รวบรวมเนื้อหาธรรมะดีๆ รูปภาพสวยๆ

อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน วัดสามพระยา รายการสกู๊ปอัพเดท

บรรยากาศการอบรมอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ณ วัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ให้เฟื่องฟูเหมือนย้อนยุคพุทธกาล













 

Create Date : 02 มกราคม 2554   
Last Update : 2 มกราคม 2554 13:02:46 น.   
Counter : 673 Pageviews.  

กำหนดการธุดงค์ปีใหม่ ปี พ.ศ. 2554



ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2553 ถึง วันที่ 1 มกราคม 2554

วันที่ 30 ธันวาคม 2553

05.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า หน้าระเบียง 3
09.00 น. ปฏิบัติธรรม 13.00 น. ปฏิบัติธรรม, ฟังธรรม 15.00 น. วัฒนธรรมคุณยาย -ลงทะเบียนการอยู่ธุดงค์ บริเวณ
ธุรการระเบียง 3, 8 15.30 – 23.00 น. ลงทะเบียนการอยู่ธุดงค์ 1 18.30 น. ทำวัตรเย็น/สมาทานการอยู่ธุดงค์ 19.00 น. ชมรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันในฝันวิทยา


วันที่ 31 ธันวาคม 2553

05.00 น. ทำวัตรเช้า/ปฏิบัติธรรม (หน้ารัตนบัลลังก์) 09.30 น. พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานสงฆ์ เดินทางมาถึงศูนย์
กลางพิธี - นำบูชาพระรัตนตรัย / นำนั่งสมาธิ(Meditation) 11.00 น. พิธีถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน 13.30 น. พระภาวนาวิริยคุณ ประธานสงฆ์ เดินทางมาถึงศูนย์
กลางพิธี - แสดงธรรม 15.30 น. สืบสานวัฒนธรรมคุณยาย 18.30 น. ทำวัตรเย็น/สมาทานการอยู่ธุดงค์ 19.00 น. ชมรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันฯ (หน้ารัตน
บัลลังก์)


วันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม 2554

04.30 น ตื่นนอน - สาธุชนผู้มีบุญ ทำความสะอาด อุปกรณ์ 05.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า และกล่าวคำลาธุดงค์
06.40 น. ตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ ปี พ.ศ. 2554 ณ ทิศใต้ของลาน
ธรรม มหาธรรมกายเจดีย์
08.00 น. เสร็จพิธีตักบาตร - เก็บงาน จับฉลากของขวัญปีใหม่ 18.30 น. ทำวัตรเย็น/สมาทานการอยู่ธุดงค์ (เวทีระเบียง 3) 19.00 น. ชมรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันฯ (เวทีระเบียง 3)

แล้วมาพบกันนะค่ะ




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2553   
Last Update : 31 ธันวาคม 2553 15:12:22 น.   
Counter : 721 Pageviews.  

สละชีวิตเป็นเดิมพันสร้างบารมี - พุทธประวัติ



สละชีวิตเป็นเดิมพันสร้างบารมี

เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังเป็นพระบรมโพธิสัตว์
พระองค์ปรารถนาที่จะตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง
และสั่งสอนสัตว์โลกให้บรรลุธรรมตาม
จึงตั้งใจสร้างบารมีโดยการสละทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต
นับครั้งไม่ถ้วน นานถึง 20 อสงไขยแสนมหากัป
จนบารมีเต็มเปี่ยมจึงไปเกิดเป็นผู้ปกครองสวรรค์ชั้นดุสิต
ชื่อ “ท้าวสันดุสิต”
เมื่อถึงเวลาอันควร เทวดาและพรหมทั้งปวง
ได้ทูลอัญเชิญให้มาเกิดในโลกมนุษย์




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2553   
Last Update : 29 ธันวาคม 2553 23:00:50 น.   
Counter : 975 Pageviews.  

อาชีพนักเขียนที่ต้องตอบโต้กับคนพาลอย่างดุเดือดจะมีวิบากไหม

คำถามจากทางบ้าน:
ในฐานะนักเขียน บางครั้งลูกต้องต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น กับผู้ที่พยายามโจมตีพระพุทธศาสนา รวมถึงผู้ที่พยายามปลุกปั่นให้สังคมวุ่นวาย ลูกต้องตอบโต้กับคนพาลอย่างดุเดือด การกระทำเช่นนี้ถือเป็นบุญหรือบาปอย่างไร

ที่นี่มีคำตอบ:
การกระทำเช่นนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาและการใช้ถ้อยคำ ถ้าเจตนาดีและถ้อยคำนั้นไม่ไปทิ่มแทงใคร เป็นวิธีการเดียวกับที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโต้ตอบพวกมิจฉาทิฏฐิ แบบ “อนูปวาโท” คือ ไม่ว่าร้ายใคร ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีวิบากกรรมใด

โดย คุณครูไม่ใหญ่
๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๐




 

Create Date : 24 ธันวาคม 2553   
Last Update : 24 ธันวาคม 2553 22:40:32 น.   
Counter : 574 Pageviews.  

พระพุทธเจ้าเป็นอจินไตย

พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นหลักของพุทธศาสนา ผู้เข้าถึงธรรมกาย ได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา พระบรมศาสดาได้เข้าถึงพระรัตนตรัย และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมอรหัต ได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หมดสิ้นกิเลสอาสวะ มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ ผู้มีจิตเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ ผลบุญอันเลิศย่อมบังเกิดขึ้นกับบุคคลนั้น และบุญนั้นยังตามส่งผลข้ามภพข้ามชาติไปจนถึงที่สุดแห่งธรรม การทำสมาธิ(Meditation)ภาวนาด้วยการเจริญพุทธานุสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ จึงมีอานิสงส์ใหญ่ สมควรที่พวกเราทั้งหลาย จะต้องฝึกให้เป็นอุปนิสัย บุญใหญ่ย่อมจะบังเกิดขึ้นแก่เรา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย อปทานว่า

“เอวํ อจินฺติยา พุทฺธา พุทฺธธมฺมา อจินฺติยา
อจินฺติเยสุ ปสนฺนานํ วิปาโก โหตฺยจินฺติโย

พระพุทธเจ้าเป็นอจินไตย พระธรรมของพระพุทธเจ้าก็เป็นอจินไตย วิบากของเหล่าชนผู้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า และพระคุณของพระองค์ ก็เป็นอจินไตย”

* ที่ท่านกล่าวอย่างนี้เพราะว่า อานุภาพของพระพุทธเจ้ามีมากมายเกินกว่าที่จะนึกคิดด้นเดา ที่เรียกว่าอจินไตย คือ คำนวณไม่ได้ว่าบุญที่เกิดจากการบูชาพระพุทธเจ้า จะมีประมาณมากเพียงใด แต่เราจะได้บุญอย่างเกินควรเกินคาด เป็นสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ เพราะพระองค์เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้แล้วเองโดยชอบ สมบูรณ์พร้อมทั้งวิชชาและจรณะ จะหาสรรพสัตว์ทั้งมนุษย์ เทวดา พรหม หรืออรูปพรหม ผู้ประเสริฐกว่าหรือเสมอเหมือนกับพระองค์ก็ไม่มี ดังนั้น การส่งใจไปถึงพุทธคุณ ส่งใจไปในพระรัตนตรัย จึงเป็นการส่งใจไปในสิ่งที่ประเสริฐที่สุด จะทำให้เราเป็นผู้ประเสริฐ และหลุดพ้นตามพระองค์ไปด้วย

การส่งใจไปถึงพระพุทธเจ้าให้ถูกที่สุดและลัดที่สุด เพื่อจะได้บุญใหญ่อันเป็นอจินไตยที่เกิดจากการระลึกนึกถึงพระองค์ ต้องอาศัยใจหยุดนิ่งเท่านั้น หยุดกันเข้าไปเรื่อยๆ พระพุทธองค์ตรัสรู้ด้วยปฏิปทาอย่างไร เราก็ควรดำเนินตามปฏิปทานั้น คือ ต้องหมั่นฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งให้เข้าถึงธรรมกาย จะได้มีที่พึ่งที่ระลึกอย่างแท้จริง

วันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้บรรลุสัพพัญญุตญาณ ท่านไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย ทำหยุดกับนิ่งอย่างเดียว หยุดนิ่งเฉยๆ ใจหยุดอยู่ภายใน ตั้งแต่ยามเย็นเรื่อยไป พอถูกส่วนก็เข้าถึงปฐมมรรค เห็นหนทางเบื้องต้นเป็นดวงสว่างใสบริสุทธิ์เกิดขึ้นที่กลางกาย แล้วท่านก็หยุดอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หยุดในหยุดๆ เข้าไปเรื่อย จนกระทั่งได้บรรลุเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระธรรมกายปรากฏ หน้าตักกว้าง ๒๐ วา สูง ๒๐ วา ใสบริสุทธิ์ โตใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ เลย เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระธรรมกาย

ในที่สุดใจของท่านล่อนหลุดจากกิเลสจากอาสวะทั้งหลาย กิเลสอาสวะที่ครอบงำจิตใจของท่านตามกายต่างๆ ตั้งแต่กายมนุษย์ กายทิพย์ กายพรหม กายอรูปพรหม กายธรรมโคตรภู กายธรรมพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี หลุดล่อนไปหมด ใจของพระองค์ก็สว่างขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อกิเลสถูกขจัดสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ ก็สำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์จึงเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ล้วน พระบริสุทธิคุณของพระองค์จึงไม่มีบุคคลใดจะมาเสมอเหมือนได้

“ธมฺมกาโย อหํ อิติปิ” ตถาคต คือ ธรรมกาย ผู้ใดเห็นธรรมกาย ผู้นั้นได้ชื่อว่า เห็นพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น วันวิสาขบูชาจึง เป็นวันของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้แล้วเองโดยชอบ เป็นวันของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว สิ่งที่เราควรจะทำในวันนี้คือ พยายามทำใจให้หยุดให้นิ่งเช่นเดียวกับพระองค์ท่าน จะได้เป็นปฏิบัติบูชาที่เป็นการบูชาอย่างยอดเยี่ยม พระองค์ทรงแนะนำอย่างไรเราทำอย่างนั้น ท่านเข้าถึงอย่างไรเราก็เข้าถึงอย่างนั้น ทำใจหยุดใจนิ่งอย่างนี้เรื่อยไป จึงจะได้ชื่อว่ามีความระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า อย่างนี้จึงจะถูกต้องร่องรอยตามคำสอนของพระบรมศาสดา

ถ้าได้ธรรมกายใสแจ่มติดอยู่ที่กลางกายแล้ว ได้ชื่อว่าเจริญพุทธานุสติ เต็มเปี่ยม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ คือมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์อยู่ตลอดเวลา เรากับท่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ได้พรากจากกันเลย เราเป็นท่าน ท่านเป็นเรา ใสแจ่มอยู่ข้างใน กายหยาบของเราก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมกาย หากทำอย่างนี้ได้ นี่แหละถูกตัวพระพุทธเจ้ายิ่งนัก เราจะเกิดความปีติ และซาบซึ้งในตนเอง และความเลื่อมใสที่มีอยู่ก็จะทับทวีมากยิ่งขึ้น เพราะได้เข้าไปรู้จักกับกายธรรมของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นบรมศาสดาของเรา

การดับขันธปรินิพพานของพระพุทธองค์ท่าน ก็แตกต่างจากศาสดาทั้งหลาย พระองค์ทรงสามารถกำหนดรู้วันปรินิพพานได้ หรือที่เรียกกันว่า ทรงปลงอายุสังขาร พระองค์ตรัสบอกสาวกว่า อีก ๔ เดือนจากนี้ไป จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา ที่ตรงนี้ เวลาเท่านี้ พระองค์บอกหมด เพื่อให้เหล่าสาวกเตรียมตัวเตรียมใจ จะได้ไม่ต้องเศร้าโศกเสียใจ ใครที่ยังไม่ได้บรรลุธรรม จะได้รีบตั้งใจฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง ให้ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ให้ทันในช่วงเวลาที่พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่

พระองค์ได้ทรงประชุมพุทธบริษัท ๔ ทรงทำหน้าที่บรมครูครั้งสุดท้ายว่า ใครสงสัยเกี่ยวกับธรรมะที่ สอนมาตลอด ๔๕ พรรษา สงสัยเรื่องอะไรก็ให้ถามได้ แม้ยามจะดับขันธปรินิพพาน ยังทรงประชุมพุทธบริษัท เปิดโอกาสให้ซักถามข้อข้องใจในการดำเนินชีวิต จากเบื้องต้นจนกระทั่งบรรลุธรรมอันสูงสุดที่พระองค์ทรงสอนมา ๔๕ พรรษา แต่ก็ไม่มีใครถาม ไม่ใช่เกรงใจแต่ว่าเข้าใจ และซาบซึ้งในสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งสอนมาตลอดชีวิต

เมื่อไม่มีใครสงสัย พระองค์ทรงประทานปัจฉิมโอวาท ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ตน คือ หมั่นฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งให้หลุดพ้นจากความเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามาร และช่วยกันบำเพ็ญประโยชน์ท่าน ด้วยการไปช่วยกันจุดประกายดวงใจของมวลมนุษยชาติ ให้สว่างไสวด้วยแสงแห่งพระสัทธรรม

การเสด็จดับขันธปรินิพพานของพระพุทธองค์มีผู้รับรู้รับเห็นเป็นพยานตลอด คือ พระอนุรุทธะ ว่าในขณะนี้ท่านเข้าโลกุตรฌานสมาบัติ โดยอาศัยธรรมกายอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้ากลางไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำสมาบัติ เห็นธรรมกายในธรรมกาย ซ้อนกันไปตามลำดับนับไม่ถ้วน จนกระทั่งธรรมกายละเอียดเท่ากับอายตนนิพพาน เท่ากับอนุปาทิเสสนิพพาน พอละเอียดถูกส่วนเข้าก็ถอดกายออกเป็นชั้นๆ อนุปาทิเสสนิพพานก็ดูดธรรมกายของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าไปสู่ในกลาง อายตนนิพพาน สว่างพรึบ เป็นธรรมกายบนพระนิพพานเลยทีเดียว พระอนุรุทธะมองเห็นอย่างนี้ เพราะท่านเป็นผู้เลิศในด้านตาทิพย์

เพราะฉะนั้น ตั้งแต่การบังเกิดขึ้นของพระพุทธองค์ ด้วยชาติวุฒิก็ดี วัยวุฒิ และคุณวุฒิก็ดี สมบูรณ์ทั้งหมด ควรแก่การระลึกนึกถึงพระองค์เป็นอย่างยิ่ง และควรแก่การภาคภูมิใจในพระบรมครูของเรา วันวิสาขบูชาจึงเป็นวันที่เราควรจะมารำลึกนึกถึงพระคุณอันไม่มีประมาณของ พระองค์ว่า การบังเกิดขึ้นของพระพุทธองค์นั้น เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่มนุษย์ เทวดา และสรรพสัตว์ทั้งหลาย อย่างจะนับจะประมาณมิได้

การที่จะระลึกนึกถึงพระพุทธองค์ เราควรทำในสิ่งที่พระองค์อยากจะให้ทำ นั่นคือ การปฏิบัติบูชา ฉะนั้น เวลาที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ไป ให้ทุกๆ ท่านตั้งใจใช้เวลา ทำใจของเราให้หยุดให้นิ่ง ให้ใสบริสุทธิ์ หยุดนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา โดยนึกเอาพระปฏิมากร นั่งขัดสมาธิ เกตุดอกบัวตูมใสเป็นแก้ว แทนการตรึกระลึกนึกถึงพระองค์ก็ได้

ให้ทุกคนทำใจหยุดใจนิ่งให้ดี และระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ไม่กังวลกับสิ่งอะไรทั้งหลายทั้งปวง เอาใจตรึกนึกถึงท่านเป็นอารมณ์ ใจหยุดใจนิ่งให้ใจใส ใจสบาย พยายามปรับปรุงวิธีการวางใจให้ดี ว่าทำอย่างไรเราถึงจะวางใจได้ถูกส่วน ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป ตึงเกินไปก็จะเครียด หย่อนเกินไปก็จะเคลิ้ม ทำให้พอดีๆ แล้วจะสบาย รู้สึกมีความพึงพอใจกับอารมณ์อย่างนี้ ถ้าเกิดความรู้สึกอย่างนี้ ให้รักษาไว้นานๆ ให้ต่อเนื่องและเจริญพุทธานุสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ให้หยุดนิ่งจนกว่าจะเห็นเป็นพระแก้วใส เป็นพระธรรมกายที่ใสสว่างปรากฏเกิดขึ้นมาในกลางกายของทุกๆ คน

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

* พุทธประวัติ เล่ม ๑ (หนังสือนักธรรมตรี)




 

Create Date : 23 ธันวาคม 2553   
Last Update : 23 ธันวาคม 2553 23:38:33 น.   
Counter : 670 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  

เจ้าหญิงใจดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เจ้าหญิงใจดี's blog to your web]