โลกอันวุ่นวาย..กับจุดจบของมนุษยชาติและแผนการร้าย?
ข่าวคราวในห้วงหลายวันนี้ดูจะเป็นความวุ่นวายของ"มนุษย์"ทั้งเพ..
มนุษย์ ไม่มีความพอเพียงในสิ่งที่เป็นอยู่เสมอ
เรื่องราวที่วุ่นวาย ทุกวันนี้ ก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ที่กระทำต่อกันและต่อธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดร้ายแรง"หวัดนก"ภัยธรรมชาติจากพายุ.,น้ำท่วม,แผ่นดินไหว...สงครามกลางเมือง สงครามรุกรานชนชาติ...การแทรกแซงกิจการภายในประเทศ โดยมหาอำนาจจากซีกโลกตะวันตก..ฯลฯ
ประเทศไทยอันสงบ..กำลังคุกรุ่นด้วยภัยคุกคามข้างต้น..
ขณะที่ชนในชาติเองก็ปรากฎร่องรอยของ"ความแตกแยก"มุ่งหวังผลประโยชน์ส่วนตนพวกพ้อง..เอาตัวรอด ไม่สนว่าประเทศชาติจะล่มจมอย่างไร เฉกเช่นบรรพชนบางส่วนที่"ไม่รักไทย"
และประเทศไทยก็ยังมีคนจำพวก"ขายชาติ"ฝั่งตัวอยู่ในหลายรูปแบบ..ทั้งที่เป็น"สุนัขรับใช้นายทุน"และทั้งที่เป็น..ผู้บงการ ที่รับอามิส หรือ แฝงกายเข้ามาฝั่งตัว เพื่อรุกรานไทย
สถานการณ์ไฟใต้..เป็นเรื่องของมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะชนชาติไทย เอง ที่จะต้องปกป้องอธิปไตยของตนไว้ให้จงได้จากน้ำมือของ"นักล่าอาณานิคม"ที่จ้องเข้ามาเขมือบผลประโยชน์ในภูมิภาค กับแผน"เพนต้าก้อน2005"-ปิดล้อมจีนตอนใต้...
ระยังหลัง เรายังพบว่า"สงครามแห่งมวลมนุษยชาติ"ดำเนินไปในบริบทที่น่าเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ เพื่อนบ้านของเรา"มาเลเซีย"ที่ ขณะนี้กำลังให้นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ทำการสังคายนา"ประวัติศาสตร์ชนชาตมาลายู"ด้วยเป้าประสงค์ใดไม่ทราบ..แต่เชื่อแน่ว่าเกี่ยวข้องกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอันเป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ...กับไทย..และเชื่อแน่ว่าเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวในการสะสมอาวุธอานุภาพร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็น"นิวเคลียร์"-เครื่องบินขับไล่-เรือดำน้ำ เป็นกองทัพที่ใหญ่กว่าไทย
ไม่อยากจะคาดคิดว่า หากมีสงครามเกิดขึ้นในภูมิภาค โดยมีคู่ปฏิปักษ์เป็น"มาเลเซีย"ที่กำลังมีบ่างช่างยุดำเนินการจากเรื่องภาคใต้ ไทยจะเป็นอย่างไร...
มีเรื่องเล่าเป็นประวัติศาสตร์ (ขอใช้ชั่งน้ำหนักไม่อยากให้มองว่ายั่วยุปลุกปั่น)ว่า มาเลย์ฯปัจจุบัน ที่มีความพร้อมนั้น เป็น"ยุทธศาสตร์"ที่วางไว้ของ"อังกฤษ์"พันธมิตรแห่ง"อเมริกา"ที่ครอบครอง"สิงคโปร์"..
และบรรดาความวุ่นวายต่างๆไม่ว่าเป็น เกาะบาหลี อินโดนิเซีย การสูญเสีย ดินแดนของอินโดฯ ติมอร์,อาเจะ หรือความวุ่นวายในภูมิภาคอื่น รวมถึง"อาหรับ"ที่ทำให้ต้องมีการสูญเสียดินแดนหรืออธิปไตย มันเป็นแผนการของ"มหาอำนาจ"ที่ ควบคุมกลไกแห่งการพัฒนาซึ่งผลประโยชน์ในโลกใบนี้ไว้ไปจนถึงอนาคต...
โดยเฉพาะแผนที่ว่า เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ประชากรมีจำนวนมากขึ้นในขณะที่ทรัพยากรลดลง.ทั้งอาหาร,,พลังงาน..จะเกิดความวุ่นวาย..แก่งแย่ง ช่วงชิง..สงคราม. ศีลธรรมมนุษยชาติเหือดหาย..การฆ่ากัน เพื่อช่วงชิงการมีชีวิตอยู่ ของมนุษยชาติ จะปรากฎ..ทุกอย่างจักหวนกลับ..ไปสู่จุดเริ่มต้น..มนุษย์จะผลิตอาวุธขึ้นมาทำลายล้างเผาพันธุ์กันเอง...ในที่สุด..
ขณะที่บางส่วนก็พยายามที่จะหาโลกใหม่..โดยวิวัฒนาการเทคโนโลยีใหม่ๆในการเดินทางสู่อวกาศ..เพื่อเอาตัวรอด...ในอีกหลายสิบร้อยปีข้างหน้า ภายใต้ความได้เปรียบในเรื่องของ องค์ความรู้ และกำลังงบประมาณของประเทศนั้นๆ
กระนั้นในกระแสที่ไหลบ่าไปอย่างรุนแรงของโลก..พลันปรากฎกระแสแห่ง"ลมตะวันออก"ปรากฎ ..คล้ายเป็นการหยั่งชะลอการสูญสลายแห่งโลก..โดยความพยายามของเหล่าผู้รู้(ไม่จริง)ทางจิตวิญญาน..ด้วยหวังจะบรรเทาเบาบางละลอกคลื่นแห่งการทำลายล้างที่กระจัดกระจายไปทั่วโลกอยู่ใน ค.ศ.ปัจจุบัน..ส่วนหนึ่งมันได้กลายเป็นการเพิ่มกระแสให้สับสนวุ่นวายมากยิ่งขึ้นในท่ามกลางความมืดบอดทางปัญญาของผู้คน...
ย้อนกลับมาที่"มาเลเซีย"ในบ้านเรา มีความพยายามของหลายผู้รู้ ที่จะให้ทุกคนได้ตระหนัก และรู้จัก ในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง"มาเลเซีย"มากขึ้น..
หลายอย่างที่เรายังไม่รู้..เราก็ได้รู้..
เราได้รู้ว่า ประวัติศาสตร์ ที่นำมาซึ่งความวุ่นวาย ณ กาลปัจจุบัน นั้นถูกฝั่งตัวนับตั้งแต่บรรพกาลที่"ชาวตะวันตก"เข้ามาฝั่งหน่วยความจำอันบิดเบือนทางประวัติศาสตร์ ณ ดินแดนแห่งนี้..
มีการฝั่ง"ชิฟ"แห่งความโกรธเกรี้ยวซึ่งที่มาแห่ง"มนุษยชาติ"ในประเทศนี้..ให้มุ่งหมายความไม่ไว้วางใจมาที่ประเทศด้านบนที่ติดกันอย่าง"ไทย"โดยหมายรวมเอาว่า"สยาม"คือชนส่วนหนึ่งที่อพยพมาจาก"จีน"..ดังที่เราทราบดีว่า"คนจีน"ในมาเลเซียนั้นอยู่ในสภาพถูกกดขี่ข่มเหงเพียงใด..
เหล่านี้เป็น"หน่วยความจำ"ของมนุษยชาติที่ถูกฝั่งโดยฝรั่งตาน้ำข้าวให้กับผู้คนในมาเซีย โดยอาศัยประวัติศาสตร์"ชนชาติมาลายู"มาเป็นประเด็นสำคัญในการสร้างหลักฐานประกอบว่า"ศูนย์กลางแห่งการปกครอง"ของพวกเขาอยู่ที่"ปาเล็มบัง"...
แน่นอน"ชิฟ"นี้ฝั่งข้อมูลไว้ว่า ประเทศสยามได้ทำการแย่งชิงดินแดนของมาลายูในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอยู่ในการครอบครองตั้งแต่บรรพกาล โดยมีการกดขี่ข่มเหงรังแกชนชาติมาลายูอย่างรุนแรง..
ทั้งๆที่แท้จริงแล้ว ความวุ่นวายอันนำมาซึ่งปัญหาแห่งดินแดนและชนชาติ ล้วนแล้วแต่พึ่งเกิดขึ่นในสมัยรัชกาลที่3 แห่งราชวงศ์จักรี เรื่อยมา แต่ถูกเหมารวมย้อนหลังกลับไป หลายร้อยปี ในขณะที่ประวัติศาสตร์แห่งชาติไทยเองถูกฝรั่งและคนไทยกลุ่มหนึ่งกำหนดให้ถอยหลังไปเพียงแค่ 200 กว่าปี
ซึ่งแน่นอนย่อมรวมไปถึงเหตุการณ์ที่ฝั่งหัวจิตหัวใจของชนชาว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในหลายกรรมหลายวาระ โดยยึดถือเอาวาระแห่ง"หะยีสุหลง"เป็นประเด็นสำคัญ..กับปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำต้องผู้คนทั้งหลายในพื้นที่...ซึ่งเหตุผลประวัติศาสตร์ที่บิดเบือนเหล่านี้ถูกต่อยอดความเชื่อ..อุดมการ..จิตวิญญาน จากพ่อสู่ลูก ครูสู่ศิษย์ หลานสู่เหลน ฯลฯเรื่อยมา..
กระทั่งกาลสมัยที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เต็มไปด้วยอิทธิพลเถื่อนแห่งนักการเมือง นักค้ายาเสพติด ขบวนการก่อการร้ายคณะต่างๆที่เหือดแห้งซึ่งอุดมการ (หันมารับงานจ้างสร้างสถานการณ์เรียกค่าคุ้มครอง และ ปั่นตัวเลขงบประมาณความมั่นคง)แน่นอน เมื่อปั่นยอดได้ก็มีผลงาน ย่อมตามมาด้วยงานของ จนท.และงบประมาณลับมหาศาล..
ทุกคนทุกฝ่าย ทุกองค์กร ที่เกี่ยวข้อง ล้วนแล้วแต่รู้จัก และมีผลประโยชน์ร่วมกัน..จนกระทั่ง มีการยุบหน่วยงาน ศอ.บต.,พตท.43
ผลประโยชน์ที่แบ่งกันลงตัวนานแล้วของฝ่ายต่างๆเป็นอันถูกทะลายเคลง ต้องวุ่นวายกันยกใหญ่ กับการช่วงชิงต่อสู้กันใหม่ของผู้คนที่เกี่ยวข้องกัน...
สถานการณ์ความวุ่นวายในยุคสมัยปัจจุบันจึงมีการ"ลงขัน"เพื่อจัดการกับอำนาจรัฐ ในระยะห้วงขวบปีที่ผ่านมา (4 ม.ค.47 - ปฎิบัติการปล้นปืนค่ายทหาร)และยังคงลุกลามเรื่อยมา..จนถึงวันนี้
ความยืดเยื้อของสถานการณ์ในท่ามกลางโลกาภิวัฒน์แห่งโลก..ปฏิเสธไม่ได้ที่จะมี"ปัจจัยแทรกซ้อน"เข้ามาเกี่ยวข้อง หลายฝ่ายที่เคยสร้างความวุ่นวายในอดีตของภูมิภาคนี้(ปัจจุบันก็ยังคงฝั่งตัวอยู่) พากันเสนอตัวเข้ามา"ช่วยเหลือ"(แทรกแซง)ทางด้านความมั่นคง..
แม้ว่ารัฐบาลไทยจะรู้ว่าเขามีกำลังมาวางไว้อยู่แล้ว เต็มบ้านเต็มเมืองเรา (นานามาแล้ว)แต่ก็ต้องปฏิเสธเสียงแข็งไว้ก่อน...ด้วยสังหรณ์ว่า กลเกมที่กำลังเป็นอยู่คงไม่ต่างไปจาก อิรัก ,อินโดฯ ฯลฯ
การแทรกแซงยังคงดำเนินต่อไปในกาลปัจจุบัน..ในท่ามกลางความร่วมมือของ"นักการเมืองขี้ฉ้อ"และ"ข้าราชการกังฉิน"ขายชาติ กลุ่มใหญ่..
ส่วนใครเป็นใคร..จะเฉลยให้อ่านเร็วๆนี้...
วัธยา
Create Date : 25 ตุลาคม 2548 | | |
Last Update : 25 ตุลาคม 2548 21:10:07 น. |
Counter : 297 Pageviews. |
| |
|
|
|