(ตอนพิเศษสุดริมรั้ว) ภูเคียงดาว_ครึ่งแรก




ตอนพิเศษ ภูเคียงดาว_ครึ่งแรก

เทียมภพนั่งดูภรรยารื้อของออกจากกล่องพัสดุใบใหญ่มาแผ่บนเตียงข้าวของข้างในล้วนเป็นเสื้อผ้าเด็ก ของเล่น ของใช้ที่ปลายเดือนส่งมาให้หลังจากรับรู้ว่าพี่สะใภ้กำลังจะมีหลานเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าครอบครัวทวีกิจไพศาลจะตื่นเต้นและออกอาการ ‘เห่อ’ สมาชิกใหม่ที่กำลังจะเกิดมา ทั้งคุณปู่ คุณย่าและคุณทวดต่างก็ตระเตรียมทุกอย่างไว้รอรับหลานน้อยคุณพ่อมือใหม่อย่างเทียมภพที่ว่าเห่อลูกมากแล้วก็ยังไม่เท่าคุณอาอย่างแทนดาวที่เห่อเสียยิ่งกว่าพอรับรู้ว่าพี่สะใภ้ตั้งครรภ์ก็จัดแจงออกแบบห้องนอนให้หลาน วางแผนสร้างสนามเด็กเล่นถึงขนาดเตรียมตั้งชื่อรอ

“ถ้าเป็นผู้ชายชื่อให้ชื่อน้องปูนแดงผู้หญิงชื่อน้องพิมเสน จะได้ครบเครื่อง”

“คุณผึ้งส่งของมาเยอะแยะไปหมด เธอว่า...ไม่รู้ว่าหลานจะเป็นหญิงหรือชายก็เลยซื้อปนๆ กันมา ของครบขนาดนี้...เราแทบไม่ต้องซื้ออะไรเลยค่ะ” รมย์นลินแยกของใช้เด็กเป็นประเภทต่างๆ วางเรียงรายบนที่นอน ซึ่งมีครบอย่างจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ถุงมือ ถุงเท้า ของเล่นขวดนม หรือแม้กระทั่งเครื่องปั๊มนม

“แล้วคุณอยากให้ลูกคนแรกเป็นชายหรือหญิงล่ะ”เทียมภพขยับเข้ามานั่งข้าง ๆ ภรรยา วางมือบนท้องน้อยอย่างทะนุถนอม

“ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ”

“ผมน่ะ...อยากให้คนแรกเป็นผู้ชายจะได้ดูแลน้อง ๆ อีกสามสี่คน...เหมือนผมไง”

“หือ...อีกสามสี่คนเชียวหรือคะ” รมย์นลินทำท่าตกอกตกใจ

“ผมอยากมีลูกหลาย ๆ คนทวีกิจของเราจะได้มีคนมาช่วยดูแลเยอะ ๆ”

ชายหนุ่มกอดภรรยาแนบแน่น จนสักครู่ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเขาเดินไปเปิดแล้วก็ยิ้มกว้างเมื่อน้องสาวคนเล็กยืนอมยิ้มอยู่ข้างนอกถ้าเป็นเมื่อก่อน แทนดาวก็ไม่ต้องรอให้ใครมาเปิดประตู แต่ในเวลานี้พี่ชายไม่ใช่คนโสดตัวเปล่าหญิงสาวจึงเกรงใจที่จะเข้ามารบกวนถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น

“โห...ของเยอะแยะเลย”แทนดาวดูพี่สะใภ้จัดข้าวของด้วยความตื่นตาตื่นใจ อดไม่ได้ที่จะหยิบถุงเท้าคู่เล็กมาดู

“คุณผึ้งส่งมาให้ค่ะ ดูสิ...พี่แทบจะไม่ต้องซื้ออะไรเลย”

“เดี๋ยวรอดูของอาพลูบ้างนะ...ไม่น้อยหน้าอาผึ้งแน่นอน”

หญิงสาววางถุงเท้าคู่เล็กจิ๋วลงอย่างเดิมแล้วเอื้อมมือไปลูบหน้าท้องที่เริ่มป่องนูนนิดๆ ดูเหมือนการกระทำนี้จะเป็นกิจวัตรของแทนดาวไปเสียแล้ว ในทุก ๆ วันหล่อนจะต้องมาลูบคลำท้องแล้วพูดคุยกับเจ้าตัวน้อย ๆ บางวันก็เล่นเพลงให้ฟังรู้สึกว่ารักเด็กคนนี้มากจนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าตัวเองมีลูกบ้าง...จะมีความรู้สึกรักได้มากเท่านี้หรือไม่

“ชุดเมื่อวาน พี่จะให้แป๋มส่งซักแห้งพรุ่งนี้นะคะสิ้นเดือนนี้พี่กับกับคุณหมากจะไประยอง น้องพลูจะไปด้วยกันไหมคะ...พี่จะให้เด็กจัดกระเป๋า”

รมย์นลินรามือจากงานที่ทำอยู่มาพูดกับน้องสามี ตั้งแต่รมย์นลินแต่งเข้ามาก็รับหน้าที่แม่บ้านเต็มตัวซึ่งเจ้าตัวก็ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่องสมกับที่ได้รับความไว้วางใจนอกจากจะดูแลสามีแล้ว หล่อนยังมาดูแลแทนดาวในบางเรื่องแทนคุณดวงทิพย์ที่ได้โอนกิจการงานทุกอย่างภายในบ้านให้อยู่ภายใต้การดูแลของศรีสะใภ้คนนี้ทั้งหมดท่านกับคุณเที่ยงธรรมจึงใช้เวลาหลังเกษียณท่องเที่ยวไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำอย่างสบายใจ

“น้องพลูไปไม่ได้หรอกค่ะห่วงงาน...”

“งานที่โรงเรียน...ให้คนอื่นสอนแทนก็ได้นี่”เทียมภพร้องบอกมาจากมุมหนึ่งของห้อง

“ไม่ใช่งานที่โรงเรียนหรอกค่ะ”

แทนดาวยิ้มอย่างเป็นปริศนาแล้วเดินเข้าไปหาพี่ชายที่นั่งเอนหลังบนเก้าอี้นวมร่างเล็กนั่งลงบนเท้าแขนเอามือกอดรอบคอหนาอย่างประจบแล้วยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ เทียมภพรับมาคลี่อ่านสักเดี๋ยวก็เผยรอยยิ้มยินดีออกมา

“เก่งนะเรา สมใจแล้วล่ะสิทีนี้...พี่ก็จะได้มีน้องสาวเป็นนักเปียโนระดับโลกแล้ว”

เทียมภพหอมแก้มน้องสาวอย่างรักใคร่ทั้งดีใจและภูมิใจไปพร้อม ๆ กัน เขาโบกจดหมายฉบับนั้นไปมาในอากาศให้ภรรยาดูแต่เหมือนหล่อนจะไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรนักจนเขาต้องป่าวประกาศเสียงดัง

“คุณแฟง...น้องพลูได้เป็นนักเปียโนประจำวงสยามออเคสตร้าแล้วนะ วงนี้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยเลยนะ...คุณไม่ดีใจเหรอ”

“พี่แฟงรู้ก่อนพี่หมากอีกค่ะ”แทนดาวตอบแทนพี่สะใภ้ที่นั่งยิ้มอยู่บนเตียง

“อ้าว...ไหงงั้นล่ะ นึกว่าพี่จะได้เป็นคนแรกที่รู้นะนี่”เนื้อเสียงมีความงอนซ่อนอยู่ เขารู้ตัวว่าตั้งแต่มีรมย์นลินเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็ดูเหมือนทุกคนจะให้ความเกรงใจสะใภ้ใหญ่มากกว่าตัวเขาเสียอีก ยิ่งน้องสาวด้วยแล้วเดี๋ยวนี้มีอะไรก็จะบอกกล่าวพี่สะใภ้ก่อนเป็นคนแรก

“แหม...ก็ต้องบอกคุณครูก่อนสิคะ”

แทนดาวคว้าจดหมายจากมือพี่ชายมาดูอีกครั้งรู้สึกหายเหนื่อยกับการที่ต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อฝึกซ้อมนานนับเดือนเพื่อให้ผ่านรอบออดิชั่นตอนนี้หล่อนก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักเปียโนตัวสำรองประจำวงออร์เคสตร้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทยเป็นตัวแทนไปจัดแสดงคอนเสิร์ตมาแล้วทั่วโลก ถึงหนทางข้างหน้ายังยาวไกลกว่าที่จะได้เลื่อนขั้นเป็นตัวจริงแต่แค่นี้ก็เป็นที่พอใจของหญิงสาวมากมายนักที่สามารถก้าวมายืน ณ จุดนี้ได้

“แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่”พี่ชายถามต่อ

“ต้นเดือนหน้าค่ะ หลังจากนั้นก็ต้องไปซ้อมกับวงสัปดาห์ละสี่วันถ้ามีคอนเสิร์ตก็ต้องไปซ้อมทุกวันน้องพลูจะพยายามให้ได้เลื่อนเป็นตัวจริงให้เร็วที่สุด”

“พี่เชื่อว่าหนูทำได้”เทียมภพให้กำลังใจน้องสาว แทนดาวอมยิ้มกับตัวเองที่ความฝันกำลังจะเป็นจริง

ถึงเรื่องราวต่าง ๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดีแต่นิสัยหวงน้องสาวของเทียมภพดูจะไม่ใคร่ ‘คลี่คลาย’ ไปกับเขาด้วยชลธีเพื่อนคู่หูยังคงถูกจัดอยู่ในหมวด ‘ชายแปลกหน้า’ อย่างเดิม อาการกันท่าที่เป็นมาตั้งแต่แรกอย่างไรถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่ แม้จะมีสะพานเชื่อมอย่างรมย์นลินศรีภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อาจจะมีผ่อนผันบ้างถ้าตัวไม่ว่างไปรับ-ส่งน้องจริง ๆก็จะมอบหมายหน้าที่นี้ให้เพื่อนซี้หรืออีกตำแหน่งหนึ่งคือ ‘พี่เขย’ ซึ่งถ้าวันไหนแดดร่มลมดี ชลธีก็มีกิจกรรมใหม่มาให้แทนดาวทำ นั่นคือการเรียนขับรถ

เมื่อวันเกิดครบรอบยี่สิบสี่ปีของแทนดาวเทียมภพได้ซื้อรถยนต์คันเล็กน่ารักสมชื่อยี่ห้อของมันให้เป็นของขวัญรวบยอดเนื่องในวันคล้ายวันเกิดและเนื่องในโอกาสสำเร็จการศึกษาแทนดาวดีใจมากแต่ก็ยังไม่เคยได้เอารถออกไปใช้เสียทีเพราะยังขับไม่เก่ง ตัวพี่ชายก็ยุ่งกับเรื่องสร้างโรงงานใหม่ที่อยุธยาเลยไม่มีเวลาสอนให้ไอ้เรื่องจะไปลงเรียนนี่อย่าได้คิด เทียมภพไม่อนุญาตเด็ดขาดด้วยเหตุผลที่ไม่ค่อยจะฟังขึ้นนัก

“ให้คนอื่นสอนรึ...มันจะได้หลอกแต๊ะอั๋งเราสบายไปเอาไว้ว่าง ๆ พี่จะสอนให้เอง ตอนนี้ก็เตรียมตัวไปอบรมสอบใบขับขี่ก่อน”

ไอ้คำว่า‘ว่าง ๆ ’ ที่พี่ชายบอกดูจะยังไม่มาถึงเสียทีเพราะธุระรัดตัวจนแทบกระดิกไม่ได้จริง ๆยิ่งกำลังจะได้เป็นคุณพ่อแบบนี้ก็ยิ่งต้องเตรียมตัวนู่นนี่ร้อยแปด ด้วยเหตุนี้ก็ต้องยอมให้ชลธีมาช่วยสอนไม่เช่นนั้นก็เห็นน้องได้แต่ลูบ ๆ คลำ ๆ รถอยู่นั่นจนตอนนี้ถือว่าคล่องมือระดับหนึ่งแต่ยังไม่กล้าวิ่งถนนใหญ่เสียที พอเจอรถมาก ๆทีไรก็ถอดใจเปลี่ยนให้ชลธีขับดีกว่า อย่างวันนี้ทั้งคู่ก็พากันไปหัดขับตั้งแต่ช่วงสายแทนดาวนั่งตัวตรง ตาจับจ้องบนถนนแทบไม่กระพริบ สองมือจับพวงมาลัยมั่นในอาการที่เรียกว่าเกร็งเต็มที่ถึงจะมีชลธีคอยกำกับอยู่ใกล้ชิดและช่วยประคองพวงมาลัยให้ตรงทาง แต่มือใหม่ก็ยังอดตื่นเต้นและเป็นกังวลไม่ได้

“เหนื่อยหรือยัง?ก่อนกลับบ้านไปหาอะไรกินกันก่อนไหม”

“ดีค่ะ งั้น...กินเสร็จแล้วไปโยนโบว์ลิงกันนะคะ น้องพลูไม่ได้ไปนานแล้ว”

“ถ้างั้นให้พี่ขับดีกว่าถ้าให้น้องพลูขับต่อ...วันนี้สองทุ่มก็คงไม่ได้โยน”

ห้างสรรพสินค้าในกลางกรุงในวันหยุดอย่างนี้ย่อมพลุกพล่านจอแจเป็นปรกติวิสัยยิ่งมีพวกทัวร์มาลงด้วยก็เหมือนกำลังเดินผ่านฝูงนกกระจอกทั้งคู่ไปรับประทานอาหารกันก่อนแทนดาวอาสาเป็นเจ้ามือเลี้ยงตอบแทนที่เขามาช่วยสอนขับรถให้

“เรามาแข่งกันไหมคะใครชนะ..คนนั้นจะได้เป็นเจ้านายคนแพ้หนึ่งวัน” จู่ ๆแทนดาวก็นึกสนุกชวนแข่งโบว์ลิง

“เอาสิแต่บอกก่อนนะว่าพี่เนี่ย...แม่นยังกับจับวาง ไม่เคยเก็บสแปร์นะครับ...สไตรค์อย่างเดียว”ชลธีคุยโอ่

“เหรอคะ...งั้นน้องพลูก็ต้องบอกก่อนว่าเคยเป็นตัวแทนโรงเรียนนะจะบอกให้ เหรียญทองระดับเขตยังอยู่ในตู้โชว์...ไปดูได้เลย”คนตัวเล็กเกทับแล้วเปิดกระเป๋าหยิบนามบัตรเก่า ๆ ใบหนึ่งออกมาก่อนจะเขียนอะไรบางอย่างลงไป

“นี่คือคูปองรางวัลถ้าใครชนะก็จะได้คูปองนี้ไป คนที่แพ้ก็ต้องยอมเป็นคนรับใช้เป็นเวลาแปดชั่วโมงเต็มโดยจะเรียกใช้ให้ทำอะไรก็ได้ห้ามขัดคำสั่ง มีอายุหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้”

แทนดาวยื่นกระดาษที่ใช้เป็นคูปองที่ว่าให้ดูชลธีไล่อ่านข้อความบนนั้นแล้วก็พยักหน้าขำ ๆสักพักทั้งคู่ก็พากันไปยังลานโบว์ลิงที่อยู่บนชั้นเดียวกับโรงภาพยนตร์แทนดาวเปิดสองเลนติดกันจะได้ประลองฝีมือกันให้รู้ไปเลยว่าตัวแทนโรงเรียนกับมือแม่นราวจับวางใครจะคว้าชัยศึกทอยพินครั้งนี้

“เชิญสุภาพสตรีเปิดเกมปฐมฤกษ์ก่อนเลยครับ”

ชลธีถือลูกรอแล้วเชื้อเชิญให้หญิงสาวเป็นฝ่ายเริ่มก่อนแทนดาวก้าวไปยืนประจำตำแหน่งอย่างมั่นใจแล้วกลิ้งลูกแรงและเร็วไปกระทบพินล้มระเนระนาดทั้งสิบอันเป็นการเปิดเกมที่สวยงามนักหญิงสาวหันมามองด้วยสายตาแห่งความสมหวังและท้าทายไปในตัว

“นี่แค่อุ่นเครื่องนะ”

“ไม่เลวนี่เอาน่า...คนเราบางทีก็มีฟลุ๊คกันบ้าง” ชลธีปรามาสแล้วเริ่มโยนของตัวเองบ้างแต่ครั้งแรกของเขาเรียกเสียงหัวเราะร่วนจากคู่แข่งเพราะพินยังเหลือสองอัน

“น้องพลูขอไปนั่งจิบน้ำหวานรอระหว่างที่พี่ชลต้องเสียเวลาเก็บสแปร์นะคะ”แทนดาวพูดเยาะเย้ยแล้วเดินอย่างวางมาดไปนั่งดูอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องชายหนุ่มไม่ว่าอะไรนอกจากเล่นต่อไปอย่างใจเย็น ในใจก็คิดขำ ๆ

“เดี๋ยวก็รู้...แม่นักทอยพินชั้นมัธยม”

สองคนแข่งกันโยนไปจนถึงเกมสุดท้ายแทนดาวที่ทำฟอร์มดีในตอนแรกกลับตกเป็นรองในเกมที่สองแถมยังตามเสียห่างผิดกับชลธีที่ทำคะแนนไม่ตกเลยแถมยังทำสไตรค์ติดต่อกันหลายครั้งแทนดาวเริ่มล้าเพราะโหมใช้พลังไปมากในช่วงแรกจนชัยชนะที่มั่นใจว่าอยู่แค่เอื้อมกลับลอยห่างไปทุกที

“ฝีมือล้างท่อของน้องพลูใช้ได้นะเนี่ยว่าง ๆ พี่จะจ้างไปล้างท่อที่บ้านมั่งนะ”

ชลธีตะโกนบอกหญิงสาวที่นั่งเซ็งเมื่อการโยนครั้งสุดท้ายจบลงแบบที่เขาเรียกว่า‘ล้างท่อ’ ผิดกับผู้ท้าชิงที่ปิดเกมด้วยการซัดพินล้มกระจายทั้งสิบอันแทนดาวหน้าบึ้งขณะหยิบคูปองให้ผู้กำชัยชนะในศึกครั้งนี้ ชายหนุ่มทำท่าใช้ความคิดว่าจะทำอย่างไรกับรางวัลนี้ดีสักพักก็ดีดนิ้วเปาะ

“ตามกติกา...พี่เป็นผู้ชนะเพราะฉะนั้น...พรุ่งนี้พี่จะไปรับน้องพลูที่บ้านแต่เช้า”

“ไปรับทำไมคะพรุ่งนี้วันจันทร์...พี่ชลไม่ทำงานเหรอ”

“ทำสิ...แต่พี่จะให้น้องพลูไปเป็นผู้ช่วยวันนึงตามสิทธิ์ของผู้ชนะ”

ชลธีบอกอย่างเป็นต่อจึงแย้งไม่ได้เพราะตัวเองเป็นตัวตั้งตัวตีจัดการเรื่องนี้เองในเมื่อไม่มีสิทธ์ประท้วงเพราะการแข่งขันเป็นเอกฉันท์ขนาดนี้แล้วก็เลยต้องเป่าปากอย่างจำยอม

“พรุ่งนี้แต่งตัวสวยๆ นะครับ ไปเป็นเลขาฯให้พี่สักวัน ถ้าทำงานถูกใจ...พี่อาจจะจ้างเราถาวร”

ชลธีมารับแต่เช้าตรู่ตามที่นัดกันไว้ก็เลยได้รับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับสมาชิกคนอื่นๆ ทุกคนหัวเราะชอบใจเมื่อได้รับฟังเรื่องราวการพ่ายเกมบว์ลิงของคนแสนงอนคนเดียวที่ไม่ขำด้วยก็คือเทียมภพเจ้าเก่าที่ซักแล้วซักอีกว่าจะพาน้องไปทำอะไรกลัวว่าน้องจะถูกแกล้งบ้าง ถูกใช้งานหนักบ้างคิดไปไกลขนาดว่าอดีตเพื่อนแค้นจะหลอกพาไปทำมิดีมิร้าย

“แกจะเป็นพ่อคนอยู่แล้วหัดคิดอะไรให้มันโตกว่าสมองบ้างสิวะ” ชลธีต่อว่า

“ก็ฉันห่วงนี่หว่า”

“ไอ้หมาก...ที่ฉันพาน้องพลูไปด้วยวันนี้ไม่ได้จะเอาไปใช้งานอะไรแต่มันถึงเวลาแล้วที่คนในธาราจะได้รู้จักเธอในฐานะคู่หมั้นของฉันอย่างเป็นทางการฉันทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลุงธรรมว่าจะรอให้เธอเรียนจบค่อยทำอะไรเปิดเผยอ้อ...แล้วอย่าบอกเธอล่ะ ฉันไม่อยากให้เรื่องนี้ทำให้น้องพลูรู้สึกกดดัน”

แม้จะยังไม่พอใจแต่น้องเขยอย่างเทียมภพก็ต้องยอมรับแบบไม่มีข้อแม้ว่าชลธีรอบคอบและใส่ใจรายละเอียดทุกอย่าง การมีตำแหน่งเป็นคู่หมั้นอาจทำให้แทนดาวรู้สึกอึดอัดเพราะ‘ภาพพจน์’ การเป็นคนรักของผู้บริหารระดับสูงย่อมถูกคาดหวังเอาไว้สูงเสมอในขณะที่หญิงสาวเพิ่งจะก้าวพ้นรั้วมหาวิทยาลัยแถมยังไม่มีประสบการณ์ทำงานจริง ๆจัง ๆ

แทนดาวออกจะประหม่ายามต้องเดินเคียงข้างบุรุษหน้าคมที่เดินทักทายคนโน้นคนนี้ไปตลอดทางพนักงานที่เดินสวนกันต่างก้มหัวให้แล้วส่งยิ้มผ่านมาที่ตนทุกครั้งหญิงสาวจึงต้องยิ้มตอบจนเหงือกแห้งกว่าจะขึ้นมาถึงห้องทำงานส่วนตัว แล้วเขาก็หายตัวไปสักพักใหญ่ช่วงเวลานี้จึงเปิดโอกาสให้หญิงสาวได้สำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง วันนี้รมย์นลินช่วยเลือกชุดแซกสีเบจเข้ารูปชายกระโปร่งด้านหน้าเบี่ยงไปทางซ้ายผ่ายาวขึ้นมาแต่พองามสวมทับด้วยเสื้อสูทสีชมพูอ่อนดูเป็นสาวออฟฟิศสมัยใหม่ใบหน้าแต่งแต้มมีสีสันกว่าทุกวันแต่ก็ไม่จัดจ้านเกินไป หญิงสาวแตะลิปสติกเพิ่มนิดหน่อยทดแทนบางส่วนที่หลุดลอกไปตอนรับประทานอาหารเช้า

“สวยแล้วครับคุณแทนดาว เดี๋ยวมากับผมหน่อยนะทุกคนรอทำความรู้จักกับคุณอยู่”

ชลธีเดินยิ้มเผล่เข้ามาแทนดาวรีบเก็บลิปสติกลงประเป๋าแล้วตามออกไปจนเข้าไปยืนอยู่ในห้องประชุมโอ่โถง ภายในห้องมีคนนั่งอยู่ประมาณสิบห้าคนตลอดโต๊ะตัวยาวแทนรู้สึกตื่นเต้นระคนประหม่า

“ทุกคนครับ...ผมขอแนะนำคุณแทนดาวทวีกิจไพศาล คู่หมั้นของผม”

ชลธีแนะนำเป็นภาษาอังกฤษเพราะเกินครึ่งหนึ่งในห้องนี้เป็นชาวต่างชาติทุกคนพูดสวัสดีตอบเกือบจะพร้อมกัน คนไทยก็ใช้ภาษาไทย คนต่างชาติก็พูดภาษาตัวเองทุกคนมอบรอยยิ้มเป็นมิตรมาให้ คนถูกแนะนำจึงรู้สึกผ่อนคลายขึ้น

“สวัสดีค่ะเรียกดิฉันว่าใบพลูก็ได้ ยินที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ”หญิงสาวตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วเช่นกัน

“หน้าตาน่ารักนะคะได้ข่าวว่าเพิ่งเรียนจบนี่คะ แล้วจะมาทำงานที่นี่หรือเปล่า”คนไทยหนึ่งในนั้นถามขึ้น

“ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ค่ะตอนนี้เล่นดนตรีให้สยาม ออร์เคสตร้า นอกจากนั้นก็มีสอนพิเศษเปียโนด้วยค่ะ”

แม้สายตาของทุกคนจะมองว่าหญิงสาวยังเหมือนเด็กวัยรุ่นช่างฝันทั่วไปแต่วิธีการพูดจาฉะฉานชัดถ้อยชัดคำผสานกับกิริยามารยาทเรียบร้อยแต่ก็ดูมั่นอกมั่นใจและสง่างามทำให้หลายคนแสดงความชื่นชมออกมาทางสายตา ไม่ว่าผู้ที่สนทนาด้วยจะเป็นชาวต่างชาติแทนดาวก็สามารถโต้ตอบกลับไปด้วยภาษาเดียวกันด้วยสำเนียงที่แทบจะเหมือนเจ้าของภาษายิ่งมีคนหนึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสก็ยิ่งเป็นที่ถูกใจ เพราะนาน ๆ ครั้งจะได้ใช้ภาษาที่สามที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา

“มีแต่คนพูดถึงน้องพลูจนพี่จะตกกระป๋องแล้วกลางวันนี้อัลเฟรดชวนน้องพลูกินข้าวด้วยนะ นายอัลเฟรดคนนี้เป็นจีเอ็มเจ้าหมอนี่โลกส่วนตัวสูงจะตาย...ไม่ค่อยจะสังคมกับใครง่าย ๆขนาดพี่ทำงานด้วยมาตั้งหลายปียังไม่ค่อยจะสนิทแต่น้องพลูมาวันแรกก็ถูกชะตาเจ้านั่นเสียแล้ว”

ชลธีเล่าเรื่องเมื่อเช้าให้ฟังหลังจากที่จบการแนะนำตัวพอเป็นพิธีแล้วเขาก็กลับไปประชุมต่อแต่ดูเหมือนเนื้อหาการพูดคุยจะมีแต่เรื่องราวของหล่อนทั้งสิ้น จนเขาฉีกยิ้มหน้าบานที่การมาของสาวน้อยสร้างความประทับใจให้ทุกคนเกินความคาดหมาย

“เขาคงเห็นว่าน้องพลูพูดภาษาเดียวกับเขามั้ง...เลยชอบ”

“ถ้าถูกใจเพราะเรื่องนั้นก็ไม่มีปัญหาหรอกแต่ถ้าคิดเนียนมาจีบเรานี่...เป็นเรื่องแน่”

น้ำเสียงจริงจังจนคนฟังชักเริ่มหมั่นไส้ไอ้กระบวนการหวงนี่เจอกับพี่ชายมาแทบทั้งชีวิตไม่คิดว่าจะต้องมาเจอคนประเภทเดียวกันยกกำลังสอง คู่นี้มีวิธีการแสดงออกกว่าหวงก้างต่างกันสุดขั้วฝ่ายแรกจะออกแนวโผงผาง ตรงไปตรงมา ส่วนอีกคนจะนิ่ง ๆ เงียบ ๆแต่เล่นงานคู่ต่อสู้ได้เด็ดดวงนัก

“ว่าแต่วันนี้มีอะไรให้น้องพลูทำอีกไหมคะนอกจากแยกจดหมาย เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งวันนะ ไม่นับรวมเวลาพักกลางวัน”

“นั่นสิ...ยังใช้ไม่คุ้มเลยงั้นตอนนี้...คุณแทนดาวช่วยชงกาแฟให้ผมสักแก้ว เครื่องกาแฟอยู่ในห้องทางซ้ายมือ” เขาสั่งเสียงเรียบเหมือนสั่งงานลูกน้องเลขาฯเฉพาะกิจรีบลุกกุลีกุจอไปจัดการให้ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเพราะชงให้พี่ชายอยู่ประจำแถมยังไม่ต้องคิดเยอะเพราะสองคนนี้ดื่มกาแฟดำเพียว ๆ เหมือนกัน ไม่ถึงห้านาทีกาแฟถ้วยเล็กควันโชยฉุยก็ถูกยกมาวางตรงหน้าชายหนุ่มที่กำลังอ่านอีเมล์อย่างตั้งใจ

“ได้แล้วค่ะคุณชลรับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ”

หญิงสาวเลื่อนถ้วยกาแฟเข้าไปใกล้อีกชลธียกกาแฟขึ้นจิบแล้วยิ้มกว้างเหมือนนึกอะไรได้แล้วก็รวบร่างบางมานั่งตักแทนดาวรู้สึกว่า ตั้งแต่พ้นคำว่านักศึกษาชลธีก็ชักจะซุกซนและถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้น เผลอเป็นกอดเป็นหอมได้ทุกที

“เมื่อวานโยนซะไหล่เคล็ดนวดให้หน่อยสิครับ ดูสิ...แรงจะจับปากกายังไม่มี” เขาทำท่าชูแขนที่อ่อนป้อแป้ของตัวเองสาวน้อยค้อนให้แล้วเริ่มลงมือบีบไหล่หนาเบา ๆ

“แรงมีเท่านี้เองอ่ะเหรอแล้วเมื่อไหร่จะหายเมื่อย” เมื่อถูกร้องขอ หมอนวดก็จัดให้ทีนี้ทั้งแรงกดแรงบีบใส่ลงไปไม่ยั้งจนคนที่บ่นไหล่เคล็ดต้องร้องขอให้หยุด

“เอาล่ะ...ทีนี้เคล็ดของจริง”

เขาบ่นแกมหยอกแล้วดึงร่างบางให้ลงมานั่งซ้อนตักอีกหนสองแขนแข็งแรงรัดเอวบางไว้หลวม ๆ แทนดาวสังเกตเห็นแบบร่างสิ่งก่อสร้างคล้ายบ้านหลายๆ หลังก็หยิบมาดู

“บ้านที่ไหนเหรอคะ...สวยจังน่ารักเหมือนบ้านตุ๊กตาเลยค่ะ”

“อ้อ..พี่แค่ปริ้นท์มาดูเล่น ๆน่ะ” ชายหนุ่มรีบฉวยกระดาษแผ่นนั้นเก็บในลิ้นชักมิดชิด

“ขอหอมแก้มคนสวยหน่อยสิคะ” เขาอ้อนเสียงหวานทำตาละห้อย ทีแรกคนถูกขอหาทางบ่ายเบี่ยงแต่ฝ่ายนั้นก็หยิบคูปองผู้ชนะโบกไปมาให้รู้ว่าไม่มีสิทธิ์ต่อรองกว่าที่คนขี้ขอจะหอมซ้ายหอมขวาจนหนำใจก็เล่นเอาคนบนตักหน้าแดงแล้วแดงอีก

การรับประทานอาหารกลางวันกับคนแปลกหน้าไม่ใช่เรื่องอึดอัดอย่างที่คิดนอกจากชาวฝรั่งเศสชื่ออัลเฟรดแล้วก็ชาวต่างชาติอีกสองคน บทสนทนาไม่เครียดมากจนเกินไปนักบางครั้งชลธีก็อดทึ่งไม่ได้ว่าแทนดาวก็มีความรู้รอบตัวในเรื่องที่ออกจะดูไกลตัวอย่างเศรษฐกิจหรือการเมืองในต่างประเทศ ชายหนุ่มคิดว่าการที่หล่อนรู้เรื่องพวกนี้ก็คงได้อิทธิพลจากพี่ๆ ที่เป็นผู้บริหารก็คงได้ยินเรื่องพวกนี้ผ่านหูผ่านตามาบ้าง ดูเหมือนอัลเฟรดจะถูกคอกับสาวน้อยเพียงคนเดียวในที่นี้เป็นพิเศษเห็นได้การพูดคุยภาษาเดียวกันอย่างออกรส แทนดาวเล่าเรื่องสมัยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่นั่น ส่วนนายอัลเฟรดเจ้าของนัยน์ตาสีควันบุหรี่ก็คอยเสริมเรื่องราวและบางครั้งก็เล่าเรื่องชวนหัวจนคนบางคนที่นั่งฟังอยู่ออกอาการ ‘เคือง’ อยู่ลึกๆ

หลังมื้ออาหาร แทนดาวก็กลับมาช่วยงานทั่วไปเช่น จัดแฟ้ม รับโทรศัพท์ พอตกบ่ายแก่เขาก็พาไปแนะนำตัวตามแผนกต่าง ๆ จนครบสถานที่ที่ถูกใจที่สุดคงหนีไม่พ้นห้องเบเกอรี่เชฟใหญ่ใจดีอนุญาตให้ลองแต่งหน้าเค้กเอง หญิงสาวใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานกว่าที่อื่นพอกลับออกมาก็มีถุงขนมหลากชนิดติดมือมาด้วย

“เหนื่อยไหมคะ...เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว” เขาถามร่างเล็กที่นั่งอิงซอกไหล่อย่างเอาใจมือหนาดึงกิฟต์ติดผมกับยางรัดออกปล่อยให้ผมนถ่มดุจไหมทิ้งตัวเป็นอิสระปลายนิ้วอุ่นสอดพันเล่น

“ทำงานแบบนี้ก็เพลินดีเหมือนกันนะคะแต่น้องพลูชอบเสียงเพลงมากกว่า”

“พี่เข้าใจคนเรามีความถนัดไม่เหมือนกัน น้องพลูก็เก่งในเรื่องที่ตัวเองชอบส่วนวันนี้...หนูเป็นเด็กดีมาก ทำงานได้ดีไม่มีที่ติเลย อยากได้อะไรเป็นรางวัลล่ะ”

“น้องพลูอยากดูหนัง”

“ได้สิ...แวะกินข้าว ดูหนังแล้วค่อยกลับบ้านนะ”

แทนดาวเตรียมเก็บข้าวของเมื่อเหลือบมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาห้าโมงเย็นพอดีชลธียังไม่กลับจากการประชุมก็เลยมีเวลาให้สำรวจหน้าตานิดหน่อย ดูเหมือนว่าการแต่งหน้าเติมปากจะทำจนติดเป็นนิสัยอย่างหนึ่งไปเสียแล้วจากเมื่อก่อนที่ไม่เคยสนใจกับการแต่งเนื้อแต่งตัวมากนักครั้นพอได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นก็คิดว่าการมีภาพลักษณ์ที่ดีย่อมทำให้คนรอบข้างประทับใจยิ่งวัน ๆ หนึ่งชลธีต้องพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา บางครั้งก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่นักข่าว นักการเมือง แทนดาวจึงมองว่าการปรับเปลี่ยนตัวเองบ้างเล็กน้อยย่อมจะช่วย ‘เสริม’ ให้เขามีภาพพจน์ที่ดีมากขึ้น

หญิงสาวเรียนรู้และเข้าใจโดยอัตโนมัติว่าทำไมพี่สาว มารดา หรือพี่สะใภ้อย่างรมย์นลินมีความพิถีพิถันในเรื่องการแต่งกายยามต้องออกไปสู่สังคมภายนอกถ้าเป็นเมื่อก่อนก็อาจจะนึกรำคาญที่กว่าจะออกจากบ้านได้แต่ละครั้ง ทั้งคุณแม่และพี่สาวจะต้องมากำกับเลือกเสื้อผ้าแต่งหน้าทำผมวุ่นวายไปหมดแต่พอได้มายืนตรงจุดเดียวก็ทำให้เข้าใจได้โดยปริยาย อีกทั้งยังต้องนึกขอบคุณด้วยซ้ำที่ทำให้หล่อนรู้จักแต่งหน้าแต่งตัวเป็นในยามที่ต้องจัดการดูแลตัวเอง

“อีกห้านาที”

ข้อความสั้น ๆ จากชลธีเร่งให้แทนดาวเช็คความเรียบร้อยจนมั่นใจแล้วเก็บข้าวของส่วนตัวลงกระเป๋าสะพายพลันสายตาจับผิดไวดุดเหยี่ยวล่าเหยื่อสะดุดกับวันที่บนปฏิทินที่เขียนไว้ด้วยหมึกสีแดงว่าไปเพชรบูรณ์กับอัยดา พอลองพลิกเดือนถัดไปก็จะเห็นข้อความเดียวกันนี้แต่ต่างวันที่ ลองพลิกย้อนกลับไปเดือนก่อน ๆ ก็ปรากฏข้อความนี้อีกเช่นกันบางเดือนไปครั้งเดียว บางเดือนไปสัปดาห์เว้นสัปดาห์

“อัยดาคือใคร ? แล้วทำไมต้องไปเพชรบูรณ์ด้วยกัน”

หญิงสาวเพียรถามตัวเองอย่างนี้จำได้เลา ๆ ว่าชลธีเพิ่งไปเพชรบูรณ์อยู่เมื่อไม่นานมานี้ แล้วอัยดา...ชื่อเสียงเรียงนามฟังดูคล้ายสตรีนักแค่คิดเพียงเท่านี้ก็เหมือนมีกองไฟเล็ก ๆ สุมอยู่ในอก คิ้วโก่งเรียวขมวดมุ่นเมื่อพลิกปฏิทินไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่เดือนกันยายน มีรอยหมึกสีแดงวงกลมรอบตัวเลขวันที่สิบห้าพร้อมข้อความสั้นๆ ระบุว่า น้องพลูรับปริญญา คิ้วที่ขมวดอยู่จึงคลายออกพร้อมปรากฏรอยยิ้มบางๆ

ในระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกันแทนดาวก็เอาแต่ขบคิดว่าควรจะถามออกไปตรง ๆ หรือว่าจะปล่อยผ่านไปดีถึงจะไว้วางใจและเชื่อใจว่าบุรุษที่นั่งข้าง ๆ ไม่มีนอกมีในเรื่องชู้สาวแบบนี้แต่ด้วยธรรมชาติของสตรีนั้น อันสิ่งใดที่สงสัยว่าผิดปรกติ...ก็ย่อมมิอาจวางใจ

“พี่จองที่นั่งเฟิร์สคลาสไว้น้องพลูจะได้นั่งสบาย ๆ เดินมาทั้งวันคงจะเมื่อยน่าดู”

เขาบอกอย่างเอาใจขณะจูงมือพาขึ้นมายังโรงภาพยนตร์ระหว่างทางเดินผ่านร้านขายเครื่องประดับสตรีก็นึกอะไรขึ้นได้ มืออุ่นกระตุกร่างเล็กให้เดินตามเข้าไปด้วยกันชายหนุ่มก้ม ๆ เงย ๆ เลือกสินค้าที่ว่างเรียงรายจนน่าตาลาย พอผ่านไปพักใหญ่ก็เลือกได้ชิ้นที่ถูกใจ

“สวยไหม...ชอบไหมครับ...น้องพลู”

กระจกเงาบานเล็กสะท้อนภาพกิ๊บโลหะสีเงินประดับเพชรสีขาวรูปดาวสามดวงเรียงไล่ขนาดจากใหญ่ไปเล็กประดับเด่นบนกลุ่มผมสีดำสนิทหญิงสาวอดไม่ได้ที่จะยกมือไปสัมผัสของที่เขาตั้งใจเลือกให้ รอยยิ้มพอใจปรากฏบนใบหน้านวลผ่องขึ้นชื่อว่าสตรี...เครื่องประดับสวยงามเช่นนี้ย่อมเป็นที่พึงใจ

“สวยจังพี่ชลก็เลือกของแบบนี้เป็นเหมือนกันนะเนี่ย” ชายหนุ่มยิ้มกว้างขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ทั้งโลกนี้...มีผู้หญิงสามคนที่พี่อยากเอาใจใส่มีแม่ ยัยแฟง แล้วก็น้องพลูนี่แหละ” เสียงนุ่มกระซิบชิดขมับต่างคนต่างมองตากันผ่านกระจกเงา สายตาอบอุ่นที่สะท้อนกลับมาทำให้แก้มผ่องเป็นยองใยปลั่งสีเข้มขึ้น

“วันนี้น้องพลูช่วยงานพี่ตั้งหลายอย่างถือว่าพี่จ่ายค่าจ้างก็แล้วกันนะ”

“ขอบคุณนะคะแหม...งั้นน้องพลูไปช่วยงานพี่ชลทุกวันเลยได้ไหมคะ” หญิงสาวพูดเย้า

“หืม...พอดีพี่คงจนตายต้องกินหัวเผือกหัวมันแทนข้าวกระมัง”

ชลธีแสร้งทำหน้าละห้อยแล้วสองคนก็หัวเราะให้กันเบาๆ ความเบิกบานห่อหุ้มในหัวใจจนแทนดาวลืมเรื่องข้องใจไปชั่วขณะ ลำแขนแกร่งโอบไหล่ลาดไปยังโรงภาพยนตร์

“น้องพลูลืมหยิบเสื้อแขนยาวติดมือมาขอกุญแจรถได้ไหมคะ...จะเดินไปเอา เดี๋ยวเดียวเอง....โฆษณายังไม่ทันจบหรอกค่ะ”

“ไม่ต้องไปหรอก ขยับมาใกล้ ๆพี่นี่” เสียงทุ้มกระซิบบอกแล้วโอบเอวเล็กเข้ามาจนชิด

“อุ่นยัง ?”

คนถูกถามเพียงแต่พยักหน้ารับ ร่างกายบางส่วนสัมผัสกับกล้ามเนื้อที่ห่อหุ้มเลือดอุ่นความอุธัจที่ถูกกอดแนบชิดอาบไปทั่วสรรพางค์กายจนต้องเอนอิงศีรษะแนบกับซอกไหล่หนา สักเดี๋ยวก็รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ รดผะแผ่วตรงข้างแก้มตามด้วยเสียงสูดหายใจเข้าปอดแรง ๆ เร็ว ๆ ในเมื่อชลธียังเอาใจใส่เสมอต้นเสมอปลายก็ไม่เห็นเหตุผลอันใดทีจะติดใจสงสัยในเรื่องที่ได้เห็นผ่านตาวันนี้อัยดา...อาจเป็นลูกค้า พนักงาน หรือใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวพันกับเขาในเชิงชู้สาวเสมอไป

“อกพี่อุ่นกว่าผ้าห่มเป็นไหน ๆ ”

ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือของนักเขียนผู้โด่งดังระดับโลกที่กำลังฉายอยู่เบื้อหน้าสนุกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยแต่คงไม่ใช่กับสาวน้อยที่นอนซบไหล่ชายหนุ่มอยู่ตอนนี้เป็นแน่ไม่เช่นนั้นคงมิหลับคอพับอย่างนี้ ช่วงครึ่งแรกก็ยังนั่งเบิกตาโพลงดูอย่างดี แต่พอเลยกลางเรื่องไปไม่ทันไรก็สลบไสลอยู่กับอกของชลธีนั่นเอง

“น้องพลู...ตื่นเร็วมันจะเฉลยความจริงแล้วนะ...ไม่ดูเหรอ”

ชายหนุ่มเขย่าตัวคนกำลังหลับแรง ๆอยากจะหยิกเจ้าของแก้มสีเรื่อนี้นักที่บ่นอยากดูหนังแต่กลับหลับปุ๋ยไม่คุ้มราคาตั๋วกับที่นั่งพิเศษเลยพอเห็นว่าคนขี้เซาไม่มีทีท่าว่าจะลืมตาง่าย ๆ ก็เลยก้มลงจุ๊บปากหลาย ๆทีเป็นการปลุก

“อือ...พี่ชลทำอะไร”

“จะตื่นได้หรือยัง ? ถ้ายัง...ก็จะจุ๊บจนกว่าตาจะสว่าง” คนพูดกระซิบชิดปากนุ่ม

“งืม...พี่ชลดูแทนน้องพลูแล้วมาเล่าให้ฟังด้วย”

คนขี้เซาตอบเสียงยานแล้วซุกศีรษะกับอกกว้างอย่างเดิมสองแขนเรียวกอดเอวหนาเพิ่มสัมผัสไออุ่นจากร่างตึงแน่น ชลธีขยับตัวให้อยู่ในอิริยาบถผ่อนคลายมากขึ้นแสงวูบวาบจากจอภาพยนตร์ขนาดใหญ่เบื้องหน้าส่องให้เห็นรอยยิ้มเอ็นดูฉาบชัดบนใบหน้าเคร่งขรึมสองแขนแกร่งรัดร่างอรชรแน่นขึ้นแล้วบ่นพึมพำ

“ดูสิ...เกาะเป็นลูกลิงเชียว”

วันพระราชทานปริญญาบัตรของแทนดาวมาถึงในที่สุดเทียมภพมองสาวน้อยในเสื้อครุยสีขาวโปร่งที่กำลังเดินฉีกยิ้มกว้างเข้ามาหาด้วยความภาคภูมิใจจนไม่อาจบรรยายได้แขนเรียวข้างหนึ่งกอดใบปริญญาบัตรเดินเบียดกลุ่มบัณฑิตใหม่กับบรรดาญาติ ๆ ตรงมายังจุดนัดหมายที่สมาชิกครอบครัวรออยู่หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งกับพื้นตรงหน้าพี่ชายแล้วก้มกราบแทบตักแบบไม่อายใครจากนั้นก็ยื่นปริญญาบัตรหุ้มปกไหมสีน้ำเงินติดตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยให้

“น้องพลูขอตอบแทนพระคุณของพี่หมากที่เลี้ยงดูมาอย่างดีจนมีวันนี้...ด้วยปริญญาใบนี้ค่ะ”

เทียมภพลูบศีรษะเล็กด้วยอาการน้ำตาเอ่อคลอเบ้าเพราะความปลาบปลื้มใจเด็กผู้หญิงขี้แยและแสนงอนในวันวานบัดนี้ได้เป็นบัณฑิตสง่างามสมภาคภูมิ ในหัวใจเต็มไปด้วยความปิติยินดีขณะอ่านตัวอักษรทุกตัวบนปริญญาบัตรในมือเขาเข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นพ่อมากขึ้นว่า เวลาเห็นลูกประสบความสำเร็จมันมีความสุขและปลื้มอกปลื้มใจเพียงใด

“พี่ขอให้น้องพลูประสบแต่ความสำเร็จในชีวิตยิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ” เทียมภพดึงตัวน้องสาวมากอดแนบแน่น ความสุข

ใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการที่ได้เห็นคนที่กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูมาประสบความสำเร็จในวันนี้ขนาดว่าคุณพ่อคุณแม่อยู่ตรงนั้นด้วย

แท้ๆ แต่แทนดาวก็เลือกที่จะไปหาพี่ชายก่อนเสร็จแล้วจึงค่อยเข้าไปกราบท่านตามลำดับ

“ทุกคนมองกล้องค่ะ”

เสียงใส ๆของตากล้องสาวร้องบอกสมาชิกครอบครัวที่ยืนรวมตัวในซุ้มลูกโป่งสีสันสดใสหน้าตึกคณะ ในอ้อมกอดของแทนดาวเต็มไปด้วยช่อดอกไม้แสดงความยินดีมือข้างหนึ่งกอดปริญญาบัตรไว้มั่น พอแทนขวัญนับให้สัญญาณทุกคนก็ฉีกยิ้มกว้าง ความยินดีเปื้อนอยู่บนใบหน้าของทุกคน

“ยินดีด้วยนะครับ...บัณฑิตใหม่” ชลธีตามมาสมทบในไม่ช้าในอ้อมแขนของเขามีตุ๊กตาแมวตัวโตลายดำพาดขนสีขาวซึ่งขนาดของมันใหญ่มากจนบังหน้าบัณฑิตเสียมิดอีกมือถือช่อทิวลิปสีชมพูช่อใหญ่

“ขอบคุณค่ะ นี่มันเจ้าจี้จังนี่นา...”แทนดาวยิ้มกว้างขณะรับช่อดอกไม้พร้อมกับอุ้มเจ้าแมวยักษ์ที่ชื่อว่าจี้ซึ่งเป็นแมวในการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ชื่นชอบ

“พี่ชลกับพี่พลูยืนชิดกันหน่อยค่ะ”

แทนขวัญตะโกนบอกพร้อมกับยกกล้องอีกตัวที่ติดเลนส์สำหรับถ่ายภาพบุคคลเล็งไปที่ทั้งคู่ชลธีขยับเข้าไปใกล้แล้วใช้แขนข้างหนึ่งโอบเอวสาวน้อยเอาไว้แต่กระนั้นก็ยังได้ยินเสียงกระแอมกระไอของพี่ชายบัณฑิตขัดขึ้นเป็นการเตือนให้รู้ว่าควรถอยห่างจากน้องสาวสักเล็กน้อย

“พี่อชิ...มาถ่ายรูปกันค่ะ”

แทนดาวร้องเรียกหนุ่มแว่นที่เพิ่งมาถึงไล่ๆ กัน อชิตะมอบช่อดอกไม้พร้อมกับกล่องของขวัญใบย่อมให้ คู่ซี้มองอย่างไม่ใคร่ไว้ใจนักถึงแม้ว่าหมอหนุ่มจะประกาศชัดเจนว่าไม่ได้คิดวอกแวกกับแทนดาวแล้วก็ตามแต่ถึงอย่างไรสองหนุ่มคู่ดูโอก็ยังคงวางอชิตะเอาไว้ในตำแหน่ง ‘ผู้ต้องสงสัย’ อยู่วันยันค่ำ

“พี่ดีใจด้วยนะครับอ้อ...แล้วก็ยินดีด้วยที่น้องพลูได้อยู่วงออร์เคสตร้า ได้ข่าวว่าอาทิตย์หน้าจะไปแสดงคอนเสิร์ตที่อัมสเตอร์ดัมใช่ไหม”

“ค่ะ...ไปอัมสเตอร์ดัมแล้วก็มิวนิคอ้อ...เดือนพฤศจิกามีคอนเสิร์ตใหญ่ที่หอประชุมแห่งชาติ น้องพลูได้เดี่ยวเปียโนต่อหน้าพระพักตร์ด้วย...ชวนพี่อชิไว้ก่อนเลยค่ะแล้วจะเอาบัตรเชิญไปให้ทีหลังนะ” หญิงสาวเล่าเสียงใสประกายตาฉาบไปด้วยความร่าเริงไม่เคยเปลี่ยน

“พี่ไปดูแน่นอนครับ”

“สวัสดีค่ะ...คุณหมอคิมโดฮัน”แทนขวัญทักทายอย่างเป็นกันเองแทนดาวส่งสายดุน้องสาวที่ไปเรียกชื่อเขาแบบนั้นแต่อชิตะก็ยิ้มอย่างไม่ถือสา

“สวัสดีครับน้องขวัญวันนี้มาเป็นตากล้องเหรอครับ”

ชายหนุ่มทักกลับพลางสังเกตสาวน้อยตรงหน้าในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นกับกางเกงยีนส์เข้ารูปผมยาวรวบตึงขมวดเป็นก้อนกลมคล้ายซาลาเปาตรงกลางศีรษะ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาชื้นเหงื่อ ที่คอมีกล้องสองตัวต่างขนาดกันคล้องอยู่ที่หลังสะพายเป้ใบโตใส่อุปกรณ์ที่ดูออกจะใหญ่เกินตัวไปเสียหน่อย

“ค่ะ...ช่วงนี้ขวัญรับจ๊อบถ่ายภาพถ้าคุณหมอมีงานอะไรก็ติดต่อได้เลยนะคะ”

“น้องขวัญก็เพิ่งเรียนจบเหมือนกันค่ะตอนนี้มาพักอยู่กับน้องพลูระหว่างรอเปิดเทอม อ้อ...ลืมบอกว่าน้องขวัญกำลังจะไปเรียนต่อสาขาการถ่ายภาพที่แมนเชสเตอร์”แทนดาวอวดสรรพคุณน้องสาว

“ขวัญชอบถ่ายรูปนี่ไง...กล้องตัวนี้พี่หมากกับพี่ตั้มหุ้นกันซื้อให้เป็นของขวัญเรียนจบ”แทนขวัญหยิบกล้องตัวใหญ่ที่

คล้องคออยู่ให้ดูอย่างอวดๆ อชิตะเพียงแต่ยิ้มสุภาพตามแบบฉบับเนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องกล้องมากนักก็เลยไม่รู้ว่าจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรดี

“ดีจัง น้องสองคนมีพรสวรรค์กันคนละอย่างว่าแต่....น้องขวัญจะเดินทางเมื่อไหร่ล่ะ”

“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นหมอรู้แล้วจะตามไปส่งหรือไง” คนที่ตอบคำถามกลับเป็นเทียมภพเขาแทรกตัวเข้ามาอยู่กลางวงสนทนา ดวงตากราดเกรี้ยวจับจ้องที่หนุ่มแว่นไม่ลดละ เส้นที่ไม่ค่อยจะกินกันสร้างความไม่พอใจมากขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าระรื่นซ่อนไว้ภายใต้กรอบแว่นยามสนทนากับน้องสาวทั้งสอง

“ถ้าว่าง...ผมก็คิดว่าจะไปหรือถ้าไม่ว่าง...ก็จะทำตัวให้ว่าง” อชิตะตอบเรียบๆ แล้วส่งยิ้มให้แทนขวัญที่ต้องก้มหน้าเก็บอาการบางอย่างรู้สึกแปลกประหลาดที่อชิตะพูดแบบนั้น จะเป็นจริงหรือเป็นเล่นก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ มันทำให้ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาเพราะกลัวคนอื่นจะเห็นอาการเขินขัด

“พี่หมาก...วันนี้วันดีอย่ามีเรื่องเลยนะคะเราย้ายไปถ่ายรูปที่อื่นกันมั่งเถอะน้องขวัญ” แทนดาวเรียกน้องสาวแล้วเดินนำคนอื่น ๆ ให้ตามไปคงเหลือเพียงสองหนุ่มที่ยังยืนอยู่ที่เดิมเทียมภพรอให้ทั้งหมดเดินห่างออกไปแล้วก็เอ่ยปากกับหนุ่มแว่นด้วยน้ำเสียงที่บ่งชัดว่าพื้นไม่ค่อยจะดี

“นี่หมอ...ถามจริง ๆ เถอะผู้หญิงทั้งโลกมีบานตะไท ทำไมไม่ไปหาไกล ๆ จากรั้วบ้านผมหน่อยไม่น้อง...ก็หลานผมอยู่นั่นแหละ”

“งั้นคุณหมากตอบผมได้ไหมว่าทำไมถึงไปรักคุณแฟงทั้งที่เธอเป็นน้องสาวคนที่คุณ...ไม่ชอบหน้าในเมื่อยังมีผู้หญิงอีกบานตะไทอย่างที่คุณว่า” เจอคำย้อนศรแบบนี้เข้าไปก็ทำเอาคนฟังสะอึกเหมือนกันเพราะมันจี้จุดในใจตรงเผง

“คุณหมาก...คุณหมอไปตรงโน้นเถอะค่ะ ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็จะได้ไปร้านเฮียเบิ้มเลย เชิญคุณหมอด้วยนะคะ”

รมย์นลินเดินมาตามสามีและห้ามทัพไปในตัวหลังรับรู้จากแทนดาวว่าสามีกำลังหาเรื่องคนหน้าท้องป่องนูนตามอายุครรภ์ห้าเดือนยังไม่เด่นชัดนักอันเป็นลักษณะของท้องสาว แต่กระนั้นก็ยังไม่ทราบเพศอยู่ดีเพราะว่าทารกในครรภ์หนีบขาไว้ตลอดเทียมภพเลยฟันธงเอาเองว่าน่าจะเป็นเพศหญิงเพราะลูกขี้อายเหลือเกิน

“คุณหมากพยายามอย่าหงุดหงิดบ่อยนะครับอาการหงุดหงิดแบบนี้อาจทำให้คุณแม่เครียดจนส่งผลต่อเด็กในท้องได้เหมือนกันนะครับยิ้มครับ...ยิ้มเข้าไว้ เป็นคุณพ่อแล้ว อะไรที่ปล่อยวางได้...ก็วางเสียมั่งนะครับขนาดบุหรี่คุณยังเลิกได้...เรื่องมีจิตผูกพยาบาทก็ละบ้างเถอะครับ” อชิตะทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดีรมย์นลินแอบยิ้มขำสามีที่โดนย้อนเข้าให้

“ไอ้นี่ ! ปากคอแบบนี้ไม่น่าจะเป็นหมอคนนะ น่าจะไปเป็นหมอผี...ไม่ก็หมอลำ” 



Create Date : 05 มิถุนายน 2559
Last Update : 5 มิถุนายน 2559 17:40:54 น.
Counter : 504 Pageviews.

1 comments
  
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:15:35:53 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อิสวารายา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 นักเขียนหน้าใหม่นามปากกาว่าอิสวารายาได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆกับนวนิยายรักอบอุ่นหัวใจเรื่อง ปลูกรักในรั้วใจ จำได้ว่าเมื่อ 9 ก่อนนั้นนวนิยายเรื่องยาวนี้เป็นที่นิยมของแฟนนักอ่านที่น่ารักหลายท่าน เนื้อเรื่องได้ดำเนินมาถึงตอนใกล้จบแต่ writer ก็หยุด update ต่อจนจบเนื่องจากเกิดเหตุคอมพิวเตอร์ขัดข้อง เนื้อหาที่เป็นต้นฉบับไม่สามารถเรียกมาได้ ก็เลยหมดกำลังใจที่จะนั่งพิมพ์ใหม่ เนื้อเรื่องที่ได้ post ไว้ทั้ง 3 pages (Dek-D, Bloggang, Jamsai) ก็ไม่เหมือนฉบับ rewrite ที่ได้วางพลอตเอาไว้จนถึงตอนอวสาน พอทิ้งไปนานๆเข้าก็เริ่มไม่มีเวลาเพราะยุ่งกับงานรวมถึงการศึกษาต่อ

จนกระทั่งวันนี้ ผ่านไปแล้ว 9 ปี ก็คิดถึงปลูกรักในรั้วใจขึ้นมา เลยลอง search ใน google ก็ยังพบว่าปลูกรักในรั้วใจยังคงอยู่ ประกอบกับมีนักอ่านบางท่านยังคงมา comment อยู่ อิสวารายาก็รู้สึกผิดและคิดว่าควรจะสานต่อปลูกรักในรั้วใจให้สมบูรณ์เสียที ให้สมกับที่แฟนนักอ่านรอคอยให้น้องพลูกับพี่ชลกลับมา ดังนั้นจึงนั่ง copy เนื่อเรื่องจากเวบเอามาเขียนใหม่ โดยอิสวารายาเริ่มหยิบเนื้อหามาค่อยๆ rewrite ใหม่ตั้งแต่เดือน พ.ย. 58

น้องพลูกับพี่ชลกำลังจะกลับมา พร้อมกับเนื้อหาที่ปรับแต่งใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย นอกจากนั้นยังพิ่มบท ตัวละคร เพื่อให้มีอรรถรสมากขึ้น

นวนิยายเรื่องนี้จะได้รับการตีพิมพ์หรือไม่นั้นไม่สำคัญ แต่อิสวารายาคิดถึง น้องพลู พี่หมากและพี่ชล และต้องการให้พวกเขากลับมา มาร่วมสร้างความรัก ความอบอุ่น กับนวนิยายรักน่ารักเรื่องนี้กันใหม่อีกครั้งนะคะ

รักและคิดถึงที่สุด
อิสวารายา
20 ก.พ. 2559
New Comments
  •  Bloggang.com