น ก ก ร ะ จิ บ เ ล่ า เ รื่ อ ง
ธรรมะเป็นคำตอบของคนหนุ่มสาว
Group Blog
 
All Blogs
 
ตั้งป้อมกันภัยอารมณ์ด้วย "อุเบกขา"

มึนหัวเหลือเกิน .... เพราะเมตตาเกินขนาด
สามวันมานี้ แดดเช้าอัดพลังจิตใส่คนแรงเหลือเกิน

ถ้าตรวจจิตถามตัวเองดูว่า
ทำไปด้วยความโกรธใช่ไหม?
ทำไปด้วยความอวดดีใช่ไหม?
ทำไปด้วยความรู้สึกตัวเองสูงกว่า เหนือกว่าใช่ไหม?
ได้คำตอบออกมาว่า ไม่ใช่ สักอย่าง

มีแต่ความคิดว่า อยากช่วยเขา สงสารเขาเหลือเกิน
จึงระเบิดคำพูด คำแนะนำ อะไรต่างๆ ออกมามากมาย
อยากให้เขาได้รับสิ่งดีๆ และนำคำแนะนำของเราไปใช้อย่างได้ผล

บางที ... เขายังไม่เข้าใจ
ก็พยายามอธิบาย
บางที ... เขาสงสัย
ก็พยายามบอกให้เขาทำ
จนเหมือนเผด็จการเลย ..... มีหลายคนบอกว่า แดดเช้าไปบังคับเขา

หลังจากนั้น
ผลที่ได้ออกมาก็คือ เขารู้สึกต่อต้านเล็กน้อย
แม้ลึกๆ เขาจะเริ่มยอมรับแล้วก็ตาม
ก็ต้องตามไปขอขมาเขากันอีกหลายต่อหลายรอบ

สามวันนี้ แดดเช้าทะเลาะกับคนบ่อยๆ
แต่แปลกที่ทะเลาะกับเขาด้วย "เมตตา"
กว่าจะจบเรื่องและเข้าใจกันได้ ก็ทำเอาแดดเช้ามึนหัว

เมตตาที่แรงเกินไปก็ทำให้เกิดผลเสียได้เหมือนกัน ... แทนที่จะดี
จึงต้องประกอบด้วย อุเบกขา เป็นหลักแห่งเมตตา

ปลาบปลื้มยินดีจนน้ำตาไหล .... เพราะขาดหลักการวางเฉย
ใครสักคนทำกรรมฐานได้ผลดี นิ่ง และเกิดปัญญามากมาย
แดดเช้ายินดีมาก น้ำตาจะไหล
เรียนถามหลวงปู่ว่า "ความยินดี เป็นกิเลสหรือเปล่าเจ้าคะ"
หลวงปู่ท่านตอบว่า "ยินดีตามธรรม ไม่เจือด้วยกิเลสหรอก ปุถุชนมักจะยินดีด้วยกิเลส ส่วนพระโสดาฯ พระสกิทาคาฯ พระอนาคาฯ ก็ยังมีความยินดีด้วยกิเลสอยู่บ้าง แต่ก็น้อยแล้ว พระอรหันต์เท่านั้นแหละที่ยินดีตามธรรมอย่างสมบูรณ์"
"ยินดีด้วยกิเลส คือ ยินดีแล้วอาการของจิตลำพองใช่ไหมเจ้าคะ?"
"เออ"

แดดเช้าเคยคิดว่า การเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ แบบไหนที่เป็นการเปรียบเทียบแบบมี "มานะ" แบบไหนที่ไม่มี "มานะ"
ก็คงขึ้นอยู่กับอาการของจิตว่า ลำพอง หรือเปล่า นั่นเอง

พี่คนหนึ่งตอบว่า มานะ เกิดจากการเปรียบเทียบที่มี "เรา" มี "เขา"
ไม่ว่า เราจะเลวกว่าเขา เสมอเขา เหนือกว่าเขาก็ตาม

นั่นสิ .... ยินดีด้วยกิเลส ก็คือ การยินดีด้วยมานะ คือ ความยินดีที่มี "ตัวเรา" มี "ตัวเขา" เข้ามาเจือปนด้วยนั่นเอง

ฉะนั้น ถ้าเราแสดงความยินดีที่ประกอบด้วย อุเบกขา ได้ ก็คงดี
เราก็จะนิ่งยินดีแบบเฉยๆ ไม่แสดงอาการออกมา
ข่มความยินดี ด้วยอุเบกขา จะงามกว่าเยอะ

แดดเช้าเริ่มคิดแล้วว่า ถ้าเรายินดีที่ผู้ใดปฏิบัติธรรมได้ ก็ไม่ควรแสดงอาการออกมา เพราะจะเกิดผลเสียทำให้เขาเกิดความคิดส่ายไปส่ายมาได้ แทนที่จะทำให้เขาดี
แต่ถ้าเรานิ่งเฉย ก็จะยังกรรมฐานของเขาให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไปได้

อุเบกขา เป็นธรรมะของผู้ใหญ่จริงๆ

ถ้าวางเฉยได้ ก็จะได้รับความเกรงใจและความเชื่อถือ
คนที่หน้าตานิ่งๆ มักจะทำให้คนเกรงใจ
แดดเช้าเคยคิดว่า เหมือนคนเย็นชา แต่งามเหลือเกิน

และเมื่ออารมณ์ใดๆ ของใครๆ มากระทบ
นิ่งเสียได้ ปัญหาดูเหมือนคลี่คลาย

เป็นเครื่องพิสูจน์จริงๆ เลยว่า พรหมวิหาร ขาด "อุเบกขา" เป็นหลักไม่ได้จริงๆ

ไม่ว่าใครจะเป็นอย่างไร เราเมตตา เราปรารถนาให้เขาได้สิ่งดีๆ มีความสุข พ้นจากวนเวียนของกองทุกข์ ก็ต้องมีอุเบกขาที่จะต้องปล่อยเขาได้มีอิสระในการคิด ในการตัดสินใจ ในการทำด้วยตัวเอง

ถ้าขาดอุเบกขาสักอย่างเดียว ดูเหมือนกลายเป็น นางพญาเผด็จการ ยังไงก็ไม่รู้ นะเนี่ย

เข็ดแล้วค่ะ เมตตาแรงๆ ที่ขาดอุเบกขา เนี่ย .... เหมือนเราจะรับเอาทุกอย่างเข้ามาหาตัวเอง โดยที่ไม่รู้จักปล่อยให้เป็นไปตามธรรมซะบ้าง

ขอให้ทุกท่านมีความสุขทั่วหน้ากันนะคะ .... แดดเช้าตั้งใจเขียนบันทึกธรรมะด้วยเมตตาจิต ปรารถนาให้ทุกท่านเก็บนำไปใช้ประโยชน์บ้างแม้ไม่มากก็น้อย ตามแต่กำลังสติปัญญาของแต่ละท่าน

ขอให้อานุภาพคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ คุ้มครองให้ทุกท่านเกิดปัญญาโดยทั่วกัน นะเจ้าคะ ... สาธุ

ขอให้ทุกๆ ท่านคิดในสิ่งดีๆ ไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่เหนืออานุภาพคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์อันหาประมาณมิได้อีกแล้ว ขอให้ทุกท่านได้รับอานุภาพอันเป็นเลิศนี้เป็นที่พึ่งที่ระลึกตลอดไป

สาธุ ....


Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2548
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2548 12:48:50 น. 0 comments
Counter : 402 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แดดเช้า
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[จะเป็นสะพานพาคนให้พ้นทุกข์]
...........................................................
หวังเกื้อกูลพระศาสนา
จึงตั้งค่าการหยั่งรู้ สู่มรรคผล
เพื่อรู้แจ้ง แห่งสัจธรรม นำใจคน
พาหลุดพ้น เป็นคันฉ่อง ครรลองธรรม : )

เกิดตายมาหลายหนจนนับไม่ถ้วน
ชาติหน้า หน่ายแล้ว ไม่อยากเกิดอีกแล้ว )

..............................................................
นาม ฉันนั้นแดดเช้า ........... ทอทอง
รูป แจ่มสดใสมอง ................ สุขล้ำ
จุดหมาย ดั่งครรลอง ............. หวังวาด
คติ แน่นในเนื้อน้ำ .......... ดิ่งซึ้งรสธรรม

หวัง นำชนสู่เป้า ................... แดนฝัน
กิจ ที่อธิษฐานพลัน ............... หยั่งรู้
ใน ชีวิตคิดสรรค์ .................... สร้างโลก
ธรรม สถิตมั่นสู้ ........... ปราบสิ้นกิเลสมาร

สานชีวิตแดดเช้า .................... หยาดอรุณ
มองโลกเพื่อเจือจุน ................. แหล่งหล้า
อาบอุ่นประกายคุณ .............. ไตรรัตน์
เพียงนบสนองแกล้วกล้า ..... แจ่มแจ้งปัญญา

ค่าแห่งอุดมคติเน้น .............. ตรงธรรม
ประกาศศาสน์น้อมนำ ........ อริยะแจ้ง
ฉุดผองเหล่าชนถลำ ............ จมทุกข์
ชี้ฝั่งให้เห็นแห้ง ......... แห่งห้วงทะเลกรรม

จึงบำเพ็ญตบะกล้า ......... ทางใจ
เพื่อมรรคผลอำไพ ........... จิตแจ้ง
เห็นอริยสัจจ์สว่างใส...... ทุกข์ปลด
แล้วจึ่งล้างขัดแย้ง .......... เบิกฟ้าสันติธรรม

หวังนำคุณพระแพร้ว......... ชี้ทาง
สถิตจิตในสิ่งวาง ............. มั่นเข้า
แผ่คุณเมตตาถาง .............. อุปสรรค
สู่ทุกจิตค่ำเช้า ........... พบแผ้วผ่องใส.

Friends' blogs
[Add แดดเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.