Bloggang.com : weblog for you and your gang
~~**~~ WELCOME TO SNOWBLACK WORLD~~ **~~
Group Blog
นิยายของ ~yAi sNOwbLAcK bAH ~
All blogs
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ภาคพิเศษ)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนจบ)
หาดทราย สายลมและจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่16)
หาดทราย สายลมและจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่15)
หาดทราย สายลมและจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่14)
หาดทราย สายลมและจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่13)
หาดทราย สายลมและจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่12)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 11)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 10)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 9)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 8)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 7)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 6)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 5)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 4)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่3)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่2)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 1)
***One Girl Story ***
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 6)
หาดทราย สายลม และจุดเริ่มต้นของความรัก (ตอนที่ 6)
หลังจากที่พาเด็ก ๆ เข้านอนเรียบร้อยแล้ว ฟ้าก็ออกมายืนรับลมที่ระเบียงชั้นสองของบ้านพัก พร้อมกับนึกถึงคำพูดที่เด็ก ๆ ต่างพากันถามถึงพ่อกับแม่อย่างเศร้าสร้อย นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ซึนามิละก็ ป่านนี้เด็ก ๆ คงจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว แต่ในเวลาไม่ถึง 1 วัน ภัยธรรมชาติครั้งใหญ่กับพรากบุคคลที่รักไปจากพวกเขาเอย่างไม่มีวันกลับ หญิงสาวแหงนหน้ามองดูพระจันทร์ดวงโตที่ทอแสงสีหม่นอยู่บนท้องฟ้า ด้วยความรู้สึกที่หดหู่และหมองเศร้าอย่างบอกไม่ถูก มนุษย์เรามีใครบ้างหละที่ไม่อยากอยู่กับพ่อแม่ และมีใครบ้างหละที่ไม่อยากได้ความรักความห่วงใยจากพ่อแม่ คงไม่มีหรอก อาจเป็นเพราะความเมตตากรุณา ที่อยู่ในเบื้องลึกของจิตใจ ทำให้หญิงสาวอดที่จะร้องไห้ออกมา ด้วยความโศกเศร้าไม่ได้ ในขณะนั้นเองกานต์เห็นหญิงสาวหายไปจากห้องนั่งเล่นจึงตามมาดูด้วยความเป็นห่วง
น้องฟ้าเป็นอะไรไปครับ กานต์ถามด้วยน้ำสียงตกใจเมื่อเห็นหยดน้ำตาบนใบหน้าของหญิงสาวอย่างชัดเจน
เปล่าคะพี่กานต์ ฟ้าแค่สงสารเด็ก ๆ ฟ้าไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเค้าต้องโชคร้าย ทำไมพวกเค้าต้องไม่มีพ่อแม่
ว่าแล้วหยาดน้ำตาก็ยิ่ง ไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวยอย่างไม่ขาดสาย กานต์ค่อย ๆ มองใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวอย่างเอ็นดู ก่อนที่จะค่อย ๆ เอามือ ซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ใครบอกว่าเค้าพาเด็กมาแค่ 7 คน จริง ๆ เค้าพาเด็กมา 8 คนต่างหาก
โอ๋ โอ๋ โอ๋ เด็กน้อยคนดีอย่าร้องไห้เลยนะครับ กานต์ยิ้มพูด พร้อมกับค่อย ๆ ลูบศรีษะของหญิงสาวเป็นเชิงปลอบอย่างอ่อนโยน
อย่ามาทำเหมือนฟ้าเป็นเด็กๆนะ ฟ้าโตแล้วนะพี่กานต์ อดที่จะเถียงออกมาไม่ได้ ทั้งที่นัยน์ตาคู่สวยยังเต็มไปด้วยรอยน้ำตา
ถ้าน้องฟ้าไม่ใช่เด็ก แล้วน้องฟ้าร้องไห้ทำไมครับกานต์กระซิบถามอย่างอ่อนโยน จนหญิงสาวเงยหน้าสวย ๆ ขึ้นมองเขาอย่างไม่ตั้งใจ
ทั้งสองได้สบตากันอีกครั้ง สายตาที่กานต์มองฟ้า เต็มไปด้วยความห่วงใยบอกกล่าวถ้อยคำปลอบประโลมให้เธอคลายความเศร้าใจ ชายหนุ่มมองหญิงสาวอยู่เนิ่นนาน พลางขยับเข้ามาใกล้จนปลายเท้าชนกัน กานต์ก้มหน้าลงมาใกล้หญิงสาว ราวกับจะรับรู้ได้ฟ้ายิ้มพลางหลับตาลงช้าๆ ชายหนุ่มได้ประทับริมฝีปากอุ่น ๆ ลงบนหน้าผากของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา เมื่อสบตากันอีกครั้ง กานต์จึงรวบตัวหญิงสาวมากอดไว้อย่างอ่อนโยน ฟ้ายืนนิ่งด้วยความเขินอาย สักพักจึงยกสองมือขึ้นกอดชายหนุ่มกลับอย่างแผ่วเบา ร่างของทั้งสองอยู่แนบชิดกัน งดงามเหมือนดังภาพในความฝันอันแสนหวาน
ท่ามกลางหมู่ดาวที่ส่องแสงพร่างพราว ความอบอุ่นได้ถูกถ่ายทอดจากหัวใจดวงหนึ่งไปยังหัวใจอีกดวงหนึ่ง อย่างช้า ๆ จนทำให้ฟ้ารู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก นอกจากพ่อกับแม่ของเธอแล้ว ไม่เคยมีอ้อมแขนของใครจะทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจได้มากมายขนาดนี้
อาจจะมีพร้อม แต่ชีวิตก็ยังวุ่นวาย
ยังไม่พอดี ยังไม่พอใจ ถึงไม่หนาวกายแต่หนาวใจอยู่ดี
อาจจะมีน้อย แต่ไม่ขอให้มีมากมาย
มีแค่พอดี มีแค่พอใจ ถึงต้องหนาวกายแต่หัวใจอุ่นดี
อุ่นใจแล้ว แค่มีเธอกับฉัน
รักกันตลอดไปด้วยใจ ใจที่หวังดี
อุ่นใจแล้ว หนาวเย็นสักแค่ไหน
เมื่อมีรักเข้าใจ จะมีอะไรอุ่นกว่านี้
อยู่ในความรัก อาจจะเหมือนว่าไม่มีใคร
แต่รู้ว่ามีเธอ เธอที่เข้าใจ
ถึงต้องหนาวกายแต่หัวใจอุ่นดี
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แม้เสียงนาฬิกาจะตีบอกเวลาของวันใหม่ แต่ฟ้ากับนั่งใจลอย เฝ้านึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
ความรู้สึกหวั่นไหวแต่ก็สุขใจอย่างประหลาดที่เกิดขึ้นกับเธอนั้น มันคืออะไรกันแน่
หญิงสาวเฝ้าถามตัวเองหลายครั้ง หลายหน แต่ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้มีเวลาคิดอะไรไปมากกว่านี้เสียงดังโครมคราม ตามด้วยเสียงโวยวายของศิลา และเสียงหัวเราะของบรรดาเด็ก ๆ ก็ทำให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ พร้อมกับรีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมที่จะพาเด็ก ๆ ไปปั่นจักรยานเสือภูเขากันอีกรอบ
วันนี้พี่ฟ้าเป็นอะไรไป ครับ/คะ ทำไมหน้าแดงจังเลย ไม่สบายหรือเปล่า
บรรดาเด็กแคระทั้งเจ็ดถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่ก้มหน้าก้มตา เหมือนกับจะหาสมบัติที่ตกอยู่บนพื้นดินมาตลอดทาง แต่แทนที่จะได้คำตอบ เจ้าตัวกับเฉไฉเดินไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อถามรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ส่วนกานต์ วันนี้ก็ดูอารมณ์ดีแบบแปลก ๆ คือ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แต่กับไม่ค่อยพูดค่อยจาเหมือนปกติ ราวกับมีอะไรปกปิดไว้ในใจ
ก่อนที่จะมีคนใดคนหนึ่งเขิน หรืออายม้วนกันไปมากกว่านี้ ความโกลาหลวุ่นวาย ก็มาเยี่ยมเยียนทุก ๆ คนอีกครั้ง เมื่อฟ้าปรารภกับทุกคนว่าอยากจะมีส่วนร่วมในงานประจำปีของ มูลนิธิชลาธิป ซึ่งจะจัดขึ้นในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า เดิมทีหญิงสาวเพียงแต่ตั้งใจอยากจะช่วยสอนการแสดงให้เด็ก ๆ เพื่อใช้ในวันงานเท่านั้น เพราะที่นี่เป็นเพียงมูลนิธิเล็ก ๆ ที่เจ้าของจัดตั้งขึ้นแบบส่วนตัว จึงทำให้มีรายได้เข้ามูลนิธิไม่มากนัก ดังนั้นกานต์จึงปรึกษากับปู่ทองเอก ศิวา และฟ้าเพื่อขอความเห็น ก่อนที่จะตัดสินใจทำเรื่องขอนำประวัติ และเรื่องราวต่าง ๆ ของมูลนิธิไปออกรายการทีวีของเขา หลังจากนั้นกานต์จึงรีบโทรหาทีมงานในรายการ พร้อมกับชี้แจงรายละเอียดต่าง ๆ ในเบื้องต้น เขาตัดสินใจที่จะเป็นพ่องานและผู้ดำเนินรายการในครั้งนี้ด้วยตนเอง แต่งานนี้คงจะไม่สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้หากขาดแก้วซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญอีกคนหนึ่ง
ว่าไงพี่กานต์ หนีงานไปหลายวันแล้วตอนนี้เกิดอาการสำนึกได้หรือไง ถึงได้เปลี่ยนใจกลับมาทำงานได้ แก้วเปิดฉากพูดกับพี่ชายคนเดียวด้วยน้ำเสียงประชดประชันเล็ก ๆ
ใครบอกเราหละ ยายแก้ว พี่กำลังอยู่ในระหว่างพักร้อนนะ แต่ว่างานนี้ยอมทำเพราะว่าเห็นแก่เด็กตาดำ ๆ ต่างหาก
กานต์ย้อนตอบน้องสาวด้วยน้ำเสียงที่ดูแข็งขันน่าเชื่อถือ
เชอะ เด็กตาดำ ๆ หรือผู้หญิงตาดำ ๆ กันแน่พี่กานต์ แก้วรู้นะ พวกทีมงานแอบเอาคาบข่าวมาบอกหมดแล้ว ระวังเถอะจะเจอ พี่อลิส ลอบฆ่าอย่างไม่รู้ตัว สงหน้าข่าวคาวบันเทิงไม่พอ อยากลงหนังสืออาชญากรรมต่อหรือไงพี่กานต์
แก้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนทำให้กานต์ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
นี่ไอ้ตัวแสบ เอายาย อลิส มาขู่เหรอ เดี๋ยวพี่ก็หนีไปต่างประเทศ ทิ้งให้แกทำรายการอยู่คนเดียวหรอก แล้วรายละเอียดงานอีก 4 วัน ช่วยเอามาให้พี่ที่นี่หน่อยนะ ไม่ต้องส่งเมลมา ยังไม่ก็ไม่ผ่านเพราะไฟล์งานใหญ่พอสมควร แล้วนี่เป็นยังไงบ้างได้ทำงานกับเพื่อนเก่าเนี่ย พี่เองยังตกใจเลยนะที่เจ้าเด็กแฝดสองคนนั่นจะดังได้ขนาดนี้ โดยเฉพาะเจ้ามาร์คโตขึ้นมากเชียว แถมเก่งอีกต่างหาก
กานต์ไม่รู้ว่าคำพูดของตนได้ไปจุดประกายแค้นของน้องสาวให้เพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
อืม ดีใจมากจนอยากจะเนรเทศให้กลับประเทศไปซะเดี๋ยวนี้เลย พอใจมั๊ย งั้นแค่นี้ก่อนหละกัน บายคะ
เดี๋ยวก่อนซิยายแก้ว โธ๋เอ๋ย ยังคุยงานกันไม่เสร็จเลย ยายเด็กบ๊อง เอ ! เราพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าหว่า กานต์พึมพำกับตัวเองอย่างงง ๆ
กลางดึกคืนนั้น กานต์ไม่เป็นอันกินอันนอนเพราะมัวแต่ร่างแผนงานใหม่ที่เขาเพิ่งคิดขึ้นมาสด ๆ ร้อน ๆ เพื่อการถ่ายทำรายการที่มูลนิธิอย่างขะมักเขม้น ในขณะที่กานต์กำลังหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ทอยู่นั้น ก็เห็นชื่อที่คุ้นตาทักทายเขาเข้ามาทาง MSN
Alice In Wonderland : พี่กานต์ตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ รู้มั๊ยว่าอลิสเป็นห่วงมากแค่ไหน T_T
Mr.ก่าน ก๊าน : พี่แค่ลาพักร้อนเท่านั้นเอง ไม่ได้หายไปไหน แล้วก็ไม่ต้องกังวลใจกับข่าวที่ออกมานะ พี่ชินซะแล้วละอลิส ปล่อยมันไปเถอะ @(^_^)@
Alice In Wonderland : แต่อลิสเป็นห่วงพี่มากที่สุดในโลก พี่กานต์ก็ทราบนี่คะ ว่าอลิสมีแต่พี่กานต์ อลิสไม่เหลือใครอีกแล้ว อีกสักพักอลิส จะกลับไปที่เมืองไทย แล้วก็เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดของเรา
Mr.ก่าน ก๊าน : *_* พี่ว่าเราไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้นะ อลิสพักผ่อนให้สบายใจนะ แล้วค่อยกลับมาว่า......กันต่อ
ยังไม่ทันที่กานต์จะพูดอะไรต่อ ปลายทางก็ offline ไปเรียบร้อยแล้ว อลิส เอ๋ย อลิส กานต์คิดด้วยท่าทีที่หนักใจ เรื่องระหว่างเขากับอลิส ช่างมันเถอะเอางานนี้ให้รอดไปก่อนดีกว่า ว่าแล้วชายหนุ่มก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป
ด้วยความที่วันงานใกล้เข้ามาทุกที วันนี้กานต์และทุก ๆ คนต่างพากันเก็บข้าวเก็บของ พร้อมกับขนอุปกรณ์ต่าง ๆ จากบ้านปู่ทอง เท่าที่จะสามารถใช้ประยุกต์กับงานได้ และไม่ทำให้รถของกานต์ล้นจนเกินไป ก่อนที่จะออกเดินทาง มุ่งหน้าไปที่มูลนิธิอย่างเร่งรีบ ระหว่างที่ขับรถอยู่นั้นกานต์ก็เกิดอาการท้องร้อง เพราะเมื่อคืนมัวแต่บ้างานไม่ยอมทานอะไร และไม่ว่าใครจะเตือนก็ไม่สนใจฟัง จนทำให้ฟ้าต้องบอกให้เด็ก ๆ บังคับให้ชายหนุ่มแวะซื้ออาหารที่ร้านสะดวกซื้อ ก่อนที่จะเดินทางต่อไป แต่เนื่องจากกานต์กำลังขับรถอยู่ คงจะเป็นการยากลำบากถ้าหากว่าต้องหยิบอาหารมาทานเอง เด็ก ๆ จึงคะยั้นคะยอให้ฟ้าช่วยป้อนให้ ราวกับนัดหมายกันไว้ก็ไม่ปาน แต่เมื่อเห็นฟ้าทำท่าลังเลใจ กานต์ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อต่อว่า
ถ้าน้องฟ้าไม่สะดวก เดี๋ยวพี่ทานเองดีกว่าครับ ไว้ไปทานที่นู่นเลยก็ได้
ก่อนที่กานต์จะได้พูดอะไรต่ออีกสักคำสองคำ ไส้กรอกทั้งไม้ก็ถูกยัดเข้าไปในปากโดยฝีมือ เจ้าหญิงสโนไว้ท์แสนสวยที่ขณะนี้สายตาดุคล้าย ๆ แม่มดร้ายไปซะแล้ว ในฐานะที่เป็นเจ้าของความคิด ในฐานะที่หวังดี ในฐานะที่มีคุณธรรม ในฐานะที่ต้องทำตามความเรียกร้องของเด็ก ๆ ฟ้าจึงตัดสินใจอำนวยความสะดวกให้ชายหนุ่มอย่างเต็มที่ เล่นเอาชายหนุ่มตาเหลือก น้ำตาไหลไอสำลักด้วยความปลาบปลื้ม จนแทบหายใจไม่ออก
อีก 2 ชั่วโมงต่อมา ทั้งหมดก็มาถึงที่หมาย (ดีใจที่นายกานต์รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด) มูลนิธิชลาธิป ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 4 ไร่เศษ มีลักษณะเป็นตึกหลังใหญ่ 4 ชั้น ทาด้วยสีขาวทั้งหลัง ปัจจุบันมีเด็ก ๆ ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิประมาณ 70 คน เป็นเด็กชายหญิง อายุ ราว ๆ 5-12 ปี และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลประสานงานอยู่เพียง 3 คนเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นแค่มูลนิธิเล็ก ๆ แต่ความมุ่งหวังของผู้ก่อตั้ง คือ ต้องการให้เด็กที่นี่ได้รับการศึกษาในระดับสูงเท่าที่ทางมูลนิธิจะให้การช่วยเหลือได้
เมื่อพักผ่อนทานอาหารกลางวัน (ตอนบ่าย 2) เรียบร้อยแล้ว กานต์ก็จัดแจงแบ่งหน้าที่ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งทีมงานในบริษัทเค้าที่ตามมาที่หลัง พร้อมกับจัดการแอบโวยวายเรื่องที่ไปบอกยายแก้วเรื่องฟ้าด้วย
แล้วความชุลมุนวุ่นวายแบบย่อย ๆ ก็เกิดขึ้นอีกครั้งในตอนบ่าย เมื่อกานต์ส่งสัญญาณให้ทุกคนเริ่มปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายไว้
เริ่มจากฟ้าที่ถึงกับเหนื่อยหอบเมื่อต้องรับบทหนักฝึกเด็ก ๆ ร้องเพลงสำหรับใช้ในการแสดงบนเวที ซึ่งกว่าเด็ก ๆ จะจำเนื้อร้องได้ก็ใช้เวลาไปไม่น้อย แถมยังแอบงีบหลับเมื่อหญิงสาวเดินออกไปดูงานอื่น ๆ ทางด้านนอกอีกต่างหาก หญิงสาวจึงต้องถอยไปตั้งหลัก 15 นาทีเพื่อวางแผนการรบใหม่ ก่อนที่จะพาเด็ก ๆ ไปวิ่งที่ชายหาดหน้ามูลนิธิ พร้อมกับฝึกร้องเพลงไปด้วย หากใครเผลอหลับระหว่างการวิ่งก็จะถูกลงโทษให้ แสดงท่าทางเป็นลิงเป็นค่าง ให้เพื่อน ๆ ในกลุ่ม ได้หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน (ใครเผลอหลับได้ก็นับว่าเป็นยอดคน)
ส่วนบรรดาหนุ่ม ๆ และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิต่างก็พากัน ทำโครงร่างเวทีการแสดงและตกแต่งซุ้มต่าง ๆ สำหรับใช้ในวันงาน เว้นแต่กานต์ที่ขณะนี้กำลังเตรียมร่างสคริปต์ เพื่อส่งงานต่อให้แก้วจัดรูปแบบและแก้ไขรายละเอียดอื่น ๆ เพื่อใช้ในวันถ่ายทำจริง
ทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจทำงานกันอย่างแข็งขัน โดยมีเสียงร้องเพลงของเด็ก ๆ ช่วยสร้างสีสันและเสียงหัวเราะให้กับทุก ๆ คนได้ตลอดเวลา จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 6 โมงเย็น ฟ้าจึงพาพวกเด็ก ๆ ไปอาบน้ำอาบท่าและทานอาหารเย็น ก่อนที่จะล่ำลาเด็ก ๆ เพื่อไปเตรียมงานกันต่อที่บ้านของกานต์
จวบจนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม บรรดาทีมงาน ต่างพากันแยกย้ายกันไป บ้างก็กลับไปพักผ่อน บ้างก็กลับกรุงเทพเพื่อไปเตรียมงานอื่น ๆ เหลือเพียงกานต์ ฟ้า และคุณป้าแม่บ้านที่ขนเอาหลาน ๆ มาช่วยฟ้าทำชุดสำหรับการแสดงให้พวกเด็ก ๆ ส่วนตัวเขานั้นขอตัวไปอาบน้ำและเตรียมแผนงานสำหรับวันพรุ่งนี้ต่อไป
เดี๋ยวป้าพาหลาน ๆ ไปส่งที่บ้านก่อนนะคะ แล้วจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนคุณฟ้ากับคุณกานต์ จริงซิคะ ป้าฝากคุณฟ้าเอานมร้อนให้คุณกานต์ที ทำงานทีไรลืมกิน ลืมนอนทุกทีเลยคะ
ได้คะป้า เดี๋ยวฟ้าจะจัดการให้นะคะ ขอบคุณมากเลยคะ
ว่าแล้วฟ้าก็เดินขึ้นไปข้างบน แต่เมื่อไปถึงหญิงสาวกับพบว่ากานต์นอนหลับตาอยู่บนเก้าอี้หวาย ด้วยท่าทางที่เหน็ดเหนื่อย ครั้นจะปลุกก็กลัวว่าคนบ้างานจะลุกขึ้นมาทำนู่นทำนี่ให้ปวดหัวอีก เธอจึงเปลี่ยนใจเอาผ้าห่มมาคลุมให้ชายหนุ่ม แต่ยังไม่ทันที่จะสำเร็จคนบ้างานก็ลืมตาตื่นขึ้นมาซะก่อน
กี่โมงแล้วครับน้องฟ้า
กานต์ถามขึ้นทั้งที่ยังไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่
เที่ยงคืนกว่าแล้วคะ พี่กานต์ไปนอนพักดีกว่าคะพี่ทำงานดึก ๆ ดื่น ๆ มาสองวันติดกันแล้วนะคะ แล้วนี่นมร้อนทานก่อนนอนด้วยนะคะ ตื่นมาจะได้ร่างกายสดใส
ชายหนุ่มพยักหน้า เมื่อเห็นสายตาของฟ้าที่มองมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่จะหมุนตัวเดินจากไปช้า ๆ
เอ่อ น้องฟ้าครับ เดี๋ยวก่อน
กานต์เอามือแตะที่ปลายเสื้อของฟ้าเบา ๆ จนทำให้หญิงสาวต้องหันหน้ากลับมาอีกครั้ง
พี่กานต์มีอะไรให้ฟ้าช่วยหรือเปล่าคะ
เอ่อ เปล่าจ๊ะ พี่แค่รู้สึกเจ็บตรงไหล่นิดหน่อย
ไหนค่ะ ฟ้าดูให้ เป็นอะไรมากหรือเปล่า วันนี้พี่กานต์ทำงานหนักทั้งวัน อุ้ย ทันทีที่เธอเดินเข้าไปนั่งคุกเข่าเพื่อดูไหล่ให้ กานต์ก็โน้มตัวมาโอบกอดหญิงสาวไว้แน่น
พี่กานต์ ปล่อยนะ เจ้าเล่ห์นักนะ ฟ้าไม่ทันตั้งตัว ได้แต่ดิ้นขัดขืนเบาๆด้วยความเขินอาย ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ชายหนุ่มก็หอมฟอดใหญ่บนเรือนผม ก่อนปล่อยตัวเธอเป็นอิสระ ฟ้าถอยห่างออกมาพลางเงื้อมือตีเพี้ยลงไปบนแขนแข็งแรง กานต์ยิ้มกว้างตอบโดยไม่สะทกสะท้านสักนิด เขานิ่งมองหน้าฟ้าอยู่สักพักจึงค่อยๆพูดขึ้นเบาๆ ท่าทางเอียงอายดูขัดตากับร่างกำยำ
เมื่อคืนนี้......
เพราะเห็นว่าชายหนุ่มมัวแต่อ้ำอึงหรือด้วยความเขินของตัวเอง ฟ้าจึงพูดตัดบทขอตัวไปนอนซะก่อน
ช่างเถอะคะพี่กานต์ ฟ้าทราบว่าพี่กานต์ ทำไปเพราะต้องการที่จะปลอบใจฟ้าเท่านั้น ฟ้าขอตัวไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า
ว่าแล้วฟ้าก็รีบเดินพรวด ๆ จ้ำอ้าวเข้าห้องนอน ก่อนที่กานต์จะได้เห็นหน้าสวย ๆ ที่ขนาดนี้แดงเป็นสุกตำลึงสุกไปซะแล้ว
อ้าว เอ่อ น้องฟ้าครับ นอนหลับฝันดีนะครับ
กานต์ตัดสินใจตะโกนไล่หลังไป แต่หญิงสาวกับทำเป็นไม่ได้ยินรีบปิดประตูห้องนอนไปซะแล้ว ทิ้งให้ชายหนุ่มยิ้มอย่างปลาบปลื้มก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนบนอย่างมีความสุข
เจ้าชายควรจะทำอย่างไรดี ในเมื่อใจดวงนี้มีแต่เจ้าหญิงสโนไว้ท์เก็บไว้อยู่ในใจทั้งดวง
Create Date : 24 ธันวาคม 2550
Last Update : 25 สิงหาคม 2552 11:51:20 น.
4 comments
Counter : 122 Pageviews.
Tweet
MERRY CHRISTMAS ค่ะ อิอิอิ
โดย:
pataramin
วันที่: 25 ธันวาคม 2550 เวลา:11:55:53 น.
พระเอกนางเอกเริ่มหวานกันแย้ว รอลุ้นต่อไป
สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ : )
โดย:
ชรันจ์
วันที่: 25 ธันวาคม 2550 เวลา:21:01:28 น.
เหอๆๆ อยากเจอแบบนี้บ้างจัง
โดย:
my_reflection
วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:11:04:08 น.
แวะมาอวยพรปีใหม่ก่อน
แล้วค่อยอ่านที่หลังเนาะ
ขอให้มีความสุขมากๆจ้า
โดย:
gripenator
วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:13:07:21 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
รหัสส่งข้อความ
กรุณายืนยันรหัสส่งข้อความ
Designed By Me
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ให้ทิปเจ้าของ Blog
[
?
]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
...OnE GIrL STORY...
Friends' blogs
the violetblue home
N_BEE810
หวานใจ คลับ
SherrY WonG
s o l i d i t y
Webmaster - BlogGang
[Add Designed By Me's blog to your web]
Links
My Space
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.