STAND UP PLEASE ! ลำแข้งเค้ามีไว้ให้ยืน !
Group Blog
 
All blogs
 
จ า น ที่ 19 : ฉั น จ ะ เ ลิ ก กิ น ข้ า ว ข า ห มู

...

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน อ้วนขึ้นป่ะเนี่ย”

“มาถึงก็ปากเสียเลยนะแก !”

...

ผมกล่าวทักทายเพื่อนหญิงคนหนึ่งที่โดยเจอบังเอิญเมื่อวันก่อน เรารู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย เธอดูเป็นผู้หญิงที่ตัวค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักพิกัดเกินมาตรฐานหญิงไทยไปหลายช่วงตัว แต่ก็ดูอวบอั๋นน่ารัก โชคดีว่าเธอเป็นคนอารมณ์ดีและขี้เล่น แถมยังเป็นคนไม่ขี้โมโห ไม่งั้นผมคงโดนมันจับทุ่มไปติดฝาผนังตั้งแต่ที่แกล้งทักมันไปแล้วว่าอ้วนขึ้น

จริงๆ แต่ก่อนเธอก็ไม่ได้อ้วนเท่านี้ แต่เพราะความสามารถพิเศษของเธอที่สามารถกินอาหารได้ถึงวันละ 5 มื้อ โดยเฉพาะข้าวขาหมูที่เป็นเมนูอันดับหนึ่งในดวงใจตลอดกาลมาจนถึงทุกวันนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอจะมีรูปร่างที่อวบอั๋นน่ารักเกินพิกัดไปได้มากขนาดนี้

โดยส่วนตัวผมเองก็ชอบกินข้าวขาหมูอยู่เหมือนกัน ประจวบเหมาะพอดีกับที่ผมอยากจะหาร้านข้าวขาหมูสักร้านมาเขียนถึง ด้วยความที่เธอคลุกคลีอยู่ในวงการข้าวขาหมูมาไม่น้อยกว่า 10 ปี ผมจึงไม่รีรอที่จะถามถึงร้านข้าวขาหมูในดวงใจของเธอ

หลังจากที่ฟังเธอสาธยายมาก็หลายร้าน หูก็ไปสะดุดเอาตรงร้านข้าวขาหมูร้านหนึ่งที่เธอว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เพราะข้าวขาหมูร้านนี้ไม่ใช่แค่ข้าวขาหมูตุ๋นเครื่องพะโล้ธรรมดาแบบที่มีขายกันอยู่ทั่วไป แต่ยังมีการใส่เครื่องปรุงชนิดพิเศษแบบที่เรียกว่าดูๆ ไปแล้วไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นข้าวขาหมูสูตรพิสดารที่ดังกระฉ่อนจนตอนหลังถูกหลายๆ ร้านขอเอาสูตรไปทำขายบ้าง และนี่คือตำนานร้านข้าวขาหมูที่ผสมโอวัลตินร้านแรกในประเทศไทย

ร้านดินแดงข้าวขาหมู

...



...

ชายวัยกลางคนศีรษะโล้นเกลี้ยงที่กำลังยืนถือปังตอขนาดใหญ่สับขาหมูใส่จานรอเสิร์ฟให้ลูกค้าที่มารอทานกันอย่างเนื่องแน่นอยู่ในตอนนี้ แกมีชื่อว่าเฮียฮง ชาวไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋วอายุประมาณ 60 กว่าๆ ที่เป็นทั้งผู้ให้กำเนิดข้าวขาหมูสูตรพิสดารผสมโอวัลตินและเป็นเจ้าของร้านรุ่นแรกและรุ่นเดียวในตอนนี้ แกว่าเปิดร้านขายข้าวขาหมูมาประมาณ 50 กว่าปีแล้ว ด้วยความที่เป็นคนมีฝีมือและรักในการทำอาหารมาแต่เล็กแต่น้อย โดยอาศัยเรียนรู้เอาจากพวกผู้ใหญ่

จนวันหนึ่งเมื่อถึงคราวที่คิดจะทำมาค้าขาย จึงได้เลือกเอาเมนูที่โปรดปรานของตัวเองมาเปิดเป็นร้านข้าวขาหมูเล็กๆ ขึ้นที่บริเวณแถวสามเหลี่ยมดินแดงแห่งนี้ แต่ด้วยความที่เฮียฮงแกไม่ได้แค่ชอบทำกับข้าวอย่างเดียว แต่ยังเป็นนักทดลองด้วย ครั้นจะทำข้าวขาหมูขายธรรมดาก็ดูจะเหมือนๆ กับร้านอื่นๆ จึงได้มีการทดลองคิดค้นข้าวขาหมูสูตรใหม่ๆ ขึ้นมา ด้วยการผสมเอาวัตถุดิบนานาชนิดลงไปในน้ำพะโล้ จนในท้ายที่สุดก็ลงตัวที่การใช้ส่วนผสมที่ใครก็นึกไม่ถึงว่ามันจะเข้ากันได้อย่างผงโอวัลตินเพิ่มเข้าเป็นส่วนประกอบหนึ่งในกระบวนการต้มน้ำพะโล้

สำหรับวิธีการทำข้าวขาหมู เริ่มจากการเตรียมในส่วนของขาหมูก่อน หากเป็นขาหมูส่วนหน้า จะเป็นขาหมูที่มีส่วนของเนื้อหมูที่เยอะกว่าส่วนมันหมู ส่วนขาหลังจะเป็นส่วนขาหมูที่ติดมันมากกว่า นำมาเผาย่างไฟเพื่อกำจัดส่วนขนออก เมื่อกำจัดขนออกไปเรียบร้อยแล้วจึงตัดส่วนเกินที่ไหม้เกรียมออกไป

ต่อมาในส่วนของน้ำพะโล้สำหรับต้มขาหมู ก็ใช้เครื่องพะโล้ทั่วไปอย่าง อบเชย โป้ยกั๊ก ผสมกับรากผักชี กระเทียม พริกไทย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล และอื่นๆ และเคล็ดลับสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือการเติมผงโอวัลตินเพิ่มลงไปเป็นอีกส่วนประกอบหนึ่ง และเจ้าผงโอวัลตินนี้เองจะช่วยเพิ่มความหวานและมันให้กับน้ำพะโล้ได้อย่างคาดไม่ถึง

...



...

ใครที่เคยเห็นว่าข้าวขาหมูร้านอื่นก็มีการใส่ผงไมโลโอวัลตินหรือผงโกโก้คล้ายๆ แบบนี้ ก็ขอบอกเลยว่าต้นตำรับสูตรแปลกๆ นี้มาจากที่ร้านนี้นี่เอง หลังผสมส่วนผสมทุกอย่างเรียบร้อยก็ให้ต้มต่อไปเรื่อยๆ โดยใช้ไฟอ่อนอีกหลายชั่วโมง จนได้เนื้อขาหมูที่เปื่อยนุ่มน่าทานและรสชาติหวานมันไปถึงเนื้อใน

...



...

ทีเด็ดอีกอย่างที่คาดไม่ถึงคือข้าวที่เอามากินกับขาหมู เฮียฮงแกจะเอาข้าวเปล่ามาหุงกับเผือกที่หั่นเป็นท่อนๆ ซึ่งเป็นข้าวที่หุงในแบบที่ชาวจีนเชื้อสายแต้จิ๋วนิยมทำทานกันในสมัยก่อน แต่สมัยนี้แทบจะหาไม่ได้แล้ว ถ้าอยากจะลองชิมก็ต้องมาที่นี่เท่านั้น

ใครที่เป็นคอข้าวขาหมูจะรู้ดีว่าส่วนที่เป็นไฮไลท์ที่สุด คือส่วนที่เรียกว่าคากิ (ส่วนขาท่อนล่างจนถึงส่วนเท้าของขาหมู) ที่เน้นส่วนเนื้อหนังนุ่มๆ ติดมันกำลังดี พอมาเจอเข้ากับน้ำพะโล้ผสมโอวัลตินที่ตุ๋นนานจนเปื่อยได้ที่ ส่วนหนังติดมันที่ว่านี้ก็ยิ่งนุ่มจนแทบไม่ต้องเคี้ยว กลายเป็นขาหมูโอวัลตินที่รสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร เพราะมันทั้งหวานมันกลมกล่อมกำลังดีทีเดียว เสิร์ฟมาคู่กันกับผักคะน้าและผักดอง

สำหรับใครที่กลัวว่าขาหมูพะโล้จะเลี่ยน ลองกินกับเครื่องเคียงที่วางตั้งไว้ให้พร้อมสรรพทุกโต๊ะอย่างพริกขี้หนูสดและกระเทียม ก็ช่วยตัดความเลี่ยนไปได้เยอะทีเดียว

หรือถ้าอยากจะคล่องคอกว่านี้ ก็ขอแนะนำให้สั่งน้ำแกงจืดมากินคู่กัน เพราะที่ร้านนี้มีแกงจืดที่ให้เลือกทานถึง 4 แบบ ทั้งแกงจืดมะระ แกงจืดใส่เห็ดหูหนู แกงจืดสาหร่ายใส่หมูสับ และแกงจืดเต้าหู้หมูสับ ขายไม่แพงแค่ชามละ 20 บาท รับรองว่าเข้ากันมากๆ กับขาหมูมันๆ

...



...

อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ สมกับที่เกจิข้าวขาหมูที่เป็นเพื่อนสาวตัวใหญ่ใจดีของกระผมการันตีมา

แต่น่าเสียดายที่หลังจากแนะนำร้านข้าวขาหมูให้ผมแล้ว เธอก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่และมีสีหน้าที่เศร้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด

ผมลองถามเธอว่าเป็นอะไร เธอว่าเมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งจะตัดสินใจวางมือจากวงการข้าวขาหมู ตอนแรกผมก็นึกว่าจะเป็นเพราะปัญหาเรื่องของสุขภาพ สงสัยความดันจะขึ้นเกินพิกัดหรืออย่างไร ทำให้ถึงกับต้องเลิกกินของโปรดไป

เธอบอกไม่ใช่

แต่ที่จำใจเลิกเป็นเพราะกระแสเกาหลี !

...

ช่วงนี้กระแสเกาหลีกำลังฟีเวอร์ในเมืองไทย ทั้งบิลบอร์ดน้อยใหญ่ก็มีแต่หน้าดาราเกาหลี เปิดทีวีก็เจอซีรีย์เกาหลีตั้งแต่เช้ายันเช้าอีกวัน ยิ่งเพลงเกาหลียิ่งไม่ต้องพูดถึง ดังขนาดเดินไปทางไหนเป็นต้องมีเพลงเกาหลีมาให้ได้ยิน ทั้งเพลงที่เปิดจากห้างร้าน ผับบาร์ โดยเฉพาะเสียงโทรศัพท์มือถือหรือเสียงรอสายนี้ต้องมีมาเข้าหูคุณบ้างแน่ๆ

และเพื่อนหญิงของผมคนนี้ ที่รักการกินข้าวขาหมูเป็นชีวิตจิตใจ ก็ยังมีโอกาสได้เกาะกระแสเกาหลีกับเค้าด้วยเหมือนกัน ด้วยการมีชื่อเกาหลีเป็นของตัวเองไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ เธอว่าเป็นชื่อที่บรรดาพี่น้องที่ทำงานพร้อมใจกันแต่งตั้งให้

พอได้ยินชื่อเท่านั้น ผมก็หลุดขำออกมา และเข้าใจทันทีเลยว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจคิดจะหย่าขาดกับข้าวขาหมูสุดที่รักเป็นการถาวร

...

“เล่นมาเรียกกันแบบนี้ เอามีดมาแทงพุงให้ตายไปเลยยังจะดีซะกว่า !”

(เธอว่าอย่างนั้น)

...

โถ...ช่างน่าสงสารเหลือเกิน แม่สาวเกาหลี

พุง นำ นม !

...

ข้อมูลร้าน

ร้านดินแดงข้าวขาหมู / วันหยุด ไม่มี / เวลา 08.00-13.00 น. / โทรศัพท์ 08-9506-6966 / ข้าวขาหมู ธรรมดา 30 / พิเศษ 40 / แยกสั่งขาหมูคากิเป็นจาน ใส่ทุกอย่าง (เนื้อ, หนัง, ไส้) 50 บาท / แกงจืด ชามละ 20 บาท



Create Date : 22 มีนาคม 2554
Last Update : 22 มีนาคม 2554 16:12:44 น. 7 comments
Counter : 1004 Pageviews.

 
ทรมานกันตอนบ่ายๆ น่ากินมากค่ะ


โดย: กินแกลบยังแพงไป IP: 172.168.1.180, 180.183.150.165 วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:15:22:16 น.  

 
สวัสดี แวะมาทักทายครับ


วิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามินวิตามิน


โดย: MaFiaVza วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:15:56:15 น.  

 
ขอแผนที่ค่ะ


โดย: Vema IP: 115.87.19.98 วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:21:08:40 น.  

 
คนชอบข้าวขาหมูมารายงานตัวค่ะ
ขอพิเศษเนื้อหนังคาจัก ข้าวสอง
ส่วนตัวชอบคาจักมากกว่าคากิค่ะ มันเป็นเอ็นหยุ่นๆอร่อยนุ่มลิ้นดี


โดย: Tick Juntavaro วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:3:22:21 น.  

 
อเนสนุกมากคับ รายละเอียดดีแต่ขาดแผนที่การเดินทางนิดนึงคับ ขอบคุณคับ


โดย: phachara IP: 124.120.173.242 วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:4:33:07 น.  

 
ตอบคอมเม้นท์

คุณ กินแกลบยังแพงไป
ตอนเราโพสข้อความนี้ ก็ทรมานตัวเองเหมือนกัน
อยากกินอีก ^^!

คุณ MaFiaVza
ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทาย

คุณ Vema
ขอโทษทีเรื่องแผนที่ เราไม่มีแผนที่อ่ะ เลยไม่ได้ลงไว้ให้เลย แต่เรามีเบอร์โทรนะ แทนกันได้หรือเปล่านี่

คุณ Tick Juntavaro
วันไหนไปกินข้าวขาหมูอีก มารายงานตัวบอกด้วยนะ จะได้ฝากซื้อคาจักสักสองสามถุง กำลังหิวเลย

คุณ phachara
ขอโทษคุณ phachara ด้วย เรื่องแฟนที่ เราไม่มีจริงๆ อย่างที่บอก มีแต่เบอร์โทร อย่าว่ากันน้า


โดย: standupplease วันที่: 21 เมษายน 2554 เวลา:14:16:32 น.  

 
น่าไปลองค่า


โดย: สมาชิกหมายเลข 3450494 วันที่: 14 มกราคม 2564 เวลา:12:11:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

standupplease
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีที่ได้รู้จัก ตามสบายนะ ขอโทษที ห้องรกไปหน่อย เชิญนั่งก่อนดีกว่า หิวมั้ย กินอะไรมารึยัง
New Comments
Friends' blogs
[Add standupplease's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.