|
|
|
ขู่ล่า 5 หมื่นชื่อ-บี้ สุชน เร่งสางปมผู้ว่าฯ สตง
ภาค ปชช. ขู่ล่า 5 หมื่นชื่อ-บี้ สุชน เร่งสางปมผู้ว่าฯ สตง.
ภาคประชาชน จี้ต่อมสำนึก สุชน ไขก๊อกรับผิดชอบปัญหา ผู้ว่าฯ สตง. เตือนอย่ากระทำการก้าวล่วงพระราชอำนาจไปมากกว่านี้ พร้อมขีดเส้นตายให้โอกาสถึงพฤหัสฯ ขู่หากยังดื้อดึงเตรียมล่า 5 หมื่นรายชื่อยื่นถอดถอน
(11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) ว่า ภาคประชาชนได้ร่วมกันแถลงการณ์กรณีเกิดความคลุมเครือในการแต่งตั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และเตรียมล่า 5 หมื่นรายชื่อ 5 เพื่อถอดถอนนายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา
โดย นายคณิณ บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หนึ่งในผู้ร่วมแถลงการณ์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาการแต่งตั้งผู้ว่าฯ สตง.นั้น นายสุชนกำลังทำเหมือนว่าไม่ใช่ปัญหาของวุฒิสภา ทั้งๆ ที่ได้นำชื่อนายวิสุทธิ์ มนตริวัต ขึ้นทูลเกล้าฯ กว่า 90 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมา แสดงให้เห็นว่าขั้นตอนนั้นมีปัญหา แต่ประธานวุฒิสภายังทำเฉยและบอกให้รอต่อไปเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้นคงไม่ได้ อีกทั้งการออกมาให้สัมภาษณ์แบบเลี่ยงๆ ว่า เมื่อนำชื่อนายวิสุทธิ์ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วควรต้องรอต่อไป และโยนความผิดให้คนใดคนหนึ่งนั้นไม่ถูกต้อง อีกทั้งยังปล่อยให้ประชาชนสงสัยว่าสาเหตุที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงโปรดเกล้าฯ แสดงว่าไม่ประสงค์นายวิสุทธิ์ แต่อยากให้คุณหญิงจารุววรณ เมณฑกา ผู้ว่าฯ สตง.อยู่ในตำแหน่งต่อไป
คนผิดที่อภัยให้ไม่ได้ก็คือประธานวุฒิสภา ซึ่งควรสำนึก และทบทวนพิจารณาตัวเอง จะบอกว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ และถ้าพิจารณาใคร่ครวญแล้ว ประธานวุฒิสภายังมีหลายช่องทางที่สามารถทำได้ อาทิ ขอนำเรื่องกลับมาให้วุฒิสภาพิจารณาอีกครั้งว่าเหตุใดกว่า 90 วันแล้วจึงยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมา ซึ่งเรื่องเลยมาถึงขณะนี้ก็ควรรู้ตัวเองได้แล้ว หากไม่รู้ก็ไม่ควรที่จะเป็นประธานวุฒิสภา นอกจากนี้ ประธานวุฒิสภายังกระทำการที่หมิ่นเหม่ต่อการก้าวล่วงพระมหากษัตริย์ และกระทบกระเทือนต่อความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะหากดูขั้นตอนการแต่งตั้งคุณหญิงจารุวรรณ ก็ไม่ได้ทำผิดขั้นตอนใด ทั้งรัฐธรรมนูญ มาตรา 312 วรรค 4 ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งผู้ว่าฯ สตง.ตามคำแนะนำของวุฒิสภา นายคณิน กล่าว
อดีต ส.ส.ร.กล่าวต่อว่า อีกทั้งรัฐธรรมนูญมาตรา 312 วรรค 7 ยังระบุอีกว่า การพ้นตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ก็ระบุชัดว่ายังไม่มีข้อใดที่คุณหญิงจารุวรรณจะพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง. อีกทั้ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการแต่งตั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน มาตรา 34 ก็ระบุชัดว่าคุณหญิงจารุววรณยังไม่พ้นจากตำแหน่งแต่อย่างใด และการที่ประธานวุฒิสภาชอบนำเรื่องกระบวนการสรรหามาอ้างนั้นก็ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 266 ซึ่งจะให้มายึดถือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ เพราะเป็นการอ้างลอยๆ ไม่มีเหตุผล
นายคณิน ยังกล่าวถึงสมาชิกวุฒิสภา 7 คน ที่เข้าชื่อขอให้ประธานวุฒิสภาในขณะนั้นพิจารณาก่อนที่จะส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส่วนกระบวนการสรรหาไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 266 นั้น เพราะเกิดจากความไม่เข้าใจในรัฐธรรมนูญ และเรื่องพระราชอำนาจ ซึ่งตามระเบียบการสรรหาได้ระบุชัดว่าให้วุฒิสภาเลือกเอาชื่อที่เสนอไปเพียง 1 รายชื่อ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาก็ถือว่าเป็นโมฆะไปแล้ว และจะมาอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ควรจะว่าไปตามนั้น ต่อมาคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มายึดถือตามคำวินิจฉัยนี้ยิ่งไม่ถูกต้อง
ในระเบียบเมื่อมีหนังสือทูลเกล้าฯ ต้องระบุชัดว่าเหตุที่คุณหญิงจารุวรรณพ้นจากตำแหน่งด้วยสาเหตุใด ตามมาตราใด หรือเมื่อใด ซึ่งก็ไม่ได้ระบุไว้ แต่กลับนำเอาคำวินิจฉัยอะไรก็ไม่รู้ลอยๆ มาอ้าง ทำให้ประชาชนสับสน และเกิดระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และเมื่อไม่ทรงโปรดเกล้าฯ ลงมาก็ไม่มีกฎหมายระบุไว้ว่าจะต้องพระราชทานคืนมา ซึ่งคนระดับประธานวุฒิสภาควรสำนึกและทบทวนตัวเองได้แล้วว่าที่ไม่มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาใน 90 วันนั้นเพราะอะไร นายคณิน กล่าว
ด้าน น.ส.รสนา โตสิตตระกูล แกนนำ 30 องค์กรต้านคอรัปชั่น กล่าวว่า มีขบวนการที่พยามยามกำจัดคุณหญิงจารุวรรณให้พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง. โดยยกระเบียบว่าการสรรหาไม่ถูกต้องมาเป็นตัวชี้นำ นอกจากนี้ การที่อดีตประธานรัฐสภาออกมาให้สัมภาษณ์ว่าในเมื่อยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมา แม้จะครบ 90 วันแล้วก็ไม่เป็นอะไร ยังรอต่อไปเรื่อยๆ ได้ และให้รองผู้ว่าฯ สตง.มาปฏิบัติหน้าที่แทนได้นั้นก็ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นความคิดที่ผิด อันที่จริง คตง.ก็ทำผิดกฎหมาย สมควรที่จะโดนล่ารายชื่อถอดถอนด้วย
ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ได้ปรากฏชัดแล้วว่านายสุชนมีความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 303 เป็นความผิดฐานที่ 5 คือส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือตามกฎหมาย ซึ่งประชาชนมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 304 ที่จะเข้าชื่อประชาชนมากกว่า 5 หมื่นรายชื่อ เพื่อถอดถอนนายสุชนออกจากตำแหน่งได้ อย่างไรก็ตาม ภาคประชาชนยังให้โอกาสนายสุชนอีก 3 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา เพื่อให้นายสุชนได้พิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการขอพระบรมราชานุญาตเพื่อนำเรื่องกลับมาทบทวนใหม่ หรือเปิดประชุมวุฒิสภาเป็นการด่วนทั้ง 200 คน เพื่อหามติดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือนายสุชนอาจเลือกรับผิดชอบด้วยการตัดสินใจลาออก ซึ่งนายสุชนสามารทำได้ทั้ง 3 แนวทาง
แต่หากพ้น 3 วันไปแล้ว นายสุชนยังดันทุรังยืนกระต่ายขาเดียว หรือให้รอต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา ทางภาคประชาชนก็ไม่มีทางเลือก ก็จะใช้สิทธิเข้าชื่อถอดถอน โดยในวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.ย.นี้ เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป ภาคประชาชนจะไปตั้งโต๊ะที่บริเวณสนามหลวงฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อล่ารายชื่อประชาชน 5 หมื่นรายชื่อถอดถอนนายสุชนออกจากตำแหน่งต่อไป และขอเชิญชวนประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่านนำสำเนาบัตรประชาชนไปร่วมเข้าชื่อถอดถอนในครั้งนี้ด้วย ส่วนถ้าสมาชิกวุฒิสภาจะเข้าชื่อกัน 1 ใน 4 หรือ 50 คนขึ้นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 304 เพื่อถอดถอนประธานวุฒิสภาก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยไม่ต้องรอการเข้าชื่อของภาคประชาชน ซึ่งอาจใช้เวลานานพอสมควร เลขาฯ ครป. กล่าว
| Create Date : 13 กันยายน 2548 | | |
| Last Update : 13 กันยายน 2548 19:51:32 น. |
| Counter : 305 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [