• ห้องฝากข้อความ (^_^)
• หนังที่เพิ่งดูจบไป
• "ตามแสงหิ่งห้อยไปโค่นต้นลำพู เที่ยวๆ"
• Science Fiction Writing Class
• อ่านอะไรอยู่
• หน้าแรก ^o^
• Science Fiction Daily Writing Tip
• ชีวิตสั้นครับ อย่ามัวแต่คิดมาก
• วันนี้มีอะไร?
• รีวิว สั้นๆ - หนัง
• รีวิว สั้นๆ - หนังสือ
• เทคนิคงานเขียน นิยาย เรื่องสั้น จาก เบน โบวา (Ben Bova)
• เทคนิคการเขียนนิยาย เรื่องสั้น (Writing Short Tips)
• นิยายไซไฟ
• มาชวนเขียนนิยายไซไฟใน 10 ขั้นตอน
• BootBot
• บ่นบ้าง เหงาบ้าง ไรบ้าง
• ฟิน & โลนลี่ at Minnesota

Day 6 : ถามคำถาม What...if? Day 6 : ถามคำถาม What...if? อะไรจะเกิดขึ้นถ้า หรือ what going on if this things happen... เป็นคีย์เวิร์ดที่สุดยอดมากๆสำหรับสร้างเรื่องเอาไว้เขียนเป็นนิยาย sci-fi อ่านอะไร หรือดูอะไรก็ตามให้ถามตัวเองบ่อยๆ ลับความคิด เช่น จะเกิดอะไรขึ้นถ้า คอมพิวเตอร์ทั่วโลกพร้อมใจกันหยุดทำงานในวันที่อุกาบาตกำลังจะพุ่งชนโลก จะเกิดอะไรขึ้นถ้า วิญญาณของมนุษย์ถูกแปลงให้เป็นสสารตามกฎทางวิทยาศาสตร์ บางทีคำถามอาจจะดูงี่เง่าหรือเพ้อฝันเกินไป แต่ถ้าเราได้ plot จากคำถามงี่เง่านั้นเราก็สามารถหา concept มาแปะผุ plot ที่ไม่สมบูรณ์นั้นได้ต่อไปครับ อย่าปล่อยให้อะไรก็ตามผ่านตาโดยไม่ถามคำถามเพื่อสร้างเรื่องอย่างเด็ดขาด!! Free TextEditor   Create Date : 28 ธันวาคม 2551     Last Update : 28 ธันวาคม 2551 18:33:02 น. Counter : 250 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Day 5 : หยิบ concept มาแปลงเรื่อง Day 5 : หยิบ concept มาแปลงเรื่อง จะเขียนอะไรดี? เลือกบทความสักชิ้นในหน้าหนังสือ หรือข่าวการค้นพบอะไรใหม่ๆ มาแปลงเป็นเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น เราอ่านเจอข่าว อินเดียส่งนักบินอวกาศขึ้นไปโครรอบโลก เราก็เอาข่าวมาใส่จินตนาการต่อ ให้นักบินไปเจอ UFO แล้วโดยที่ UFO ลำนั้นบินมาเฉียดยานอวกาศของนักบิน เขาได้ถ่ายรูปเอาไว้ได้ และจากนั้น บลาๆ หลังจากนั้นเราก็มาคิดว่าจะใส่ความรู้อะไรลงไปในเรื่องที่เขียนบ้าง จากเรื่องที่ยกตัวอย่างให้ฟัง เราจะต้องเขียน เรื่องวงโคจรของยานอวกาศ ลักษณะการบินของ UFO ชั้นบรรยากาศที่ยานบินขึ้นไปบิน ชุดนักบินเป็นยังไง กล้องถ่ายรูปที่ใช้ถ่ายจานบิน สิ่งเหล่านี้คือรายละเอียดที่เราต้องนำมาใส่เพื่อสนับสนุนเรื่องให้สมจริง ไม่ได้มีแต่ plot กับความเพ้อฝันหรือจินตนาการล้วนๆครับ google คือเครื่องมือที่ดีที่สุดครับ นึก key word อะไรได้ก็พิมพ์ลงไปเลย เท่านี้ก้ได้ข้อมูลมาช่วยเราในการเขียนเพียบเลยครับ จะหา concept จากที่ไหนบ้าง? จาก internet, สารคดีดิสคัพเวอรีใน UBC หน้าวิทยาการตามหนังสือพิมพ์, science of america, จากการคุยกับผู้รู้ และจากแหล่งอื่นๆอีกมากมาย Free TextEditor   Create Date : 28 ธันวาคม 2551     Last Update : 28 ธันวาคม 2551 8:55:52 น. Counter : 211 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Day 4 : อ่านนิยาย เรื่องสั้นวิทยาศาสตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ day 4 : อ่านนิยาย เรื่องสั้นวิทยาศาสตร์ ASIMOV แนะนำไว้ว่า อยากเป็นนักเขียนเรื่องแนววิทยาศาสตร์ก็ต้องอ่านเรื่องแนวนี้ให้เยอะๆครับ ตั้งเป้าไว้เลยว่าจะอ่านเรื่องสั้นวันละเรื่อง ปีหนึ่งก็ได้ตั้ง 365 เรื่อง วิธีอ่านก็แบ่งออกเป็นสองช่วง กรณีที่ไม่เคยอ่านเรื่องสั้นเรื่องนั้นมาก่อน รอบแรกอ่านเพื่อเอาสนุกอย่างเดียว ไม่ต้องสนใจเทคนิคการนำเสนอหรือไม่ต้องอ่านอย่างพิจารณา เพราะมิฉะนั้นมันจะพะวงและพาลจะอ่านไม่สนุกไปซะก่อน หลังจากนั้นพอจบรอบแรกให้อ่านอีกรอบ คราวนี้ให้ค่อยๆอ่าน ระหว่างที่อ่านก็ศึกษาวิธีการเขียน การนำแสดง การเปิดตัวละคร การแทรก concept/theory ทางวิทยาศาสตร์ลงไปในนิยาย การเขียนบทสนทนา ที่นักเขียนเขียนไปด้วย แต่กรณีที่เคยอ่านเรื่องนั้นมาก่อนซึ่งอาจจะนานมากแล้ว ให้ใช้วิธีอ่านแบบวิเคราะห์ได้เลยครับ อยากเป็นนักเขียนนิยาย เรื่องสั้นแนวไหนก็อ่านเรื่องสั้นหรือนิยายแนวนั้นให้มากๆครับ Free TextEditor   Create Date : 27 ธันวาคม 2551     Last Update : 28 ธันวาคม 2551 8:58:00 น. Counter : 524 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Day 3 : เขียนให้จบ! Day 3 : เขียนอะไรก็ตามให้เขียนให้จบ เทคนิคข้อนี้จริงๆแล้วสามารถใช้กับงานเขียนได้ทุกประเภท ไม่ใช่ได้เฉพาะนิยาย หรือเรื่องสั้นวิทยาศาสตร์เท่านั้น การที่เราเริ่มงานเขียนแล้วเขียนไม่จบ จะทำให้ความั่นใจของเราลดลง บ่อยครั้งถ้าเป็นกับเรื่องต่อมาบ่อยๆเข้า ความมั่นใจเราจะหายไปเกือบหมด และเราจะพาลเลิกเขียนไปเลย เพราะจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีฝังไว้ในใจแล้ว การเขียนให้จบนั้นทำให้เรามีความมั่นใจในการเขียนมากขึ้น มีผลกระทบทางด้านจิตวิทยาต่อการเขียน เรื่องต่อๆไปอย่างมาก แล้วถ้ากรณี จบไม่ลงล่ะ (อาจจะด้วยสาเหตุ plot ออกทะเล เบื่อเรื่อง หรืออยากเขียนเรื่องอื่นแล้ว) จะทำไง? มีผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ให้พยายามด้นให้จบ ถึงแม้ว่าจะจบแบบงี่เง่าหรือไม่เข้าท่าก็ตาม แต่จุดมุ่งหมายหลักคือการเล็งผลด้านการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับเราเมื่อเราพยายามเขียนให้จบ กฎข้อนี้ ถ้าจะพูดง่ายๆแบบทั่วๆไปคือ ทำอะไรก็ตาม ทำให้จบ ให้เสร็จ อย่าทำค้างๆคาๆไว้ไม่เสร็จ ไม่จบ ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องแต่งที่เราพยายามด้นจนจบ เราสามารถนำมาปรับปรุง แก้ไข ให้ดีขึ้นได้ในภายหน้า Free TextEditor   Create Date : 26 ธันวาคม 2551     Last Update : 26 ธันวาคม 2551 9:33:06 น. Counter : 177 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Day 2 : แนวเรื่องสั้น นิยาย วิทยาศาสตร์ Writing tip day 2 : แนวเรื่องสั้น นิยาย วิทยาศาสตร์ แนวเรื่องสั้นหรือนิยายวิทยาศาสตร์มีวนเวียนอยู่ไม่กี่แนวครับ การเดินทางข้ามเวลา หรือ time travel การเดินทางไปในอวกาศเพื่อค้นหาแหล่งที่อยู่ใหม่ของมนุษย์ มนุษย์ต่างดาวบุกโลก หรือสงครามระหว่างดาว หรือจักรวาลไกลโพ้น ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ เช่นด้านลบของ stem cells คอมพิวเตอร์ AI หุ่นยนต์ การสื่อสารที่ล้มเหลว ในโลก และระหว่างดวงดาว อยากเขียนแนวไหนก็ลุยได้เลยครับ Free TextEditor   Create Date : 25 ธันวาคม 2551     Last Update : 25 ธันวาคม 2551 13:08:01 น. Counter : 385 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• monata
• Ji-N-oK
• scimovie
• sirivinit
• komyooth
• elastigirl
• ++กะทิหวานน้ำตาลหอม++
• The Best of Me
• กากีแกมเขียว
• จัมมัย...
• alamemoiredelavie
• รันเซ่จัง
• pet.sp
• joy@putchanok
• 9george
• พรายชมพู
• skinhead
• sandseasun
• ในความอ่อนไหว
• fordear
• aiannahna
• ohrose
• run saya
• **mp5**
• nuyza_za
• กะว่าก๋า
• jackfruit_k
• ninggamto
• สมาชิกหมายเลข 755059
• Webmaster - BlogGang

• ไทยรัฐ
• มติชน
• บ๊อบ แอนด์ ร็อบ โชว์
• xda-developers
• popular science
• Pantip bloggang
• Torrent move ^_^
• ชมรมนิยายวิทยาศาสตร์ไทย
• เวปคุณวรากิจ เพชรน้ำเอก
• Supernova Blog Story - WORDPRESS
• 
• 
• 
• Supernova Blog ใหม่! ที่ Blogspot!
• BlogGang.com