เวลามีไว้ให้เรา เดินไปพร้อมกับมันและ ทำตัวเองให้มีความสุขไปขณะที่เราเดินไปตามเวลา
Group Blog
 
All blogs
 

อลวนรักหนุ่มขี้เก๊ก # 3

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่


และแล้วการทำงานหัวปั่นก็ทำให้เวลาของอั้มหายไปอย่างรวดเร็ว จนมาเกิดเหตุการณ์ใหญ่ ที่ทำให้เธอต้องคิดปฎิวัติตัวเองใหม่

“อั้ม พี่ไม่เข้าใจนะ ว่าทำไมเธอต้องเถี่ยง พี่สั่งเธอก็ต้องทำ เจ้านายเค้าต้องการ” เจ๊พัท เมเนเจอร์คนสวยที่มักพูดจาหวานหยดย้อยกับผู้ที่มีผลประโยชน์กับเธอเท่านั้น กำลังสั่งให้อั้มทำในสิ่งที่ เป็นไปไม่ได้เลยในการทำงานติดต่อกับสื่อมวลชนในครั้งนี้

“ไม่ได้ค่ะ อั้มว่ามันไม่ได้ มันไม่มีเหตุผล จะให้ส่งแมสเซนเจอร์ไปทุกสำนักพิมพ์ ภายใน เวลา 2 ชม. เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว พี่พัทก็รู้”

“แต่เธอต้องทำ คุณต้นเค้าต้องการนิ”
“งั้นพี่ก็ทำเองเหอะ อั้มรับประกันได้ ไม่เจอ 2 ใน 20 ถ้าให้เวลาแค่นี้”
“อั้มนิเธอ มากไปแล้ว”
“ไม่มากค่ะ สำหรับสิ่งที่สั่ง อั้มไปทำงานต่อนะคะ”

พูดจบอั้มก็เดินออกไปทันที งานอั้มเยอะจนไม่มีเวลามาเสียในการเถียงกับใครเรื่องไร้สาระหรอก

“ไอ้อั้ม กินนนนนนข้าว จ้า”
“เออ ฝากซื้อหน่อยสิ รีพอร์ตลูกค้ารายใหญ่ยังไม่เสร็จเลย ไอ้แป้งจะเอาก่อน บ่าย 2”
“ไม่ได้ วันนี้พี่ยศศรี มีเรื่องอยากคุยว่ะ ไปๆ ส้มตำ ข้างตึกเอง”

อั้มจำใจเดินตามเพื่อนๆ ไปกินข้าวทั้งที่อยากทำงานมากกว่า แต่คิดๆ ไปก็ดีเหมือนกัน อั้มก็มีเรื่องอยากจะเม้าท์ อยากจะปรึกษา

อั้มเดินคิด ไประหว่างทาง ฉันว่าฉันจะออกสิ้นเดือน วันนี้ต้องบอกเพื่อนๆ ให้ได้ ฉันไม่ไหวจริงๆ กับคนเห็นแก่ตัว และ ขี้นินทา

“เอ้า สั่งๆ วันนี้ยศศรี เลี้ยงนะคะคุณน้องทั้งหลาย”
“ว้าว วันนี้พี่ยศ ใจดีเว้ย สบายแล้วไอ้อั้ม”
“พี่ยศศรีคะ อั้มว่าอั้มจะลาออกค่ะ”
ทุกคนต่างมองอั้มตาค้าง ไม่เป็นอันกิน และรอฟังเหตุผล

“ไอ้อั้ม เจ๊ว่าเจ๊เข้าใจเหตุผลนะ แต่เจ๊ว่าแกหางานก่อนดีมั๊ย เงินนะเว้ย”
“พี่ยศ อั้มคิดดีแล้วอ่ะ อั้มทำงานกะคนอย่างพี่พัทไม่ไหว ต้องแสดงอั้มทำไม่เป็นนะ แล้วดูพี่พัทเค้าสั่งงานสิ สมองไม่รู้อยู่ตรงไหนเลย”
“ไอ้อั้ม” อ้อมแหวกการวงสนทนาขึ้นมา “แกคิดเหมือนทีมเราว่ะ อีเว้นท์ยกทีมก็จะลาออก ทนคนเห็นแก่ตัวไม่ไหวเหมือนกัน”

“จริงเหรอพี่ แล้วห้ามอั้มทำไม”
“ก็คนอื่นเขาหางานกันแล้ว แกยังไม่ ก็ทำงานงก ๆ จะมีเวลาเหรอ”
“เอาน่าพี่ยศ อั้มมีทางออกอยู่แว้วววววว”
“อืม บริษัท พีอาร์ ยักษ์ใหญ่ คงต้องสั่นคลอนแน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆ เมื่อมีเดียส์คนเก่งและทีมอีเว้นท์ ลาออกยกทีม” สาวเอ๊ะ หนึ่งในแก๊งค์สามสาว อ.


เช้าวันสิ้นเดือน ทั้งอั้มและทีมอีเว้นท์ แจ้งบริษัทว่าจะลาออก เพราะต้องการได้รับเงินเดือนก่อนออก ก็บริษัทนี้มันเห็นแก่ตัวไม่ให้อะไรอยู่แล้ว เจ้าของถือกับกุมขมับ ที่ต้องเสียมือดีไปถึง 5 คน

“คุณยศศรี ทำแบบนี้กับพี่ได้งัยค่ะ”
“ยศว่า เราทำงานจบโปรเจ็คแล้วค่ะ คิดว่าพี่ต้นน่าจะโอเคนะคะ เราไม่ได้ทิ้งงานเลย”
“อืม ค่ะ ทางทีมอีเว้นท์ ต้นยอมได้ แต่ ยัยอั้มต้องช่วยพี่ต่ออีก 2 สัปดาห์นะ งานคุณน่ะ ต้องสอนให้คนอื่น เพราะ มันเยอะแล้วซับซ้อน”

“อ้าว พี่ต้น แล้วอั้มจะทำงัย เพื่อนก็ออกแล้ว เงินเดือนอีก”
“คุณมาทำแค่ 2 สัปดาห์ พี่ให้เต็มเดือน ตกลงนะคะ”
“อ้อ งั้นอั้มรับเงินแค่ที่มาทำแล้วกัน เซ็นต์รับทราบตามนั้นเลย”


ฉันเป็นไรไปหว่าจะใจดีกะคนเห็นแก่ตัวทำไม งานก็หนัก ฉันบ้าไปแล้วแน่ๆ เหอะๆ แล้วความคิดฟุ้งซ่านก็ต้องลอยไป เมื่อ เด็กใหม่เดินเข้ามารับงานต่อ


ในขณะที่ทุกคนได้หยุดพักเที่ยวกันก่อนเริ่มงานใหม่ อั้มกลับต้องมาคอยสอนงานเด็กใหม่ ที่แก่กว่า และเข้าใจยาก เป็นความทรมานก่อน ว่างงานจริงๆ แต่อั้มก็อดทน จนครบ ตามสัญญา โดยไม่บ่นซักคำ จะมาช้ำใจก็ตรงที่โดนเบี้ยงสัญญา เงินเดือน ด้วยเหตุผลว่า งานไม่เสร็จ ทั้งที่เคลียร์จบหมดแล้ว


“ลั้นลา จริงนะ ยายอั้ม”
“อ่ะ แม่ โถ่ตกใจหมด ทำไมกลับเร็วจัง”
“แม่ไม่ใช่กรรมกรนะถึงต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ กลับมาแทนที่จะเห็นลูกสาวตัวดี หางานหาการทำแบบคนอื่น ดั้นนั่งอ่านการ์ตูน เมื่อไหร่แกจะโตซะทีอั้ม แม่เห็นแกอ่านมาตั้งแต่เด็กยันทำงานแล้วยังไม่เลิกอีก”

“โหบ่นยาวเลยนะแม่ หึหึ”


จริงๆ อั้มได้หางานเรียบร้อยแล้ว คือบริษัทของคนรู้จักที่ไม่ใหญ่มาก โดยจะเข้าไปทำฝ่ายงานโฆษณาและพีอาร์ให้ ส่วนอีกที่จะเป็นบริษัทผลิตยาที่อั้มเคยฝึกงานตอนเรียนมหาวิทยาลัย ด้วยความที่เธอรับผิดชอบงานได้ดีถึงแม้ว่า จะแค่ฝึกงานจึงทำให้ฝ่ายบริหารแจ้งกลับเธอไว้ตอนฝึกงานเสร็จว่า ยินดีรับเธอเข้าทำงานเมื่อเธอเรียนจบ อั้มกำลังตัดสินใจหนักพอสมควรระหว่าง ความมั่นคงของบริษัทผลิตยาชั้นนำกับบริษัทวิศวกรรมเล็กๆ แต่มีงานที่เธออยากจะทำ


การตัดสินใจผ่านไป 2 เดือน ในที่สุดอั้มก็ตัดสินใจเลือกบริษัทเล็กนั่น
เฮ้อ ฉันบ้ารึเปล่าวะ ที่คิดแบบนั้น แต่ฉันอยากทำงานที่อยากทำนี่หว่า เฮ้อ แม่จะด่ามั๊ยเนี๊ยะช้านนนน

“อั้ม เว้ย เพื่อนมาเว้ย ลงมาสิแกร นอนลั้นลา ตื่นสายอยู่นั่น” ความคิดของอั้มกระจัดกระจายไปในทันที เสียงไอ้ปุ่นนิหว่า มันมาได้งัยวะ
“งัย ไอ้ปุ่น แกมาได้งัยวะแต่เช้า”
“อืม ก็จะมาลากแก ออกจากบ้าน แหม๋ๆ ถือโอกาสหยุดยาวเลยนะแกร”
ทักทายกันพักใหญ่ก็ชวนกันออกไปเที่ยวอยุธยา เพราะ เดี๋ยวจะไม่ว่างทั้งคู่ ด้วยอั้มและปุ่น ต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง

“แกคิดงัยวะไอ้อั้ม จากพีอาร์สาวสุดเดิ้ล มาทำงานบริษัทวิศวกรรมเล็กๆ”
“เออ ฉันก็งงว่ะ แต่ตอบรับเขาไปแล้วอ่ะ เกรงใจเขาว่ะ”
“แกจะมาทำไรวะ อยุธยา มีแต่วัด”


ปุ่นไม่ตอบ เพราะไม่มีจุดหมายแน่นอนเหมือนกัน แต่มันรู้สึกอยากพาเพื่อนมาเที่ยวผ่อนคลายก่อน เข้าทำงานอีกครั้ง
แล้วปุ่นก็มาจอดรถในที่จอดรถของสถานีรถไฟสามเสน

“เฮ้ย แกไม่ขับรถไปวะ มาที่นี่ทำมัย”
“เออๆ นั่งรถไฟไป สนุกดีเว้ย ถึงแล้วจะได้ขี่จักรยานเล่นกัน”
ในที่สุดก็มาถึงสถานีรถไฟอยุธยา จากนั้นอั้มก็ต้องประหลาดใจที่มีเพื่อนๆ ก๊วนใหญ่เช่ารถจักรยานไว้ให้


เฮอะๆ มากันได้งัยวะ ตั้งเยอะ มันจะตั้งแก๊งค์จักรยานกันหรืองัย เฮ้ยฉันนิคิดคนเดียวอีกและ เพ้อเจ้อ อั้มสบัดหัว เพื่อ กลับเข้าสู่โลกปัจจุบัน พักนี้อั้มอาจอยู่คนเดียวมากไป เธอจึงมักคิด แทนที่จะพูดออกมา

ขณะนั้น ก็มีผู้ชายคนนึงเดินผ่านกลุ่มอั้มไป ซึ่งเป็นจังหวะที่อั้มหันไปพอดี ทั้งสองได้สบตากัน แล้วความรู้สึกคุ้นเคยก็เกิดขึ้น

“ไอ้อั้มมองอะไรอยู่วะ ไปๆ เขาขี่กันไปไกลแล้วเดี๋ยวไม่ทัน”
อั้มได้แต่ทำหน้างง แล้วตามเพื่อนไป ใจก็คอยคิดว่าเขาคือใครกัน ทำไมคุ้นจัง แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก แล้วก็ลืมไปเพราะความสนุกตามเดิม




 

Create Date : 23 มิถุนายน 2553    
Last Update : 23 มิถุนายน 2553 21:35:07 น.
Counter : 388 Pageviews.  

อลวนรักหนุ่มขี้เก๊ก # 2


โลกที่แตกต่างกัน

วันเวลามักทำให้สิ่งต่างๆ ที่อยู่ในโลกเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
แต่ไม่เคยสามารถเปลี่ยนแปลงสาวคนนี้ได้เลย อั้มสาวน้อย
ตัวเล็ก อารมณ์ติสแตก ชอบทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ ไม่ชอบ
การเปลี่ยนแปลง เธอเป็นสาว นักประชาสัมพันธ์ ตัวยงที่ยังคง
ทำตัวไม่เหมือน พีอาร์สาวทั่วๆ ไป ที่มักจะเริ่ด และแฟชั่นจ๋า
กันสุดชีวิต

“อั้ม แก วันนี้ไม่ไปอาร์ซีเอกะพวกชั้นเหรอ” อ้อมและเพื่อนๆ
มักเที่ยวกันแบบนี้เสมอๆ เมื่อจบงานอีเว้นท์
“อืม วันนี้ง่วงอ่ะ ไม่อยากไปไหน อยากนอนอย่างเดียว ไปแล้ว
เดี๋ยวไปหลับคาโต๊ะ” อั้มพูดจบก็เดินออกจากออฟฟิตไป

เวลาเดินอั้มไม่ค่อยได้มองทางเท่าไหร่ เพราะมัวแต่คิดได้เรื่อย
เปื่อยกะฟังเพลงเสียงดัง จึงทำให้เธอค่อนข้างจะซุ่มซ่ามอย่าง
แรงในสายตาผู้อื่น การที่อั้มมักโลกส่วนตัวสูงทำให้อั้มเข้าก็ทีม
พีอาร์ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ เพราะอย่างที่รู้กัน สาวพีอาร์ชอบ
นินทาชาวบ้าน จึงทำให้อั้มไม่ค่อยมีเรื่องจาคุยกะใครเท่าไหร่
เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ของเธอก็เป็นพวกอีเว้นท์ซึ่งอยู่อีกชั้นถัดไปของตึก

เฮ้ยยยย นี่ฉันเป็นไรหว่า งานก็หนุกดี แต่มันอยากออกว่ะ
อั้มเดินไปคิดไปจนถึงรถไฟฟ้าใต้ดิน พระราม 9 สถานีประจำที่
เธอใช้เป็นเส้นทางกลับบ้าน เสียงเพลงดังขึ้นขัดจังหวะความคิด
“อ่อ แม่โทรมานะน่า” อั้มพรืมพรำและควานหาโทรศัพท์
“ค่ะแม่ มีอะไรคะ หนูกำลังกลับบ้าน”
“อืม นิแกลืมหรือป่าวว่านัดอะไรกะแม่ไว้น่ะ” แม่ทักตามนิสัยขี้ลืม
ของลูกสาว
“ไม่ค่ะ พรุ่งนี้ตอนเช้าถึงหน้าบ้านเลย คุณนาย แล้วกินข้าวยัง”
หูข้างนึงอั้มก็ฟังเพลงไปด้วย และมักเป็นอย่างนี้เสมอ เธอไม่เคย
ทำอะไรอย่างเดียวได้นาน
“อืม ไม่ลืมก็ดีแล้ว แม่น่ะกินแล้ว แกก็กลับบ้านดีๆ อย่าไปเที่ยวดึก
ล่ะ เดี๋ยวตื่นไม่ทัน แค่นี้นะ” ตื๊ดๆๆๆๆๆๆ

เฮ้อทุกทีสิน่า ทำไมฉันต้องโดนสั่งให้ไปโน่นไปนี่ตลอดเลยน้า
ไม่เห็นจะบังคับพี่โก๋ บ้างเลย พี่น้องกันชัดๆ แม่นิลำเอียงสุดๆ
อ๋อยไม่ไหวแล้วกลับบ้านนอนก่อนดีก่าแล้วค่อยออกมาหาข้าวกิน
กะพวกไอ้โอ๋มัน

ยังไม่ทันที่อั้มจะได้นอนหลับเต็มตา ชาวก๊วนก็มาทุบประตูห้องแล้ว
“ไอ้อั้ม ๆ ๆ ๆ กินข้าว” “ตื่นๆ โว้ย ใครเขานอนตอนเย็นกัน”
ผ่านไปซักหลายนาทีประตูก็เปิดออกพร้อมด้วยใบหน้าอันยากจะ
บรรยายเป็นคำพูดได้ว่าโหดแค่ไหน
“เอ๊า ดังกันเข้าไป ไม่แหกปากกันพร้อมกัน 10 คนไปเลยล่ะ”
“พวกแกก็รู้นิสัยกันนิหว่า อยากเจ็บตัวไง มาปลุกตอนท่านอั้มนอนน่ะ”

อารมณ์อั้มตอนนี้ขุ่นมัวสุดๆ ทั้งงาน ทั้งแม่ ทั้งเพื่อน ไม่ได้ช่วย
ให้อั้มยิ้มได้เลย ความคิดวกวนที่อยู่ในหัว เรื่องอยากออกจากงาน
มันยังคงค้างอยู่ในใจ และยังหาคำตอบไม่ได้ ทำไมนะ หรือใคร
อยากเล่นตลกกับฉันหว่า

7 โมงเช้าวันรุ่งนี้ อั้มยื่นรอแม่อยู่หน้าบ้าน ซึ่งอั้มสัญญาไว้ว่าจะ
ไปรับไปทำบุญตอนเช้าที่วัด อั้มไม่ใช่เด็กเรียบร้อยออกจะแนว
บ้าๆ แต่ก็ชอบไปวัดทำบุญกับแม่เป็นที่สุด มันทำให้อั้มรู้สึกดี
การทำบุญที่อั้มคิดมันไม่ใช่เพราะอยากได้บุญ แต่อยากทำเพราะ
รู้สึกดี แล้วสองแม่ลูกก็เดินทางมาถึงวัด

“อั้มเอากับข้าวไปวางเรียง แล้วเอาข้าวไปใส่ในบาตรพระลูก”
ระหว่างที่แม่ง่วนอยู่กับการจัดกับข้าว อั้มก็เดินไปอีกด้านเพื่อเอา
ของไปวาง
“เหวอออ เฮ้ยๆ จะหล่นแล้ว คุณๆๆหลบหน่อยค่ะ” โครมยังไม่ทัน
ขาดคำ อั้มก็ชนเข้าเต็มๆ กับไข่ตุ๋น ซึ่งยื่นอยู่เฉยๆ แต่ด้วยความ
ซุ่มซ่ามไม่ระวังของอั้มทำให้ไข่ตุ๋นเปียกไปทั้งกางเกงด้วยน้ำที่แตก
ออกจากแก้วพลาสติก

“ขอโทษนะคะพี่ อั้มไม่ได้ตั้งใจอ่ะ ขอโทษจิงๆนะ” อั้มพูดไปก็เก็บ
ของไปเหมือนขอโทษไข่ตุ๋นโดยไม่ได้มองหน้าเขาเลย ทำให้
ไข่ตุ๋นซึ่งงง ๆกับเหตุการณ์กะทันหันแบบนี้ได้แต่มอง โดยพูดอะไร
ไม่ออกซักคำ แล้วเดินจากมาด้วยอาการงงๆ

“ผู้หญิงอะไรวะ ซุ่มซ่ามชิบ” ไข่ตุ๋นที่พึ่งกลับสู่สภาพปกติหลังจาก
ตกใจ เดินบ่นไปตลอดทางพร้อมกับกางเกง ขาวทที่บางใสเพราะ
เปียกน้ำ

“ตุ๋นเอ้ย จะไปไหนลูกพระจะสวดแล้ว” “ไปรถน่ะ เดี๋ยวนั่งรอในนั้นเลย เปียกน้ำ ไม่อยากโป๊ในวัดน่ะครับ” พูดจบไข่ตุ๋นก็รีบเดินจ้ำอ้าว
ไปรถของเขาโดยด่วน ก็ใครจะไปทนเห็นสายตาคนรอบข้างนั่ง
จ้องได้ล่ะ บางขนาดเห็นขาอ่อนงี้ ไอ้เด็กบ้านั่นก็ชนแล้วหายไปเลย
คิดแล้วหงุดหงิด ชั่งไม่รับผิดชอบเราบ้างเลย นอนรอดีกว่า
ง่วงอยู่ด้วย แล้วไข่ตุ๋นก็หลับทันที ระหว่างรอแม่เสร็จธุระ

อั้ม ซึ่งไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง ว่าได้ทำให้ใครเขาหงุดหงิดบ้าง
นั่งฟังพระสวดให้พรตั้งแต่เดินแยกจากไข่ตุ๋นมา ในใจก็นั่งคิด
เหม่อลอย และเรื่อยเปื่อยถึงข้าวมื้อกลางวันและ เพื่อนๆ ที่เธอ
นัดไว้ตอนเย็นว่าจะไปสังสรรค์กันหลังจากไม่ได้เจอกันมาเป็นปี
ตั้งแต่เรียนจบ แล้วก็มีอยู่แว๊บนึงที่ใบหน้าของไข่ตุ๋นลอยเข้ามา
ให้หัวของอั้มแบบผ่านๆ หว่าฉันไปนึกถึงเขาทำไมเนี๊ยะ หรือจะ
สำนึกผิดที่ไม่ได้ช่วยเช็ดน้ำให้เลยนะ

“อั้ม กรวดน้ำได้แล้ว เหม่ออยู่ได้” แม่แหวใส่เมื่อเห็นลูกสาว
เหม่อลอย
“ขอให้บุญครั้งนี้ที่ลูกทำ จงเกิดกับตัวลูก ครอบครัวและพี่ชายที่ลูก
เดินชนด้วยเถอะ สาธุ”

แล้วตอนเย็นที่รอคอยก็มาถึง อั้มแต่งตัวสวยตามสไตส์แปลก
ประหลาดของตัวเอง ออกจากบ้านเพื่อไปร้านตักสุรา ตรงสะพาน
หัวช้าง ที่สุมหัวประจำของเธอและเพื่อนๆ ตั้งแต่สมัยเรียน

“อั้มแกไม่แต่งตัวให้เหมือนชาวบ้านหน่อยวะ ออกจะสวยประหลาด
นะแก หน้าก็พอใช้ได้แต่ ทำตัวยังกะเด็กฮิปฮอป” อั้มได้แต่ยิ้มแหะๆ
แล้วก็เริ่มต้นกินเหล้าแต่หัววันเหมือนคนอดอยาก

“แกเป็นแบบนี้ เมื่อไหร่จะมีแฟนวะ” ปุ่นเพื่อนสาวคนสนิทชักอยากรู้
อยากเห็นเรื่องของเพื่อนสนิทบ้างว่าเป็นไงบ้างแล้ว

“อ่อ ก็มีหนุ่มๆ มาจีบเยอะ นะเว้ย อิอิ” อั้มไม่ได้โกหกเพื่อน
เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เธอมีคนสนใจเยอะ ด้วยลุคภายนอกที่ดู
เป็นสาวสวย ร่าเริง ทำงานเก่ง และออกจะแฟชั่นนิดๆ ทำให้หนุ่มๆ
ที่ร่วมงานด้วยสนใจเธอทั้งนั้นแหละ แต่มันก็เป็นเพราะงานและสังคม
ทำให้เธอต้องพยายามทำสิ่งที่คนในสังคมรับได้ ซึ่งมันตรงข้ามกับลุค
ที่เธอมาเจอเพื่อนๆ โดนสิ้นเชิง

นั่งเม้าท์กันอยู่ซักพัก เพื่อนๆ ก็ทยอยกันมาครบ ต่างทักทายก็ตาม
ประสาคนไม่ได้เจอกันนาน หนึ่งในนั้นก็รวมไอ้แมนหนุ่มที่แอบชอบ
อั้มตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ด้วย แมนเป็นคนไม่ค่อยพูดและกินเหล้าหนัก
มากตั้งแต่สมัยเรียนและคนที่แมนยอมให้มีแค่คนเดียวคืออั้ม
แต่เพื่อนสนิทยังไง ก็คือเพื่อนสนิท อั้มคิดอย่างนั้นมาตลอดและซี้
กับแมนมากจน วันนึงในงานเลี้ยงรุ่น แมนซึ่งเมามากบอกกะเพื่อนซี้ว่า

“อั้ม กูรักมึงว่ะ มึงเหมือนเฮอไมนี่ของกูแลย กูเป็นรอนงัย มึงไม่
ต้องรู้สึกเปลี่ยนไปนะถ้ามึงไม่ต้องการ กูรักมึงมากกว่าแฟน”
แล้วไอ้แมนก็หลับสนิทไปเลย

“เฮ้ย ไงวะ ไอ้แมน ไม่ได้เจอกันเลยนะ แกนิติดต่อยากมาก
โทรศัพท์เอาไปซ่อนหรือไง” อั้มตะโกนทักเพื่อนสนิทแบบไม่มีตะขิด
ตะขวงใจ เพราะยังคงคอนเซปเดิม เพื่อนสนิทก็คือเพื่อนสนิท

ตั้งแต่วันนั้นอั้มไม่ได้รู้สึกเปลี่ยนไปจากเดิมยังคงให้ความสนิทสนม
กับแมนตามเดิม ยังคงห่วงใยแมนเสมอเมื่อมันทำตัวหายไปจากเพื่อนๆ

“เออ กูอยากอยู่เงียบๆ ไม่มีเสียงมึงไง ทำไรมาวะ สวยขึ้น หุหุ
หรือว่ามีหนุ่มที่ปิ๊งแล้ว” อั้มส่ายหน้าเป็นคำตอบที่รู้กันว่า ไม่มีว่ะ
“สวยเพราะอยากสวย จริงๆ แล้วแกรไม่เคยเห็นความสวยที่มีมา
นานนี้ตังหากล่ะ” คำตอบกวนๆ มันชั่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็น
ตัวอั้มได้เสมอ แท้จริงแล้วใครจะรู้เล่า ว่านิสัยนี้มีที่มาที่ไปจากความ
ขี้อาย ที่อั้มไม่เคยแสดงออกให้ใครเห็น จนทำให้ทุกคนล้วนคิดว่า
เธอใจกล้า และเป็นสาวมั่น

“ทำไรอยู่วะ พวกแกคิดจาคุยกันแค่ 2 คนหรืองัย” ปุ่นสาวตุ้ยนุ้ย
เข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย

“อ่อไม่นิ เออปุ่นแล้วแกกับแฟนเป็นงัยบ้าง เงียบไปเลยนะ”
บรรยากาศครึกครื้นที่ได้เจอเพื่อนๆ ทำให้อั้มรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
แม้จะไม่ได้เจอกันนานขนาดไหนความรู้สึกเดิมๆ ก็ไม่เคยหายไปเลย
การได้มีคนอยู่ใกล้ๆ นิมั่นชั่งดีจริง อั้มคิดและนั่งยิ้มกับตัวเอง

โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าส่วนลึกในหัวใจนั้นมันเหงานั่นเอง ถึงสับสัน
และคิดอะไรไม่ออก

“กลับก่อนนะ โชคดี แล้วเจอกันใหม่” เป็นคำส่วนใหญ่ที่เพื่อน
สาว ๆ และหนุ่มบางคน เอ่ย เมื่อ ถึงเวลาสมควร แต่มันไม่ใช่
สำหรับอั้มเลย อั้มมักไม่กลับเป็นคนแรก ของกลุ่ม แต่มักจะกลับ
เป็นคนสุดท้ายมากกว่า

“ไง ไอ้อั้ม ไปไหนต่อดี เพิ่ง 5 ทุ่มกว่าๆ เอง” แมนเพื่อนขาลุย
ขี้เมาโพร่งมาก่อนใครเพราะกลัวที่เหลือจะกลับกันก่อน

“ยังไงก็ได้อ่ะ up to you ขอแค่ใครซักคนนั่งรถกลับเป็นเพื่อน
ก็พอ หุหุ แม่บอกว่าไม่ให้กลับดึก ๆ คนเดียวแต่กลับเช้าได้ว่ะ ฮ่าๆๆๆ”

“ก็เป็นซะอย่างนี้ ใครจะกล้าคบเป็นแฟนวะ”
“อู้ววววว อย่าได้แคร์จ๊ะ อิอิ” แม้จะพูดออกไปว่าไม่แคร์
เพียงเพื่อสนุกขำๆ กับเพื่อน อั้มยงคงคิดวนเวียนเหมือนมีอะไร
ติดอยู่ในหัวแต่คิดไม่ออก จำไม่ได้ว่าเป็นเรื่องอะไร จนบางที
อั้มสงสัยว่าตัวเอง เบื่อสิ่งที่เป็นอยู่แล้วเหรอ กับชีวิตเดิมๆ ที่
ไม่ต้องสนใคร ไม่ต้องคอยเอาใจใคร ไม่ต้องพยายามสวยเพื่อใคร
อาการมึนหัวเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากฤทธิ์แอลกอฮอน์ที่กินเข้าไปเยอะ

แล้วใบหน้าของไข่ตุ๋นก็ผุดขึ้นมาในความคิดของอั้มอีกครั้ง
เหวอออ เข้ามาในความคิดได้ไงยะ ชนแค่ครั้งเดียวยังตามมา
หลอกหลอนถึงวันนี้เลยเหรอ

“ไอ้อั้ม จะไปมั๊ยวะ เร็ว เดี๋ยวทิ้งให้ข้ามถนนคนเดียวเลย”
เสียงตะโกนของแมนทำให้อั้มกลับมาอยู่ ณ ปัจจุบันอีกครั้ง

“เออ ไปไหนวะ” “บ้านไอ้ต่อ สามีมันไม่อยู่พอดี” สงสัยจะเช้า
แน่เลยฉันอั้มคิดแล้วเดินตาม เพื่อนๆ ไป




 

Create Date : 13 มิถุนายน 2553    
Last Update : 13 มิถุนายน 2553 20:40:46 น.
Counter : 445 Pageviews.  

อลวนรักหนุ่มขี้เก็ก # 1

เรื่องบังเอิญไม่มีอยู่จริง

“ไข่ตุ๋น ๆ เธออยู่บ้าน หรือเปล่า”
“เฮ้ย ไข่ตุ๋น เมย์เรียกหลายทีแล้วนะ” เมย์สาวแฟชั่นแนว ๆ
และสุดขั้วที่มักทำอะไร แบบสุดๆ ชนิดที่ไม่มีใครคาดการได้
มาหาไข่ตุ๋น เพื่อนชายคนสนิท ซึ่งเธอมักเป็นแบบนี้เสมอ ๆ
กับไข่ตุ๋นหนุ่มตี๋มาดเซอร์ ตัวสูง ที่มีหุ่นแบบนักกีฬาทั่วไป
แต่สีผิวไม่เหมือนหนุ่มตี๋ทั่วไปเลย ไข่ตุ๋นมีนิสัยชอบออกกำลังกาย
เอามากๆ เพราะอยากดูดี ทั้งสุขภาพและหน้าตา

เมย์ที่มาโดยไม่ได้บอกกล่าวและรีบร้อน เธอคิดว่าเธอมีเรื่องต้อง
เจอไข่ตุ๋นให้ได้ภายในวันนี้

ไข่ตุ๋นเดินมาเปิดประตูหน้าบ้านด้วยอาการสะลืมสะลือจากการถูก
ปลูกให้ตื่นจากเตียง แบบไม่เต็มใจ

“เฮ้ยไอ้เมย์ แกจะมาทำไมไม่บอกก่อนวะ มาเช้าอย่างนี้คนจะหลับ
จะนอน เพิ่งได้นอนตอนตี 3 เอง”

“ก็เมย์อยากได้เครื่องฟอกอากาศนิ บังเอิญเมื่อคืนเมย์เป็นภูมิแพ้
รู้สึกไม่ดี เช้ามาเลยอยากซื้อเลย” เมย์พูดพร้อมทำหน้าสำนึกผิด
แล้วยิ้มแหะๆ

“เมย์นิแก มาหาชั้นแต่ไก่โห่ ขับรถข้ามฝากกรุงเทพ มาตั้งไกล แค่
อยากได้ไอ้เครื่องบ้านั่นอะนะ” ไข่ตุ๋นงง และหน้าหงิก

“ชั้นไม่เข้าใจแกเลยว่ะ แถวบ้านแกก็มี ไม่ไปซื้อวะ”

เมย์พยักหน้ารับแบบอ้อนๆ แต่ไม่พูดอะไร กลัวไข่ตุ๋นจะโกรธ
ก็เพราะเมย์มักเป็นแบบนี้เสมอ มีเหตุผลง่ายๆ ที่จะเจอไข่ตุ๋น


เมย์และไข่ตุ๋นขับรถออกไปซื้อเครื่องฟอกอากาศ ที่โฮมโปรแถว
บ้าน ในขณะที่ไข่ตุ๋นง่วง และอยากนอนพาลนึกในใจอยากเอา
ระเบิดไปปาโฮมโปรแถวบ้านจิงๆ ไอ้เมย์มันจะได้ไม่มีข้ออ้าง

แต่ขณะเดียวกันเมย์กลับรู้สึกสุขใจที่ได้ไปไหนมาไหนกับไข่ตุ๋น
เมย์ไม่เคยบอกความในใจหรือแสดงอะไรให้ไข่ตุ๋นได้รู้ นอกจาก
ความห่วงใยที่ดูเหมือนมันจะมีเยอะมากมาย บางครั้งเวอร์เกินไป
ในความคิดของไข่ตุ๋น

เดินซื้อของกันเสร็จก็เกือบจะเที่ยงแล้ว เมย์และไข่ตุ๋นแวะกิน
กลางวันกันที่ร้านวินนี่มิลด์ มันเป็นร้านประจำที่เธอและเขามักจะ
มากินด้วยกัน บรรยากาศร้านที่แสนอบอุ่น ตกแต่งดูเรียบง่ายด้วย
สีเหลืองอ่อน มีโต๊ะเพียง 5 โต๊ะเท่านั้น แต่มีทุกอย่างที่น่ากินและ
ถูกปาก โดยเฉพาะเบเกอรี่ตามฤดูกาล หรือตามใจคนทำนั่นเอง

“กินอะไร ไข่ตุ๋น เธออย่าบอกนะว่า กระเพราะหมูกรอบ + ไข่ดาว
เห็นกินทุกวัน” เมย์แหว เพราะไข่ตุ๋นไม่เคยเปลี่ยนอะไรในชีวิต
ประจำวันได้เลย ไข่ตุ๋นไม่ตอบ ยิ้มยิงฟันและพยักหน้า
“เฮ้อ เธอกินมันทุกวันได้ไงเนี๊ยะ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนไรเลยนะ
งี้ใครจะกล้ามารัก”

“ไม่เป็นไร ช้านนนนนอยู่อย่างนี้มานานแล้ว ไม่คิดจะสร้างภาพหรอก”
ไข่ตุ๋นไม่ได้สนว่าใครจะคิดยังไง ในบางครั้งเขาก็ปากกับใจไม่ตรงกัน เพราะความเหงาลึกๆ ที่เกาะกินใจเขาอยู่ เหมือนว่าเขารอใครซักคน

แล้วนนนี่ก็เปิดประตูร้านเข้ามา “ป้าขาเอาเค้กช๊อกโกแลต 4 ชิ้น
กับ เครปเค้ก 2 ชิ้นค่ะ กลับบ้านนะ” นนนี่สั่งโดยไม่ได้สังเกตุว่า
มีใครนั่งอยู่ในร้านบ้าง แน่หละเป้าหมายอันดับหนึ่ง คือเค้กสุดอร่อย

“ไฮ นนนี่ พี่กำลังกินข้าวอยู่เลย นั่งด้วยกันก่อนสิ” ไข่ตุ๋นทักทาย
น้องคนสนิทด้วยท่าทางขำๆ ที่เป็นบุคคลิกประจำตัว

“อ้าว พี่ตุ๋น พี่เมย์ สวัสดีค่ะ” มาทานข้าวเหรอ แหมอยากได้เพื่อน
คุย พอดีเลย อิอิ”

“นนนี่ แกซื้อเค้กไปทำไมเยอะแยะเนี๊ยะ ทีตอนมาตีแบดไม่เห็น
ซื้อฝากพี่มั่ง หุหุ ชอบกิน โดยเฉพาะของฟรี”

นนนี่ ไข่ตุ๋น เมย์ และเพื่อนๆ อีกหลายชีวิต เป็นเพื่อนที่มาพบกัน
ที่คอร์ดแบดมินตัน โดยต่างคนต่างมาแล้วก็มารวมกลุ่มกันที่คอร์ด
แบด บางคนห่างหายไปนานหลายเดือน ถึงหลายปีก็มี แต่ก็ยังมี
พวกขาประจำที่ยังอยู่ไม่ไปไหนคอยเป็นตัวเชื่อมระหว่างคนเล่นเก่า
กับคนที่เข้ามาใหม่ ไข่ตุ๋นและเมย์ รวมถึงพี่นาทีถือว่าเป็นรุ่นก่อตั้ง
ก็ว่าได้

“อ่อ ซื้อฝากลูกค้าน่ะพี่ตุ๋น นนนี่ต้องไปหาลูกค้าของแบงค์แถวนี้
แต่ยังไม่ถึงเวลานัด”

“ไข่ตุ๋น แกนิตลอดเลย อยู่ในร้านไม ไม่สั่งมากินวะ หรือชอบกินแต่
ของฟรี” เมย์แซวแบบหยอกๆ เพราะไม่รู้จะแทรกเข้ามาในวงสนทนาอย่างไร

เมย์ซึ่งรู้สึกอยู่ลึกๆ ในใจว่า น้องนนนี่สาวน้อยน่ารักที่อายุน้อยว่าเธอนิดหน่อย คนนี้มีบางอย่างแอบซ่อนอยู่ใจเกี่ยวกับไข่ตุ๋นอยู่เหมือนกัน
มันคงเหมือนสัญชาตญาณคู่แข่ง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับน้องมากเพราะ
น้องก็น่ารักดีเป็นเด็กที่ดูจะพัฒนาตัวเองได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ตัวเอง
สวยขึ้นและดูเป็นที่ดึงดูดใจของหนุ่มๆ


นนนี่ซึ่งรีบไปทำงานต่อออกจากร้านและบอกลา เมย์และไข่ตุ๋น
“แล้วเจอกันที่คอร์ดแบดนะจ๊ะ”

“อ่อ พี่เมย์ แวะไปตีบ้างล่ะ ทุกคนคิดถึง” แล้วนนนี่ก็รีบชิ่งเดินออก
ไปก่อน นนนี่ไม่อยากเห็นอะไรมากไปกว่านี้ เธออาจยอมรับความ
สนิทระหว่าง พี่ไข่ตุ๋นกับสาวคนอื่นได้ แต่เธอก็ทนเห็นแบบใกล้ชิด
บ่อยๆ ไม่ค่อยได้เหมือนกัน เธอคิดว่ายังไง มันก็ยังเป็นความลับ
ในใจ ที่เธออยากรอให้แน่ใจก่อนค่อยเปิดเผยออกไป ทั้งที่อยาก
รู้ความจริงใจจะขาดก็ยังคงต้องเก็บความลับนี้ไว้ก่อน





 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2553 15:20:13 น.
Counter : 357 Pageviews.  

1  2  3  

สตอเบอรรี่ด็อก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เกิดมาก็เป็นคนนึง
ซึ่งอยากจะท่องไปในโลกกว้าง
บางครั้ง เจอเรื่องราวระหว่างทาง
สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ปนๆ กันไป
New Comments
Friends' blogs
[Add สตอเบอรรี่ด็อก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.