หน้าตาเราก็ได้เพียงเท่านี้...จิตใจสิ--แย่กว่าหน้าตาอีก...
 
กรณีพ่อแม่เลิกกันแล้วเด็กถูกสอนให้เกลียดพ่อ/แม่

วันก่อนเดินเลือกชุดว่ายน้ำในห้าง ฟังพนักงานขายคุยกันปรับทุกข์ชีวิตครอบครัว คือ สามีไปมีคนอื่น แอบซ่อนไม่ให้รู้มาสองปี พอจับได้ก็อาละวาดทุบตีทั้งสามีและผู้หญิงอีกคน โชคดีที่สามีไม่ได้ตอบโต้ เป็นเรื่องที่ได้เห็นได้ยินได้ฟังกันทั่วไปแหละค่ะ แต่ฝนฯติดใจอยู่ประเด็นหนึ่ง คือ การที่ภรรยาหลวงไปกรอกหูลูกชายคนเดียว อายุสิบเอ็ดขวบ ด่าประจานความเลวของพ่อให้เด็กฟัง เสี้ยมสอนให้เกลียดพ่อ ต่อต้านพ่อ จนในที่สุดเด็กเกลียดพ่อ รักแม่ เธอก็ภูมิใจซาบซึ้งใจ

นึกแล้วก็สงสารเด็ก ไม่ใช่สงสารที่พ่อแม่มาเลิกกัน แต่สงสารที่โดนแม่ตัวเองทำร้ายโดยไม่เจตนา ทำร้ายลูกด้วยคำพูดด่าทอคนอื่นให้เด็กฟัง พ่อเด็กไม่ได้มารับรู้หรือเจ็บปวด แต่เด็กเองคือคนรับ เด็กถูกกระทำให้เกิดภาพความเลวร้ายของพ่อขึ้นในใจ เป็นความรู้สึกลบที่จะเข้าไปฝังในจิตใต้สำนึก วันหนึ่งวันใดที่เด็กเจอเหตุการณ์คล้ายๆกัน จะแสดงสิ่งที่เก็บไว้ในจิตใต้สำนึกออกมา กลายเป็นถ่ายทอดความปากร้ายและการทำร้ายลูกและคนรอบข้างต่อไปในรูปแบบเดียวกับที่ได้รับมาจากผู้เป็นแม่

ฝันร้ายเรื่องพ่อ ไม่ได้มีน้ำหนักมากพอที่จะทำร้ายลูกได้มากเท่ากับที่แม่ไปเติมเชื้อไฟ สร้างโปรโมเตอร์ให้เกิดในตัวเด็ก เท่ากับว่าเด็กเองโดนสองทาง ทั้งความเสี่ยงที่จะมีเมียน้อย ทำภรรยาตัวเองเจ็บช้ำในอนาคต กับการทำร้ายคนรอบข้างด้วยวาจาเชือดเฉือน ความเคียดแค้นในใจ ฝนฯเชื่อว่าเด็กมีแนวโน้มเป็นคนโกรธง่าย หงุดหงิด และเจ้าคิดเจ้าแค้นกับเรื่องความบาดหมาง แม้ว่าจะเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย ต่อไปในอนาคต

เรื่องนี้ว่าไปเหมือนกงเกวียนกำเกวียน เหมือนละครแม่ผัวลูกสะใภ้ แม่ผัวตัวแสบมักเคยเจอแม่ผัวตัวแสบมาก่อนเช่นกัน บ้านที่พ่อไปมีเมียน้อย ลูกชายก็ไปมีเมียน้อยตามพ่อ เพื่อนดิฉันคนหนึ่งก็มีลักษณะคล้ายๆกันกับเด็กคนที่เล่านี้ คือ เธอโดนสอนให้เกลียดพ่อ ที่บ้านในวัยเด็กมีแต่การด่าทอตบตีกัน จนตอนนี้แต่งงานมีสามี เธอก็ติดกับดักในอดีต ทำร้ายสามีตัวเอง ด่าทอคนอื่นรายวัน ทุบตีสามี เห็นเป็นแผลโชว์ชาวบ้าน จะมีสักกี่คนที่หักใจ รอดหลุดมาจากวงเวียนอันน่าสลดเดิมๆนี้ได้


Create Date : 20 มิถุนายน 2551
Last Update : 20 มิถุนายน 2551 11:25:48 น. 3 comments
Counter : 620 Pageviews.  
 
 
 
 
สงสารเด็กนะค่ะ
 
 

โดย: whitelady วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:23:20:17 น.  

 
 
 
ชีวิตคนเรามันก็เหมือนละครละค่ะ
 
 

โดย: สแกวัลย์ วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:10:50:06 น.  

 
 
 
คนเรารักตัวเองมากไปก็เป็นแบบนี้แหละ ขาไม่ได้อยู่เพื่อโอบอุ้มคนรุ่นถัดไปนะ
 
 

โดย: ติ๊ก IP: 202.91.19.192 วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:33:11 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ฝนเดือนเจ็ด
 
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นครูมหาวิทยาลัย สอนวิชาการพูด สนใจงานด้านจิตวิทยาการดูแลเด็ก ไม่ชอบเล่นกีฬา ชอบกินแมงกะพรุน,ปลิงทะเล และอาหารเวียดนาม ความหวังในชีวิตคือ อยากรวย
[Add ฝนเดือนเจ็ด's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com