การใช้ประโยชน์จากน้ำส้มควันไม้

สืบเนื่องมาจากสุนัขที่บ้านเราเป็นขี้เรื้อนแบบชนิดรุนแรงเลยค่ะ เคยลองมาหมดทั้งฉีด ทา กิน ก็ยังไม่หายเพื่อนบ้านได้เอาน้ำส้มควันไม้มาให้ใช้บอกว่าสามารถรักษาอาการขี้เรื้อนได้ ก็เลยลองใช้ มาประมาณ 2 อาทิตย์แล้วพบว่าอาการดีขึ้นมาก คือเค้าไม่เกาแล้ว ปกตินี่เกาซะเลือกซิบถ้าขนขึ้นแล้วจะถ่ายรูปมาฝากนะคะ

การใช้ประโยชน์จากน้ำส้มควันไม้

การใช้ประโยชน์จากน้ำส้มควันไม้

1.ใช้ในครัวเรือน
น้ำส้มควันไม้จัดได้ว่าเป็นน้ำส้มสารพัดประโยชน์ที่เหมาะสมจะมีไว้ติดบ้าน เพราะสามารถทดแทนการใช้สารเคมีได้ดังนี้

  • ความเข้มข้น 100 % ใช้รักษาแผลสดแผลถูกน้ำร้อนและไฟลวกรักษาโรคน้ำกัดเท้าและเชื้อราที่ผิวหนัง

  • ผสมน้ำ 20 เท่าราดทำลายมดและปลวก

  • ผสมน้ำ 100 เท่า ราดโคนต้นไม้รักษาโรคราและโรคเน่า รวมทั้งป้องกันแมลงไม่ให้วางไข่ฉีดพ่นถังขยะเพื่อป้องกันกลิ่นและแมลงวันใช้ดับกลิ่นในห้องน้ำครัวและบริเวณชื้นแฉะ ใช้ดับกลิ่นกรงสัตว์เลี้ยงใช้หมักขยะและเศษอาหารเพื่อเป็นปุ๋ยสำหรับไม้ประดับรอบบ้านโดยต้องผสมน้ำอีก5 เท่า หลังจากหมักแล้ว 1 เดือน

  • ผสมน้ำ 200 เท่า  ฉีดพ่นใบไม้ เพื่อขับไล่แมลงและป้องกันเชื้อรา รดโคนต้นเพื่อเร่งการเจริญเติบโต

2.ใช้ในการเกษตร
น้ำส้มควันไม้ที่มีความเข้มข้นสูง มีฤทธิในการฆ่าเชื้อที่รุนแรงเนื่องจากมีความเป็นกรดสูงและมีสารประกอบ เช่น เมธานอล และฟีนอลซึ่งสามารถฆ่าเชื้อได้ดีเมื่อเจือจาง 200 เท่าจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และต่อต้านเชื้อแบคทีเรียจะเพิ่มปริมาณมากขึ้น เนื่องจากได้รับสารอาหาร จากกรดน้ำส้มน้ำส้มควันไม้จึงสามารถนำมาใช้ในการเกษตรได้ดี เช่น

  • ใช้ผสมน้ำ 20 เท่าพ่นลงดินเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และแมลงในดิน เช่น โรคเน่าและจากแบคทีเรีย โรคโคนเน่าจากเชื้อรา ไส้เดือนฝอย ฯลฯประสิทธิภาพของน้ำส้มควันไม้ที่ความเข้มข้นจะเท่ากับการอบฆ่าเชื้อด้วยการรมควันควรทำก่อนการเพราะปลูก 10 วันเพราะน้ำส้มควันไม้ที่รดลงดินจะไปทำปฏิกิริยากับสารที่มีฤทธิ์เป็นด่างเกิดคาร์บอนโมโนออกไซด์ ซึ่งเป็นพิษต่อพืชแต่เมื่อแก๊สคาร์บอนโมโนออกไซด์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนเปลี่ยนเป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แล้วจึงจะสามารถปลูกพืชได้รวมทั้งพืชจะได้รับประโยชน์จากคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย

  • ใช้ผสมน้ำ 50 เท่าพ่นลงดินเพื่อฆ่าจุลินทรีย์ที่เข้าทำลายพืชที่ปลูกแล้วหากใช้ความเข้มข้นมากกว่านี้ รากพืชอาจได้รับอันตรายได้

  • ใช้ผสมน้ำ 200 เท่า ความเข้มข้นระดับนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างเช่น ใช้ฉีดพ่นที่ใบรวมทั้งพื้นดินรอบต้นพืช ทุกๆ 7 - 15 วัน เพื่อขับไล่แมลงป้องกันกำจัดเชื้อรา และกระตุ้นความต้านทาน และการเจริญเติบโตของพืชเนื่องจากความเข้มข้นระดับนี้สามารถทำลายไข่ แมลงและฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นโทษต่อพืชและเพิ่มเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์เหล่านี้จะทำลายโดยการเป็นตัวเบียนของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช แต่ในพื้นที่ที่มีการใช้สารเคมีอย่างหนักและยาวนานอาจจะไม่เหลือเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์อยู่เลยต้องใช้ปุ๋ยหมักเข้าช่วยด้วยก็จะเพิ่มประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างมากอีกด้วยในขณะเดียวกันพืชและจุลินทรีย์ที่ได้รับสารอาหารจากกรดน้ำส้มก็จะเปลี่ยนเป็นสารประกอบต่างๆมากมาย กระตุ้นให้พืชเจริญอย่างเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อใบพืชถูกกระตุ้นด้วยกรดอินทรีย์อ่อนๆ ชั่วคราวก็จะกระตุ้นให้เกิดความต้านทานต่อโรค รวมทั้งทำให้ใบหนา แข็งและเขียวเป็นมันเพิ่มปริมาณคลอโลฟิลด์ ทำให้ปรุงอาหารได้ดีขึ้นพืชจะแข็งแรงและเติบโตเร็วรวมทั้งแก้ปัญหาการสังเคราะห์แสงไม่ดีพอเนื่องจากขาดแสงในบางฤดูแต่ห้ามใช้อัตราส่วนเข้มข้นกว่านี้ฉีดพ่นใบพืช จะทำให้ใบพืชไหม้เนื่องจากความเป็นกรดสูงมากเกินไป

  • อัตราส่วน ผสมน้ำ 200 เท่านี้จึงช่วยป้องกันกำจัดโรคและแมลงกระตุ้นความต้านทานและกระตุ้นความเจริญเติบโตของพืชอีกด้วยอีกทั้งยังสามารถนำไปฉีดพ่นที่กองปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ช่วยย่อยให้เป็นปุ๋ยหมักได้เร็วขึ้น

  • ใช้ผสมน้ำ 500 เท่าฉีดพ่นผลอ่อนของพืชเพื่อช่วยขยายให้ผลโตขึ้นหลังจากติดผลแล้ว 15 วันและฉีดพ่นอีกครั้งก่อนเก็บเกี่ยว 20 วันเพื่อเพิ่มน้ำตาลในผลไม้อีกด้วยเนื่องจากน้ำส้มควันไม้ช่วยสังเคราะห์น้ำตาลและกรดอะมิโนดังนั้นจึงเพิ่มทั้งผลผลิตและคุณภาพ

  • ใช้ผสมน้ำ 1000 เท่าเป็นสารจับใบจะช่วยลดการใช้สารเคมี

เนื่องจากสารเคมีสามารถออกฤทธิ์ได้ดีในสารละลายที่เป็นกรดอ่อนๆและสามารถลดการใช้สารเคมีมากกว่าครึ่งจากที่เคยใช้
ใช้ทำปุ๋ยคุณภาพสูง โดยใช้น้ำส้มควันไม้เข้มข้น 100 %หมักกับหอยเชอรี่บด เศษปลา เศษเนื้อ หรือกากถั่วเหลืองโดยใช้โปรตีนต่างๆ 1 กิโลกรัม ต่อน้ำส้มควันไม้ 2 ลิตร หมักนาน 1เดือน แล้วกรองกากออก เวลาใช้ผสมน้ำ 200 เท่า ใช้หมักกับสมุนไพร เช่นใบเสม็ดและใบสะเดา หางไหลแดง ข่าแก่ ตะไคร้หอม ฯลฯ เพื่อเพิ่มของน้ำส้มควันไม้ในการไล่แมลง และป้องกันโรคและสามารถเก็บสารละลายนี้ได้นาน โดยไม่บูดเน่า


ขอบคุณข้อมูลจาก //www.gotoknow.org/blogs/posts/138067  ค่ะ




Create Date : 14 กรกฎาคม 2555
Last Update : 14 กรกฎาคม 2555 21:39:09 น.
Counter : 2922 Pageviews.

4 comments
  
^^ ซื้อที่ไหนคะ
โดย: ริมน้ำ_ขอบฟ้า (rimnam_kobfa ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:58:54 น.
  
พอดีแถวบ้านเค้าทำไว้ใช้เองค่ะ ร้านขายยาน่าจะมีนะคะ
โดย: ส้มโอ ณ วังน้ำเขียว วันที่: 15 กรกฎาคม 2555 เวลา:6:03:22 น.
  
กำลังลองกับลูกน้องที่บ้านเลยค่ะ ยังไม่ได้อาทิตย์นึงแต่มีกำลังใจละ จะพยายามต่อนะคะ
โดย: แม่น้องกะบูน วันที่: 15 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:15:31 น.
  
อัตราส่วนเท่าไหร่คะ
โดย: browny -g (browny -g ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:12:33:51 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Miss Loso
Location :
นครราชสีมา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments