Welcome to the deep blue sea : Can you imagine How cool get if you breath underwater?
|
|
อยากเรียนดำน้ำเรียนของสถาบันไหนดี
อยากเรียนดำน้ำเรียนที่ไหนดี ??? เป็นอีกคำถามที่เจอบ่อยมาก จากคนที่รู้จักรอบตัวของผม ผมก็เลยคิดว่าเขียนบทความสำหรับ คนที่สนใจอยากจะดำน้ำ จะได้รู้ว่าจะต้องทำยังไง หรือ ต้องหาข้อมูลอะไรบ้าง ก่อนที่จะจ่ายเงินเลือกเรียนดำน้ำกับที่ไหนซักที่นึง ขั้นแรกเลือกสถาบันที่อยากจะเรียนก่อน ปัจจุบันในบ้านเรา มีสถาบันสอนดำน้ำเข้ามาทำการตลาด มากมายหลากหลายเจ้า หลากหลายยี่ห้อ ที่คุ้นหู คุ้นตา ก็คงหนีไม่พ้น PADI สถาบันสอนดำน้ำที่เป็นที่นิยมสูงสุด และ รู้จักในบ้านเรามายาวนาน ในบ้านเรา นอกจากนี้ก็ยังมี NAUI, CMAS, SDI, BSAC เป็นต้น ที่เข้าทำตลาดในบ้านเรา แน่นอนแต่ละสถาบันก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือ พัฒนาหลักสูตรการสอนให้นักเรียนที่จบ สามารถดำน้ำได้อย่างปลอดภัย Skills ต่างๆก็ไม่ได้ต่างกัน อาจจะแตกต่างในขั้นตอนเล็กๆน้อยเท่านั้น แต่สิ่งที่แตกต่างที่เห็นได้ชัดและเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ คือ ราคาค่าสอน ในบรรดาที่ว่ามาทั้งหมด PADI ค่าออกบัตรแพงที่สุดเลย จากข้อมูลที่ผมรู้ (ผิดพลาดก็ขออภัย) ทำให้ PADI ค่าเรียนในหลักสูตรของ PADI สูงกว่าสถาบันอื่น แต่ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินในเลือกสถาบันเรียน ผมก็ขอแนะนำ PADI ที่แนะนำ ไม่ใช่ว่าผมเป็น Instructor ของ PADI เท่านั้น แต่ PADI มีข้อดีหลากหลายอย่างที่ผมคิดว่าดีกว่าสถาบันอื่น เช่น
นอกจากนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่ PADI เตรียมไว้รองรับ หลักจากนั้น ลองเข้า Google Search หา ร้านดำน้ำที่สอนสถาบันนั้นเลยครับ ส่วนจะที่ไหนก็แล้วแต่ละท่านเลยครับ ว่าสะดวกยังไง แต่ผมคงแนะนำ Zcuba Zap ของผมแน่นอน อิอิ สนใจลองโทรมาคุยกันได้นะครับ ร้านนี้เน้น ความสะดวกของนักเรียนมาก่อน เรียนได้ทุกวัน ออกทะเลได้ตลอดไม่ต้องรอกันนะ ครูไก่ //www.zcubazap.com Performance Based ในหลักสูตร PADI สำคัญยังไง ????
คำถามต้นๆที่ส่วนใหญ่ผมจะได้รับคำถามเวลามี คนมาถามเวลาสนใจที่จะดำน้ำ แบบ Scuba “ใช้เวลาเรียนกี่วัน” ผมมักจะให้คำตอบกลับไปว่า ไม่แน่นอนเพราะ PADI เป็นการสอนแบบ Performance Based ไม่ใช่ Time Based แล้ว Performance Based มันเป็นยังไงนะเหรอ ???? ความหมายก็ตรงตามที่ชื่ออยู่แล้วคือ เป็นการเรียนการสอนดำน้ำ โดยใช้หลักการประเมินจากความสามารถของตัวนักเรียน ดังนั้นแต่ละคนอาจจะใช้เวลาเรียนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับทักษะการเรียนรู้ของแต่ละคนจะเรียนรู้ได้เร็วแต่ไหน เนื่องจากทักษะการดำน้ำเป็นทักษะ ประเภทที่เรียกกันว่า Motor Skill ที่ต้องอาศัยความชำนาญ การได้ลงมือปฏิบัติเพื่อสร้างคุ้นเคย ไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยเพียงการดู หรือ การฟังเพียงอย่างเดียว ดังนั้น นักเรียนของ PADI จะได้ต้องได้รับการฝึกฝนจนสามารถปฏิบัติทักษะต่างได้บรรลุตามเป้าหมาย (Objective) ของ Skill นั้นๆ ตัวอย่างการสอนแบบ Performance Based สำหรับ Skill การขออากาศสำรอง หรือ Alternated Air Source มี Performance Requirement ดังนี้ Breathe from an alternate air source supplied by another diver for at least 30 seconds. ฟังดูเหมือนยากแต่จริงๆแล้วทักษะในการดำน้ำต่าง ไม่ได้ยากเลย เพียงแต่เรามีสติ ใจเย็นๆ ค่อยๆทำ รับรองทำได้ทุกคนแน่นอน South Andaman with Chontara Beach Liveaboard Yacht
เมื่อช่วงวันปิยะ ได้มีโอกาสไปลองใช้เรือชลธารา ในฐานะ Instructor ของ Loma Diving เรือชลธาราเป็นเรือใหม่แกะกล่องกันเลยทีเดียว
จริงๆทริปนี้เป็นทริปนี้เป็นทริปที่ 2 ของเรือลำนี้ (ทริปแรกไปโลซิน) แต่ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยจุดหมายปลายทางของทริปนี้ คือ อันดามันใต้ มาดู Spec ของเรือกันก่อนดีกว่า Vessel Name : CHOTARA BEACH License Number : 5440-12222 – Thai Flag Vessel Owner : C.T.R.TRANSPORT & DIVING CO., LTD. Year Built : 2010 Hull : Custom Built Hard Wood Mono Hull Length : 23.85 M. Beam : 6.70 M. Draft : 2.50 M. GRT/NRT : 82.54 Tons Engines : 1 x 500 HP. COMIN KTA19M Inboard Diesel Max, Speed : 15 Knots Cruising Speed : 11 Knots Range : 1900 N/Miles Fuel : 7000 Lt. Water : 12000 Lt. Water Maker : 4000 Lt. capacity / day Generators : 2 x 65 Kw., 1 x 30 Kw. Electricities : 12 V., 24 V., 220 V., 320 V. Air Compressors : 2 x Bauer Diving Tanks : 30 x 80 Cu.Ft. Tanks Dinghy / Tender : 1 x 4.5 M./40 HP. Outboard จาก Spec เรือค่อนข้างใหญ่และกว้างครับ สามารถเดินได้รอบเรือทั้ง Main Deck และ Upper Deck ไม่ค่อยโคลงเคลง คนที่เมาเรือง่ายน่าจะชอบ และที่สำคัญมีเครื่องทำน้ำจืดอีกด้วยทำให้มีน้ำจืดใช้ กันอย่างไม่ขัดสนเท่าไหร่ เรือชลธารา มีเอกลักษณ์ประจำเรือคือรูปปั้นนกอินทรีย์ บยดาดฟ้าเรือ ทำให้เวลาขึ้นจากน้ำมองหาเรือได้ง่ายมากถึงแม้วันนั้นเรือจะเยอะก็ตาม มาดูห้องนอนกันก่อน ห้องนอนจะเป็นเตียง 2ชั้น ซ้ายขวา ทำให้นอนได้สูงสุดห้องละ 4 คน ทำให้เรือลำนี้สามารถรองรับนักดำน้ำได้ 30 คนสบายๆ แต่ถ้ามากัน 20 คนเหมือนปกติทั่วไป นอนห้องละ 2 คน ชั้นบนเอาไว้เก็บของ สัมภาระ ได้สบายๆ ที่ชอบมากสำหรับห้องนอน คือ แต่ละเตียงจะมีไฟดวงเล็กเอาไว้ อ่านหนังสือ หรือ นั่งทำอะไรระหว่างเพื่อนร่วมห้องกำลังนอน โดยไม่รบกวนกัน ในห้องกัปตันเรือมีระบบนำร่อง ช่วยในการเดินเรือมากมาย โซนกินข้าว จะคล้ายกับเรืออื่นๆ มีเครื่องทำน้ำแข็งด้วย ตู้แช่พร้อม ส่วนเบียร์หามาเองนะครับ บริการขนมเครื่องดื่มพร้อม กว้างขวางใช้ในการ Briefing ได้สบายๆ โดยรวมแล้วเรื่อง ชลธารา เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมลำนึง ความสะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม เป็นตัวเลือกที่ดีอีกลำนึงเลยทีเดียว Go Pro with PADI : How to be a PADI Scuba Instructor
สวัสดีครับ เป็นครั้งแรกที่ผมเข้ามาจับ Keyboard เขียน BLOG ให้ได้อ่านกันครับ
เนื่องจาก ตอนนี้กำลังเรียน IDC หรือ Instructor Development Course ของ PADI เพื่อที่จะเป็นครูสอนดำน้ำของ PADI ก็เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ ให้กับเพื่อนๆ เผื่อใครที่อยากจะเป็นครูสอนดำน้ำอย่างผม จะได้มีแนวทางว่าจะต้องทำยังไงบ้างนะครับ ก่อนที่จะเป็นครูสอนดำน้ำต้องทำอะไรบ้าง ??? ก่อนที่จะมาเข้ามาเรียน IDC จะต้องผ่านการ Certified ในหลักสูตรของ PADI Dive master เสียก่อนครับ หรือ เทียบเท่าจากสถาบันอื่น (แต่เทียบเคียงยังไงคงต้องปรึกษา PADI Course Director ที่สอนอีกทีนะครับ) ถ้าไม่อย่างนั้น ก็ต้องเรียนหลักสูตร DM ซึ่งเดี๋ยวผมจะเขียน รายละเอียดกับประสบการณ์ในการเรียน DM ในโอกาสถัดไปนะครับ เรียนกับใคร เรียนกับใครที่ไหนดีละ ??? การจะเรียน Instructor แตกต่างกับการเรียนดำน้ำทั่วๆไปนะครับ เพราะเนื่องจากคนที่จะสอนในหลักสูตร IDC ได้ จะต้องเป็น Course Director (CD) เท่านั้นครับ ซึ่งบ้านเราก็มีอยู่หลายคน แต่ที่เป็นคนไทยมีอยู่หลายคน เท่าที่ผมรู้ก็มี ครูหลุยส์, ครูศรัญย์, ครูต้อม แล้วก็ครูแสนยา (ใครที่ผมไม่ได้เอ่ยชื่อต้องขออภัยด้วยนะครับ) ก็อยากเรียนกับใครก็ลองชั่งใจดูแล้วกันครับ ซึ่งครูแต่ละท่านก็จะสอนประจำ สถานที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะกรุงเทพ พัทยา เกาะเต่า ภูเก็ต คงต้องสอบถามรายละเอียดกันเอง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเรียน ค่าหนังสือ อุปกรณ์ต่างๆ แล้วลองชั่งใจดูว่าสะดวกจะเรียนกับใครนะครับ แล้วใช้เวลานานเท่าไหร่ในการเรียนละ ??? อันนี้แล้วการวางแผนของแต่ละคนครับ โดยดูจากปัจจัยดังนี้ครับ 1. ตารางสอบ IE (Instructor Examination) ของ PADI ซึ่งปกติจะมีจัดสอบเดือนละครั้งที่ พัทยา เกาะเต่า แล้วก็ ภูเก็ต ครับ ก็ลองเลือกดูครับว่าจะสอบช่วงไหน แล้วก็ปรึกษากับ CD ดูว่าจะสามารถเรียนแล้วสอบทัน ตารางที่เลือกได้ไหม 2. เวลาของตัวคุณ ก็จะโยงไปยังข้อแรก เพราะถ้ามีเวลาเรียนเต็มที่ทั้งวัน ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ก็น่าจะเรียนครบเนื้อหาทั้งหมดพร้อมที่จะสอบ อย่างผมมีเวลา หลังเลิกงาน กับ เสาร์อาทิตย์ก็วางแผนเผื่อไว้ประมาณ 2 เดือน ในการเรียน 3. ความสามารถพื้นฐานของคุณเองด้วยเพราะ การเรียนของ PADI ไม่ได้เป็น Time Base แต่เป็น Performance Base คือไม่มีเวลากำหนดตายตัว แต่จะจบก็ต่อเมื่อคุณสามารถผ่านได้ตามจุดประสงค์ (Objective) ต่างๆที่ PADI กำหนดไว้แล้วหรือยัง ทั้งหมดนี้เป็นส่วนแรก เดี๋ยว Blog ถัดจะพูดถึงเนื้อหาที่จะเจอใน IDC กันครับ Free TextEditor |
Group Blog All Blog Link |
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |