สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
Group Blog
 
All Blogs
 
"วันฉัตร ผดุงรัตน์" pantip dot com



คุยเรื่องเว็บ-ภาพฉาว และสังคมบนเน็ต
กับ"วันฉัตร" ผู้สร้าง Pantip.com

ชื่อ วันฉัตร ผดุงรัตน์ เชื่อว่าน้อยคนนักจะรู้จักแต่ถ้าเอ่ยถึง "พันทิปดอตคอม"
คงมีน้อยคนมากที่ไม่รู้จักชื่อนี้
และยิ่งรู้จักมากขึ้นไปอีกเมื่อไม่นานมานี้ เพราะ พันทิปดอตคอม เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับในฐานะเว็บไซต์ที่เผยแพร่ภาพเปลือยอกของดาราสาวชื่อดัง "ตั๊ก" บงกช คงมาลัย จากภาพยนตร์เรื่องไอ้ฟัก

วันฉัตร ผดุงรัตน์ คือเจ้าของ และผู้ก่อตั้ง พันทิปดอตคอม เว็บไซต์ชื่อดังซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่นักท่องเน็ตบ้านเรา
และเมื่อตกเป็นข่าวฉาว พันทิปก็ยิ่งดังมากขึ้นไปอีก แต่เป็นไปในทางที่ไม่สู้ดีนัก

แม้การกระทำดังกล่าวจะมาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของ "มือกลอง" (นิกเนม ผู้เผยแพร่ภาพดาราสาวบนเว็บ)
แต่ทั้งพันทิปดอตคอม และมือกลองก็ตกเป็นจำเลยสังคมทันที ด้วยข้อหาล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว และทำให้ดาราสาวเสื่อมเสียชื่อเสียง

ด้วยว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพลับเฉพาะที่เจ้าตัวไม่ต้องการเผยแพร่ และไม่ได้ปรากฏอยู่บนภาพยนตร์เรื่องไอ้ฟักฉบับที่ฉายในโรงภาพยนตร์
และถึงแม้คนในสังคมบนโลกจริงๆ และโลกเสมือนจริงอย่างอินเทอร์เน็ตบางกลุ่มจะมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเห็นอกเห็นใจ "มือกลอง"

และรู้ว่าพันทิปดอตคอมไม่ได้มีเจตนาที่จะเป็นสื่อกลางเผยแพร่ภาพนี้ออกไปเพื่อสร้างความเสียหายให้กับใคร และรีบลบภาพดังกล่าวทิ้งไปในทันทีที่รู้เรื่อง
แต่โลกไซเบอร์ สเปซ หรือโลกอินเทอร์เน็ต ก็กำลังโดนสังคมไทยตั้งคำถามถึงขอบเขตของความมีอิสระเสรี และความเหมาะสมในการแสดงความเห็น
กลายเป็นกระแสเรียกร้องให้จัดระเบียบเว็บไซต์และสื่อออนไลน์บ้านเรา

"เรารีบลบภาพคุณตั๊กทันทีเมื่อรู้ว่ามีคนโพสต์ภาพนี้ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมบนเว็บบอร์ด
ในเบื้องต้นพันทิปทำตามระเบียบที่สภาผู้ดูแลเว็บไซต์กำหนดไว้ คือลบภาพที่ไม่เหมาะสมภายใน 1ชั่วโมง เราระวังมาตลอดและไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
แต่เมื่อมีเรื่องขึ้นมาแล้วก็คงต้องมาคิดกันต่อว่าจะหาวิธีการป้องกันอย่างไร"

"วันฉัตร" พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และว่า เหตุการณ์นี้ทำให้คนในวงการเว็บไซต์ตื่นตัว และเห็นตรงกันว่าควรต้องเริ่มจัดระเบียบเว็บไซต์ได้แล้ว

ซึ่งขณะนี้สภาผู้ดูแลเว็บไซต์ก็กำลังร่างกฎเกณฑ์ และระเบียบปฏิบัติเพื่อทำให้สังคมอินเทอร์เน็ต และสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสังคมคุณภาพ
อันที่จริง พันทิปดอตคอม ถือเป็นเว็บไซต์แรกๆ ที่ให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบการแสดงความคิดความเห็น หรือเผยแพร่ภาพบนเว็บไซต์
ดังจะเห็นได้จากการสร้างระบบสมาชิกสำหรับผู้ที่จะเข้ามาแสดงความเห็นในเว็บบอร์ดของพันทิป โดยสมาชิกทุกคนต้องลงทะเบียน
ระบุชื่อ นามสกุลจริง ประวัติส่วนตัว รวมถึงหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนไว้ที่เว็บไซต์ก่อน เพื่อเป็นหลักฐานสืบหาต้นตอกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้น

อีกทางหนึ่ง พันทิปต้องการทำให้สมาชิกที่เข้ามาในเว็บบอร์ดแสดงความเห็น หรือเผยแพร่เรื่องใดๆ ยับยั้งชั่งใจไว้บ้างหากคิดทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมหรืออาจสร้างความเสียหาย
ความพยายามที่จะทำให้สื่อออนไลน์เป็นสื่อที่มีคุณภาพ ไม่ใช่คำพูดสวยหรูที่เพิ่งคิดขึ้นเมื่อมีกรณีภาพฉาว

แต่ "สังคมออนไลน์คุณภาพ" เป็นสโลแกนที่เว็บไซต์พันทิปดอตคอมใช้มาก่อนหน้านี้นานแล้ว

ใครเคยคลิกไป //www.pantip.com คงเคยเห็นสโลแกนนี้ปะไว้บนมุมซ้ายของเว็บหน้าแรก
แต่ต้องยอมรับว่า การใช้ระบบสมาชิกเป็นเกราะป้องกันการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพื่อสร้างสังคมออนไลน์คุณภาพอาจไม่เพียงพอ
เพราะยังไม่มีใครลุกขึ้นมาตีกรอบคำจำกัดความระหว่างคำว่า "เหมาะสม" และ "ไม่เหมาะสม" ว่าควรเป็นเช่นไร

"หลังมีเรื่องคุณตั๊กเกิดความสับสนมากในหมู่คนใช้เว็บ มีคนจำนวนมากเขียนคำถามบนเว็บบอร์ด ถามว่า รูปที่เขาถ่ายไว้ปกติใส่เสื้อผ้ามิดชิดไม่โป๊เลย แต่เป็นรูปคนอื่น จะนำขึ้นมาโพสต์บนเว็บได้ไหม"

"วันฉัตร" มองว่าการมีกฎ ระเบียบให้ผู้ประกอบการเว็บไซต์ปฏิบัติตามเป็นเรื่องที่ดี แต่ยังไม่เพียงพอ
ต้องมีการให้ความรู้กับคนใช้อินเทอร์เน็ตด้วย ถ้าทำได้ก็จะสร้างสังคมออนไลน์ที่มีคุณภาพได้จริงๆ
เพราะปัจจุบันคนส่วนใหญ่เริ่มสับสน และอยากรู้ว่าอะไรทำได้ ไม่ได้ แสดงว่าคนเริ่มตื่นตัว และต้องการทำสิ่งที่ถูกต้อง

"เขา"ย้อนอดีตให้ฟังว่า เกือบสิบปีที่แล้วเข้ามาเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตเพราะความบังเอิญ
ตอนนั้นยังทำธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้ามาขายในเมืองไทยจึงมีโอกาสเรียนรู้การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อรับส่งอีเมล์ติดต่อกับพาร์ตเนอร์ต่างประเทศ
เมื่อได้ใช้อินเทอร์เน็ตก็มีโอกาสได้ใช้เว็บบอร์ดต่างประเทศ ซึ่งคือกระดานข่าวถามตอบปัญหางต่างๆ เหมือนบอร์ดแจ้งข่าวในโรงเรียน หรือตามหมู่บ้าน

ต่างกันตรงที่เว็บบอร์ดเป็นกระดานข่าวออนไลน์ที่คนใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกเข้ามาอ่าน เขียน และตอบคำถามได้
และที่เว็บไซต์พันทิปเป็นรูปเป็นร่างได้จนทุกวันนี้ นอกจากศึกษา และเรียนรู้ด้วยตนเองแล้วก็ได้เพื่อนๆ ในอินเทอร์เน็ตคอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำทิ้งไว้บนกระดานข่าวบนโลกเสมือนจริง

ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์พันทิปอีกสองคนที่สร้างเว็บไซต์แห่งนี้ขึ้นมาพร้อมๆ กับวันฉัตรก็ได้มาจากการทำความรู้จักกันบนอินเทอร์เน็ต

เช่นเดียวกับส่วนหนึ่งของทีมงานในปัจจุบัน

"ตอนผมทำเว็บพันทิปใหม่ๆ มีคุณหมอคนหนึ่งเขียนอีเมล์มาบอกว่า เว็บคุณก็โอเคนะ แต่น่าจะมีเสียงเพลงด้วย ผมก็ว่าดี แต่ทำไม่เป็นจึงเขียนอีเมล์ถามไป เขาก็ตอบกลับมา ข้อความสองย่อหน้านั้นทำให้ผมสร้างเสียงบนเว็บได้
แต่คุณหมอตอบผมคนเดียว ผมรู้คนเดียว นั่นทำให้ผมได้คิดว่า ทำไมเรารู้อยู่คนเดียว"

ความประทับใจที่มีต่อสังคมเอื้ออาทรบนโลกเสมือนจริงผลักดันให้ "วันฉัตร" เปลี่ยน Pantip.com ซึ่งเดิมตั้งใจให้เป็นห้องสมุดคอมพิวเตอร์เป็น "สภากาแฟ" บนอินเทอร์เน็ต

"ผมเริ่มเข้าไปดูเว็บต่างประเทศว่ามีบ้างไหมที่เป็นแบบที่เราคิด ได้เจอเว็บบอร์ดคล้ายๆ พันทิปตอนนี้ แต่ เป็นเว็บที่คนเข้ามาคุยกันเรื่องตกปลา และการเล่นเรือ ก็ได้เรียนรู้จากตรงนั้นมาพัฒนาจนเป็นพันทิปทุกวันนี้"

"วันฉัตร" บอกว่า โลกอินเทอร์เน็ตก็ไม่ต่างจากโลกในชีวิตจริง แต่ถ้าจะพูดให้ใกล้เคียงจริงๆ ก็ต้องบอกว่าโลกอินเทอร์เน็ตเหมือนโลกสมัยเรียนหนังสือ
ไม่มีผลประโยชน์ มีคนที่ชอบช่วยเพื่อน มีคนเฉยๆ คนชอบเฮฮา คนชอบเป็นผู้นำ คนเกเรก็มี
สมัยที่เขาเริ่มใช้อินเทอร์เน็ต ความเกื้อกูลกันในโลกอินเทอร์เน็ตเป็นทั่วโลก ไม่ใช่วัฒนธรรมของชาติ
เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น เป็นโลกใบใหม่ เป็นสังคมเล็กๆ เมื่อคนมากขึ้น สังคมขยายตัว คนก็หลากหลายขึ้น

ในบ้านเราเองเกือบ 10 ปีที่แล้ว มีคนไทยรู้จักอินเทอร์เน็ตแทบนับคนได้ แต่วันนี้มีคนใช้มากกว่า 6 ล้านราย เกือบ 10% ของประชากรในประเทศ
เป็นสังคมที่ใหญ่มากทีเดียวจึงจำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์เข้ามากำกับให้สังคมนี้มีระบบระเบียบขึ้น
ส่วนจะมากแค่ไหนนั้น "วันฉัตร" บอกว่า คงต้องช่วยกันคิด ทั้งเจ้าของเว็บไซต์ ภาครัฐ หรือแม้แต่คนใช้ แต่ก็ไม่อยากให้ไปตีกรอบมากนัก

"ผมยังเชื่อว่าโลกอินเทอร์เน็ตวันนี้ กับสมัยก่อน ก็เหมือนโลกจริงๆ ที่คนในยุคของผมมักเชื่อฟังพ่อแม่ แต่เด็กยุคใหม่เลือกเรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่า
ซึ่งก็คงต้องปล่อยให้เขาเรียนรู้ไป เพราะโลกวันนี้ สังคมทุกวันนี้เปลี่ยนไปเร็วมาก ถ้าไปตีกรอบมากเกินไปก็ไม่ดี
...อีกสิบปี ยี่สิบปีข้างหน้า เมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ไม่ว่าสังคมจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เขาก็ต้องอยู่บนโลกนี้ ซึ่งคนในรุ่นเราอาจอยู่ไม่ถึงแล้วก็ได้"

23 ก.ค.2549 ลงในมติชนสุดสัปดาห์



Create Date : 03 กรกฎาคม 2550
Last Update : 3 กรกฎาคม 2550 16:22:27 น. 1 comments
Counter : 1424 Pageviews.

 

อือ


โดย: p_tham วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:22:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cherydnk
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add cherydnk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.