|
เล่านิยาย เรื่องที่ 2-5
พระเอกช่วยนวดให้ไปปากก็บ่นไปว่าบอกเจ้าตั้งหลายครั้งแล้วว่ายอดแม่ทัพจริงๆ ต้องวางแผนการรบเอาชัยข้าศึกอยู่ในกระโจม เจ้าก็ชอบออกไปดวลกับทหารข้าศึกอยู่เรื่อย ทำเอาได้แผลเต็มตัวกลับมาทุกที นางเอกก็เถียงว่าเอาแต่หลบบัญชาการอยู่แต่ในกระโจมมันจะไปสนุกอะไร แล้วร้องโวยวายว่าพระเอกนวดเจ็บเกินไปแล้ว พระเอกดุว่าพูดจาโวยวายไม่เป็นกุลสตรีเลย นางเอกเถียงว่าพระเอกเลี้ยงมันมาให้เป็นแม่ทัพพาทหารออกรบ ไม่ได้เลี้ยงให้เป็นเจ้าสาวรอแต่งงานซะหน่อย แล้วแอบเหล่พระเอก พูดเปรยๆ เหมือนไม่ได้สนใจว่า ได้ยินว่าพระเอกไม่สนใจเรื่องที่ญาติของพระเอกมาสู่ขอนางเอกเลย?
พระเอกเลิกคิ้ว บอกว่าขืนพระเอกยอมเป็นผู้ใหญ่จัดการให้ กลัวว่าญาติมันคนนั้นจะมาโวยว่ามันทีหลังว่าไปทำชีวิตเขาล่มทั้งชีวิตน่ะสิ นางเอกฟังแล้วหน้างอ โวยว่าพระเอกพูดดูถูกมันเกินไปแล้ว 2-3 ปีมานี้น่ะ คนที่มาสู่ขอนางเอกเยอะมากจนเข้าแถวได้ยาวตั้งจากหน้าประตูวังหลวงไปจนถึงริมแม่น้ำประจำเมืองเชียวนะ พระเอกศอกกลับนิ่มๆ ว่า เจ้าไม่ได้กลับมาเมืองหลวงนานเกินไป จึงไม่รู้ว่าวังหลวงมีการแก้ไขก่อสร้างใหม่ ตอนนี้น่ะประตูวังหลวงอยู่ห่างจากแม่น้ำประจำเมืองแค่สามก้าวเท่านั้น ยืนเข้าแถวกันสองคนยังเบียดเกินไปเลย
นางเอกทั้งฉิวทั้งขำ พูดเปรยว่าจะว่าไปก็แปลกดีนะที่มีคนมาสู่ขอมันมากขนาดนี้ เขาไม่กลัวเมียดุกันบ้างหรือไง? พระเอกพูดเสียงเฉยชาว่าคนที่คิดจะแต่งแม่ทัพใหญ่เป็นภรรยาน่ะ นอกจากเอาไว้อวดคนอื่น ข้าก็นึกเหตุผลอื่นไม่ออกแล้ว นางเอกฟังแล้วอุ่นวาบอยู่ในใจ เพราะแปลว่าพระเอกรู้ดีว่าพวกนั้นมาสู่ขอไม่ใช่เพราะรักนางเอก ดังนั้นเลยไม่เคยรับปากใครเลยสักคน นี่เป็นการแสดงความห่วงใยนางเอกโดยไม่พูดออกมาในแบบของพระเอก และจากที่อยู่ด้วยกันมาแปดปี นางเอกก็อ่านนิสัยและท่าทีนี้ของพระเอกออกเป็นอย่างดี
พระเอกปล่อยมือนางเอก พูดสั่งสอนต่อว่า การปราบชนเผ่านอกด่านของเจ้าในครั้งนี้ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด แต่เสี่ยงอันตรายมากเกินไป ใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ หากเกิดผิดพลาดขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ต่อให้กองทัพเรือนแสนก็ไม่สามารถรั้งสถานการณ์กลับได้
นางเอกเบือนหน้าหนี พูดเบาๆ ว่าข้าไม่วางใจให้ท่านอยู่ในวังหลวงเพียงลำพัง พระเอกฟังแล้วอึ้งไป เข้าใจความหมายและอารมณ์ที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้นดี ขมวดคิ้วพูดเสียงหนักว่า ยังไม่มีใครทำให้เขาลำบากใจได้ นางเอกได้ฟังก็ยิ้ม เพราะชอบเวลาพระเอกแสดงท่าทางหยิ่งผยองแบบนี้ออกมามากที่สุด พระเอกเห็นนางเอกยิ้มแล้วใจไหววูบ (ช่วงใกล้ๆ นี้มันเริ่มมีใจให้นางเอก จึงหวั่นไหวกับปฏิกิริยาและสีหน้าท่าทีของนางเอกอยู่เรื่อย) แต่ฝืนข่มเอาไว้ไม่แสดงออกมาให้เห็นทางสีหน้า ตีหน้าเครียดพูดสั่งสอนต่อว่า สอนพิชัยยุทธ์กับรูปแบบขบวนทัพให้เจ้าตั้งมากมาย เจ้ากลับชอบแต่รบแบบตะลุมบอนอยู่เรื่อย ถ้าเจอกับยอดฝีมือด้านพิชัยยุทธ์จริงๆ เข้า... พระเอกนึกไปถึงแม่ทัพเกราะทองของแคว้นเพื่อนบ้านซึ่งถูกสั่งขังลืมไปตั้งแต่เมื่อแปดปีก่อน แต่จากสายสืบที่พระเอกวางไว้ในแคว้นนั้นได้ส่งข่าวมาบอกว่า มีแววว่าแม่ทัพเกราะทองอาจจะได้รับอภัยโทษปล่อยตัว
นางเอกฟังที่พระเอกพูดสั่งสอนแล้วขมวดคิ้ว เถียงว่า ทำศึกแค่รบชนะให้ได้ก็พอแล้วนี่ จะใช้วิธีไหนมันก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง? ทั้งแคว้นเราก็มีแต่เจ้านี่แหละ ที่ข้ารบชนะกลับมาก็ยังไม่ลืมที่จะพูดจาสั่งสอนข้า
พระเอกหน้าเครียด พูดว่า หลักในการเป็นแม่ทัพ ถือสาโอหังถือสาลำพอง ไม่อย่างนั้นจะชักพาภัยใส่ตัว เจ้าต้องจำไว้ให้มั่น แล้วคิดในใจว่าตัวนางเอกในตอนนี้ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแม่ทัพเกราะทอง และถึงเวลาจะผ่านมาแปดปีแล้ว เขาก็ยังคงจำได้ดีว่าในตอนนั้น แม่ทัพเกราะทองเก่งกาจเหี้ยมหาญมากแค่ไหน
นางเอกกลับโบกมือให้พระเอกอย่างรำคาญ พูดว่า พูดว่าพระเอกสอนให้นางเอกท่องเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว บอกว่าเป็นพิชัยยุทธ์ที่คนจงหยวนที่ชื่อขงเบ้งอะไรนั่นพูด แล้วผลลัพธ์เป็นไง ไอ้ที่เขาบอกว่า ข้อเสียของแม่ทัพ น่ะ ข้าเป็นมันหมดทุกข้อเลย แล้วทำไมข้าไม่เห็นจะล่มจมล่มสลาย ยังมีชีวิตอยู่เป็นปกติสุขดีเล่า? ในจงหยวนมีคนที่ชื่อซุนอู่อีกคน ตำราพิชัยสงครามที่เขาเขียนยิ่งน่าขำเข้าไปใหญ่ แผนการรบต้องเคลื่อนไหวโดยศัตรูมิอาจหยั่งคาดเอย ต้องจู่โจมยามข้าศึกไม่ทันระวังตั้งตัวเอย เก้าเปลี่ยนแปลงเอย เก้าชัยภูมิเอยอะไรนั่น ร่ายมาซะมากมายก่ายกอง สุดท้ายกลับบอกทุกคนว่าทางที่ดีที่สุดคืออย่าทำสงคราม ช่างพิลึกสิ้นดี ข้าว่าไว้สักวันข้าเขียนตำราพิชัยสงครามเองบ้างสักเล่มดีกว่า ต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ
พระเอกฟังแล้วส่ายหน้า พูดว่านับแต่โบราณมา ยิ่งเป็นนักการทหารที่เก่งมากเท่าไร ก็ยิ่งตระหนักถึงผลเสียของการทหารที่มีต่อประเทศและประชาราษฎร์มากเท่านั้น ดังนั้น... พูดถึงตรงนี้นางเอกก็เบือนหน้าไปอีกทางอย่างไม่สนใจ ถามอย่างจะเปลี่ยนเรื่องว่า เจ้าได้ยินเสียงเหยี่ยวร้องหรือเปล่า? ทำไมในวังหลวงถึงมีเสียงเหยี่ยวร้องด้วย?
พระเอกรู้ว่านางเอกเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากฟังเขาอบรมต่อ จึงได้แต่ฝืนยิ้มอย่างอ่อนใจ ยอมเปลี่ยนเรื่องตาม พูดว่าในอุทยานมีกรงขังเหยี่ยวที่จับมาให้พวกเชื้อพระวงศ์เอาไว้ช่วยล่าสัตว์อยู่ นางเอกพูดว่าขัดตาพวกลูกหลานเชื้อพระวงศ์พวกนี้มากที่สุดแล้ว ชอบอวดโอ่ว่าตัวเก่ง แต่ไม่ชอบไปออกรบ เอาแต่ใช้เหยี่ยวช่วยล่ารังแกสัตว์ที่อ่อนแอกว่า ไม่เห็นจะมีบุคลิกลูกผู้ชายชาตรีเลย พระเอกแค่เหลือบมองนางเอกอย่างครุ่นคิดโดยไม่ต่อคำ คิดในใจว่านางเอกโตแล้วจริงๆ จากเด็กผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นเป็นหญิงสาวที่เปิดเผยห้าวหาญ ทุกกิริยาท่าทางต่างแสดงออกถึงความองอาจดึงดูดใจจนเขาเห็นแล้วไม่อาจละสายตาได้
นางเอกหันกลับมายิ้มให้พระเอกแล้วพูดว่าเจ้าเองเล่า อายุย่างเข้าสามสิบปีแล้วยังครองตัวเป็นโสดอยู่อีก คิดจะรักษาตัวเพื่อฮ่องเต้หรือยังไง? พระเอกพูดเสียงหนักว่า ก่อนที่ฮ่องเต้จะยืนหยัดด้วยตัวเองได้ ข้าไม่เคยคิดจะแต่งงาน พอนึกถึงฮ่องเต้ อารมณ์ที่หวั่นไหวไปกับนางเอกของพระเอกก็สงบเหมือนน้ำนิ่งทันที
นางเอกโวยว่าข้าไม่ชอบสีหน้าแบบขุนนางผู้ภักดีแบบนี้ของเจ้ามากที่สุดแล้ว และนึกริษยาฮ่องเต้อยู่ในใจ พูดต่อว่านางเอกช่วยปราบพวกคนเถื่อนให้พระเอกแล้ว พระเอกยังจะมีอะไรที่วางใจไม่ได้อีก?
พระเอกบอกนางเอกเป็นอัจฉริยะด้านการทำศึกก็จริง แต่เรื่องปกครองบ้านเมืองนางเอกไม่รู้เรื่องเลยสักนิด พระเอกจึงต้องหาคนอื่นมารับช่วงช่วยฮ่องเต้ปกครองบ้านเมืองต่อจากมัน อีกอย่าง... พระเอกหันมาจ้องหน้านางเอก พูดเน้นเสียงว่า นางเอกไม่ได้รบเพื่อมัน นางเอกรบเพื่อฮ่องเต้และแคว้นของเราต่างหาก
นางเอกสอดคำทันทีว่าพอแล้ว เลิกยกคำพูดแสนภักดีที่น่าเบื่อแทบตายพวกนั้นขึ้นมาพูดสักทีขอร้อง หลายปีมานี้ข้ายังฟังมาไม่พออีกหรือไง? เลิกพูดเรื่องน่าเบื่อพวกนี้ดีกว่า ไปดูนกกันเถอะ แล้วดึงแขนเสื้อพระเอกไปทางที่ได้ยินเสียงเหยี่ยวร้อง พระเอกยิ้มบางๆ ยอมเดินตามไปโดยไม่ดึงแขนเสื้อออก
ไปถึงกรงนก นางเอกดูนกพลางถอนใจชมว่าเป็นนกที่สวยจริงๆ พระเอกยิ้มบางๆ ไม่พูดอะไร เพราะรู้นิสัยนางเอกมานานว่าชอบอะไรไม่เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป พระเอกดูเหยี่ยวในกรงแล้วรู้สึกว่ามันเหมือนกับนางเอกมาก เชิดคออย่างหยิ่งผยอง รักอิสระ นึกถึงตรงนี้ อยู่ๆ พระเอกก็รู้สึกถึงสังกรณ์อันตรายขึ้นมาอย่างประหลาด นางเอกบอกว่าจับเหยี่ยวแบบนี้มาขังไว้ ออกจะน่าเสียดายเกินไป เลยทำท่าจะเปิดกรงขังปล่อยนกเป็นอิสระ พระเอกรีบคว้ามือนางเอกไว้ พูดห้ามว่านี่เป็นของของวังหลวง จะสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินของของวังหลวงไม่ได้
นางเอกพูดเสียงดูถูกว่า อย่าบอกนะว่าท้องฟ้านี้ ลมที่พัดผ่านนี้ก็เป็นของของวังหลวงแห่งนี้เหมือนกัน? ลูกหลานเชื้อพระวงศ์คิดจะล่านก ทำไมไม่ไปฝึกฝีมือยิงธนูให้ดีๆ กลับมาให้เหยี่ยวช่วยล่าให้? มีเหยี่ยวตัวไหนบ้างที่ยินยอมพร้อมใจให้สั่งใช้งาน? พูดจบมือที่ถูกพระเอกจับอยู่ก็ถูกบีบแน่นทันที สีหน้าพระเอกเริ่มเครียด นางเอกเห็นก็ถามอย่างไม่เข้าใจว่าพระเอกเป็นอะไรไป? พระเอกบอกไม่มีอะไร แล้วปล่อยมือนางเอกอยางเย็นชา
ตั้งแต่นางเอกโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเป็นต้นมา ไม่รู้เพราะอะไรเวลาที่นางเอกแสดงท่าทีพยศไม่เชื่อฟัง สัญญาณเตือนภัยจะวูบขึ้นในใจพระเอกอย่างประหลาดทุกครั้ง เหมือนกับว่าที่ข้างตัวมีภัยคุกคามที่อันตรายมากอยู่ ส่วนนางเอกนึกในใจว่านางเอกรู้ตัวมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าไม่เคยเดาได้เลยว่าพระเอกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ที่นางเอกหลงรักพระเอกก็เพราะเหตุนี้แหละ
ระหว่างที่ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างเงียบ ก็ได้ยินเสียงดนตรีลอยมา บ่งบอกว่าอีกแห่งหนึ่งในวังหลวงมีคนจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ชนกับงานเลี้ยงของฮ่องเต้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ไว้หน้าฮ่องเต้อย่างมาก พระเอกกำลังอารมณ์ไม่ดี เจอเรื่องแบบนี้เข้าเหมือนเจอโอกาสระบายอารมณ์ จึงตรงดิ่งไปทางต้นเสียงทันที
Create Date : 09 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2554 1:20:33 น. |
|
16 comments
|
Counter : 948 Pageviews. |
|
|
|
โดย: pepo IP: 183.89.53.94 วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:2:38:54 น. |
|
|
|
โดย: ซาลาสซา IP: 115.87.205.190 วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:8:43:55 น. |
|
|
|
โดย: vicka IP: 58.8.135.18 วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:50:22 น. |
|
|
|
โดย: chaluntharee IP: 49.228.196.129 วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:42:07 น. |
|
|
|
โดย: เพราะนิยายคือศิลปะแห่งตัวอักษร IP: 119.46.227.5 วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:49:26 น. |
|
|
|
โดย: yuechan IP: 203.209.39.84 วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:12:08:54 น. |
|
|
|
โดย: gebogift IP: 124.122.255.27 วันที่: 10 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:10:46 น. |
|
|
|
โดย: Nutty IP: 125.24.104.211 วันที่: 11 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:41:16 น. |
|
|
|
โดย: uknowvry IP: 61.90.22.225 วันที่: 11 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:13:19 น. |
|
|
|
โดย: fujiwara7sai IP: 118.173.129.107 วันที่: 11 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:17:26 น. |
|
|
|
โดย: pepo IP: 14.207.215.6 วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:0:20:50 น. |
|
|
|
โดย: ผสมสารกันบูด IP: 119.42.117.152 วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:1:00:57 น. |
|
|
|
โดย: chaluntharee IP: 49.229.223.232 วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:29:23 น. |
|
|
|
โดย: kp IP: 203.131.208.198 วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:28:00 น. |
|
|
|
โดย: gebogift IP: 124.121.1.86 วันที่: 13 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:17:33 น. |
|
|
|
โดย: Charia IP: 180.183.82.140 วันที่: 31 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:27:02 น. |
|
|
|
| |
|
|
เท่ทั้งคู่แต่พระเอกดูชาเย็น ลุ้นๆๆๆๆ