ไม่อยากจะแยกจากกันอีกแล้ว

นานมากกกที่ไม่ได้เข้ามาเขียนBlog เกือบจะ 2 ปีละเหรอ ที่ไม่ได้เข้ามาเลย

ระหว่างเกือบ 2 ปี เรื่องราว-เหตุการณ์-ปัญหาต่างๆก็เข้ามา ให้เราสองคนได้สู้ไปด้วยกัน

ตอนนี้มันก็มาถึงปัญหาใหญ่ที่สุดที่เราสองคนต้องเจอ คือ ครอบครัวที่ไม่รับคนต่างชาติ...

ด้วยความต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ทำให้ไม่มีใครที่จะสนับสนุนให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน

ในขณะที่เราสองคนต่างเข้าใจและมั่นใจซึ่งกันและกัน พร้อมที่จะวางและสร้างอนาคตไปด้วยกัน แต่ผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วย...จะทำยังไง

เข้าใจว่าครอบครัวทุกคนย่อมหวังดี รักและห่วง กลัวจะลำบากไม่อยากให้ไปอยู่โน้น...

ในขณะเดียวกันเค้าเองก็เข้าใจ และพร้อมที่จะเสียสละทุกอย่างที่โน้น
งานในบริษัทที่มั่นคง เงินเดือนเป็นแสน ครอบครัว เพื่อน ทุกอย่าง เพื่อมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน

แต่คำตอบที่ยังได้ ก็ยังคือ ไม่...

เราสองคนพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ผู้ใหญ่เชื่อใจและไว้ใจเราทั้งสองคน

ตอนนี้เราสองคนก็เพิ่งจะเปิดร้านพรีออเดอร์เสื้อผ้าเกาหลีออนไลน์ //www.sweetykorea.com

อย่างน้อยๆก็ถือว่าเราสองคนได้เริ่มทำอะไรที่เป็นจริงเป็นจัง เพื่อพิสูจน์ให้ผู้ใหญ่ได้เห็น อีกทั้งดีกว่าที่เราสองคนจะอยุ่เฉยๆไม่ทำอะไรเลย
ถึงแม้มันจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม

อย่างน้อยๆเราสองคนก็ได้ลองทำแล้ว

ขอให้เราสองคนอย่าได้แยกจากกันอีกเลย เพราะมันเหนื่อยและทรมานจริงๆ












 

Create Date : 21 ธันวาคม 2553    
Last Update : 21 ธันวาคม 2553 15:21:39 น.
Counter : 356 Pageviews.  

surprise~!!!

เราแพลนกันว่าจะเจอกันอีกทีเดือนต.ค.
ครั้งที่แล้ว 6 เดือนที่ต้องรอยังคิดถึงแทบจะไม่ไหวเลย
คราวนี้ 9 เดือนเลยนะนั่น จะไหวเหรอเรา เฮ้อ..

แต่อยู่ดีๆก้อมีโอกาสให้เราสองคนได้เจอกันแล้ว
ดีใจจังเลยยยยยยย......
แต่นี่มันแค่ขั้นแรกเท่านั้น
ยังมีอุปสรรคอีกหลายด่านเลยกว่าที่เราสองคนจะได้เจอกันเดือนหน้า
ขอให้ทุกอย่างราบรื่นเถอะ...อีก 2 อาทิตย์เท่านั้น ท่องไว้ๆ




 

Create Date : 25 มีนาคม 2552    
Last Update : 25 มีนาคม 2552 22:32:26 น.
Counter : 201 Pageviews.  

วันสุดท้ายที่ไม่ใช่ท้ายสุดในโซล...

หลังจากครั้งก่อน กลับบ้านไปพร้อมกันความสนุกสนานเฮฮา ที่ได้เจอเพื่อนๆทั้งหลาย ตื่นมาก้อต้องมาเศร้า เพราะว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกันแล้ว ไม่อยากแยกจากกันเลย ทรมานจังความรู้สึกนี้ ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เราต้องแยกจากกันอย่างงี้ 2 ปีมาแล้วที่ต้องเจอความรู้สึกนี้ แต่ถึงตอนนี้ก้อยังคงทำใจไม่ได้สักที เฮ้อ... เค้าตื่นมาเห็นเรานั่งร้องไห้ที่วันนี้จะต้องกลับ เค้าก้อเดินเข้ามากอด บอกอย่าร้องไห้เลย เด่วเราก้อได้เจอกันอีก นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกันสักหน่อย

แม่เค้าก้อเรียกไปข้าวให้กินก่อนจะไปสนามบิน พอกินเส็ดก้อแพ็คกระเป๋าเรียบร้อย เครื่องออก 17.30 แต่ต้องออกจากบ้านเร็วเป็นพิเศษ เพราะวันนี้เป้นวันหยุดวันสุดท้ายของที่เกาหลี คนคงจะทยอยกลับมาจากต่างจังหวัด ดังนั้นต้องออกจากบ้านก่อนบ่าย 2 ระหว่างที่นั่นรอเพื่อนมารับ พ่อเค้าก้อกลับมาจากตีเทนนิส เรียกเรากะเค้าออกไปนั่งกินเหล้าเพื่อคุยเรื่องของเรา 2 คนต่อ คราวนี้ถึงกะอึ้ง พ่อเค้าส่งกระดาษให้ใบนึง เขียนเป็นภาษาอังกฤษโดยมิยอน ว่า พ่อแม่เรารู้เรื่องเรา 2 คนมั้ย เป็นไปได้มั้ยที่พ่อกะแม่เราจะเดินทางมาเกาหลีเพื่อมาคุยเรื่องแต่งงาน ถ้าเป็นไปไม่ได้ เรา 2 คนก้อต้องเลิกกันไป พ่อเค้าเลยบอกว่าอยากให้รีบแต่งงานภายใน 2 ปีนี่ เราก้อได้แต่พยักหน้า

เฮ้อ...เครียดเลย จริงๆ พ่อแม่เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำไป ถ้าพ่อแม่รู้คงต้องเสียใจมากแน่เลย เพราะเค้าเคยให้เราเลิกกะเค้ามาแล้ว แต่เราเองที่ยังดึงดันคบต่อ ทำไงดี เรากะเค้า คุยกันแต่ว่าจะทำไงดี จนถึงแอร์พอร์ต
เลยตกลงกะเค้าว่า เราจะพยายามมาคุยกะพ่อแม่เรา แต่ผลจะออกมายังไงไม่รู้ เฮ้อ เศร้าก้อเศร้า แถมยังเครียดอีก

จน 16.30 เราก้อต้องไปแล้วจริงๆ กอดสุดท้ายก่อนเข้าเกทของเค้า ทำให้เราอดร้องไห้ไม่ได้ ทุกครั้งเลยต้องร้องไห้ที่แอร์พอร์ต เฮ้อ...เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก ??




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2552 17:39:14 น.
Counter : 174 Pageviews.  

春节 แบบเกาหลี...สารพันเรื่อง

ต่อจากคราวก่อนที่เมื่อวานจบไปด้วยโซจูกับ เค้า และคุณพ่อของเค้า
วันที่ 26 เช้าพ่อเค้ามาเรียกให้ตื่นตั้งแต่เจ็ดโมง ก้อรีบสะดุ้ง ตัวเค้าเองก้อรีบเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงยีนส์ เสื้อเชิ้ต เลยงงว่าเค้าจะออกไปไหนเนี้ย ไม่ได้ไหว้บรรพบุรุษกันที่บ้านเหรอ เค้าบอกว่าป่าวๆไม่ได้ไปไหน ไอ้เราก้อง่วงๆ งงๆ ไม่รู้ว่าเราจะต้องออกไปไหว้กะเค้าด้วยรึป่าว เลยนั่งรอแบบง่วงๆอยู่ในห้อง สักพักเค้าเดินเข้ามาเรียกบอกว่าให้ออกไปไหว้ด้วยกัน แต่เค้าบอกว่าให้ใส่ถุงเท้าด้วย ตัวเค้าเองก้อเดินเข้ามาใส่ถุงเท้า เราก้องงๆเข้าไปใหญ่ เลยถามเค้า เค้าบอกว่ามันเหมือนประมาณว่าถ้าไม่ใส่ถุงเท้าเนี้ยมันจะไม่สุภาพ เราก้อเหรอๆมีอย่างงี้ด้วยเหรอ พอเดินออกไปน้องๆเค้า พ่อแม่เค้าใส่ถุงเท้ากันทุกคน แถมพ่อแต่งสูทเต็มยศ แม่เค้าก้อแต่งตัวสวย มีแต่เรากะน้องๆที่เสื้อยืดกางเกงนอน พอหันไปดูทางหน้าทีวี แม่เค้าตั้งโต๊ะ ตั้งกับข้าวคล้ายกับการตั้งโต๊ะไหว้บรรพบุรุษของคนจีนในไทยอย่างเราๆ แต่ที่พิเศษกว่า คือบ้านเค้าเป็นคริสต์ทั้งบ้าน เลยจะมีจุดเทียนแท่งใหญ่สีขาว ข้างกระถางธูปด้วย พอสักพักรอทุกคนมาพร้อมกันหน้าทีวี เค้าก้อเริ่มทำพิธีกัน โดยทุกคนยืนเรียงแถวหน้ากระดาน พ่อเค้า ตัวเค้าเอง แม่เค้า ฮียอน มียอน แล้วก้อเรา ด้วยความที่ฟังเกาหลีไม่ออกเลย มียอนเลยบอกว่า Follow me OK? ไอ้เราก้อ Ok Ok ตื่นเต้นนะ ที่คอรบครัวเค้าให้เกียรติเรามาร่วมไหว้บรรพบุรุษของเค้าด้วย

จากนั้นก้อเริ่มจากทำความเคารพแบบเกาหลีที่เราเห็นๆแต่ในทีวี ไม่คิดว่าจะได้มาทำแบบนี้ เลยไม่เคยสังเกตว่ารายละเอียดเค้าทำกันยังไง มือไหนซ้อนมือไหน มิยอนเลยต้องค่อยบอกตลอดว่าผู้หญิงแบมือขวาวางบนมือซ้ายต้องไว้ระดับอก แล้วค่อยๆย่อลดแล้วให้นั่งเป็นแบบขัดสมาธิ แล้วก้อค่อยๆเอามือวางลงไปบนพื้นแล้วโค้งหัววางลงบนฝ่ามืออีกที วางไว้สักัพกแล้วก้อลุกขึ้นยืน แล้วก้อทำแบบนี้ใหม่ตั้งแต่ต้นทั้งหมด 3 ครั้ง ไอ้เราก้อเอ๋อๆ ต้องคอยเหล่มิยอนตลอด 555 ว่าเค้าจะยืนขึ้นมาเมื่อไหร่ เค้าจะโค้งเมื่อไหร่ พอครบ 3 ครั้ง พ่อเค้าก้อทยอยส่งกระดาษมาคนละแผ่น คิดว่าน่าจะเป็นบทสวดของศาสนาคริสต์เค้า เราก้ออ่านตามทันบ้างไม่ทันบ้าง พอสวดจบทั้งแผ่น เค้าก้อเริ่มร้องเพลงกันคิดว่าน่าจะเป็นเพลงของศาสนาคริสต์นะ เพราะฟังไม่ออก 555 พอจบ พ่อเค้าก้อให้เค้ากับมิยอน ออกไปรินเหล้าจากแก้ว 2 ใบ ที่ตั้งไว้บนโต๊ะที่ไหว้ลงใส่กาเหล้าที่วางอยู่ข้างๆ แล้วก้อรินเหล้าใหม่จากขวดใส่แก้วใหม่แล้วต้องวนรอบกระถางธูป 3 ครั้ง ก่อนวางทั้ง 2 ใบไว้บนโต๊ะไหว้เหมือนเดิม หลังจากนั้นก้อเอาตะเกียบกะช้อนที่วางไว้ข้างๆจานมาวางไว้บนจาน แล้วสองคนนั้นก้อเดินมาเข้าที่เดิมมาสวดต่อ หลังจากนั้นพ่อกะแม่เค้าก้อเรียกชื่อเรา กะฮียอน ตายละหว่า เราด้วยเหรอเนี้ย จะฟังออกมั้ยเนี้ย แต่โชคดีที่ทำเหมือนกับที่เค้ากะมิยอนออกไปทำ ดีนะที่เราสังเกตดูไว้แล้ว เริ่มจากเราเอาเหล้าในแก้วบนโต๊ะไหว้ที่เค้าวางไว้ 2 ใบ เลยลงในกาเหล้า แล้วฮียอนก้อรินเหล้าจากขวดเทลงในแก้วที่เราถืออีกที หลังจากนั้นเราก้อเอาแก้วเหล้าวนรอบกระถางธูป 3 รอบทำอย่างงี้ทั้ง 2 แก้ว แล้วฮียอนก้อเดินไปเอาช้อนกับตะเกียบที่วางข้างๆจานอาหารบนโต๊ะไหว้มาวางไว้บนจานอีก 3-4 อย่าง แล้วเรา 2 คนก้อเดินกลับมานั่งที่เดิม แล้วเค้าก้อสวดมนต์กันต่อ ต่อไปก้อเป็นพ่อกะแม่เค้าที่ออกไปรินเหล้าบ้างและก้อออกไปเอาตะเกียบช้อนมาวางบนจานอาหารเหมือนกะที่เค้าให้เราทำ หลังจากนั้นกันสวดมนต์ต่อแล้วร้องเพลงนิดหน่อยก้อเป็นอันเสร็จ ระหว่างนี้ก้อนั่งรอสักพัก ก้อช่วยเค้าเก็บโต๊ะไหว้แล้วแม่เค้าก้อไปเตรียมไม่แน่ใจเรียกว่าอะไร มีต๊อกแต่ทำเป็นโจ๊ก แล้วก้อกับข้าวที่ไหว้เมื่อกี้ พร้อมกับเหล้าที่ไหว้เมื่อกี้ทุกคนต้องกินโจ๊กต๊อกนี้ เค้าบอกว่าเป็นอาหารที่ปีใหม่เกาหลีต้องกินกันพร้อมกับเหล้าที่เมื่อกี้รินตอนไหว้ ก้อไม่ใช่เหล้าแบบทั่วไปเป็นเหล้าแบบพิเศษที่ใช้ไหว้ เพราะเราเป็นคนรินด้วยเลยต้องกิน (เอ๊ะ อันนี้เค้าหลอกให้เรากินเหล้าแต่เช้าปะเนี้ย 555) ระหว่างที่กินข้าวกับครอบครัวเค้า พ่อเค้าก้อรินให้ถี่จัง เราก้อต้องซดให้หมดแก้วไม่งั้นเค้าถือว่าเสียมารยาทมากๆ พอกินเสร็จเรียบร้อยก้อช่วยเค้าเก็บโต๊ะ ทุกคนก้อมานั่งดูทีวีพร้อมหน้ากัน พอสักพักเค้าก้อมาบอกเราว่า เด่วต้องออกไปกับเค้าไปเอาน้ำจากภูเขา งงละสิเรา เค้าเลยบอกว่าบ้านเค้าเนี้ยดื่มน้ำที่มาจากภูเขาไม่เคยสั่งน้ำและไม่กินน้ำจากน้ำประปา จริงดิ...สักแปดโมงครึ่ง เค้าก้อเรียกให้มายืนข้างๆเค้า มิยอน ฮียอนก้อตามมายืนข้างๆ เลยงงว่าเค้าจะทำอะไรกัน เพราะน้องๆเค้าร้องดีใจกันใหญ่ พ่อแม่เค้าก้อเดินออกมาจากห้องพร้อมซองแดง ฮ่าๆๆๆ เลยรู้ทันทีว่าแจกอังเปาด้วย เราจะได้อังเปาด้วยเหรอเนี้ย ฮุฮุฮุ พ่อกับแม่เค้าก้อเดินมานั่งตรงข้ามกะที่พวกเรายืนเรียงแถวหน้ากระดานกัน เค้าก้อเริ่มจากฮียอน น้องคนเล็กก่อน พ่อเค้าก้อพูดๆอะไรสักอย่างฟังไม่ออก แต่คาดว่าน่าเหมือนสอนๆฮียอนว่าที่ผ่านมาทำอะไรต้องปรับปรุงเรื่องไหนบ้าง ปีนี้ต้องทำไรบ้างพอจบฮียอนก้อคลานเข้าไปเอาอังเปา ต่อมาก้อน้องคนกลาง มียอน ก้อเหมือนฮียอน พ่อเค้ามีกล่าวๆอะไรก่อน แต่มียอนนี่พ่อเค้าพูดสั้นกว่าฮียอน เพราะมียอนเค้าทั้งเรียนเก่งจนได้ทุนทุกปี พ่อเค้าคงไม่ห่วงอะไรมาก ถัดมาก้อไปที่ตัวเค้า พ่อเค้าพูดซะยาวเลยแถมแม่เค้าก้อพูดด้วย เท่าที่ฟังเนี้ยรู้สึกว่าจะพูดเรื่องเราเนี้ยแหละ เพราะได้ยินพ่อเค้าพูดชื่อเราต้องหลายทีจนเค้ากลายเป็นเหมือนจะทะเลาะกัน เพราะเสียงดังหน้าตัวเค้าเองก้อเริ่มจะหงุดหงิดแต่เราก้อฟังไม่ออกจนเค้าก้อคลานไปเอาซองอังเปา ต่อไปพ่อเค้าก้อเรียกชื่อเรา เราก้อคลานออกไปก้อต้องขอบคุณพ่อกะแม่เค้าเป็นภาษาเกาหลีซะหน่อย 감사함니다 พร้อมไหว้พ่อกะแม่เค้า ฮ่าๆๆแอบขำตังเองพูดได้แค่เนี้ย พ่อกะแม่เค้าก้อพยักหน้าๆ

หลังจากนั้นก้อเตรียมใส่เสื้อหนาวออกไปเอาน้ำหลังภูเขากะเค้า ก้อเลยให้ซองอังเปาของเรากับเค้าไป เค้าก้อยังหน้าบูดเล็กๆจากที่เพิ่งทะเลาะกะพ่อแม่เค้า เค้าบอกว่าให้เราเก็บไว้พ่อแม่เค้าให้นะ เลยบอกเค้าว่างั้นฝากไว้ไปใส่บัญชีเธอละกัน เค้าก้อบอกว่าไปช่วยแบกขวดกับแกลลอนน้ำไปใส่รถ พอขับไปสักพักเค้าก้อแวะจอดข้างทาง บอกว่ารอแป๊บนึง เห็นเค้าวิ่งเข้าไปร้านสะดวกซื้อก้อเลยไม่ได้สนใจอะไรมากพอหันไปอีกทีเห็นเค้ายืนสูบบุหรี่อยู่ เลยงงว่าทำไมเค้าต้องสูบ ไหนบอกว่าเลิกบุหรี่ไป 4 เดือนแล้วตั้งแต่เรามาเค้าก้อยังไม่สูบเลย ไหงอยู่ดีๆมาสูบอีก พอเค้าสูบเสร็จเข้ามาในรถ เลยแกล้งถามเค้าว่าไปทำไรมา ไมมีกลิ่นบุหรี่ด้วย เค้าบอกว่าเค้าเครียดเลยอยากสูบ เลยคิดว่าต้องมาจากเรื่องที่พ่อแม่เค้าพูดแน่ๆ แล้วก้อจริงๆด้วย พ่อแม่เค้าพูดเรื่องเรากะเค้า เรื่องแต่งงาน เค้าเองก้อพูดมาหลายครั้งแล้วว่าอยากจะแต่งงานกะเราแล้ว แต่ปัญหาคือ พ่อกะแม่เราเอง ที่เค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรายังคบกะคนนี้อยู่ เพราะเราเคยพาเค้ามาเมืองไทยตั้งแต่กลับจากจีนมาด้วยกัน แต่เราบอกพ่อแม่เราว่าเค้าเป็นเพื่อนทั้งๆที่ตอนนี้เราเป็นแฟนกะเค้าแล้ว พาเค้ามาเมืองไทย 2 ครั้ง แล้วความลับก้อมาแตกเอาวันสุดท้ายที่เค้าจะกลับเกาหลี ว่าเราเป็นแฟนกะเค้า หลังจากนั้นเราก้อโดนคำสั่งขาดว่าให้เลิกกะคนนี้ จนท้ายที่สุดเราก้ออดกลับไปเรียนต่อที่จีน หลังจากนั้นเรากะเค้าก้อแอบๆคบกันมาตลอดโดยที่ทางบ้านเราไม่รู้ แต่ทางบ้านเค้ารู้ซึ่งแรกๆบ้านเค้าก้อทำอย่างที่บ้านเราทำคือให้เลิกติดต่อกันซะ จนตอนนี้ที่บ้านเค้ายอมรับเราได้ และเอ็นดูเรามากๆ จนพ่อแม่เค้าคิดจะให้เราแต่งงานกะลูกเค้า ระหว่างนี้ตัวเราก้อแอบๆที่บ้านบินไปหาเค้า เค้าก้อบินมาหาเราบ้านเป็นอย่างงี้มา 2 ปีแล้ว ซึ่ง ณ ปัจจุบันพ่อแม่เราก้อยังไม่รู้ว่าเรายังคงคบกับเค้าอยู่ แค่สงสัยบ้างนิดหน่อย ตัวเรารู้สึกบาปมาตลอด รู้สึกผิดมาตลอดแต่จะทำยังไง เพราะเราเองก้ออยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เค้ากับเราว่าเค้าจริงจังแค่ไหนกับเรา ถึงวันนึงเราคงจะเข้าไปสารภาพกับท่านเอง และบอกความจริงทั้งหมด มันดูเลวร้ายมากสำหรับการเป็นลูกอย่างงี้ แต่เราเองก้อไม่มีทางเลือก ร่ายเรื่องเก่ามาซะยาว สรุปพ่อเค้าว่าเค้าเรื่องที่ว่าเมื่อไหร่บ้านเราจะโอเค จะได้มาคุยกะพ่อแม่เค้าเรื่องแต่งงาน เพราะพ่อแม่เค้าอยากให้เราสองคนแต่งงานกันแล้ว พอเค้าเล่าให้ฟังเราก้อเครียดไปด้วย จะทำยังไงดี.

พอเอาน้ำใส่รถเรียบร้อย ก้อกลับบ้านไปด้วยความเครียดทั้งคู่ พอถึงบ้านเรากะเค้าก้อแบกน้ำกันหลังอาน พ่อเค้าก้อรีบเข้ามาช่วยรับน้ำไปจากเรา ส่วนแม่กะน้องๆเค้าก้อนั่งเล่นไพ่เกาหลีกัน เค้าเลยเรียกให้เราไปเล่นกะน้องๆเค้าด้วย ตายละสิ...เคยเล่นแค่ไม่กี่ครั้งที่จีนก้อตั้งนานละ ตอนนี้มาเล่นใหม่ก้อลืมไปหมดแล้ว เค้าเลยบอกว่าไม่เป็นไรเด่วเค้าช่วย แต่เค้ามีกินตังค์กันด้วย 555 เค้าเลยให้เรามา 2 หมื่นกว่าวอน เล่นไปเล่นมาเหลือแค่หกพันวอน 5555 เลยไม่ไหวอะ น้องเค้าคงสงสารเล่นจนจะหมดตัว เค้าเลยเลิกเล่นกัน แยกย้ายกันไปนอนกลางวัน แต่เรานอนไม่หลับ น้องๆเค้าเรียกมา บอกว่าฮียอนจะทำเฟซ-มาส-สาจ-จิ ให้ 555 ก็อปสำเนียงเกาหลีเลยนะเนี้ย ฮียอนเค้าเรียนมา อืม ทำแล้วสบายหน้าดีนะ แต่เวลาน้องเค้านวดหน้าให้เค้าจะขยะแขยงหน้าเรามั้ยเนี้ยสิวก้อเพียบ รูขุมขนก้อใหญ่ ย่นก้อมีประปราย 555 ไม่เหมือนหน้าน้องเค้าสองคน คนเกาหลีนี่ผิวดีจริงๆ รู้สึกแอบอาย พอเค้าทำให้เสร็จแล้วก้อเริ่มง่วงแอบไปนอนกลางวันมั่ง ตื่นอีกที เค้ามาเรียกตอนบ่าย 2 ว่าจะพาไปห้าง Lotte ไปซื้อของ ก้องงว่าจะซื้ออะไร เค้าเลยเปิดกระเป๋าตังเค้าให้ดู ว่าพ่อกะแม่เค้าให้เช็คของขวัญมา 100,000 วอน ให้พาเราไปซื้อเสื้อผ้าหน้าหนาว เราถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าพ่อแม่เค้าจะเอ็นดูเราอย่างงี้ ก้อเลยรีบไปอาบน้ำ เพราะเย็นนี้ก้อจะเจอเพื่อนๆเกาหลีที่เรียนจีนด้วยกัน

บ่าย 2 นิดๆก้อออกจากบ้าน เค้าบอกว่าจะพาไปกินข้าวกลางวันก่อนแล้วค่อยไปห้างแล้วก้อไปเจอเพื่อนๆ เค้าบอกว่าจะพาไปกินโพซัม(보쌈) กิมจิอร่อยอันนี้มากๆ เราคงไม่เคยกิน ก้อได้ๆจัดมาก้อจัดไปๆ 555 แต่คราวนี้ไม่ขับรถไปเพราะเค้าบอกว่าวันนี้ต้องกินเหล้าเลยไม่ขีบดีกว่า โอ้โหเมาไม่ขับที่เกาหลีก้อมีแฮะ 5555 ว่าแล้วเค้าก้อพอไปย่านร้านอาหารแถวๆบ้านเค้า แค่ไมมันเงียบอย่างงี้อะ ที่เคยมากี่ทีๆตอนกลางวันอย่างงี้คนต้องเดินกันให้รึ่ม แต่นี่ไมมีแค่เราสองคนอะ พอเดินไปสักพักมีคนอื่นเดินมามั่งคน-สองคน ร้าน 2 ข้างทางปิดหมด เค้าเลยบอกว่านี่มันปีใหม่เกาหลีคนเค้าก้อปิดร้าน หยุดทำงานเพื่อกลับไปอยู่กะครอบครัวกันหมด แล้วร้านที่เราจะไปกินโพซัมมันจะเปิดเหรอเนี้ย เดินมาหนาวใจจะขาดสิบห้านาทีถึงหน้ารอก้ออยากจะหัวเราะจริงๆ เค้าก้อปิดอะสิ ไม่มีร้านไหนเปิดเลย เราเลยไม่ไหวแล้วหนาวปวดหูมาก เค้าเลยบอกงั้นกินMcDonald แทนละกัน อันนี้เปิดแน่ๆ 555 สุดท้ายกิน McDonald แทน ที่เกาหลีร้าน Fast Food พวก McDonald , Burger King เค้าสามารถ Refill โค้กได้ เราเลยจัดไปสามรอบ 5555 หลังจากอิ่มโค้กแล้ว เราก้อมุ่งหน้าไปยังห้าง Lotte พอแท็กซี่จอดหน้าห้างถึงกะอึ้งไปรีบรอบ ห้างปิด ตายละหว่า เค้าเองก้อไม่รู้ว่าห้างเค้าหยุดด้วย ทำไงดีละทีนี้ นัดเพื่อนๆตั้ง 6 โมง แต่นี้เพิ่งจะ 3 โมงเอง เดินเตร่ๆอยู่นานเค้าเลยตัดสินใจไปชุนชอน ที่ๆนัดเพื่อนไว้เย็นนี้เลย ไปถึงจะทำไรละ เค้าเลยพาไปเข้าร้านเกมตู้ เค้าก้อไปเล่นเกมเต้น ไปตีกลอง ให้สนุกสนาน ไอ้เราเล่นไม่เป็นก้อนั่งถ่ายรูปเค้าไปเรื่อยๆ เดินเข้าเดินออกร้านเกมสลับกับกินร้านแถวนั้นไปหลายรอบ จนได้เวลาซะที 6 โมงแล้ว เพื่อนก้อเริ่มทยอยกันมา 真的好久不见 รู้สึกดีจังที่ทุกคนยังเหมือนเดิม เฮฮา ความรู้สึกดีๆของพวกเดราก้อยังคงอยู่ แม้ว่าบางคนจะพูดจีนไม่ได้คล่องอย่างเก่าแล้ว แต่ยังใช้ Body Language ได้ 555 คราวนี้ได้กิน โพซัมจริงๆซะที ที่แท้ เราเคยกินมาแล้วตั้งแต่ที่จีนแต่ไม่เคยจะรู้ว่าเรียกว่าอะไร เพราะไปกะเพื่อนๆเกาหลีทีไรเค้าก้อสั่งให้เรียบร้อย 555 จบจากโพซัมเราก้อไประลึกความหลังกันด้วย 羊肉串 ภาษาไทยน่าจะ เนื้อแพะย่าง เป็นที่ฮิตมากในหมู่พวกเราตอนอยู่จีน พร้อมกะเบียร์ชิงเต่า และเหล้าจากจีนอีกหลายขนาน 555 มื้อนั้นหมดไปแสนกว่าวอน เค้าเป็นจ่ายคนเดียว โอ้วใจป้ำมากๆ 555
หลังจากนั้นตีหนึ่งกว่าก้อต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะพรุ่งนี้เราก้อต้องเตรียมแพ็คกระเป๋าบินกลับมาแล้ว ㅜㅜ




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2552 11:10:20 น.
Counter : 260 Pageviews.  

春节 @ Seoul

ต่อจากคราวก่อน วันนี้วันอาทิตย์แล้วก้อต้องเตรียมตัวกลับโซล เพื่อไปเตรียมตัว 春节 กะครอบครัวของเค้าในวันรุ่งขึ้น สิบโมง เค้าก้อเตรียมอาหารเช้าเป็น 라면 นี่เอง แต่เป็น 라면 สูตรของเค้าเอง อร่อยไม่เหมือนใครจริงๆด้วย ฮ่าๆๆๆ แอบชมกันเองซะงั้น หลังจากนั้นเที่ยงก้อเช็คเอ้าท์ออก มุ่งหน้ากลับโซล แต่ก่อนจะกลับบ้าน เค้าก้อถามว่ายังอยากไป 남산 (โซลทาวเวอร์)มั้ย เราก้อแน่นอนสิ ก้อเธอบอกว่าจะพาไปไม่ใช่เหรอ เค้าบอกว่าอยากจะพาไปตอนกลางคืนวิวมันจะสวยมาก แต่ว่าไม่มีเวลาแล้วถ้าจะไปตอนกลางวันแทนยังจะอยากไปมั้ย ก้อต้องอยากสิ 남산 เนี้ย อยู่หลังมหาลัยเค้า동국대학แค่นิดเดียว ไปกี่ทีๆก้อไปแต่มหาลัยเค้า เค้าก้อสัญญาตั้งหลายครั้งว่าจะพาไป แต่ก้ออดไปทุกที ครั้งนี้เลยต้องไม่พลาด ดังนั้นจุดหมายเราคือ 남산 แต่โชคดีที่รถไม่ติดมาก เพราะคนต่างทยอยกันออกต่างจังหวัดในขณะที่เรามุ่งหน้าเข้าโซล ใช้เวลาชม.กว่าก้อถึง 남산 แล้ว แต่หิมะดันตกลงมามากมาย พอขึ้นไปบน โซลทาวเวอร์ เลยแทบจะมองอะไรไม่ค่อยเห็น แถมลมก้อแรงมากๆ เลยถ่ายรูปกันสัก ครึ่งชม.ก้อรีบกลับกัน เพื่อไปช่วยคุณแม่เค้าเตรียมทำกับข้าวที่ต้องใช้ไหว้บรรพบุรุษเค้าวันพรุ่งนี้ พอกลับถึงบ้านเค้าก้อกำลังเตรียมของกันให้วุ่น แต่แม่เค้าก้อรีบวางมือหันมาทำกับข้าวให้เราสองคนกินกันก่อน ขอบคุณมากเลยคะ 어머님 หลังจากกินข้าวอิ่มเรียบร้อย ก้อได้เวลามาช่วยแม่เค้าทำงานมั่งละ
ไอ้เราก้อช่วยทำอะไรไม่ได้มาก พ่อเค้าก้อเลยเรียกเราสองคนไปนั่งกินเหล้าแทน ฮ่าๆๆๆ ตามธรรมเนียมเค้า ถ้าผู้ใหญ่รินเหล้าให้ ก้อดื่มให้หมด เล่นไปซะหลายแก้ว ถึงกับมึนๆ ฮ่าๆๆๆ พ่อเค้าเลยไปหั่นปลาแซลมอนมาให้แกล้ม ก้ออร่อยดีนะเนี้ย ฮ่าๆๆๆ

พอสักหกโมง เค้าก้อรีบพาไปซื้อเครื่องสำอาง Etude & Skinfood แถวบ้านๆเค้า หอบกันแทบไม่ไหว หมดไป เก้าแสนกว่าวอน..ทั้งของเราเอง พี่น้อง เพื่อนๆ กระเป๋าชั้นจะใส่พอมั้ยเนี้ย ด้วยความเยอะมาก ตอนซื้อ Etude เลยมีปัญหา พนักงานจัดให้ผิดๆถูกๆ เลยต้องมานั่งนับใหม่กันหลายรอบ เลยอยู่ในร้านไปซะเกือบชม. กว่าจะได้กลับบ้านเกือบสองชม.แหนะ ฮ่าๆๆ เค้าเองก้อน่ารักไม่บ่นเลยสักคำ แถมถือให้ทุกอย่าง เรางี้เดินตัวปลิว
พอกลับถึงบ้านก้อนั่งเช็คเครื่องสำอางว่าครบมั้ย แต่ห่วงก้อนน.กระเป๋าจะเกินเนี้ยสิ เลยเอาของแถม Etude & Skinfood ให้น้องสาวเค้าไปเพียบ น้องๆเค้าดีใจกันอย่างกะเด็กๆ ฮ่าๆๆๆ

ว่าแล้วพ่อเค้าก้อมาเรียกไปกินข้าวเย็นและเหล้ามื้อเย็น ฮ่าๆๆๆ ประมาณห้าทุ่มก้อแยกย้ายกันไปนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นกันแต่เช้ามาไหว้บรรพบุรุษ




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2552 19:29:41 น.
Counter : 151 Pageviews.  

1  2  3  

suchja
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add suchja's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.