สวัสดีครับ ช่วงนี้ก็กำลังเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวกันแล้ว ทำให้ผมนึกถึงที่ ๆ ผมเคยไปพักเพื่อ ต้นหนาวที่แล้ว เลยอยากเอามาแนะนำให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้ชมกันนะครับ ที่ ๆ ผมจะไป Review ครั้งนี้คือ ที่พักที่อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี สำหรับอำเภอ สวนผึ้งนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ธารน้ำร้อน ทะเลหมอก น้ำตก เป็นสถานที่ที่สามารถเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวอากาศจะดีมาก ๆ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่มากประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ เองครับ
สำหรับที่พักที่ผมจะพาไปชมกันในครั้งนี้ เป็นที่พักชื่อดังในย่านสวนผึ้ง La Toscana Resort สวนผึ้ง มีสไตล์ของบ้านพัก เหมือนกับ Tuscany ซึ่งเป็นเมือง ๆ นึงในประเทศอิตาลี ไม่อยากเกริ่นกันยาวมาก ไปชมกันเลยครับ
การเดินทางมารีสอร์ท สังเกตง่าย ๆ นะครับ หลังจากที่เราวิ่งเข้ามาในเขตของสวนผึ้งเรื่อย ๆ จนถึง ภูผาผึ้งรีสอร์ทให้ วิ่งมาทางขวา อีกประมาณ 13 กิโลก็จะถึง ถ้าวิ่งมาเจอโรงเรียน (จำไม่ได้ครับว่าโรงเรียนอะไร ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย) ก็เตรียมชะลอหน่อยนะครับ รีสอร์ทจะอยู่ทางขวา คือพอโค้งมาปุ๊บ ก็เจอเลย
เมื่อจอดรถเสร็จเรียบร้อย เราก็ทำการ Check-In ที่ Lobby ก่อนเลยครับ ในรูปเป็น น้ำพุที่ตั้งอยู่แถว ๆ Lobby ครับ
Welcome Drink ที่นี่ เป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นชื่นใจกับผ้าเย็น ช่วยลดความอ่อนล้าในการเดินทางมาถึงที่นี่ได้ดีทีเดียวครับ
ความรู้สึกที่ได้รับเมื่อมาถึงในครั้งแรก รู้สึกได้ถึงความร่มรื่น ผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ได้หนังสือดี ๆ สักเล่ม ก็อาจทำให้คุณอยู่ได้โดยไม่รู้สึกเบื่อกันเลยทีเดียว
ในภาพเป็นบรรยากาศภายในรีสอร์ท เหมือนเรามาเที่ยว Park ตามที่ต่างประเทศเค้ามีกัน จะดูแตกต่างจากที่เคยเห็นในเว็บหน่อยนะครับ เข้าใจว่าในช่วงแรก ต้นไม้ยังไม่โตซักเท่าไหร่
ที่นี่ค่อนข้างใส่ใจกับรายละเอียดภายในรีสอร์ทเป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกว่า ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็อยากจะถ่ายรูปไปซะหมดเลย
ในรูปเป็นบ้านพัก Type Party Suite 2 : Ceramica จะเห็นได้ว่า ดูร่มรื่นมาก
Faclility อย่างนึงของรีสอร์ตนี้ ที่น่าใช้มาก ๆ นั่นก็คือ สระว่ายน้ำพร้อม Club House ครับ ขนาดใหญ่กำลังดี น่าเล่นมาก ๆ
ในรูปจะเป็น Zone ใหม่ของรีสอร์ต ในรูปแบบโรงแรม มีทั้งหมด 16 ห้อง ในแต่ละห้องจะมีการจัดตกแต่งที่ต่างกัน ไม่ทำให้เรารู้สึกว่า อยู่ในห้องของโรงแรมเลย ขนาดห้องกว้างขวาง และมีพื้นที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวพอสมควรครับ
ที่นี่มีแพะด้วยนะครับ แต่ผมไม่ได้เข้าไปในคอก เห็นเจ้าตัวนี้น่าสนใจดี เลยจัดมาสักshot
เรามาดูตัวบ้านพักของรีสอร์ทกันบ้างดีกว่านะครับ ในรูปจะเป็นบ้านพัก Citus เป็นบ้านพัก Type Party Suite 1 ในตัวบ้านจะแบ่งเป็น 3 ห้องให้เลือกเข้าพักครับ
เนื่องจากขณะที่ผมเดินสำรวจบ้านในแบบต่าง ๆ นั้น ยังมีคนเข้าพักอยู่ ผมจึงไม่อยากรบกวนความเป็นส่วนตัวของคนอื่น เลยไม่ได้เก็บรูปบ้านพักมาเยอะ (ใครอยากรู้ว่า บ้านแต่ละแบบ เป็นยังไง เข้าไปดูที่เว็บได้เลยครับ ข้อมูลที่ให้ค่อนข้างครบถ้วน รูปสวยกว่าของผมเยอะ) ต่อไปจะเป็นบ้านที่ผมเข้าพักครับ ชื่อบ้าน Artista เป็นบ้านพัก Type Jacuzzi Suite
ตัวบ้านค่อนข้างกว้างขวาง มีเนื้อที่รอบ ๆ บ้านพอสมควร และค่อนข้างเป็นส่วนตัวที่สุด เป็นบ้านพักที่อยู่ใกล้ Lobby ที่สุด สามารถยืนบนดาดฟ้า แล้วยังมองเห็นบ้านพักอื่น ๆ ได้โดนรอบ (ถ้าต้นไม้ไม่สูงไปหน่อยนะครับ)
เมื่อเปิดประตูเข้ามา จะเจอกับบริเวณห้องนั่งเล่นของบ้าน เป็นโซฟาเบดขนาดใหญ่ ใหญ่พอที่จะใช้นอนได้เลยทีเดียวครับ
เตียงนอน Style Vintage เชื่อมต่อกับบริเวณห้องนั่งเล่น ที่เห็นทางด้านมุมซ้ายของภาพนั้น ออกแบบมาให้สามารถใช้เป็นเตียงเสริมได้นะครับ ขนาดของบ้านสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ 4 6 คนเลยทีเดียว แต่จากการที่ถามกับพนักงานแล้ว อนุญาตให้เข้าพักได้มากสุดแค่ 4 คนนะครับ
การตกแต่งค่อนข้างเรียบง่าย แต่มีเสน่ห์อยู่ในตัว วัสดุไม่จำเป็นต้องใช้ของราคาแพง
อิฐที่ใช้สร้างบ้าน เป็นอิฐที่ใช้ดินจากหมู่บ้านผาปกของอำเภอสวนผึ้ง ทำขึ้นมานะครับ (ชอบมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องไปใช้ของนอกให้สิ้นเปลืองเปล่า ๆ) ดูแล้วให้อารมณ์ Classic อย่างบอกไม่ถูก รวมไปถึงของตกแต่งที่ดูแล้วกลมกลืนเป็นอย่างดี
ส่วนต่อไปจะเป็นในส่วนของห้องแต่งตัว และห้องน้ำ เมื่อก้าวเข้ามาในห้องนี้่ ส่วนแรกที่เราพบก็คือ โต๊ะเครื่องแป้ง มีอุปกรณ์ให้พร้อมครับ แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็น Vintage
ห้องน้ำค่อนข้างมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ชอบตรงอ่างล้างหน้ามี 2 อ่างนี้แหล่ะครับ ตอนเช้าไม่ต้องแบ่งกันใช้ พอลองใช้จริงๆ มันชิลดีมากเลยครับ แปรงฟันไปดูบรรยากาศตอนเช้าไป มันต่างจากตอนเช้าที่เร่งรีบที่เคยเจอทุก ๆ วันเลยครับ
อ่างอาบน้ำตรงนี้จะอยู่ตรงกันข้ามกับอ่างล่างหน้านะครับ เป็นอ่างอาบน้ำขนาดใช้ได้คนเดียว ที่นี่น้ำอุ่นค่อนข้างคงที่นะครับ ส่วนอาบน้ำที่นี่จะแบ่งเป็นสามส่วนครับ มีอ่างแบบนี้ แล้วก็มีแบบเป็นห้องฝักบัว แล้วก็ อ่าง Jacuzzi ครับ
ส่วนต่อไปจะเป็น Outdoor Jacuzzi ครับ บรรยากาศวิวสวน สามารถผสมน้ำอุ่นได้ครับ แต่ใช้เวลาพอสมควรเลยครับ กว่าจะรองน้ำเสร็จ ถ้าอยากใช้ ก็ต้องเปิดน้ำทิ้งไว้สักพักใหญ่ ๆ เลยครับ ขนาดใหญ่ใช้ได้ ไม่อึดอัด แช่ได้ 2 คนอย่างสบาย ๆ
ขึ้นไปข้างบนกันดีกว่าครับ ด้านบน จัดเป็นมุมจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว บนดาดฟ้า หรือใครอยากจะหามุมสงบ ๆ กับหนังสือสักเล่ม เอนตัวลงในเปลขนาดใหญ่ เผลอ ๆ จะหลับไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว
มื้อเย็นมื้อนี้ ผมขอจัดให้เหมาะสมกับมุมปาร์ตี้ BBQ ซะหน่อยในภาพก็คือ BBQ Set ประกอบไปด้วย หมูและไก่อย่างละ 2 ไม้ กับกุ้งอีก 1ไม้ มีเฟรนด์ฟรายเป็นออเดิฟให้ทานระหว่างรอ BBQ สุก แล้วก็ข้าวโพด เพื่อปิ้งคู่ไปกับ BBQ ไปด้วยในตัว
ที่นี่เค้าให้เราเลือกว่าจะให้ทางรีสอร์ททำมาให้เลย หรือจะทำกันเอง ทางผมตอนแรกก็กะจะให้รีสอร์ททำให้แหละครับ แต่ว่าคิดไปคิดมา ทำเองดีกว่า จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่นีอีกสักหน่อย
เป็นที่น่าแปลกใจสำหรับผมนะครับ ต้องขอบอกก่อนว่า ตัวผมเอง เป็นตัวเรียกยุงโดยเฉพาะ คือถ้าใครมายืนคู่กับผมตอนเย็น ช่วงประมาณว่ายุงกำลังออกหากิน รับรอง ไม่โดนยุงกัด เพราะยุงมันจะมากัดที่ผมคนเดียว เพราะฉะนั้น ผมค่อนข้างเลี่ยง ที่จะอยู่กลางคืนข้างนอก แต่กับที่นี่ ไม่มีเลยครับ ผมนอนเล่นระหว่างรอ BBQ ได้อย่างสบาย ๆ หรืออาจจะเพราะลมพัด ก็เป็นไปได้ แต่ผมจำได้ว่า ช่วงนั้นลมก็ไม่ได้แรงอะไรมากนะครับ
และที่สำคัญ ไม่ใช่แค่ยุงอย่างเดียว แมลงกลางคืน ที่ทำให้เราค่อนข้างรำคาญ ที่ชอบมาเล่นไฟ ก็ไม่ค่อยจะเจอครับ อาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าหน้าที่ ที่นี่ ดูแลเอาใจใส่สถานที่เป็นอย่างดีก็เป็นได้ครับ
มุมจากดาดฟ้า เมื่อมองไปที่ Lobby และห้องอาหารที่นี่ Cucina ที่ให้บริการอาหารอิตาเลียน และ อาหารไทยครับ
ก่อนจะไปพบกับมุมต่าง ๆ ภายในรีสอร์ทตอนกลางคืน ขอเก็บภาพ มุมบางมุมภายในห้องพักกันอีกสักนิดนะครับ
มุมนี้เป็นมุมกาแฟ ร้านกาแฟ Espresso bar ที่บริเวณ Lobby มีเมนูกาแฟและน้ำผลไม้ปั่น รวมไปถึง Cocktails ด้วยถ้าใครอยากลิ้มลองก็เชิญนะครับ บาร์กาแฟจะเปิดให้บริการถึงเวลา 2 ทุ่มครับ
ที่ La Toscana นี้ มีมุมเก๋ ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมากครับ มองไปมุมไหน ก็น่าถ่ายรูปทั้งนั้น
มุมนี้ เป็นมุมเดียวกันกับรูปด้านบนเมื่อผมมาถึงที่รีสอร์ทนะครับ เห็นผนังด้านหลังแล้วอยากเก็บเอาไปทำเป็นมุมเก๋ ๆ ที่บ้านมากเลยครับ
ภาพมุมต่าง ๆ ที่บริเวณ Lobby ด้านล่างครับ
ขึ้นมาชมด้านบนกันบ้างดีกว่า ด้านบนจะเป็นในส่วนของร้านอาหาร Cucina ในรูปเป็นบันได้ทางขึ้นครับ
ห้องอาหารภายในอาคาร ตรงส่วนนี้ เอาไว้เป็นที่ทานอาหารตอนเช้าด้วยนะครับ
พนักงานที่นี่น่ารักมากครับ ผมสอบถามข้อมูลอะไร ก็ให้คำตอบได้เป็นอย่างดี ให้ข้อมูลดีมาก อย่างในรูป ทางน้องเค้าเห็นผมกำลังจด ๆ จ้อง ๆ หามุมถ่ายรูปอยู่ น้องเค้าก็ถามผมว่า จะจุดเทียนมั้ยค่ะ ผมเองก็เกรงใจ ไม่อยากให้ลำบากน้องเค้า เดี๋ยวจะกลายเป็นรบกวนเวลาน้องเค้า เพราะว่านี่ก็ใกล้เวลาปิดของห้องครัวแล้ว ส่วนอาหารเช้าที่นี่เริ่ม 7.30 10.00 นะครับ ถ้าผมจำไม่ผิด อาหารเช้าจะเป็น Buffet นะครับ
แล้วผมก็ผ่านค่ำคืนนี้ไปอย่างสบายกาย สบายอารมณ์ ธรรมดาเวลาที่ผมไปพักที่ไหนก็ตาม ผมจะพยายามตื่นให้เช้าที่สุดเ่ท่าที่จะเช้าได้ อยากจะออกมาเก็บแสงตอนเช้า แต่เช้าวันนี้ผมรู้สึกรำคาญ นาฬิกาปลุกอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็มานึกเสียดายครับ ถ้าเกิดไม่ได้ตื่นขึ้นมา บรรยากาศตอนเช้าที่นี่สดชื่นมาก และผมคงไม่ได้มีโอกาสเก็บแสงแรกของวันนี้ ถ้าผมตื่นสาย
รูปนี้ถ่าย Panorama 5 รูป จัดแสงแล้วก็นำมาต่อกันครับ โชคดีที่มาทันพระอาทิตย์ กำลังขึ้นพ้นเหลี่ยมเขา เทือกเขาที่เห็นอยู่นี้คือเทือกเขาตะนาวศรีนะครับ ข้ามฝั่งไปก็ พม่าแล้วครับ
มุมโต๊ะอาหารตรงระเบียง กับแสงแดดอ่อน ๆ ตอนเช้า สำหรับผมนะ ขอคาปูชิโน่ กับฟองนมนุ่ม ๆ นั่งละเลียดฟองนม พร้อมกับจิบกาแฟ ไปพลาง ๆ เช้านี้ก็สมบูรณ์แล้วครับ (นึกแล้วก็เสียดายไม่ได้จัดกาแฟมาประกอบฉากสักถ้วย)
ตอนที่ถ่ายรูปนี้มา ก็ไม่ทันคิดอะไรมากนะครับ เห็นว่าดอกไม้สวยดี แต่พอถ่ายเสร็จ เพิ่งจะสังเกตว่า เป็นดอกไม้เทียมนะครับ ไม่ใช่ของจริง แต่จัดซะเหมือนเชียว ในบางมุมเค้าจะใช้ต้นไม้จริง แล้วเสริมด้วยของเทียม เข้าใจว่าพันธุ์ไม้บางต้น ไม่เหมาะจะอยู่ในสภาพแวดล้อมของเมืองไทย
เสียเวลากันมาเยอะแล้วครับ มาดูไลน์อาหารกันดีกว่า ว่าที่นี่มีอาหารเช้าอะไรบ้างให้บริการเรา รูปแรกก็มุมน้ำดื่มครับ มีทั้งน้ำส้ม, น้ำฝรั่ง รวมไปถึง ชากาแฟ แต่ผมแอบเห็น น้ำสมุนไพรอย่าง น้ำมะตูมด้วยนะครับ
มุมนี้เป็นมุมข้าวต้มครับ ในโถอุ่นเป็นข้ามต้มหมูเห็ดโคนญี่ปุ่นนะครับ อร่อยมาก ๆ ผมจัดไปสองชาม กับแบบไม่เอาข้าวอีกชาม (อร่อยแค่ไหนคิดกันเองครับ) แต่ผักที่เห็นนั้นเป็นเครื่องเคียงของข้าวผัดครับ
สำหรับคนที่ไม่ได้ทานข้าวต้ม ก็มีข้าวสวยกับข้าวผัดให้ ในส่วนของข้าวผัด อร่อยครับ ผมตักมานิดนึง กลัวว่าเยอะแล้วจะอิ่มก่อนจะได้ชิมอย่างอื่น
แฮมกับไส้กรอกรมควันครับ ขาดไม่ได้สำหรับ Style American Breakfast
ตรงนี้เป็นเครื่องสำหรับทำ Omelette นะครับ อยากได้ไข่แบบไหน ก็สั่งน้องตรงหน้าเตาได้เลยครับ
มุม Bakery ครับ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่าง นั่นก็คือขนมปังครับ ขนมปังมีให้เลือกหลายแบบ แยมก็มีให้เลือกหลายอย่างนะครับ เลือกไม่ถูกจริง ๆ มีเนยกับชีสให้ด้วยนะครับ Browny น่ากินมากครับ แต่บอกตามตรงไม่ไหวแล้วครับ
รูปสุดท้ายแล้วครับ เห็นตอนแรกตกใจ คิดว่าที่นี่สุดยอดครับ มีพิซซ่าให้ด้วย แต่ผมได้กินเข้าไป ถึงบางอ้อเลยครับ มันคือ ไข่เจียว ครับ ไม่ได้สวยแต่รูปนะครับ อร่อยอีกต่างหาก
สำหรับผมแล้วความรู้สึกที่ได้เมื่อได้มาพักที่นี่ คือความผ่อนคลายอย่างแท้จริง เหมือนกับที่ใคร ๆ เคยพูดว่า พักไป ชาร์จแบตให้กับชีวิต และเป็นส่วนตัวจริง ๆ บ้านพักแต่ละหลัง มีพื้นที่ใช้สอยครบถ้วน การออกแบบตกแต่ง ก็ค่อนข้างคิดมาดีครับ แตกต่างกันแค่ Facility บางอย่างที่ไม่เหมือนกัน ไม่แปลกใจเลยที่นี่บ้านพักจะเต็มเกือบทุกวัน (ผมเองยังจองพลาดเลยครับ) สำหรับพนักงานที่นี่ อยากจะบอกว่าอยากให้ รีสอร์ทดัง ๆ หลาย ๆ ที่เอาอย่างเลยนะครับ บริการได้ดีจริง ๆ ช่วยเหลือผมเป็นอย่างดี ขอขอบคุณน้อง ๆ พนักงาน ไว้ตรงนี้เลยนะครับ
แต่ที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อบกพร่องนะครับ มีจุดนึงที่ผมคิดว่า ถ้าปรับปรุงได้ก็จะดีครับ นั่นก็คือ น้ำที่ใช้อาบน้ำ จะค่อนข่างขุ่น คือตอนที่ผมรองน้ำใส่ Jacuzzi เห็นได้ชัดเลยครับ แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกคันหรือแพ้นะครับ แล้วก็ถ้าจะมาพัก แนะนำว่าให้โทรมาสอบถามก่อนก็ดีครับ เพราะที่นี่ให้บริการ ให้ใช้สถานที่ถ่ายรูป Pre Wedding ด้วย อาจจะทำให้หลาย ๆ คน รู้สึกไม่เป็นส่วนตัว สักเท่าไหร่ แต่ไม่ถึงกับจะเข้าไปรบกวนถึงบ้านพักนะครับ ไม่ขนาดนั้นแน่นอน ตอนผมกำลังจะกลับ ยังมีมาถ่ายอยู่คู่นึงเลย
ถ้าถามผมนะครับ ว่าอยากจะกลับมาพักที่นี่อีกมั้ย บอกได้โดยไม่ต้องรอเลยครับ ว่าถ้ามีโอกาส จะกลับมาอีกแน่นอน ผมยังรู้สึกเลยว่า ยังไม่เต็มอิ่มกับการมาพักที่นี่ เป็นที่พักอีกที่นึงที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สำหรับใครที่เบื่อ ๆ ที่พักยอดฮิตแถว ๆ เพชรบุรี หรือ พัทยา ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศกับรีสอร์ตย่านสวนผึ้งก้ได้นะครับ รีสอร์ทดี อาหารอร่อย เดินทางไปมาสะดวก แล้วใครหล่ะครับที่ไม่อยากจะมาเยือนสักครั้ง
เป็นอันว่า ผมขอจบ Review แรกของผมตรงนี้เลยนะครับ ขอขอบคุณ หลาย ๆ คนที่เป็น แรงบันดาลใจสำหรับการทำ Review นี้นะครับ ไม่ว่าจะเป็น คุณชานไม้ชายเขา, คุณ Paksabuy และรุ่นพี่ผมจาก Blog.one22.com นะครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้า สำหรับคำติชมทุก ๆ คอมเม้นต์นะครับ