้ แสดงว่า ยังทำได้ไม่ถึง"
ท่านนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วเหมือนท่านจะมีความยินดีภายใน หัวเราะเบาๆ

แดดเช้าจึงมานั่งใคร่ครวญต่ออีก ที่แดดเช้ามานั่งเขียนไดอารี่ธรรมะอย่างนี้น่ะ เพื่ออวดตัวเองหรือเปล่านะ
ทวนไปทวนมาหลายรอบ ...

แดดเช้าเห็นประโยชน์ของการเขียนอยู่นะคะ
แดดเช้าไม่ได้เขียนเล่าว่า ตัวเองทำสมาธิเก่งเลยสักหน่อย แดดเช้าเขียนเล่ากิเลสของตัวเองให้ใครๆ ฟัง แล้วหาประเด็นสำคัญมาเล่าให้ฟัง มีทางออกให้เสร็จสรรพเพื่อที่จะให้คนนำไปใช้ประโยชน์ได้

ถ้าแดดเช้าจะเขียนธรรมะล้วนๆ ก็ลอกเอาจากหนังสือ มาลงในนี้ คงง่ายกว่า ....
แต่ว่า คงไม่เกิดประโยชน์สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหา
และยังเป็นการทำให้คนติดความรู้ ความคิด และติดความทรงจำ

แดดเช้าเป็นคนติดความฉลาดของตัวเอง
มีปัญญาจากความรู้ การฟัง การอ่าน และการคิดเยอะแยะมากมาย
แดดเช้าจึงไม่เกิดปัญญาจากการภาวนา
เป็นปัญหาของแดดเช้าเอง

แดดเช้ามักคิดฟุ้งในกรรมฐาน .... ความคิดเหล่านี้ขวางปัญญาในการรู้แจ้งเห็นจริง
บางที อยากจะเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่คิดอะไรเลย จะได้ทำสมาธิได้ดีๆ

การเอาของจริงมาเล่า เอาประสบการณ์จริงมาเล่า เป็น "ธรรมะ" ที่แท้จริง
เพราะว่า ธรรมะเป็นความจริง

บางทีการยกตัวอย่างความจริงของตัวเอง อาจจะเกิดผลกระทบกับใครบางคนบ้าง
แต่นั่นเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากหน้าที่ของแดดเช้าแล้ว
แดดเช้าตั้งใจให้ประโยชน์ คุณคนอ่านควรรับประโยชน์
ถ้าคุณยังติเตียน ปรามาส แดดเช้า บาปก็เกิดแก่ตัวคุณเอง
ตรงนี้ ... แดดเช้าไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น

ถ้าคิดว่า ไม่ได้ประโยชน์อะไร ก็ผ่านไปเสียก็ได้
แดดเช้าวางไว้ให้ คุณหยิบเอาไปฟอกกิเลสให้เกิดขึ้นในใจ เป็นความชิงชัง หมั่นไส้
นั่นก็เป็นปัญหาของคุณเองแล้วที่เข้ามารับเมตตาของแดดเช้า กลับสร้างเป็นกิเลสกับตัวเอง .... อยู่เหนือการช่วยเหลือของแดดเช้าจริงๆ

ใครสักคนบอกแดดเช้าว่า ที่แดดเช้าเขียนนั้น คนมีปัญญาเข้ามาอ่านจะได้ประโยชน์มาก
ก็อธิษฐานขอให้มีคนมีปัญญามาอ่านกันเยอะๆ จะได้เกิดอานิสงส์ช่วยพระศาสนาได้สืบต่อไปนะเจ้าคะ

พิสูจน์กันได้อย่างจะๆ เลยนะเจ้าคะ ...
ถ้าปฏิบัติตามที่แดดเช้าเขียนแล้วได้ผลอย่างไร ก็เป็นผลที่เกิดกับคุณเอง แดดเช้าอนุโมทนาบุญ สาธุด้วยค่ะ
(ธรรมะของพระพุทธเจ้า ทันสมัย(อกาลิโก) ควรเรียกคนให้เข้ามาดู และพิสูจน์ได้ (เอหิปัสสิโก) และ เป็นเรื่องเฉพาะตน ใครทำใครได้ (ปัจจัตตัง) เป็นคุณของพระธรรม ค่ะ)

หายใจเยอะๆ นะ
แดดเช้าทำกรรมฐาน สติไม่ค่อยมั่น
แดดเช้าจึงต้องใช้ลมหายใจ หายใจให้ลมออกทั่วกาย
ลมออกทุกรูขุมขนของร่างกาย
ดูลมที่ไหลไปมาในร่างกายให้เป็นควันขาวๆ ออกตามซอกนิ้ว และฝ่ามือฝ่าเท้าด้วย
ลมละเอียดๆ เช่นนี้ ทำให้สบายกาย
สิ่งที่หมักหมม อารมณ์ไม่ดี ก็จะออกจากร่างกายได้ด้วย

ลม เป็นชีวิตจริงๆ
พระพุทธเจ้าตรัสถึงลม 6 กองไว้
ลมไหลเวียนในร่างกาย ถ้าเราดูลม 6 กองไว้ให้ดีๆ เราก็จะมีปัญญารู้แจ้งได้เหมือนกัน
แต่ปัญญาจะรู้แจ้งได้ ก็ต้องทำสมาธิให้กว้างใหญ่ด้วย
(รายละเอียดเรื่องลม 6 กอง ไว้แดดเช้าให้แดดเช้าเข้าใจแจ่มชัดก่อนนะคะ จะนำมาอธิบายให้อ่านกัน)

แผ่กระแสจิตออกไปทั่วฟ้า ทั่วโลก ทั่วแผ่นดิน
พร้อมๆ กับการดูกาย ดูลม
ดูกายภายนอก และดูกายภายในด้วย
ดูลมภายในกาย และลมนอกกายด้วย
พร้อมๆ กันอย่างนี้ ดีเหลือเกิน

กายภายใน ... ถ้าเราดูอย่างละเอียดๆ
จิตเราสามารถเห็นกายได้ชัด
เราก็จะรักษาโรคตัวเองได้ด้วยนะ

อย่างไรก็ตาม ....
ลมก็ยังสำคัญสำหรับชีวิตอยู่ดี
คนใกล้ตาย ก็คือ คนที่จะสิ้นลม

เราจึงควรมาดูลมของตัวเองกันดีกว่า ....

ด้วยอานุภาพคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ หากการเขียนบันทึกธรรมะของข้าพเจ้าที่เป็นไปด้วยเจตนาดี และด้วยความชอบธรรมในครั้งนี้บันดาลอานิสงส์ที่ดีๆ บังเกิดประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่านได้ ขอให้อานิสงส์ของการถ่ายทอดธรรมะของข้าพเจ้า บันดาลให้ท่านผู้อ่านมีดวงตาเห็นธรรม รู้แจ้งเห็นจริง และบันดาลให้ข้าพเจ้าถึงมรรคผลในเร็ววัน เพื่อจะได้นำปัญญาจากการรู้แจ้งของข้าพเจ้าช่วยกิจศาสนาในการพาคนพ้นห้วงทุกข์สืบต่อไป

ขอให้ความปรารถนาของข้าพเจ้าจงสัมฤทธิผลด้วยอานุภาพคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยเทอญ สาธุๆๆ


Create Date : 14 เมษายน 2548
Last Update : 15 เมษายน 2548 17:11:14 น. 5 comments
Counter : 332 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ..

สวัสดีปีใหม่นะคะ


โดย: ธูปหอมเทียนสว่าง วันที่: 14 เมษายน 2548 เวลา:18:16:01 น.  

 
ไม่อวดค่ะ ถ้ารู้ตัวว่า ทำไปเพราะ ไม่ได้อวด
มองตนไม่ยากเลยค่ะ แค่สละทิฐิ แล้วมองว่า เราทำอะไรด้วยความรู้สึกอย่างไร ถ้าตอบตัวเองได้ว่า ไม่ได้โอ้อวด แต่ เขียนออกมาด้วยจิตอยากมอบความรู้ให้แก่คนอื่นล่ะก็
ก็ทำเถิดค่ะ

นัทมาอ่านทุกครั้งก็ได้สิ่งดีๆกลับไปทุกครั้ง เพื่อสละ ตัวตนออกไปบ้าง ให้มันสะอาดและเบาตัวอิกนิด

พยายามค่ะ...มาพยายามไปด้วยกันนะคะ


โดย: เกือกซ่าสีชมพู วันที่: 14 เมษายน 2548 เวลา:18:53:47 น.  

 
จะไปไหนกันสาวๆ


โดย: suparatta วันที่: 14 เมษายน 2548 เวลา:20:11:50 น.  

 


ขอบคุณเรื่องราวดีๆๆค่ะ

อ่านแล้วรู้สึกดีค่ะ

คิดถึงคุณแดดเช้าค่ะ


โดย: yadegari วันที่: 14 เมษายน 2548 เวลา:20:42:36 น.  

 
มาสาดน้ำวันสงกรานต์ค่ะ ปะแป้งด้วย เย็นชุ่มฉ่ำๆ ^^



...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:11:49:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แดดเช้า
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[จะเป็นสะพานพาคนให้พ้นทุกข์]
...........................................................
หวังเกื้อกูลพระศาสนา
จึงตั้งค่าการหยั่งรู้ สู่มรรคผล
เพื่อรู้แจ้ง แห่งสัจธรรม นำใจคน
พาหลุดพ้น เป็นคันฉ่อง ครรลองธรรม : )

เกิดตายมาหลายหนจนนับไม่ถ้วน
ชาติหน้า หน่ายแล้ว ไม่อยากเกิดอีกแล้ว )

..............................................................
นาม ฉันนั้นแดดเช้า ........... ทอทอง
รูป แจ่มสดใสมอง ................ สุขล้ำ
จุดหมาย ดั่งครรลอง ............. หวังวาด
คติ แน่นในเนื้อน้ำ .......... ดิ่งซึ้งรสธรรม

หวัง นำชนสู่เป้า ................... แดนฝัน
กิจ ที่อธิษฐานพลัน ............... หยั่งรู้
ใน ชีวิตคิดสรรค์ .................... สร้างโลก
ธรรม สถิตมั่นสู้ ........... ปราบสิ้นกิเลสมาร

สานชีวิตแดดเช้า .................... หยาดอรุณ
มองโลกเพื่อเจือจุน ................. แหล่งหล้า
อาบอุ่นประกายคุณ .............. ไตรรัตน์
เพียงนบสนองแกล้วกล้า ..... แจ่มแจ้งปัญญา

ค่าแห่งอุดมคติเน้น .............. ตรงธรรม
ประกาศศาสน์น้อมนำ ........ อริยะแจ้ง
ฉุดผองเหล่าชนถลำ ............ จมทุกข์
ชี้ฝั่งให้เห็นแห้ง ......... แห่งห้วงทะเลกรรม

จึงบำเพ็ญตบะกล้า ......... ทางใจ
เพื่อมรรคผลอำไพ ........... จิตแจ้ง
เห็นอริยสัจจ์สว่างใส...... ทุกข์ปลด
แล้วจึ่งล้างขัดแย้ง .......... เบิกฟ้าสันติธรรม

หวังนำคุณพระแพร้ว......... ชี้ทาง
สถิตจิตในสิ่งวาง ............. มั่นเข้า
แผ่คุณเมตตาถาง .............. อุปสรรค
สู่ทุกจิตค่ำเช้า ........... พบแผ้วผ่องใส.

Friends' blogs
[Add แดดเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.