STAND UP PLEASE ! ลำแข้งเค้ามีไว้ให้ยืน !
Group Blog
 
All blogs
 
ขนมจีน (บทเรียนราคาแพงของนักเดินทางราคาถูก) บทเรียนที่ 22 : No Lonely Planet

สถานที่ เมืองโมหาน ประเทศจีน

...

หลังเดินออกจากตม.มา มีผู้หญิง 4-5 คนเดินตรงเข้ามาหาเราทันที

“เชจิ้น มานี่ เชจิ้น มานี่”

ตอนแรกก็นึกว่าพวกเธอพูดไทย อยู่ๆ ก็ “มานี่ๆ” จะเรียกไปไหนเหรอ

แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่

พอได้เห็นว่าพวกเธอถืออะไรมาด้วย จึงพอจะเดาได้ว่าจุดประสงค์ของพวก
เธอคืออะไร

สิ่งที่พวกเธอกำอยู่ในมือ ก็คือธนบัตรจีนปึกหนาๆ หลายปึก

พวกเธอคงอยากจะถามเราว่าอยากแลกเงินหยวนไว้ใช้หรือเปล่า

Changing Money ?

ใช่สินะ นี่เป็นสิ่งแรกเลยที่เราต้องทำเมื่อมาถึงที่นี่ เราใช้เงินบาทที่นี่ไม่ได้
อยู่แล้ว

แต่การมาแบบเข้าถึงตัวนักท่องเที่ยว เพื่อชวนทำธุระกรรมการเงินแบบนี้ เรา
รู้สึกว่าไม่ค่อยน่าไว้วางใจเท่าไร
ที่สำคัญคือ เรายังไม่รู้เลยว่าอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนตอนนี้อยู่ที่เท่าไร

จำนวนตัวเลขที่บอกมา จะเชื่อถือได้หรือเปล่านะ

เป็นไปได้ เราก็อยากแลกที่ธนาคารมากกว่า

ใช่ เราเชื่อใจธนาคารมากกว่า

คิดได้ดังนั้น จึงปฏิเสธพวกเธอไป

...

แม้จะเป็นเมืองชายแดนเหมือนกัน แต่บรรยากาศแถวนี้ ก็แตกต่างอย่างสิ้น
เชิงกับบรรยากาศในเมืองชายแดนของลาว

พื้นถนนลาดยาง มีต้นไม้ปลูกเป็นแนวยาวอยู่ที่เกาะกลางถนน สองฝั่งถนน
เป็นอาคารตึกแถว มีร้านขายของฝาก ร้านอาหาร ร้านขายของชำ ร้านเสื้อ
ผ้า รวมไปถึงบริษัททัวร์ที่มีอยู่เยอะแยะมากมายในแถบนี้

แต่ที่ยังไม่เห็นเลยคือธนาคาร

…



...

ธนาคารอยู่ไหนไม่รู้ ระหว่างทางเราเลยลองถามคนที่เดินผ่านไปผ่านมาดู

ไม่มีใครพูดอังกฤษได้เลย

มาเจอเอาสาวจีนคนหนึ่ง เธอกำลังกินข้าวอยู่ที่หน้าร้านขายของชำ

ลองถามเธอว่าธนาคารอยู่ที่ไหน แน่นอนเป็นภาษาอังกฤษ

ถึงเธอจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ยังดีที่พอเข้าใจได้บางคำ

อย่างน้อยเธอก็ฟังคำว่า “Bank” เข้าใจ

เธอบอกให้เดินตรงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอ

ยังไม่ทันขอบคุณ เธอก็ถามต่อ

“เชจิ้น มานี่ ?”

เราพยักหน้ารับ

“ตอนนี้ธนาคารปิดนะ ถ้าอยากแลกเงิน แลกที่นี่ก็ได้”

อันนี้เธอไม่ได้พูด แต่พยายามทำไม้ทำมือให้เรารู้ ประมาณว่าแลกที่ร้านชำ
ของเธอก็ได้

เราลังเลเล็กน้อยยังไม่ทันตอบอะไร เธอก็พยายามจะสื่อสารต่อ

“จะเดินไปดูก่อนก็ได้นะ”

“งั้นขอเราเดินไปดูก่อนนะ ขอบคุณมาก”

สำหรับเรื่องเงินๆ ทองๆ จะบอกว่าเราไม่ไว้ใจใครนอกจากธนาคารก็คงได้

...

เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอธนาคารอย่างที่เธอบอก

แต่เข้าไปไม่ได้

เราพยายามจะมองเข้าไปข้างในธนาคาร แต่เจ้าหน้าที่ข้างในโบกไม้โบกมือ
ว่าเข้าไม่ได้ พลางทำท่าทางบอกให้เราดูเวลา

ตอนนี้ประมาณเที่ยงเศษๆ คงจะเป็นช่วงพักเบรกหรือเปล่า

แล้วจะเปิดอีกทีกี่โมงนะ เราลองดูเวลาที่บอกไว้หน้าธนาคาร

ช่วงเช้า 8.30-11.30 น. ช่วงบ่าย 15.00-17.30 น.

เฮ้ย ! บ่าย 3

กว่าจะเปิดอีกที บ่าย 3 เลยเนี่ยนะ

พนักงานธนาคารที่นี่ มีเวลาพักเที่ยงนานขนาดนี้เลยเหรอ

น่าอิจฉาพนักงานธนาคารที่นี่ หลับได้หลายงีบเลยนะนั่น

แต่เราคงรอนานขนาดนั้นไม่ได้

...



(เปิดปิดเวลาเดียวกันเลย จะเขียนทำไมตั้งสองครั้งครับพี่)

...

สุดท้ายก็เลยกลับไปที่ร้านขายของชำของเธอคนนั้น

เธอเห็นเราเดินมาแล้วก็ยิ้มรับมาแต่ไกลเชียว

“1 หยวน 5 บาท ตกลงไหม”

1 หยวน 5 บาท เป็นอัตราแลกเงินหยวนเป็นเงินบาทแบบตัวเลขกลมๆ อย่าง
ที่หลายคนรู้ ซึ่งเราจำอัตรานี้ได้เมื่อนานมาแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังเป็นค่าเงินเท่านี้
อยู่ใช่ไหม น่าจะใช่มั้ง แต่ถึงไม่ใช่เราก็ไม่รู้อยู่ดี เพราะความขี้เกียจที่ไม่
ยอมเช็คอัตราคร่าวๆ มาก่อน

คนแบบนี้ถ้าโดนหลอกก็คงไม่มีใครสงสารแน่ๆ

...

แต่ค่าเงินที่สาวจีนคนนี้ให้มาก็เยอะที่สุดในบรรดาคนที่ให้ๆ อยู่ในแถบนี้แล้ว
ที่รู้เพราะตอนเดินหาธนาคาร เราได้แอบถามๆ มาตลอดทางตามร้านต่างๆ
แล้ว กับกลุ่มสาวๆ ที่เดินแลกเงินกับนักท่องเที่ยวเราก็ถามๆ ตัวเลขเก็บไว้
ก่อนหน้านี้แล้วด้วยเหมือนกัน

“ตกลงก็ได้”

“อยากแลกเท่าไรดี”

“งั้น 3,000 บาท แล้วกัน”

“600 หยวน โอเคไหม”

ยังไงก็ต้องโอเคอยู่แล้ว เพราะตอนนี้เราไม่มีเงินหยวนติดตัวอยู่เลย

...

บ่ายโมงกว่าแล้ว หิวข้าวก็หิว แต่ยังไงหาตั๋วรถให้ได้ก่อนน่าจะดีกว่า

คืนนี้เราไม่ได้กะจะพักที่นี่ เราตั้งใจว่าจะนั่งรถเข้าจิ่งหงเลย

ตอนอยู่ในลาวไม่จำเป็นต้องพึ่งพา “โลกโดดเดี่ยว”

เพราะคนลาวพูดไทยได้ สำหรับคนไทย อะไรก็ง่ายๆ แค่ถามเอา

แต่ตอนนี้ ได้เวลาที่เราจะขอความช่วยเหลือจาก “โลกโดดเดี่ยว” แล้ว

คนแถวนี้ไม่พูดไทย แถมพูดอังกฤษก็ไม่ได้ด้วย

“โลกโดดเดี่ยว” ช่วยที

ตอนนี้เราอยากรู้ว่าสถานีรถบัสอยู่ตรงไหนเอ่ย

...

เราควานมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายใบเล็ก เพื่อตามหา “โลกโดดเดี่ยว” ใบ
นั้น

ปรากฏว่าไม่มี

หรือเราจะใส่มันไว้ในกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่สะพายหลังอยู่ ไหนดูสิ

ปรากฏว่าไม่มีอีก

เฮ้ย ไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็เรายัดมันใส่ไว้ในกระเป๋าเป้แล้วนี่ ไหนลองดูดีๆ สิ

คราวนี้ เราถึงกับเอาเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมากองข้างนอกแทบทั้งหมดเลย

แต่ผลลัพธ์ยังคงเหมือนเดิม

ไม่มี

ตอนแรกเราคิด หรือมันจะถูกขโมยไปตอนไหน

แต่คิดอีกที ใครมันจะบ้าขโมยหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนาขนาดนี้ ไม่ว่าจะ
คนจีนหรือคนลาว เค้าจะอยากได้ไปทำมะเขืออะไร

ก็แล้วมันหายไปไหน

ลองคิดดูอีกที ครั้งสุดท้ายที่อ่าน (จริงๆ ต้องบอกครั้งแรกที่ได้เปิดอ่าน) เป็น
ตอนที่เรานั่งอยู่บนรถบัสก่อนจะมาที่นี่

ตอนนั้นเหมือนจะหยิบออกมาอ่านบนรถ แต่ยังไม่ทันอ่านดี ลมก็ตีหน้ามา
พร้อมๆ กับเพลง ลั้น ลั้น ลา ก่อนตาย

แล้วเราก็หลับไป ตื่นมาอีกที ก็ตอนที่รถจอดหน้าตม.ลาว

ใช่แล้ว ตอนนั้นแน่ๆ

“โลกโดดเดี่ยว” ยังไม่ลงจากรถ

...

“โลกโดดเดี่ยว” ที่เราตั้งใจจะฝากผีฝากไข้

ฝากทั้งชีวิตไว้กับพี่เค้า

ตอนนี้ “โลกโดดเดี่ยว” ไม่อยู่แล้ว

เหลือแต่เรา

ที่จะต้องโดดเดี่ยว

...

ขนมจีนไร้น้ำยา

ขนมจีนจานนี้ ไร้ทั้งน้ำยา กระบวนท่า และไกด์บุ๊ค อาศัยว่าหน้ามึนไม่เป็น
รองผู้ได๋ จึงตัดสินใจเดินเดี่ยวข้ามน้ำ แต่ไม่ข้ามทะเล (แค่เฉียดๆ)
จากกรุงเทพฯ ถึงกรุงต่างประเทศ เริ่มต้นที่เชียงของ ล่องผ่านลาว เข้าสู่ไช
น่า ถลาไปเวียดนาม ข้ามกลับมาลาวอีกที ก่อนที่จะกลับเข้าสู่สยามประเทศ
อีกครั้งทางจังหวัดมุกดาหาร

บทบันทึกการเดินเที่ยวเล่น เป็นเวลาเกือบๆ หนึ่งเดือน บนเส้นทางโหลๆ ที่
ใครเค้าก็ไปกันมาแล้วทั้งนั้น ด้วยเงินประมาณ 20,000 บาท กับบทเรียน
ราคาแพงของนักเดินทางราคาถูก ที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง

ข้อควรระวัง
คำภาษาต่างประเทศทุกคำที่ปรากฏอยู่ในเนื้อเรื่อง อาจคลาดเคลื่อนไปจาก
ความเป็นจริงบ้าง ขอได้โปรดเข้าใจ เนื่องจากคนเขียนพูดลาวไม่ได้ พูดจีน
ไม่ได้ พูดเวียดนามก็ไม่ได้อีก แถมภาษาอังกฤษยังห่วยใช้ได้ ฉะนั้น ขอ
อย่าได้ถือสาหาความกันเลย และหากใครที่อ่านพบข้อผิดพลาดตรงไหน
โปรดบอกให้รู้ด้วย เพราะเราเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน จะได้ไม่เข้าใจอะไร
ผิดไป และจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง

และหากมีบางช่วงบางตอน ที่อ่านแล้วอาจจะไม่ถูกใจท่านบ้างก็เป็นเรื่อง
ธรรมดา เพราะเรื่องราวทั้งหมด เขียนขึ้นจากความคิดอ่านและประสบการณ์
ตรงของตัวผู้เขียนเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ตกลงตามนี้นะ



Create Date : 07 พฤษภาคม 2555
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2557 14:25:56 น. 2 comments
Counter : 768 Pageviews.

 
สนุกดีค่ะ มีสาระ ได้รสชาติเลยค่ะ
มีโอกาสก็อยากลุยกะเพื่อนสนิท ไม่กล้าลุยเดี่ยวแบบนี้
ใจไม่กล้าพอค่ะ
จะทยอยอ่านย้อนหลังนะคะ


โดย: kimmy (kimmybangkok ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2555 เวลา:10:45:50 น.  

 
หวังว่าตอนต่อไป โตเกียวคงจะไม่โดดเดี่ยวนะ
น่าฉงฉานนนอ่า เป็นเค้าคงหน้าซีดเป็นไก่ต้มแน่ๆ อ่า


โดย: joyful IP: 183.89.113.39 วันที่: 17 พฤษภาคม 2555 เวลา:12:40:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

standupplease
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีที่ได้รู้จัก ตามสบายนะ ขอโทษที ห้องรกไปหน่อย เชิญนั่งก่อนดีกว่า หิวมั้ย กินอะไรมารึยัง
New Comments
Friends' blogs
[Add standupplease's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.