นิยาย:บอดี้การ์ดสยบรัก:บทที่10:หลักฐานพลิก เกมเปลี่ยน




(อ่านง่ายสบายตากว่าตามลิงค์นี้คัรบ //writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1483450  )


บทที่สิบ หลักฐานพลิกเกม



“คุณอนันต์  เมธาไนย มาถึงแล้วนะคะ” เสียงแม้นรายงาน ไอลดาเงยหน้าจากกระจกแต่งหน้า หล่อนถือแปรงปัดมาสคาร่าค้างอยู่ตรงขอบตา “นายหน้าซื้อขายเรือของคุณวิลาศใช่ไหม”

มุมปากของหญิงสูงวัยตกลงด้วยความเศร้า ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเจ้านายเก่าแก่ “ค่ะ อยู่ที่ท่าน้ำกับคุณมารุต”

คนรับรายงานคว้ารองเท้าแตะคู่หนึ่งมาสวม ไม่กี่นาทีจากนั้น หล่อนก็ถือด้วยกาแฟแล้วก้าวออกไปรับความแรงร้อน ของแดดกลางเดือนมีนาคม มุ่งหน้าไปที่ท่าน้ำ มีเสียงผู้ชายลอยมาจากด้านนั้น

เมื่อเข้าไปใกล้ ก็เห็นมารุตยืนอยู่ท้ายเรือ ตั้งอกตั้ใจคุยกับนายหน้า ที่หล่อนจ้างมาช่วยขายเรือยอชท์ติดเครื่องยนต์ขนาดสี่สิบแปดฟุต

ไอลดาก้าวเท้าช้าลง และเผลอดื่มด่ำภาพของชายที่หล่อนเคยรักอย่างมากมาย จนมันเจ็บแปลบๆ ทุกครั้งที่มองเห็นเขา

และตอนนี้ มันก็ยังคงเจ็บปวดอยู่เช่นนั้น

เขาสวมเสื้อโปโลสีฟ้าอ่อน ปักลายพังงาเรือเล็กๆ บนอกซ้าย กางเกงสีกากี คล้ายจะเล็กไป แต่ก็ทำให้ยิ่งชวนมอง ท่อนแขนกำยำที่โผล่พ้นเสื้อออกมา ทำให้หล่อนนึกถึงตอนที่ได้เคยขย้ำเล่น มัดกล้ามแน่นๆ นั่น กัดได้เต็มคำ และรสชาติไม่เลวเลย

ชายหนุ่มคนรักเก่าของหล่อน ไม่เคยเสื่อมคลายเสน่ห์ที่ชวนมอง ท่ายืนนั่น ดูมั่นคงแข็แรง ไม่ใส่ใจกับการโคลงตัวเล็กน้อยของเรือในกระแสคลื่น

แต่แล้วเขาก็หันขวับมาทางนี้ ราวกับรับรู้ถึงการมาของหญิงสาว หรือว่าเขามีจิตสัมผัส เชื่อมต่ออยู่กับหัวใจหล่อน

ไอลดารีบเลิกคิดฟุ้งซ่าน ปลดกลอนประตูรั้วเตี้ยๆ ที่เขาบอกว่ามันไม่ช่วยอะไรได้เลย แล้วเดินตรงไปยังท่าน้ำ

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอนันต์”

ชายผู้นั้นหันมา และโบกมือทักทายหล่อน “สวัสดีครับคุณผู้หญิง”

ขณะหล่อนก้าวมาบนสะพานท่าเรือ มารุตก็ก้าวลงมารอรับ

“มอร์นิ่ง...” เขาทัก ประกายดวงตาทำให้หล่อนพร่าพร่ายในหัวใจ ตอนยื่นมือให้เขาประคอง ความรู้สึกบางอย่างทำให้หัวใจยิ่งไหวสะท้าน

ไอลดาต้องเบนความสนใจของตัวเองมายังนายหน้า ปล่อยมือของมารุตทันทีที่ยืนติด “ไม่คิดว่าจะมาตั้งแต่เช้าขนาดนี้เลยค่ะคุณอนันต์ เร็วกว่าที่นัดกันเสียด้วย จำได้ว่าคุณบอกจะว่างมาก็อาทิตย์หน้า”

นายหน้าผู้กว้างขวางในวงสังคมชั้นสูง ยิ้มอย่างสดใส ในแบบที่พนักงานขายมือทองชอบใช้ “ตอนนั้น นั่นคือคนซื้อก็จะมารับเรือนี่แล้วละครับ ผมเลยอยากมาทำเรื่องเอกสารต่างๆ ให้เสร็จเรื่องตั้งแต่เนิ่นๆ”

“ฉันยังมีของส่วนตัวบางอย่างอยู่บนนี้” หล่อนบอก ยังต้องการเวลาให้แม้นขึ้นมาทำความสะอาดเรือ แต่จนถึงวันนี้ หญิงสูงวัยผู้น่าสงสารก็ยังจัดการเก็บของในตู้เสื้อผ้าของเจ้านายเก่าไม่เสร็จ  “คุณอยากให้เราลองแล่นเรือออกพ้นอ่าวอีกสักรอบไหมคะ”

“ไม่จำเป็นหรอกครับคุณนาย แต่จะดีมากถ้าเติมน้ำมันให้เต็มถึงเอาไว้ แต่รอช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ได้” อนันต์ตอบด้วยน้ำเสียงแฝงความเห็นใจ จากนั้นเขาก็หยิบกระเป๋าผ้าของตัว “นี่คือเอกสารการขายครับ”

หล่อนเหลือบมองมารุตแวบหนึ่ง เห็นเม็ดเหงื่อเขาเริ่มผุดตามจอนผม “ให้ฉันขึ้นไปเอากุญแจก่อน แล้วเราค่อยไปจัดการเรื่องเอกสารกันในบ้าน”

“ผมยังมีกุญแจนะครับ ตั้งแต่ตอนที่ลองเรือ” อนันต์บอก เขาเดินไปที่ห้องควบคุมและไขกุญแจ

ทันทีที่หญิงสาวก้าวเข้าไปข้างใน ไอลดาก็นึกได้ว่า ทำไมหล่อนถึงเคยมาอยู่บนเรือเพียงครั้งเดียวในครึ่งปีหลัง ห้องหรูหรานี้เป็นสีโปรดของวิลาศ มีเบาะนั่งทำจากหนังวัวอย่างดี ล้อมรอบกลางตัวเตี้ย มีทีวีจอพลาสมาอยู่ด้านหนึ่ง มีชั้นวางของและมีส่วนเก็บของกว้างตลอดแนวด้านข้าง

อนันต์คลี่เอกสารต่างๆ ลงบนโต๊ะเตี้ยกลางวง มารุตเดินผ่านเข้าไปในห้องนอนทางหัวเรือ ไอลดาไม่เคยนอนที่นั่น แม้หล่อนจะรู้สึกผิดบ้าง แต่ก็เพราะสามีผู้ล่วงลับไม่เคยเอ่ยปากบังคับให้ได้ค้างคืนกันบนเรือ เพราะเขารู้ดีว่าหล่อนเมาคลื่น

ขณะนายหน้าคุยถึงเรื่องผู้ซื้อเรือ ซึ่งเป็นเจ้าของกาสิโนในประเทศเพื่อนบ้าน สายตาหล่อนเลื่อนลอยไปทั่วห้อง มันคือที่โปรดของนายวิลาศ แผ่นซีดีคลาสสิคเป็นแถวที่เขาเคยเปิดฟัง เสียงจะดังไพเราะจากลำโพงที่ซ่อนอยู่อย่างแนบเนียน มีรูปถ่ายของหล่อนในกรอบเงิน วางอยู่บนชั้นหนังสือ

ไอลดาเพ่งภาพนั้น นั่นคือตอนไปฮันนีมูน หล่อนนั่งไขว้ขาอยู่บนผืนทราย ของชายหาดริเวียร่าในฝรั่งเศส เมื่อเอื้อมมือจะหยิบ มันกลับถูกผนึกแน่นกับชั้น

แน่ละซี ไม่มีอะไรต้องกลิ้งไปมาเมื่อเจอคลื่นลมแรงอยู่แล้ว

หล่อนจับขอบกรอบรูปและโยก พยายามดึงมันออกมาจากตัวยึด ยกมันขึ้นจากสิ่งที่ติดตรึงมันไว้จนได้

ประกายแสงจ่างๆ สีทองที่อยู่ตรงมุมด้านหลังกรอบ สะดุดความสนใจของหญิงสาว มันคือขาตั้งกรอบรูปที่คล้ายถูกออกแบบไว้อย่างประณีตบรรจง

หล่อนหยิบขาตั้งซึ่งที่จริงคือรูปหล่อต้นปาล์ม ที่ใหญ่กว่าฝ่ามือตนเองเล็กน้อยขึ้นมา ลำต้นและใบนั้นโอนเอนเหมือนกำลังต้องพายุ เป็นองศาที่สามารถรับกรอบรูปได้พอดิบพอดี

เมื่อพลิกฐานขึ้น ก็ใช้นิ้วไล่ไปตามตัวอักษรที่แกะสลักเอาไว้ ตัวดับเบิ้ลยู และล้อมกรอบด้วยตัวอักษร เป็นคำที่เขียนติดกันเป็นลูกโซ่ว่า รัก รัก รัก รัก รัก ในภาษาอังกฤษ

นี่มันอะไรกัน?

“พวกเขาคิดว่า อาจต้องลองแล่นเรือนี้ไปสักสองสามวัน ซึ่งผมก็ว่าดี มันจะทำให้พวกเขารู้จักเรือลำนี้ทุกซอกทุกมุม” อนันต์เอ่ยแทรกความคิดหญิงสาว

ขาตั้งภาพหนักอึ้งยังอยู่ในมือ “ว่าไงนะคะ”

“ครอบครัวสมเด็จ ฯพณฯ” เขาตอบ “พวกนั้นวางแผนจะมารับเรือ แล้วล่องไปด้วยตัวเอง”

ไอลดารีบวางรูปหล่อโลหะลงกับพื้น “ฉัน... เอ่อ...ขอโทษเถิดค่ะ พอดีไม่ได้ตั้งใจฟัง”

เขาพยักหน้าให้หญิงสาวอย่างเข้าใจ “ก็ไม่มีอะไรมาก คุณแค่ต้องเซ็นเอกสารอีกสามฉบับ แล้วเจ้าหญิง ‘ณ หทัย’, ลำนี้ก็จะกลายเป็นของเจ้าของคนใหม่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย”

หล่อนมองที่ต้นปาล์มรูปร่างแปลกอีกครั้ง แล้วหยิบปากกา

“เรือยังใหม่เอี่ยมเลยนะครับ” นายหน้าบอก พร้อมชี้ที่กากบาท ตรงที่หล่อนจะต้องลงลายมือชื่อ

“เรากำจัดเพรียงทุกสองอาทิตย์เลยค่ะ” หล่อนพูดอย่างใจคอไม่อยู่กับตัว หญิงสาวเคยใช้เวลาบนเรือณหทัยนี้ ในช่วงบ่ายเพียงวันเดียว หลังจากที่นายวิลาศเสียชีวิต มันเป็นวันที่หล่อน บราลีและก็มานะ เอาเรือไปลอยอังคารให้สามีผู้ล่วงลับในทะเลหลวง

ไอลดาไม่สบายใจมาก จนกระทั่งต้องขอให้รีบจัดการธุระ แล้วก็รีบกลับ

หญิงสาวเลื่อนเอกสารที่เซ็นแล้วไปยังนายหน้า

“เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ” เขาบอกง่ายๆ “ครอบครัวนั้นจะมาที่นี่ปลายสัปดาห์หน้า” เขายื่นกุญแจเรือคืนให้กับหญิงสาว “และผมก็ไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจดอกนี้อีกต่อไป”

หล่อนรับกุญแจ ขอบคุณนายอนันต์อีกครั้ง

หลังจากนัดหมายเรื่องการส่งของกันสั้นๆ นายหน้าผู้นั้นก็จากไป หล่อนยืนอยู่บนสะพานท่าน้ำขณะเขาลงจากเรือ สายตาทอดไกลไปทางห้องพักริมน้ำ ที่แม้นเอาไม้กระดานปิดทับกระจกบานที่ถูกยิงไว้

มารุตโผล่พ้นห้องโถงเรือออกมา ก้มศีรษะหลบหลังคา ลมทะเลพัดแรงจนกางเกงตัวสบายนั้นลู่แนบเนื้อ รูปร่างท่อนลำปรากฏชัด จนหล่อนรู้สึกปั่นป่วนตรงใต้ท้องน้อย รู้ดีเลยว่าความรู้สึกเช่นนี้ ไม่ได้มาจากอาการเมาคลื่นแน่นอน

“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมลดา” เขาถาม

“ยังมีของคุณวิลาศ ฉันต้องเคลียร์ออกอีก”

เขาเพ่งพินิจหญิงสาว ทำคิ้วขมวดก่อนจะค่อยมีท่าทีอ่อนโยนลง “คุณไม่เป็นไรนะ”

ไอลดาเผลอแตะที่หน้าท้องตนเบาๆ “ก็อย่างที่รู้ ฉันชอบอากาศบริสุทธิ์บนฝั่งมากกว่าบนเรือหรือในทะเล

“งั้นคุณก็อยู่ข้างล่างนั่นแหละ เดี๋ยวผมจัดการเคลียร์ของที่ว่าให้เอง” เขาเสนอตัว ความร้อนทำให้เขาถอดเสื้อออกโยนให้หล่อน แล้วฉวยกุญแจไปจากมือ

“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” หล่อนยิ้มให้ รู้สึกขอบคุณที่เขายังมีแก่ใจ “แต่ฉันก็ต้องขึ้นไปอีกอยู่ดี ไม่แน่ใจว่าในตู้ ในห้องนอนนั่นยังมีอะไรอีกบ้าง ฉันไม่เคยเข้าไปในนั้นเลยค่ะ แค่อยู่บนดาดฟ้าเรือ ก็เวียนหัวจะแย่แล้ว”

ดังนั้นสองคนจึงพากันกลับเข้ามาในเรืออีกครั้ง ขณะเดินผ่านโถงชั้นบน ไอลดาเหลือบมองต้นปาล์มอีกครั้ง หล่อนรู้สึกถึงลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง มันไม่น่าใช่เรื่องดี เพราะความวิงเวียนเคลื่อนเหียนกลับมาโจมตีพร้อมความรู้สึกนั้น

ในห้องทางหัวเรือ เตียงขนาดหกฟุตปูด้วยผ้าสีน้ำเงินขลิบทอง กินเนื้อที่เกือบทั้งหมดของห้อง มีตู้และลิ้นชักอยู่เต็มผนังด้านหนึ่ง อีกด้านมีจอทีวีพลาสมาใหญ่อีกเครื่อง

หญิงสาวดึงลิ้นชักบนสุด มันว่างเปล่าจนหล่อนต้องแปลกใจ เมื่อดึงลิ้นชักอื่นๆ ดู ก็ว่างเปล่าเช่นเดียวกัน

“หายไปไหนหมดล่ะ” ไอลดาพึมพำ “ฉันรู้ว่าคุณวิลาศเก็บเสื้อผ้าไว้ในนี้

“บางทีป้าแม้นของคุณ อาจมาจัดการไปเรียบร้อยแล้ว

“ไม่น่าใช่หรอกค่ะ ปกติป้าแม้นต้องถามก่อนเสมอ ไม่เคยทำอะไรโดยพลการ”

คนพูดยังไล่เปิดลิ้นชักที่เหลือ ยกเว้นอันล่างสุด ที่มีขอบเตี้ยๆของเตียงขวางอยู่

ทั้งคู่สังเกตเห็นผงสีม่วงมีประกายยิบๆ อยู่บนพื้น

“นั่นอะไร...” มารุตถาม พร้อมคุกเข่าลงเพื่อตรวจดูให้แน่ใจ เขาปาดมันขึ้นมา และดมกลิ่น “มัน...ดูเหมือน...” หลังใช่ปลายนิ้วคลึงไปมา ก็บอกได้ว่า “...อายแชโดว์”

หล่อนหัวเราะ “ไม่ใช่ละมั้งคะ ยกเว้นแต่ว่า คุณวิลาศ จะมีความลับเรื่องแอบแต่งเป็นผู้หญิง”

ตู้ลิ้นชักตัวนี้ ที่ชั้นล่างเปิดออกมาไม่ได้ ทำให้มันคล้ายอยู่ผิดที่ผิดทาง สองคนจึงช่วยกันสำรวจให้แน่ใจ เมื่อไม่มีสิ่งไรผิดปกติ คือคล้ายกับมันติดอยู่กับเรือตั้งแต่แรก เตียงนอนขนาดใหญ่นี้ต่างหาก ที่เข้ามาเป็นส่วนเกิน

“ไม่เข้าใจเลยค่ะ” หล่อนพึมพำ เมื่อสำรวจชั้นและส่วนอื่นๆ แล้วก็พบแต่ความว่างเปล่าเช่นกัน “ฉันเคยขึ้นมาครั้งเดียว หลังที่คุณวิลาศเสียชีวิต คิดว่าอาจได้เงื่อนงำอะไรบ้าง และตอนนั้นมันยังอยู่... เสื้อผ้าพวกนั้น”

“ป้าแม้นน่าจะจัดการไปโดยไม่ได้บอกคุณ” มารุตใช้ข้อวินิจฉัยเดิม “ผมจะไปดูทางหัวเรือ”

ไอลดายังยืนอยู่ในห้องนอน รู้สึกขนลุกเมื่อต้องอยู่คนเดียว คล้ายกลิ่นอายดวงวิญญาณของสามีผู้ล่วงลับยังวนเวียน แทบไม่กล้าเปิดตู้ติดผนังที่เหลือ และคิดว่ามันน่าจะว่างเปล่าเหมือนๆ กัน

หล่อนหันกลับมามองที่ต้นปาล์มโลหะอีกครั้ง อย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อไปดี

“ลดา...” มารุตยืนอยู่ตรงทางเดินระหว่างห้องนอนกับครัวของเรือ สีหน้าเขาดูแปลกๆ ในมือมีกระเป๋าหนังใบเล็ก ซึ่งหล่อนจำได้ทันทีว่า คือกระเป๋าใส่อุปกรณ์ห้องน้ำของวิลาศ

“นี่ของสามีคุณหรือเปล่า”

“ใช่ค่ะ มีอักษรย่อตัวดับเบิ้ลยูเอ็นเอช”

มารุตพลิกดู จากนั้นก็เอียงด้านนั้นให้หญิงสาวมองเห็นตัวอักษรสีทอง “หรือว่าของคนอื่น” ทั้งที่อักษรย่อก็หราอยู่ชัดๆ ชายหนุ่มยังทำเหมือนอ่านไม่ได้

ไอลดาเอื้อมไปจะหยิบ แต่ชายหนุ่มดึงกลับ หล่อนมองหน้าเขา ทำหน้าบึ้งใส่

“มีอะไรหรือคะ”

“คุณแน่ใจจริงๆ นะ ว่านี่คือของสามีคุณ”

“แน่ใจค่ะ” หล่อนกระแทกเสียง แต่ก็เริ่มหวั่นใจมากขึ้น จากน้ำเสียงอีกฝ่าย “มีอะไร ก็บอกมาสิคะรุต”

เขายื่นกระเป๋าให้หล่อนช้าๆ “ผมเจอซุกอยู่ใต้กองผ้าเช็ดตัว ที่อยู่บนลิ้นชักติดเพดาน ในห้องน้ำ”

ชายหนุ่มเปิดซิปค้างไว้ ให้หล่อนมองเห็นภายใน แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาหลังโกนหนวด มีดโกน และ... ถุงยางอนามัยกล่องยาว

“ตายจริง!” ไอลดาอุทาน เงยหน้ามองเขา

คุณพระคุณเจ้า ทำไมล่ะ

ทำไมวิลาศถึงมีของใช้แบบนี้ ทั้งที่ทั้งสองคนไม่เคยได้ใช้มันเลย

“มีอย่างอื่นอีกไหมคะ ในห้องน้ำนั่น” หญิงสาวถามเสียงเครือ

“ไม่มีอะไรอีก นอกจากผ้าเช็ดตัวบนชั้นบนสุด กับอุปกรณ์ทำความสะอาดใต้อ่างล้างหน้า”

“อย่างนั้นเราก็ไปจากที่นี่กันได้แล้วละ” ไอลดาหันกลับ เดินพ้นจากห้องนอนทันที ผ่านโถงเรือ ก็คว้าเอาต้นปาล์มรูปทรงพิลึกติดมือไปด้วย

ไอลดานั่งอยู่บนเบาะหนังที่วางเป็นแนวอยู่ท้ายดาดฟ้าเรือ หล่อนลูบคลำแทงโลหะสีทองอย่างเหม่อลอย มารุตมองหญิงสาวอยู่เงียบๆ อีกครู่ใหญ่ กว่าที่ทั้งสองคนจะได้สบตากัน

“เรื่องนี้จะต้องมีคำตอบค่ะ” หล่อนเอ่ยขึ้นเอง โดยเขายังไม่ได้ถาม

ก่อนหน้านี้มารุตเอากระเป๋ากลับไปวางที่เดิม ถือโอกาสตรวจวันหมดอายุของถุงยางอนามัย ซึ่งทั้งข้างกล่องและที่ซองบอกชัดว่า ยังใช้ได้อีกสามปีกว่า ที่สำคัญคือกล่องใหญ่ขนาดบรรจุยี่สิบสี่ซอง มีเหลืออยู่เพียงสิบเจ็ดซองเท่านั้น แปลว่าปีที่แล้วนี้เอง ที่มันถูกใช้

“ต้องมีเหตุผลใช่ไหมรุต!” หล่อนยังย้ำคำ “เขาอาจเจอมันลอยมาตามน้ำ หรือไม่ก็ของเพื่อนคนอื่นลืมทิ้งไว้ หรือ... หรือ เอามาทำอย่างอื่น ทุ่น... ทำเป็นเป่าลมเข้าไปทำเป็นทุ่นตกปลาไงล่ะ”

มารุตเองก็หวังให้ตัวเองหาเหตุผลอื่นๆ ได้สักอย่าง

“หรือ... มันเป็นแค่ของขวัญที่ใช้อำกันเล่น” เมื่อคิดว่าแต่ละสิ่งที่พูดมา ช่างไร้เหตุผล ไอลดาก็เสียงแผ่วลง

“ลดา...”

หล่อนยกมือห้าม “อย่าพูดค่ะ ไม่ต้องมาเห็นอกเห็นใจอะไร ฉันไม่ต้องการอะไรพรรค์นั้น สิ่งที่ต้องรู้ให้ได้คือ เกิดอะไรขึ้น...”

“แล้วคุณรู้ไหม...”

“รู้อะไร ฉันจะรู้อะไรได้ล่ะ!” หญิงสาวอดพาลใส่ไม่ได้

คนถามต้องใจเย็น ระบายลมหายใจยาวเพื่อปรับอารมณ์ เอ่ยขึ้นช้าๆ “รู้ว่า... คุณวิลาศจำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัย”

ยิ่งได้ยิน หล่อนก็ยิ่งใจหาย แต่ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว เวลานี้มีแต่จะต้องเดินหน้าต่อไป ต้องตั้งสติอีกครั้ง “มาถึงตอนนี้ ฉันว่าตัวเองไม่ได้รู้เรื่องอะไรทั้งหมดของคุณวิลาศหรอกค่ะ” หล่อนตอบ กำรูปหล่อโลหะในมือแน่น “และ ฉันก็ไม่เคยเห็นของในกระเป๋านั่นมาก่อน แล้วก็...ไอ้นี่ด้วยค่ะ”

มารุตนั่งลงข้างหล่อน หยิบมันไปดู “ทองแท้นี่นะ สิบแปดเค ทองสวิส...” เขาพลิกดูใต้ฐาน มีคำว่ารักภาษาอังกฤษเป็นเส้นเชือก ล้อมรอบตัวอักษรดับเบิ้ลยู

ไอลดาดึงต้นปาล์มทองคำรูปร่างประหลาดกลับคืน แล้วยืนขึ้น

“ฉันจะกลับเข้าไปดูว่า มีอะไรหลงตาอยู่อีกบ้าง”

มารุตพยักหน้าให้ แต่ยอมให้หล่อนอยู่คนเดียวไม่ถึงห้านาที เพราะหญิงสาวเพียงแค่ไปนั่งจ่อมอยู่บนเตียง พอเขาเข้าใกล้ ไอลดาก็เททั้งกระเป๋าอุปกรณ์ห้องน้ำ กระจายเกลื่อนที่นอน

“ทั้งหมดนี้ ของคุณวิลาศทั้งนั้น ครีมโกนหนวด ยาสีฟันยี่ห้อนี้ โคโลญจน์กลิ่นนี้”

มารุตหยุดตัวเองไว้ที่ขอบประตู ยืนพิงง่ายๆ ถามว่า “เป็นไปได้ไหมว่า สามีคุณมีอะไรกับคนอื่น”

ไอลดาหยิบกล่องถุงยางอนามัยพลิกไปมาอย่างไร้ความหมาย “จะให้ตอบเหรอคะว่าเป็นไปไม่ได้  เขาซื่อสัตย์กับฉันเพียงคนเดียว... ก็หลักฐานมันเห็นๆ อยู่อย่างนี้ และฉันก็ไม่ได้โลกสวยขนาดนั้น!” อารมณ์เดือดดาลจนต้องเหวี่ยงกระเป๋าไปทางหนึ่ง แล้วก็กราดกวาดของทั้งหมดปลิวกระเด็น

“บ้าที่สุด! นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ!”

เสียงหล่อนแตกพร่า โงนเงนจวนเจียนจะล้ม ดีว่ามารุตพุ่งตัวมารับไว้ทันการณ์ ทั้งลำเรือยังไหวโยกอยู่ตลอดเวลา ตามกระแสคลื่นลม

“ลดา...” เขาเรียกแผ่วเบา โอบหล่อนไว้ในอ้อมแขน หญิงสาวราวไร้เรี่ยวแรง น้ำตาพรากด้วยความสะเทือนใจ “ใจเย็นนะ... ใจเย็นๆ ไม่เป็นไร... ไม่เป็นไรนะลดา”

“เป็นสิ!” ไอลดาสะอื้น ดิ้นรนจะผละหนี แต่เขายังกอดเอาไว้แน่น

มารุตไม่รู้จะพูดปลอบโยนอย่างไร จึงได้แต่ยังโอบประคอง นึกแค้นใจเหมือนกัน ว่าทำไมนายวิลาศถึงมักมากขนาดนั้น ทั้งที่ได้นอนกอดผู้หญิงที่สวยและดีที่สุดในโลกอย่างหล่อนอยู่แล้วทุกคืนๆ

เขาจูบผมหล่อน ใช้มือลูบแผ่นหลังเบาๆ ให้คลายอาการสะอื้น

“ฉัน... ฉันคิดว่า เขาหมดสมรรถภาพ” ไอลดาเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อตั้งตัวได้อีกครั้ง

คนโอบค่อยเอนตัวออกห่าง ไม่แนใจสิ่งที่ได้ยิน “คุณว่ายังไงนะ”

“นั่นละ ที่ทำให้ฉันเจ็บปวด...” หล่อนสารภาพ “เขา... เรา... ไม่ได้มีอะไรกัน” หญิงสาวหลับตา แก้มเริ่มเรื่อขึ้นด้วยความกระดากใจ “คือ... เราไม่ได้มีอะไรกันตั้งแต่แรกมาแล้ว ที่จริงที่แต่งงานกัน เรามีความรักทางใจเป็นสำคัญ ทุกอย่างมันโอเคไปหมด แม้ว่าจะไม่ต้องมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้อง”

“แต่... ผมคิดว่าคุณเคยบอกว่า...” มารุตบังคับตัวเองไม่ให้คิดแบบนักสอบสวน “แต่คุณบอกผมเองว่า ที่มีลูกไม่ได้มันเป็นความผิดของคุณ”

“นั่นละค่ะ มันไม่ใช่ความผิดเขา...” หล่อนกลืนน้ำลาย “ตอนแรกมันก็ไม่ใช่เหรอกค่ะ เราไปพบหมอ แล้วรู้ว่าปัญหาอยู่ที่ฉัน จากนั้นพอเริ่มรักษา มันใช้เวลาหลายเดือนนะคะ แต่แล้ว พอฝั่งฉันพร้อม คุณวิลาศก็เหมือนหมดสมรรถภาพไปแล้ว และ... เขาไม่ได้ป่วยหรือใช้ยาเสพติดอะไร ที่ทำให้มันเป็นงั้นนะคะ ถ้าคุณอยากจะถาม”

“ลดา... ใครก็ตามที่นอนกับสามีคุณ นั่นอาจเป็นคนฆ่า หรือทำให้เขาหัวใจวาย... คุณก็ควรเดาเรื่องนี้ได้ ใช่ไหม”

หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ ยังคงเหม่อลอยไปไกล “ทำไมฉันถึงไม่เคยระแคะระคายอะไรเลย ที่จริงฉันควรลงมาที่นี่บ่อยๆ ใช่ไหม... แต่ฉันเมาเรือ เมาคลื่น คุณก็รู้นี่คะ... แล้วฉันก็ให้เขาค้างที่นี่ ให้ล่องเรือไปกับเพื่อนๆ ในช่วงวันหยุด... มัน... มัน...” เสียงไอลดาแตกพร่าอีกครั้ง น้ำตาพรากลงมาอีก

“คุณอย่าโทษตัวเอง” เขาปลอบ “คุณต้องคิดว่านี่คือเบาะแส เราต้องช่วยกันคิดว่าน่าจะเป็นใคร หรือใครที่อาจเป็นพยานให้เรา ใครก็ได้ที่เคยเห็นสามีคุณกับคนที่เขาควงไปด้วย”

ไอลดาทำได้เพียงแค่พยักหน้า ปาดน้ำตาที่กบนัยน์ตา กลืนอาการสะอื้นลงคอ ก่อนจะพูดได้ว่า “เราเริ่มจากตรงไหนล่ะ”

คนถูกถามยืนขึ้น “จากที่นี่แหละ ในทะเล ในน้ำนี่ละ เราจะเอาเรือลำนี้ไปเติมน้ำมัน ทุกที่ ทุกท่าเรือ ทุกที่ที่เป็นไปได้ เท่าที่เคยมีบันทึกว่า เรือลำนี้เคยล่องไป และผมนี่ละ จะทำในสิ่งที่ผมถนัดที่สุด”

“ทำให้ใครต่อใครสารภาพน่ะหรือคะ”

“ใช่... คุณก็รู้ว่าผมทำได้เสมอ”

 

***********************




Create Date : 19 มิถุนายน 2559
Last Update : 19 มิถุนายน 2559 18:34:27 น.
Counter : 651 Pageviews.

1 comments
  
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:15:26:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SONG982
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



สะอาด สงบ สว่าง

เจนนิเฟอร์Goodbye My Love [Live].mp3 - Jennifer Kim
All Blog