"ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร" แฉ"แอลซี"ประวัติศาสตร์ กับเสียงเตือน"สักวันหนึ่งจะติดคุก"
หมายเหตุ - ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ติดตามตรวจสอบคดีการทุจริตโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงกรุงเทพ มหานคร มูลค่า 6,700 ล้านบาท มาตั้งแต่ปี 2547 เปิดเผยเบื้องหลังกับ "มติชน" ในการติดตามคดีนี้จนกระทั่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวม 7 คน หนึ่งในนั้นคือนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ตั้งแต่ผมเข้ามาจับคดีทุจริตรถ และเรือดับเพลิง มีคนถามมาตลอดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เล่นงานผมหรือเพราะคดีนี้มีผลกระทบกับ คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน
ขอชี้แจงว่า ผมกับคุณอภิรักษ์ เคยทำกิจกรรมร่วมกันมานานแล้ว เมื่อปี 2546 ช่วงที่คุณอภิรักษ์ยังเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท แกรมมี่ ส่วนผมเป็น ส.ส.มหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นกรรมาธิการตำรวจ เวลานั้นม็อบต่อต้านลิขสิทธิ์เพลงชุมนุมหน้าตึกแกรมมี่
คุณอภิรักษ์ติดต่อขอให้ทางคณะกรรมาธิการตำรวจช่วยเจรจากับม็อบ ผมเข้าไปไกล่เกลี่ยจนเหตุการณ์ยุติ คุณอภิรักษ์ขอบคุณและจัดเลี้ยงให้คณะกรรมาธิการ
ปีถัดมา คุณอภิรักษ์ลงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ผมมีส่วนในการระดมทุนหาเสียง เรื่องนี้คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็รู้เรื่องนี้ดี
ผมลำดับที่มาเพื่อให้เห็นว่าผมกับคุณอภิรักษ์มีความสัมพันธ์อันดีมาตลอด เราทำงานการเมืองร่วมกันไม่มีอะไรกันเลย ดังนั้น ใครที่มากล่าวหาว่าผมจ้องเล่นคุณอภิรักษ์นั้น ผมก็ขอความเป็นธรรมด้วย
และที่สำคัญคือผมติดตามตรวจสอบคดีทุจริตรถเรือดับเพลิง กทม. ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2547 ก่อนที่คุณอภิรักษ์เป็นผู้ว่าฯกทม.เสียด้วยซ้ำไป
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้าน หน้าที่ของเราคือตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เมื่อผมเห็นว่าเรื่องการจัดซื้อรถเรือดับเพลิงของ กทม.มีความไม่ชอบมาพากล จึงแจ้งให้พรรคทราบเพื่อขอยื่นกระทู้ ทางคุณบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคร่วมรับรู้
ผมยื่นกระทู้ถามเรื่องรถเรือดับเพลิงในสภาตั้งแต่คุณสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯกทม.ในขณะนั้นยังไม่ได้เซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์พุคฯ แห่งออสเตรีย
มีคนถามอีกเหมือนกันว่าทำไมไม่ ให้ฝ่ายรัฐบาลเซ็นสัญญาส่งมอบเรียบร้อยเสียก่อนเพราะจะได้หลักฐานชัดเจนแน่น หนา นั่นเป็นวิธีคิดของนักการเมืองรุ่นเก่าๆ
ผมเห็นว่าหากรถเรือดับเพลิง กทม.มีความไม่ชอบพากลก็ควรจะหาทางยับยั้งป้องกันความเสียหายไว้ก่อน เป็นการทำงานการเมืองของผม
การยื่นกระทู้ถามมี 3 ครั้ง ทางพรรคประชาธิปัตย์เห็นชอบ ซึ่งการตรวจสอบของผมเป็นไปอย่างเข้มข้นจนทำให้โครงการรถเรือดับเพลิง กทม.สะดุด
วันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.คุณสมัครทำ โครงการนี้อย่างเร่งด่วนโดยถอนหนังสือสัญญาการจัดซื้อโครงการรถเรือดับเพลิง จากสำนักงานอัยการสูงสุด เอากลับมาเซ็นกับบริษัท สไตเออร์ฯ ผลที่ตามมาคือการผูกมัดข้อสัญญา
ระหว่างที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ช่วยคุณอภิรักษ์ ที่ลานคนเมืองศาลาว่าการ กทม.มีการประกาศว่า หากคุณอภิรักษ์เป็นผู้ว่าฯกทม. สิ่งแรกที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำคือการตรวจสอบสัญญาการจัดซื้อรถเรือดับเพลิง และหาทางยกเลิกสัญญา
เมื่อคุณอภิรักษ์เป็นผู้ว่าฯกทม.ใหม่ๆ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่รับรองผล คุณอภิรักษ์เข้าไปทำงานที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์พลางๆ ก่อน
เช้าวันหนึ่ง เจอหน้าผม คุณอภิรักษ์ถามเรื่องราวของรถเรือดับเพลิง ผมชี้ให้เห็นความไม่โปร่งใส คุณอภิรักษ์ให้สรุปเหตุการณ์ทั้งหมด
เมื่อทำเสร็จ ผมโทรศัพท์ไปหาคุณอภิรักษ์บอกว่า ให้ไปเจอกันที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ถนนสุขุมวิท โดยให้เหตุผลว่า หากไปพบกันที่ศาลาว่าการ กทม.จะเจอสื่อตั้งคำถามและยังเพิ่งเป็นผู้ว่าฯใหม่ๆ ไม่มีข้อมูลเรื่องนี้
คุณอภิรักษ์ไปกับคุณสุกิจ ก้องธรนินท์ เลขานุการ เราทั้งสามเจอกัน คุณอภิรักษ์รับผลสรุปคดีรถเรือดับเพลิงแล้วรับปากกับผมว่าจะไม่เปิดแอลซี (หนังสือที่ธนาคารรับรองทางการเงินเพื่อนำเข้าหรือส่งออกสินค้า)
เรื่อง เปิดไม่เปิดแอลซีนั้น ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้หารือกันอย่างรอบคอบ คุณบัญญัติซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคในขณะนั้น เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศและกฎหมายของพรรค อาทิ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และคุณถาวร เสนเนียม ไปประชุมกันที่หอประชุมมหาวิทยาลัยรังสิต
ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า ถ้าไม่เปิดแอลซี สัญญาจะไม่มีผลบังคับและบริษัท สไตเออร์ฯ ฟ้องร้องไม่ได้เนื่องจากการทำข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรียเป็น ไปอย่างฉันมิตร หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่พอใจจะมีการตั้งอนุญาโตตุลาการชี้ขาด เมื่อได้ข้อสรุปอย่างนั้น ผมคิดว่า โครงการรถเรือดับเพลิง กทม.น่าจะจบลงแล้ว คุณอภิรักษ์ไม่เปิดแอลซี สัญญาก็ไม่เกิด
จากนั้น ได้นำข้อมูลทั้งหมดไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อสอบสวนผู้ร่วมกระทำผิด ต่อมามีข่าวสะพัดว่า พ่อค้าขายรถและเรือดับเพลิงวิ่งเต้นกับผู้บริหาร กทม.บางคน คุณบัญญัติ หัวหน้าพรรคได้กลิ่นเรื่องนี้เหมือนกัน
เมื่อข่าวแรงขึ้นเรื่อยๆ คุณบัญญัติเรียกคุณอภิสิทธิ์ คุณอภิรักษ์ คุณสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าฯกทม.สมัยนั้น คุณสุกิจ ก้องธรนินท์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐภาค ไปคุยกันที่พรรค ได้ข้อสรุปยืนยันว่า คุณอภิรักษ์จะไม่เปิดแอลซี และจะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนโครงการจัดซื้อรถเรือดับเพลิง ให้คุณสามารถ ราชพลสิทธิ์ เป็นประธาน
คณะกรรมการชุดของคุณสามารถประชุมกันนับสิบครั้ง พบสิ่งปกติในโครงการนี้มากมาย ซึ่งสรุปผลส่งให้คุณอภิรักษ์
ปรากฏว่าคุณอภิรักษ์กลับเซ็นอนุมัติเปิดแอลซี โดยไม่ได้ฟังความเห็นจากคณะกรรมการเลย คุณบัญญัติทราบเรื่องนี้ รู้สึกโกรธมาก
ในวันที่เกิดเหตุตึกถล่มใน กทม. คุณบัญญัติในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ร่วมเดินทางไปดูจุดเกิดเหตุร่วมกับ คุณอภิรักษ์ ระหว่างนั้นทั้งสองคนได้คุยกันเรื่องรถเรือดับเพลิง คุณอภิรักษ์รับปากกับคุณบัญญัติจะไม่มีวันเปิดแอลซีอย่างเด็ดขาด
เมื่อ คุณบัญญัติเดินทางกลับไปที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นธนาคารที่ทำเอกสารแอลซีโครงการรถเรือดับ เพลิง แจ้งกับคุณถาวร เสนเนียมซึ่งเป็นฝ่ายกฎหมายของพรรคว่า คุณอภิรักษ์เซ็นเปิดแอลซีเรียบร้อยแล้ว
ผมกับคุณถาวรไปหาคุณบัญญัติสอบถามข่าวนี้ คุณบัญญัติยืนยันว่าไม่จริง เพราะคุณอภิรักษ์รับปากกับหัวหน้าพรรค คงไม่เบี้ยวหรอก
ผมติดต่อขอให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยส่งแฟ็กซ์การเปิดแอลซี ทันทีที่คุณบัญญัติเห็นก็รู้ว่าถูกหลอก และรีบโทรศัพท์ไปหาคุณอภิรักษ์ทันที แต่คุณอภิรักษ์ไม่รับสายทั้งๆ ที่โทร.หลายครั้ง แม้กระทั่งคุณหญิงกัลยาโทร.คุณอภิรักษ์ก็ยังไม่รับสายเหมือนกัน
คุณบัญญัติโกรธมากพูดกับคุณหญิงกัลยาและคุณสุทัศน์ เงินหมื่น กรรมการบริหารพรรคว่า
"ผู้ว่าฯอภิรักษ์รู้ว่าของแพงยังเปิดแอลซีสั่งซื้อ สักวันหนึ่งจะติดคุก"
ผมยังจำคำพูดของหัวหน้าพรรค "บัญญัติ" ได้จนถึงทุกวันนี้
อีก เรื่องหนึ่งอยากจะขอชี้แจง กรณีที่มีคนกล่าวหาว่า ผมตรวจสอบเรื่องรถเรือดับเพลิงเพราะผมเป็นนายหน้าของบริษัทผลิตรถดับเพลิง จากประเทศสเปน
ผมยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักบริษัทรถดับเพลิงของสเปนเลย ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าเป็นใครมาจากไหน คุณถาวร เสนเนียม เอาเอกสารมาให้ผม บอกว่าถ้าตรวจสอบว่ารถของบริษัท สไตเออร์ฯแพง ก็ควรเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆ จะพูดลอยๆ ไม่ได้
ผมเอาเอกสารมาเปรียบเทียบ ก็พบว่าของสเปนถูกกว่าสไตเออร์ฯราว 2 พันล้านบาท
ในเวลาต่อมา ป.ป.ช.สอบสวนโครงการรถเรือดับเพลิง ชี้ความผิดสรุปผลการจัดซื้อจากสไตเออร์ฯแพงทำให้รัฐเสียหายราว 1,900 ล้านบาท แสดงว่าการเปรียบเทียบข้อมูลของผมถูกต้อง
ถ้าถามผมว่า คดีรถเรือดับเพลิงฯทำมานาน 4 ปีกว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อไม่กี่วันก่อน มีอะไรที่น่าชื่นชมและผิดหวังบ้าง
สิ่งที่น่าผิดหวังคือคุณนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และอดีตประธานคณะอนุ คตส.ไต่สวนคดีรถเรือดับเพลิง กทม.
หากคุณนามตรวจสอบคดีนี้อย่างเข้มข้นเหมือนกับ ป.ป.ช. ป่านนี้จะไม่เกิดความเสียหายกับรัฐมากมาย เพราะเมื่ออนุ คตส.ชุดคุณนามระบุว่า คุณอภิรักษ์เปิดแอลซีไม่มีความผิด มีผลทำให้คุณอภิรักษ์เดินหน้าจ่ายเงินค่างวดให้กับบริษัท สไตเออร์ฯถึง 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2,900 ล้านบาท
ไม่เพียงแค่นั้น คุณนามยังทำให้ชาวกรุงเทพมหานครเดือดร้อน ต้องเลือกผู้ว่าฯกทม.กันใหม่ เสียเงินงบประมาณอีก 154 ล้านบาท เพราะถ้าย้อนกลับไปคุณนามในฐานะประธานอนุ คตส.ชี้ความผิด คุณอภิรักษ์จะไม่มีโอกาสได้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
ผมถามว่า เมื่อ ป.ป.ช.สรุปผลคดีรถเรือดับเพลิง กทม.แล้ว คุณนามจะแสดงความรับผิดชอบต่อชาวกรุงเทพมหานครหรือเปล่า
ผมคิดว่าการตรวจสอบทุจริตในโครงการรถเรือดับเพลิงครั้งนี้ ผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์คงจะมีความเข้าใจในตัวผม และสิ่งนี้ผมเห็นว่าเป็นเส้นทางการเมืองใหม่ ซึ่งกาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
หน้า 11 วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11212 มติชนรายวัน
นายอภิรักษ์คงคิดว่า ยิงประตูตามน้ำหรือกินตามน้ำ ความผิดคงไม่ถึงตัวเอง เพราะตนเองไม่ได้เซ็นสัญญาดังกล่าว อาจจะด้วยความโง่แต่คิดว่าคงเป็นเพราะความโลภมากกว่า ยืนยันโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศของแบงค์กรุงไทยว่า นายอภิรักษ์ได้เดินทางไปเร่งรัดให้ทางธนาคารเปิดแอลซีด้วยตนเองและได้ส่ง จดหมายยืนยันให้เปิดแอลซีโดยไม่ต้องแก้ไขเงื่อนไขใดด้วย ซึ่งธนาคารได้แจ้งให้ทราบว่าเงื่อนไขที่ร่างไว้ทำให้กรุงเทพมหานครเสีย เปรียบอย่างมาก แต่นายอภิรักษ์ก็ไม่นำพา ยืนยันเปิดแอลซีลูกเดียวจริงๆๆๆ
ใคร ไม่เชื่อก็ลองหาเพื่อนที่มีตำแหน่งสูงๆในธนาคารกรุงไทยมายืนยันได้ แต่คงขอหลักฐานใดๆๆไม่ได้ เพราะเบื้องบนของธนาคารสั่งเก็บเอาไว้เป็นเกราะคุ้มกันธนาคารไว้ จึงมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับแอลซีฉบับดังกล่าวไม่ถึง 4 คนครับ
จากคุณ : สลักหิน - [ 20 พ.ย. 51 10:11:56 A:58.10.9.85 X: ]
และที่แสบไปกว่านั้ ข้อตกลงในการเปิดแอลซี อภิรักษ์ แก้ไขใหม่ ให้ส่งมอบรถสินค้า กันในประเทศไทย แทนที่จะเป็นตามข้อตกลงเดิมคือ ออสเตรียแหล่งผลิต(หลอกว่าผลิตที่นั่น)...
การแก้ไขเงื่อนไขใหม่เองเพื่อประโยชน์ในการส่งมอบสินค้าที่ทำในไทย อภิรักษ์ แก้ไขให้และ จ่ายเงินให้ ..
รวย เท่าใด ไม่รู้ รู้แต่ กทม.เงินภาษีของคุณของผม จ่ายไปแล้ว หลายพันล้านบาท โดยไม่ได้ของมาใช้ ผู้บริหารแบบนี้ละหรือ ที่ ปชป.เชิญมาเป็นรองหัวหน้าพรรค และ ส่งลงผู้ว่า กทม.
จากคุณ : ทรงวิทย์ - [ 20 พ.ย. 51 10:19:24 A:58.8.77.99 X: ]
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2551 | | |
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2551 4:22:14 น. |
Counter : 511 Pageviews. |
| |
|
|
|