|
กระบวนการโน้มน้าว : การสร้างกระแสในสังคมไทย
ธรรมจักร พรหมพ้วย
การศึกษากระบวนการสร้างทฤษฎีการสื่อสารที่ต่อเนื่องจากการทำความเข้าใจถึงลักษณะเฉพาะคือ การทราบถึงวิธีการ โน้มน้าว ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงหนึ่งโดยเฉพาะในกลุ่มของนักจิตวิทยาที่ทำการศึกษาการรับรู้ของจิตมนุษย์ที่อาจได้รับการจูงใจในลักษณะต่างๆ เพื่อให้เห็นคล้อยตามผู้ส่งสาร การศึกษาเกี่ยวกับการโน้มน้าวนี้มีที่มาสืบค้นได้ตั้งแต่สมัยกรีก โดยอริสโตเติลได้พยายามที่จะศึกษาการพูดของนักวาทศิลป์สมัยนั้นที่มีเจตนาจะโน้มน้าวจิตใจผู้ฟังให้คล้อยตามทัศนคติทางการเมืองและการปกครอง แนวคิดหลักของการโน้มน้าว ก็คือ การสื่อสารด้วยวิธีการโน้มน้าวนี้ อาจทำให้ผู้รับสารเปลี่ยนแปลงความเชื่อ ทัศนคติ และอาจถึงขั้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้ส่งสารได้ ทำให้มีการศึกษาโดยเฉพาะในกลุ่มนักจิตวิทยาเกิดเป็นแนวคิดและทฤษฎีมากมาย เพราะหากเราสามารถเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงความคิดหรือทัศนคติของมนุษย์ได้แล้ว ย่อมมีผลประโยชน์ในด้านบวกและผลกระทบในด้านลบตามมา กล่าวคือ หากผู้พูดโน้มน้าวให้ผู้ฟังเชื่อและปฏิบัติในสิ่งที่ชอบธรรมก็จะเกิดผลในทางบวก แต่หากเป็นโน้มน้าวเพื่อสร้างกระแสความคิด ความเชื่อไปทางลบ ขัดกับศีลธรรมจรรยาแล้ว เราจะมีวิธีการป้องกันหรือเรียนรู้ที่จะปฏิเสธการโน้มน้าวได้ดีพอหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมไทยที่มีความอ่อนไหวสูง เพราะประชากรในประเทศโดยเฉลี่ยมีการศึกษาในระดับไม่สูงมากนัก ทำให้เกิดการเหลื่อมล้ำระหว่างประชากรที่มีการศึกษา ได้มีโอกาสเรียนรู้ที่จะโน้มน้าวชักจูงจิตใจผู้ด้อยการศึกษาให้คล้อยตาม โดยเฉพาะในวงธุรกิจ การเมือง แม้กระทั่งพระพุทธศาสนา ซึ่งเรามักจะพบเห็นการโน้มน้าวเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจได้ง่ายในสังคมไทยที่กลายเป็นสังคมทุนนิยมไปแล้วในปัจจุบัน เช่น การโน้มน้าวใจเพื่อชักชวนให้ร่วมธุรกิจขายตรง ที่ผู้พูดใช้วาทศิลป์โน้มน้าว ชักจูง หาเหตุผลสนับสนุน เพื่อให้มีผู้มาร่วมระดมทุนในวงธุรกิจขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการขายเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ขายตรงจากบรรษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ ที่มุ่งหวังให้ประชากรหัวอ่อนเช่น คนไทย ร่วมวงศ์ไพบูลย์กับธุรกิจประเภทนี้มากมาย มีการสอนทักษะการพูดโน้มน้าวตามหลักจิตวิทยา ที่เรียกกันว่า กลยุทธ์การตลาด ให้ถือปฏิบัติในทางเดียวกัน เกิดเป็นขบวนการ ลัทธิ ทั้งที่ขายของแบบถูกกฏหมาย เรื่อยไปจนถึงการสร้างเป็นระบบธุรกิจแบบ แชร์ลูกโซ่ ไม่เว้นแม้กระทั่งใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ที่อาศัยพระธรรมเทศนาเป็นเครื่องมือจูงใจคนไทยหันหน้ามุ่งเข้าสู่ลัทธิบูชาแบบแปลกประหลาด บ้างก็หันกลับไปถือเจ้าเข้าทรง หรือนับถือนิกายพุทธศาสนาที่แปลกแยกออกไป ฯลฯ ซึ่งเบื้องหลังกรณีเหล่านี้ก็คือ พระนักเทศน์ฝีปากเอก ที่สามารถเอาพระธรรมบังหน้าเทศนาหว่านล้อมสาธุชนให้เห็นคล้อยตาม ซึ่งเบื้องหลังก็คือ การระดมบุญแบบระดมทุน มีเรื่องเงินๆ ทองๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ปรากฏเป็นความฉาวโฉ่ของพระศาสนาดังปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวันนี้ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นประเด็นปัญหาของสังคมไทยที่เกิดจากการไม่สามารถพินิจตรึกตรองได้ของคนไทย ว่าสิ่งใดเป็นการโน้มน้าวหรือสิ่งใดเป็นบุญ เป็นผลประโยชน์ที่แท้จริง โดยเฉพาะ ผู้ได้รับการศึกษาเองที่ยังไม่ตระหนักรู้ในจรรยาบรรณแห่งมนุษย์ หวังเพียงเพื่อเอาทฤษฎีการโน้มน้าวนี้ไปใช้หลอกลวงเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง ฉะนั้นแล้วจงอย่าปล่อยให้ตนเป็นผู้หลงไปตามกระแสโดยง่าย และจงอย่าเป็นผู้สร้างกระแสโน้มน้าวในทางลบ
ธรรมจักร พรหมพ้วย 1 กรกฎาคม 2545
Create Date : 24 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 24 พฤษภาคม 2550 3:27:41 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1512 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ไท IP: 125.27.121.224 วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:38:38 น. |
|
|
|
โดย: รร IP: 125.24.155.231 วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:49:45 น. |
|
|
|
โดย: ช IP: 182.52.53.192 วันที่: 27 มิถุนายน 2555 เวลา:6:42:00 น. |
|
|
|
| |
|
|