สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
Group Blog
 
All Blogs
 
ความจริง ความเชื่อ และความรัก

"ความจริง ความเชื่อ คำขอโทษ และความรัก"

บ่ายเมื่อวานตั้งใจจะว่าจะออกไปเดินตากแอร์ อ่านหนังสือในห้างสักสองสามชั่วโมง สุดท้ายก็ชวดเพราะจู่ๆ ฟ้าก็มึดตืดตื๋อ

มองลอดหน้าต่างออกไปนอกบ้าน เห็นลมพัดแรงจนกอเฮลิโคเนียที่ปลูกอยู่ข้างๆ บ้านตีกำแพง ตีหน้าต่างดังตึงตัง ยังไม่ทันไรไฟในบ้านก็ดับวูบมืดตื๋อทั้งในทั้งนอก

กำลังดูซีเอสไอเพลินๆ อยู่เชียว

"บ้านอื่นก็ดับหมด แถวนี้ฝนตกหนักทีไรเป็นยังงี้ทุกที"ม่ามี้เปรยๆ พร้อมกับสั่งให้เด็กในบ้านไปหยิบเทียนข้างบน

"ไม่รู้รู้จักรึเปล่าเทียนน่ะ"ม่ามี๊บ่นเบาๆ ด้วยว่า เด็กต่างชาติที่บ้านไม่ค่อยประสีประสาเท่าไรพูดฟังอะไร ก็มักยิ้มและพยักหน้าทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจ

และก็จริงตามคาด วิ่งจู๊ดขึ้นบ้านไปนานสองนาน สุดท้ายกลับมามือเปล่า ...she ไม่รู้จัก"เทียน"

สุดท้ายก็ต้องไปเอาเอง จุดได้พักเดียวไฟก็มาตามปกติ

ฟ้าข้างนอกยังมืดครึ้ม ลมแรง แต่สายฝนซาเม็ดไปมากแล้ว

ที่ตั้งใจจะออกไปเดินตากแอร์อ่านหนังสือเล่นเป็นอันต้องล้มไปโดยปริยาย บรรยากาศแบบนี้ อากาศแบบนี้ อะไรจะสุขใจเท่านอนตีพุงดูทีวีอยู่บ้าน

กดรีโมทไปเรื่อยเปื่อย จำไม่ได้ว่า HBO CINEMAX หรือ STAR movie

เห็นหน้า "แอชตัน คุชเชอร์"กับเด็กตัวน้อยนั่งคุยกันในร้านอาหารกลางแจ้ง เลยหยุดดู

และดูต่อไปเรื่อยๆ

จนจบแล้วนั่นล่ะถึงรู้ว่า ที่ดูอยู่น่าจะเลยต้นเรื่องมาไม่นาน

พ่อครับนั่น" เพื่อนพ่อใช่ไหมครับ .....(ชื่อนักอเมริกันฟุตบอล ซึ่งชั้นไม่รู้จักและจำชื่อไม่ได้)"เด็กน้อยพูดอย่างตื่นเต้น

"เราน่าจะเข้าไปทักเขาหน่อยนะครับ"เด็กน้อยพูดกับพ่อ

พ่อทำสีหน้าแปลกๆ และว่า"อย่าไปกวนเขาดีกว่า ในที่สาธารณะแบบนี้เขาอาจอยากเป็นส่วนตัว"

นั่งสักพักคุณพ่อก็ชวนคุณลูกออกจากร้านระหว่างเดินผ่านโต๊ะของนักฟุตบอลคนนั้น

เด็กน้อยปรี่เข้าไปทักทาย "สวัสดีครับ ผมชอบคุณมากเลยครับ คุณเก่ง...บราๆๆๆ"

คนพ่อตะลึงตึงๆ ก่อนพูดตัดบท และพาลูกน้อยฉากหนีไป

เรื่องนี้แอชตัน คุชเชอร์ รับบทคุณพ่อลูกหนึ่งที่มีปัญหากับภรรยา เรื่องอะไรไม่ปรากฎ รู้แค่ว่า แยกกันอยู่ คุณลูกอยู่กับคุณแม่ แต่ไปมาหาสู่กับคุณพ่อเป็นอย่างดี

คุณภรรยาเป็นนักข่าวเหมือนกัน (นางเอกจากcold case อีกซีรี่ส์ในดวงใจ)

ทำงานที่เดียวกัน แต่อาวุโสกว่าคุชเชอร์ (ทั้งหน้าตา และตามเนื่อเรื่อง ตอนหนึ่งพระเอกเล่าว่า มีลูกตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมหาลัยกับนักศึกษาป.โท)

ในเรื่องคุชเชอร์กำลังเก็บข้อมูลเพื่อเขียนสารคดีชีวิตของอดีตนักมวยผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ผู้ซึ่งใครต่อใครคิดว่าเขาตายไปแล้ว

คุชเชอร์เจอเขา (ขอเรียกว่าแชมป์ละกันนะ) โดยบังเอิญ แต่ในสภาพไม่เหลือคราบแชมป์

ชายแก่ผิวสี เนื้อตัวมอมแมม ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง

คนเร่ร่อนในคราบอดีตแชมป์ หรือแชมป์ในคราบชายแก่เร่ร่อน...

คุชเชอร์เข้าไปตีซี้แชมป์ เพื่อเก็บเรื่องราวของเขามาเขียนสารคดี ในเวลาเดียวกันเขาก็หาข้อมูลแวดล้อมต่างๆ เพื่อเช็คด้วยว่า ใช่แชมป์ตัวจริงรึเปล่า

ข้อมูลหาได้ไม่ง่าย คนส่วนใหญ่ที่รู้จัก "แชมป์" และยังมีชีวิตอยู่แทบไม่มีเหลือแล้ว

กับลูกชายคนเดียวของแชมป์ เมื่อคุชเชอร์โทร.ไปคุยเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ตัดสายทิ้งไปเฉยๆ

ขณะที่เดดไลน์ของการเขียนงานส่งใกล้เข้ามาทุกที

ผู้ช่วยคุชเชอร์ในเรื่องได้คลิปวิดิโอการชกระหว่างแชมป์กับนักมวยอีกคนในอดีตมา

เป็นการชกในแม็ทช์สำคัญแม็ทช์หนึ่งของ "แชมป์" เมื่อนำมาเปิดให้ดูแชมป์ก็เหมือนกับว่า เขายังจำเหตุการณ์นั้นได้ดี เป็นการหวนไปหาอดีตในโมงยามแห่งความรุ่งโรจน์

แชมป์กับคุชเชอร์ดูจะเข้าอกเข้าใจกันดี พูดคุยกันถูกคอทั้งเรื่องอดีตแต่หนหลังสมัย ชีวิต การต่อสู้ และความรัก

สิ่งที่เชื่อมโยงทั้งคู่เข้ากันได้ดี มากกว่านักข่าวกับแหล่งข่าว น่าจะเป็น
เพราะคนหนึ่งเคยเป็นพ่อ มีเรื่องราวในครอบครัวเป็นห้วงเวลาแห่งความทรงจำ

ขณะที่อีกคนหนึ่งกำลังเรียนรู้ภาระหน้าที่ของ"พ่อ"ผู้ซึ่งจะเป็นฮีโร่เสมอในใจของลูกชายตัวน้อย

คุณพ่อมือใหม่บอกเล่าเรื่องราวของแชมป์เปี้ยนในอดีตที่เขาได้พบให้ลูกชายตัวน้อยฟัง

วันหนึ่งคุชเชอร์พาเด็กชายตัวน้อยมาพบกับแชมป์ ฟังแชมป์เล่าเรื่องการต่อสู้บนสังเวียนผ้าใบ

เด็กน้อยดูตื่นเต้นที่ได้เจอกับฮีโร่ แม้ในวันนี้แทบไม่เหลือร่องรอยให้เห็นอีกต่อไปแล้ว

เด็กน้อยมองแชมป์ด้วยสายตาชื่นชม เขามองลึกลงไปไกลกว่า เสื้อผ้า และเนื้อตัวที่มอมแมม

ขากลับระหว่างนั่งรถกลับบ้าน "ทำไมลูกดูเศร้าๆ"คุชเชอร์ถาม

"ผมชอบแชมป์นะครับ มันเยี่ยมมากที่ได้มีโอกาสเจอเขา แต่ผมไม่อยากให้เขาเป็นคนเร่ร่อนอย่างนี้เลย"

สำนักพิมพ์ดูจะตื่นเต้นกับสารคดีเรื่องราวชีวิตของแชมป์ที่คุชเชอร์ได้พบ

และก็เป็นไปตามคาด สารคดีชิ้นนั้นสร้างความประทับใจให้กับคนอ่านมากมาย

ชีวิตการเป็นนักข่าวของคุชเชอร์ดูจะสดใสขึ้นในบัดดล

พ่อของคุชเชอร์เป็นอดีตนักข่าวกีฬาฝีมือดีที่มีชื่อเสียง แต่ความสำเร็จในอาชีพนักข่าวของพ่อ เดินสวนทางกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก

พ่อไม่ใช่ "ฮีโร่"ของเขา พ่อเป็นแค่ชายคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นคนเก่งของคนอื่น ไม่ใช่เขา

เงาของพ่อเป็นสิ่งที่คุชเชอร์พยายามวิ่งหนี แต่ไม่เคยหนีพ้น

สารคดีชีวิตของอดีต "แชมป์"ทำให้เขาได้รับการยอมรับในฐานะนักข่าวฝีมือดี และในฐานะลูกไม้ใต้ต้น ไม่ว่าเขาจะต้องการหรือไม่ก็ตาม

สถานีโทรทัศน์ชื่อดังหยิบยื่นงานใหม่ในฐานะนักข่าวกีฬา

แต่คุชเชอร์ก็ได้ชื่นชมกับความสำเร็จของตนเองสั้นมาก

หลังสารคดีตีพิมพ์ไม่กี่วัน เขาได้รับการติดต่อจากบุคคลในแวดวงหมัดมวยในอดีตว่า แชมป์ที่เขาเขียนถึงตายไปแล้ว

ชายแก่เร่ร่อนที่มีฝีมือในทางหมัดมวย ไม่ใช่แชมป์ในอดีต

คุชเชอร์รู้สึกตกใจกับข้อมูลใหม่ แต่ก็ยังไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง

เขากลับไปหาแชมป์เพื่อถามหาความจริง และเขาก็พบว่า แชมป์คนที่เขาเขียนถึงเป็นแค่อดีตนักมวยมีฝีมือคนหนึ่งที่มักขึ้นชกในเวทีเล็กๆ โดยสวมรวยเป็น "แชมป์"

"คุณโกหกผมทำไม"

"ตอนนายเจอชั้นนายบอกว่ายังไงล่ะ นายบอกว่านายอยากได้โอกาสใช้ไหม"


"บ้านที่คุณพาผมไปดู บ้านที่คุณบอกว่า ภรรยา และลูกชายคุณอยู่ที่นั่นล่ะ"

"ใช่นั่นเป็นบ้านของฉัน ฉันเคยเป็นฮีโร่ของลูกชายตัวน้อย จนวันหนึ่งเขากลับมาจากโรงเรียน ร้องไห้จ้า และบอกว่า มีคนบอกว่าฉันไม่ใช่แชมป์"

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเด็กน้อยรู้ว่า พ่อไม่ใช่ฮีโร่อีกต่อไปแล้ว พ่อเป็นแค่ชายลวงโลกคนหนึ่ง

เด็กน้อยกลายเป็นเด็กหนุ่มเกเร หนีออกจากบ้านไปเข้าแก๊งค์ข้างถนนที่สุดก็จบชีวิตลง

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของชายเร่ร่อน

เขาไม่สามารถใช้ชีวิตในบ้านหลังเดิมได้อีกต่อไป

ชีวิตของเด็กน้อยจบลงพร้อมๆ กับชีวิตของพ่อคนหนึ่ง

คุชเชอร์เป็นฮีโร่ของลูกเช่นเดียวกัน

เด็กน้อยชื่นชม และศรัทธาในความเก่งของพ่อ พ่อผู้เป็นนักข่าวกีฬา ที่มีเพื่อนเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงมากมาย

ที่โรงเรียนเขาไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟังอย่างภาคภูมิใจว่า พ่อของเขาเคยตีกอล์ฟกับโมฮัมหมัดอาลี พ่อของเขาเป็นเพื่อนกับนักอเมริกันฟุตบอล และนักกีฬาผู้มีชื่อเสียงคนอื่นๆ

คุชเชอร์มักเล่าถึงการทำงานของเขาให้ลูกฟังเสมอๆ

มากกว่าความสำเร็จในหน้าที่การงานที่พังครืนลงตรงหน้า คือความรู้สึกของลูกชายตัวน้อย

"พ่อไม่ได้โกหก แต่พ่อไม่รู้ ลูกแค่เชื่อในสิ่งที่พ่อบอก ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้โกหกใคร ลูกเข้าใจใช่ไหม"

เด็กน้อยเสียใจที่รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วชายแก่เร่ร่อนไม่ใช่ "แชมป์" แต่ไม่ได้เสื่อมศรัทธาในตัวพ่อ เมื่อรู้ความจริง

ในฐานะนักข่าวกีฬา เป็นเรื่องปกติที่คุชเชอร์ต้องเจอกับนักกีฬาที่มีชื่อเสียงมากมาย เรื่องราวในระหว่างการทำงานที่บอกเล่ากับลูกน้อยจึงเป็นคำพูดของพ่อคนหนึ่งที่อยากให้ลูกชื่นชม

เพื่อนย่อมสร้างความประทับใจได้มากกว่า นักข่าวกับแหล่งข่าว

"ลูกไม่ได้โกหกใคร ลูกแค่เชื่อในสิ่งที่พ่อพูด"คุชเชอร์พูดกับเด็กน้อย

สิ่งที่ทำให้เด็กน้อยเข้าใจความแตกต่างระหว่าง "ความจริง" และ"ความเชื่อ"
มาจาก "ความรัก"

ความรักจากพ่อที่เขาสัมผัสได้

ในเวลาเดียวกันพ่อคนหนึ่งก็ได้เรียนรู้ว่า ความจริง และความรักสำคัญ
กว่าความเก่ง และความสำเร็จ

พ่อเป็น "ฮีโร่"เสมอสำหรับลูก




Create Date : 11 พฤษภาคม 2552
Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 7:28:48 น. 3 comments
Counter : 783 Pageviews.

 
พ่อแม่ รักเราแบบไม่มีข้อแม้ ลูก ก็เป็น ฮีโร่ สำหรับ พ่อแม่ เหมือนกัลล์


โดย: uan IP: 10.11.1.39, 202.60.199.116 วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:32:11 น.  

 
Now these three remain: faith,hope and love. But the greatest of these is love.. 1 corinthians13:13





โดย: :) IP: 24.1.66.251 วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:31:33 น.  

 
I don't know
that are u going
to believe me... the story I
told might sound impossible for u,
so I'm not going to tell it... but I just
want you to try it, to feel the same way I felt
and to reconize the miracal that is the Gift form
"GOD".. as he does done to my life and will also to you
if you welcome him in to yours


โดย: bb IP: 124.120.6.220 วันที่: 24 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:45:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cherydnk
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add cherydnk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.