หลวงพ่อทัตตะสอน..ทานอาหารแบบไหนถึงตัวสูงใหญ่เหมือนคนญี่ปุ่น คลิ๊ก เลือกกินอาหารที่ถูก..ร่างกายก็สดใส น้ำซุปอย่างดี... ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด... ใช้เวลา...ศึกษา เรื่องอาหาร ร้อยๆ พันๆ ปี ว่า หัวอะไรกินได้ หรือ กินไม่ได้ ท่านได้ใช้เวลาลองผิดลองถูกมาหลายชั่วคน กว่าจะทำอาหารขึ้นมาแต่ละชนิด แต่ลูกหลานปัจจุบัน แม้เรียนจบปริญญาโทก็ตาม ไม่รู้เรื่องอาหารเพื่อสุขภาพเท่าที่ควร ใครทำอะไรต่ออะไรให้เขากิน หากถูกปากก็กินไปตามนั้น แต่ไม่รู้ว่าแต่ละอย่างที่กิน มีวัตถุประสงค์หรือประโยชน์อะไร ยกตัวอย่าง อาหาร..ประเภท ต้มยำ เช่น กุ้งต้มยำ ไก่ต้มยำ ปลาต้มยำ เป็นต้น คนที่กินต้มยำเป็นเขาจะกินน้ำแกง ทำไม? ขอให้นึกถึง ยาต้ม ยาหม้อ เรากินน้ำยาหรือว่ากากยา ทุกคนตอบได้เองอยู่แล้ว แต่ความเป็นจริงปรากฏว่า คนส่วนใหญ่เมื่อกินต้มยำจะกินแต่เนื้อ คือ กินกากอาหาร ซึ่งย่อยยาก แล้วบอกว่า กินแล้วหนักท้อง อยู่ท้องดี ส่วนน้ำแกงซึ่งเป็นส่วนที่ดีมีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดกลับเอาไปเททิ้งเสีย เมื่อสิ้นสงครคามโลกครั้งที่สอง... คนญี่ ปุ่่นรู้ตัวว่า...ตัวเล็กจัดเมื่อเทียบกับฝรั่งก็ห่างไกลกันมาก เขาจึงประชุมนักโภชนาการของแผ่นดิน แล้วแก้ไขนิสัยการกินทั้งประเทศ เมื่อเปลี่ยนวิธีทำอาหารและวิธีกินอาหารใหม่ เดี่ยวนี้คนญี่ปุ่่นซึ่งมีรูปร่างเล็กกว่าคนไทย จึงมีรูปร่างสูงใหญ่กว่าคนไทย พอฟัดพอเหวี่ยงกับฝรั่งทีเดียวญี่ปุ่่นแก้ไขอะไรในเรื่องอาหารบ้าง หลวงพ่อเคยเดินทางไปพักที่องค์กรทางศาสนาพุทธแห่งหนึ่ง ได้ฉันอาหารเช้าร่วมกับชาวญี่ปุ่่น อาหารเช้าของเขา... ประกอบด้วยข้าวต้มอย่างในบ้านเรา ขณะเดียวกันเขาก็มีหม้อน้ำซุปเรียงกันเป็นแถวหลายหม้อ แต่ละคนก็จะไปเอาถ้วยที่จัดเตรียมไว้มาตักน้ำซุป ใครชอบน้ำซุปอะไรก็ตักได้เต็มที่ พอมาถึงโต๊ะยังไม่ทันได้กินข้าวก็ซดน้ำซุปก่อนเลย บางคนไม่เอาถ้วยเดียว เอาใส่ถาดตั้งหลายถ้วย ซดเอาซดเอา กินข้าวไม่ค่อยมาก น้ำซุปก็เป็นน้ำใสๆ ไม่มีเนื้อสักชิ้นเดียว ไม่ว่าจะเป็นซุปไก่ ซุปหมู หรือซุปอะไรก็ ไม่เห็นมีเนื้อสักชิ้นเดียว แต่ปรุงรสดี รสชาติก็คล้ายๆแกงจืดของบ้านเรา เมื่อ..เปรียบ เทียบอาหารประเภทน้ำซุปของญี่ปุ่่นกับต้มยำรสแซ่บของไทยเรา มั่นใจได้ว่า ทั้งรสชาติ ทั้งคุณค่าทางอาหารของไทยไม่แพ้ใครแน่นอน แม้เราเองยังตัดสินใจทิ้งเนื้อกุ้ง เนื้อปลาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ซดน้ำต้มยำนั้นให้หมดจนหยดสุดท้ายเถิด แล้สุขภาพจะดี อย่ากินแต่เนื้อแล้วทิ้งน้ำแกงให้สุนัขนะลูกนะเดี๋ยวสุนัขจะหัวเราะเยาะเอา จากหนังสือ...สุขภาพนักสร้างบารมี   Create Date : 07 มกราคม 2554     0 comment Last Update : 7 มกราคม 2554 21:46:27 น.     Counter : 832 Pageviews.   Share Tweet

เลือกเกิดได้ด้วยพระบารมี - พุทธประวัติ เลือกเกิดได้ด้วยพระบารมี พระองค์ทรงตรวจดู “ปัญจมหาวิโลกนะ” คือ 1. ทวีป 2.ประเทศ 3.อายุขัยของมนุษย์ 4.ตระกูล 5. มารดา เมื่อทรงเห็นว่ามีครบทั้ง 5 ประการ ที่เหมาะแก่การตรัสรู้แล้ว จึงทรงรับคำเชิญมาเกิด และทรงเลือกเกิดในตระกูลกษัตริย์ ซึ่งเป็นตระกูลสูง พระราชบิดา คือ พระเจ้าสุทโธทนะ พระราชมารดา คือ พระนางสิริมหามายา ในวันเสด็จลงสู่พระครรภ์ พระราชมารดาทรงพระสุบิน (ฝัน) ว่า มีพญาช้างเผือกนำดอกบัวขาวมาถวาย บทความ Articles > พุทธประวัติ - วันสำคัญในพระพุทธศาสนา > พุทธประวัติ > ประสูติ   Create Date : 06 มกราคม 2554     0 comment Last Update : 6 มกราคม 2554 21:42:13 น.     Counter : 896 Pageviews.   Share Tweet

ประสบการณ์ที่ได้จาการดื่มน้ำ ของ หลวงพ่อทัตตะ...สุขภาพนักสร้างบารมี Health ประสบการณ์ที่ได้จาการดื่มน้ำ วันหนึ่งเมื่อรู้ตัวว่า เป็นไข้หวัด ปวดหัวตุ๊บๆ .........!! หลวงพ่อได้ฉันน้ำเป็นระยะ!! ค่อนข้างถี่... ภายใน ๒ ชั่วโมง หมดไป ๒-๔ ลิตร รวดแรกฉันไป ๓ แก้ว (แก้วหนึ่งประมาณ ๔๐๐-๕๐๐ ซี.ซี) ก็เกือบลิตรครึ่ง อีก ๑๐ นาทีต่อมา ฉันตามไปอีก ๑-๒ แก้ว โดยฉันแบบจิบไปเรื่อยๆ ชั่วโมงแรกผ่านไป หลวงพ่อก็ฉันได้ประมาณ ๓ ลิตร เมื่อรู้สึกง่วงก็ไปเอนหลัง แต่เอนหลังได้ไม่นานมันปวดปัสสาวะต้องตื่นเข้าห้องน้ำ เข้าห้องน้ำเสร็จก็ฉันต่ออีกประมาณสองชั่วโมงเศษๆ อาการไข้หวัดอันตรธานหายไปเหมือนปลิดทิ้ง ถ้าเปรียบร่างกายคนเรากับต้นไม้ เวลาต้นไม้เหี่ยวทำท่าเหงาๆ เพราะขาดน้ำถ้าเรารดน้ำสักหน่อยเดี๋ยวมันก็จะสดชื่นขึ้นมาโดยง่ายฉันใด ถ้าวันใดเรามีความรู้สึกว่า เป็นไข้หวัดก็ให้รีบดื่มน้ำถี่ๆให้มากพอ น้ำนั้นก็จะส่งผลให้เซลล์ทั่วร่างกายและไตทำงานได้เต็มที่ อาการไข้หวัดก็จะทุเลาลงอย่างรวดเร็วจนหายไปในที่สุด คุณสมบัติสำคัญของน้ำอีกประการหนึ่ง ก็คือ..... เป็นยาระบายถ้าต้องการให้น้ำเป็นยาช่วยระบาย เมื่อตื่นนอนขึ้นมา รีบดื่มน้ำอุ่นให้ได้มากที่สุด จนรู้สึกว่า ถ้าเกินกว่านี้ก็จุก หรืออาจดื่มน้ำในปริมาณ ที่ตัวเองดื่มได้มากที่สุดในขณะนั้น ครั้นแปรงฟันล้างหน้าเสร็จแล้ว ให้ดื่มน้ำซ้ำอีกซะหลายๆแก้ว การใช้น้ำเป็นยาระบายต้องดื่มน้ำในช่วงตื่นนอนให้มาก เพราะท้องของเราอยู่ในสภาวะว่างมากที่สุดและน้ำย่อยยังไม่หลั่งออกมา เมื่อร่างกายของเราไม่สามารถดูดซึมน้ำน้ำเข้าสู่เส้นเลือดได้ทั้งหมด น้ำที่เหลือในปริมาณมากก็จะไหลไปตามเส้นทางของทางเดินอาหาร ผ่านกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ไปจนถึงลำไส้ตรง (ลำไส้สุดท้ายก่อนถึงทวารหนัก) แล้วก็เดินไปเดินมาสักพักการเคลื่อนไหวร่างกายของเราจะทำให้ลำไส้บีบตัวขึ้น บวกกับน้ำที่ซึมเซาะเข้าไปในอุจจาระ ทำให้อุจจาระฟูขึ้นจนกระทั่งกึ่งแข็งกึ่งเหลว (นึกถึงก้อนดินที่นำไปจุ่มน้ำในอ่างน้ำแล้วใช้มือบีบๆจากที่เป็นก้อนแข็งๆ ก็จะกึ่งแข็งกึ่งเหลวจนกลายเป็นโคลน) ถ้าดื่มน้ำได้ในปริมาณที่มากพอ จนเกิดขบวนการดังกล่าวไม่นานนักก็จะเกิดอาการปวดอุจจาระ แล้วอย่าไปอั้นอีกนะ รีบถ่ายพรวดออกไป จะรู้สึกสบายตัวทันที หากเรารู้จักประมาณในการดื่มน้ำได้อย่างนี้ ......สุขภาพจะดีสามารถประพฤติปฏิบัติธรรมสร้างบารมี...... ได้อย่างเต็มที่กันทุกคน...!! ติดตามตอนต่อไป.....   Create Date : 05 มกราคม 2554     0 comment Last Update : 5 มกราคม 2554 21:11:42 น.     Counter : 492 Pageviews.   Share Tweet

ตักบาตรพระหนึ่งพันรูป ตอนรับปีใหม่ ณ ลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ วัดพระธรรมกาย บุญแรกของปีเถาะ พ.ศ.2554   Create Date : 04 มกราคม 2554     1 comment Last Update : 4 มกราคม 2554 17:16:35 น.     Counter : 594 Pageviews.   Share Tweet

หลุมรักที่แท้จริง...รายการMusic VDO เพลงธรรมะ หลุมรักที่แท้จริง คำร้อง: ตะวันธรรม ทำนอง/เรียบเรียง: คนิณ มณีไพโรจน์ ขับร้อง: ปิ๊ง นิ้ง ฟางข้าว คำแปลภาษาอังกฤษ: ดร.อนัญญา เมธมนัส   Create Date : 03 มกราคม 2554     0 comment Last Update : 3 มกราคม 2554 14:17:55 น.     Counter : 597 Pageviews.   Share Tweet