Group Blog
 
All Blogs
 
28-เรื่องของ ทัวริสท์

*เรื่องเล่าแทกซี่นิวยอร์ก**( ตอนเรื่องของทัวริสท์)


นักท่องเที่ยว หรือ ทัวริสท์ นี่พอไปเที่ยวไปพักผ่อนที่ไหนก็เป็นอันรู้กันนะครับ
ว่าเป็นที่พิสมัยหมายปอง ของผู้คนเจ้าของถิ่นที่พวกทัวริสท์ไปถึง

ซึ่งก็ส่วนมากจะหมายถึงคนทำธุรกิจทางด้านท่องเที่ยวและ การค้าที่เกี่ยวกัน
พันผูก ไม่ว่า บริษัททัวร์ โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง

ก็เพราะขึ้นชื่อว่านักท่องเที่ยว มันก็ต้องมีเงินมากๆ มาจ่ายเพื่อการเที่ยวอยู่แล้ว
ไม่มีแล้วมาเที่ยวได้ไงละ แม้รู้ว่าอาจต้องเจอกับการถูกโขกถูกฟัน จ่ายทุกอย่าง

แพงขึ้นกว่าคนในท้องถิ่นนั้นๆ ก็ยินดีและรับได้ เอาน่า มาเที่ยวทั้งที
ที่ไหนก็เหมือนกัน ยิ่งสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็ยิ่งแพงหนักไปอีก

ไอ้เจ้าถิ่นที่โขกที่ฟันนั่น ก็คิดกันเอง ว่าไอ้พวกชาตินี้ ชาวนี่โง่ หลอกฟันง่าย
เหอะ ลองไปเที่ยวที่อื่นบ้างเถอะ จะรู้เอง ว่าตัวก็เป็นไอ้โง่ ของคนที่นั่น

นักท่องเที่ยว หรือทัวริสท์ นี่เขาไม่โง่ไปทุกคนหรอก แต่เขาอาจจะคิดว่าน่า หยวนๆน่า
มานอกบ้านต่างเมือง ขืนทำเรื่องมาก ไปทำรู้ทำฉลาด เดี๋ยวมีเรื่องมีราว
หมดสนุกกันพอดี

ตอนผมกลับไปเยี่ยมบ้านที่ปักษ์ใต้ เมืองท่องเที่ยวดังที่สุดของไทย ภูเก็ต
ขนาดบ้านเกิดผมเองนะ
เวลาออกไปไหนคนเดียว แค่นุ่งขาสั้นรัดเข็มขัด ใส่เสื้อเชิ๊ตลงในกางเกง
ใส่รองเท้าด๊อกเก็ท ไม่สวมถุงเท้า ผมก็กลายเป็นนักท่องเที่ยว
ในบ้านเมืองผมเองโดยอัตโนมัติ

เริ่มจากมอเตอร์ไซค์รับจ้างก่อนเลย ขนาดผมแหลงใต้ด้วยนะ
ยังล่อผมสองเท่าราคาคนในเมืองจ่ายเลย เอาเถอะ น้องบ่าวเอ้ย ฉ้านให่ต่น

ไม่เป็นไร คำนวนค่าเงินดอลล์ เออ ให้แกไปเถอะ แถมทิปอีก
ทีหลังแกเห็นผมเดินๆในตลาด ปราดมาทักเลย โก่ๆๆ ไป่ไหน้ๆๆ

เวลาไปเดินหาของ ซื้อของนี่ ผมขำมาก แต่ไม่ได้ว่าไรเขา จะซื้อก็ซื้อ
ไม่ซื้อก็ไม่ไปว่าไรเขา

พวกแม่ค้าพ่อค้านี่ สืบๆกันไปอาจจะเป็น น้องเป็นลูกหลานเพื่อนผม หรือคนรู้จักก็ได้
คือพอพวกเขาเห็นผม หน้าเจ๊ก แต่พูดเจ๊กไม่ได้นี่

จะคิดกันว่า เป็นนักท่องเที่ยวจากสิงค์โปร มาเลย์ ไต้หวัน
ต่างตรงมาเลย เตรียมฟันเต็มที่

บ้างพูดจีนทัก บ้างก็ ฮาโล้ ยูๆ ดิ้ส อิ้ส เวรี่กู้ด วันฮันเดรทบาท โอ่เข
แล้วหันไปบอกกันเองเป็นภาษาบ้านผม อ่าย หม้อนี บ้อกให้เกินซ้ามเถ่าราคา

เผื้อหวามั่น ต่อราคา พอผมพูดบอกพวกเขากลับเป็นภาษาเดียวกัน
ว่าอ่าจี้ เราก่าคนภูเก็ตเด้ ทำไมคิดแพงตั้งสามเท่าเล่า
เขากลับว่า อ้าว ไอ้นี่พูดไทยถูเก็ตได้ด้วยอีก ไอ้ตัดหั้ว

มีวันหนึ่งผมคิดสนุก เพราะเห็นแม่ค้าคิดว่าผมเป็นนักท่องเที่ยวอีก
เอาก็เอา ลองเป็นสิ
ก็ไปคนเดียวอีก ไปสั่งของกินที่ตลาดกลางคืนนะ
แม่ค้าขายพวกก๊วยเต๋ยว บะหมี่

ทัก ฮาโล้ ยูๆ นูดเดิล กู้ดๆ ผมเลยแวะนั่ง ผมยิ้มแต่ไม่พูดนะ
แค่ใช้นิ้วบอกความหมาย
หนึ่งจาน แอนด์ หนึ่งโค้ก ชี้ไปที่ขวดโค้ก

ตอนนั่งคอยผมเห็นราคาที่ป้ายกระดาษแข็ง บอกยังงี้ครับ
ก้วยเตี๋ยวจานละ ๓๕ บาท แต่มีเป็นภาษาอังกฤษว่า Noodle 80 baht

เออ ฉลาดมากคนบ้านเรา ต้องอย่างนี้สิ ฟันนักท่องเที่ยว
อย่าฟันคนไทยกันเอง
พอกินเสร็จ ผมเรียกคิดเงิน แกยื่นบิลให้นะครับ ร้อยสิบบาท หุหุ

ก็ให้ไปแถมทิปอีกยี่สิบ อย่าไปคิดไรเลย กินที่นิวยอร์ก จานละแปดเหรียญ
ยังให้ได้ นี่กับพี่ๆน้องๆเราเองนิ แค่สามเหรียญเองด้วย

กินแล้วนั่งดูคนเล่นๆ แล้วก็เกิดมีเพื่อนรุ่นเรียนมัธยมด้วยกัน ขี่มอเตอร์ไซค์มาซื้อ
ก้วยเตี๋ยวกับเจ้านี้ พอดี มันเห็นผม ทีแรก ทำงงเหมือนจะจำไม่ได้

พอลองทักเป็นภาษาใต้เรียกชื่อเล่นผมถูก ก็ตะโกนลั่น
แล้วแหลงใต้กันลั่นทั้งคู่ ถามไถ่ทุกข์สุขกัน

แม่ค้าได้ยินหันมาดู หน้าแกเสียๆ ได้ยินแกว่า อ่าว ม้ายหรู่ นึกว่า พวกถั่วร์
บอกจะคืนเงินที่คิดเกินให้ ผมบอกไม่เอา ไม่พรือ ทำถูกแหล่ว อี่ส้าวเอ้ย

ที่นิวยอร์กนี่ ขอบอกหากเราคนไทยใครๆมาเที่ยวมาเดินๆแถวไทม์สแคว์
เห็นร้านขายพวกอีเล็กโทรนิก กล้องดิจิทัล หรืออะไรๆ ที่ออกใหม่ๆ

พอเห็นราคาขายแล้วโห ทำไมมันถูกจัง
อย่าไปคิดถาม คิดซื้อเลยนะครับ มันเอาไว้ดักพวกทัวริสท์นะ

ราคาที่มันติดไว้ ขายกันไม่ได้หรอก มันจะมีลูกไม้
อาจจะเอาของใช้แล้วให้ หรือ
ของไม่ครบเหมือนกับที่นอกกล่องบอกไว้ คืนก็ไม่ได้

ผมตอนมาใหม่ๆก็โดนมาแล้วเจ็บใจเกือบร้องไห้เลย
และได้ข่าวก็อีกหลายคนที่โดนมันหลอก มันโกง

หากจะซื้อพวกนี้ ต้องไปร้านที่เป็นเชนใหญ่ๆดังๆ
เช่นbestbuy,circuit city,b&h, j&r
หรือเช็กจากเวปไซท์ก่อน ค่อยหาซื้อ

ในนิวยอร์ก พวกทัวริสท์ ที่เป็นที่โปรดปราน ของคนทำธุรกิจบริการ
ทุกหนแห่งมากที่สุด น่าจะเป็น พวกทัวริสท์ญี่ปุ่นครับ
พวกทำงานเวท ร้านอาหารก็ชอบ
ทำงานเสริฟก็ง่าย ทิปก็คิดสิบห้าเปอร์เซ็นรวมไปเลยได้อีก

มีหัวหน้าทัวร์นำไป จะสั่งอาหาร ก็ไม่เอะอะเสียงดัง หัวหน้าทัวร์ถาม
เอาสะเต้กแบบไหน ก็ยกมือ รวมสั่ง สิบ มีเดี้ยม แปด แรร์ หก มีเดี้ยมเวล

เวลาเดินก็เดินเรียงแถวยาว ไม่ซ้อนเดินแบบเต็มทางเดิน
ผมชอบการมีระเบียบของพวกเขาจัง

พวกพี่ยุ่นมาเที่ยวนิวยอร์ก จะไม่เรื่องมาก และไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ
บางทีจึงตกเป็นเหยื่อแทกซี่นิวยอร์กที่ ขี้โกงง่ายๆ พวกแทกซี่ชอบนัก

เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เวลาไฟลท์ แจแปนแอร์ไลน์ ลง
พวกพี่ยุ่นนี้จะนิยมขึ้นแทกซี่
กระเป๋าเดินทางก็ส่วนมาก มีใบเดียว ไม่หนัก ไม่ขนกันมาเหมือน
หุหุหุ เหมือนใครพวกไหนนะ ทั้งขาไปขากลับ อ๋อ พี่ไทยหรือ ใช่มั๊ง

แทกซี่ขี้โกงนี่ พอเห็นเป็นญี่ปุ่นแน่ใจได้เลยว่า เข้าแมนฮัทตั้น
และพักโรงแรมสดวกต่อการขับไม่ต้องไปเที่ยวหา
และไม่มีที่จะนั่งแทกซี่ไปใกล้ๆแถวควีนส์เหมือนคนเอเชียชาติอื่นๆ

เลยโดนมันโกงพาอ้อมให้ไกลเสียอีก และไอ้ที่มีตัวทำ
โกงมีเตอร์ zapper ก็ได้มีโอกาศใช้ กับพี่ยุ่นอีกต่อหนึ่ง

วันนั้น ก่อนเที่ยงผมก็ไปรอคิวที่แทกซี่ไลน์ ที่ JFK AIRPORT
หลังจากที่ได้ทริปจากแมนฮัทตั้น ส่งลูกค้าที่เทอร์มินัลหนึ่งไปแล้ว

ก็ต้องรอเกือบชั่วโมง เพราะคิวเลื่อนช้า ก่อนเวลาเที่ยง
ไฟลท์แอร์ไลน์ขาลงไม่มีมาก

แล้วผมก็ได้ขยับมาอยู่ในคิว สองข้างสองไลน์ ขั้นแรกสุด
หมายถึงผู้โดยสารมาขึ้นรถได้เลย มีเจ้าหน้าที่ของTLC ทำหน้าที่ควบคุมคิว ให้มีระเบียบ
เรียกว่า taxi dispatcher
ปกติไฟลท์ขาลงของแจแปนแอร์ไลน์ จะถึงเที่ยงวัน เสียเวลาจากการตรวจ
ของimmigration ผู้โดยสารเที่ยวนี้ ก็คงออกกันมาได้ราวๆเที่ยงครึ่ง

แต่ เอ นั่นกลุ่มชาวญี่ปุ่น มากันหลายสิบเลย พากันมาที่คิวแทกซี่
พวกนี้มันลงจากไฟลท์ไหนกันหว่า หรือ เที่ยวบิน เปลี่ยนตารางบินแล้ว

นายคนควบคุมคิว ก็จัดให้ขึ้นแทกซี่ แบ่งกันไป สองคน บ้าง สามคน บ้าง
ผมอยู่นับได้คันที่สิบครับ
นายแทกซี่คนแรก พี่บังเราเอง มีคนขึ้นรถแกสามคน

พี่บังเดินมากระซิบไรไม่รู้กับคันที่สอง ที่สาม แล้วบอกให้บอกต่อไรอย่างนั้น
คันที่เก้าก็เดินมาบอกผมต่อ บอกผมว่า พวกยุ่นจะไปที่เดียวกันหมด

คือ ร้านอาหารดังของนิวยอร์กtavern on the green
ที่อยู่ติดกับ central park west 66th.street

ให้ทุกคันตามคันแรก ไปทาง belt parkway อ้อมเข้าbrooklyn
แล้วเข้าอุโมค์ ที่battery tunnel เมื่อออกจากอุโมงค์ก็ขึ้นwestside highway เลย

โห ดูมันกล้ากันอย่างนี้เลยหรือ มันอ้อมแบบนั้น
มีเตอร์ต้องเป็นสองเท่าราคาที่ไปทางตรงง่ายๆแน่เลย
มันจะเอาดาบซามูไรฟันพวกซามูไรนะครับ
ผมในใจคิดนะ ตูไม่เอาแน่ โกงเห็นชัดเกินไป หากจะมีบ้างเช่นหลบรถติด
ก็เคยทำบ้าง แต่จะบอกผู้โดยสารก่อน ว่าหากจะอ้อมก็ต้องจ่ายแพงขึ้น

ผู้โดยสารพี่ยุ่นของผมมีสองคนเอง ยังหนุ่มทั้งคู่เลย ใส่สุท เรียบร้อย
ท่าทางเหมือนนักธุรกิจ นายคนนึงบอกผมเป็นสำเนียง
เหมือนด้อยในภาษาอังกฤษมากๆเลย
แล้วยื่นกระดาษให้ อ่านได้ว่า ก็ที่ๆจะไปกันนี่แหละ tavern on the green

เอ้ารถคันแรก พี่บังอินตะระเดียออกแล้ว คันต่อมาก็ตามกันไป
จนมาถึงคันของผม ก็ขับออกนอกสนามบินตามกันไปอยู่นะครับ

พอมาใกล้ถึงสองทางแยก คือไป belt parkwayเพื่อผ่าน brooklyn
กับทางที่จะพาเข้าแมนฮัทตั้นโดยตรง คือvan wick expressway
แล้วค่อยไปแยกทางเข้าแมนฮัทตั้นอีกที

ผมเห็นคันหน้าผมเลี้ยวเข้าทางที่มันบอกกันนะ
ผมตัดสินใจ ไม่เอาดีกว่าจะไปทางตรง
เลยหันมามองหน้าพี่ยุ่นทั้งสอง พี่ยุ่นเหมือนจะว่าผมคิดไรอยู่นะ ผมชลอรถ

นายยุ่นพูดขึ้นมาก่อนว่า follow.. follow แล้วใช้มือชี้ตามรถแทกซี่คันหน้าๆผม
ผมจะพูดอะไรก็ไม่ทันแล้ว พอได้ยินว่า follow ก็ทำตามนั้น
คือไปทางอ้อม ทางที่ผิด ที่ไกล เหมือนคันอื่นๆ

ผมได้ยินพี่ยุ่นคุยกันเป็นภาษาญี่ปุ่น ฟังไม่เข้าใจ แล้วตามองทางกระจกหลัง
เห็นนายหนึ่งเอาอุปกรณ์ไรไม่รู้ออกมา วางไว้หน้าตักแก

พอได้โอกาศผมพยายามบอกแกว่า มาทางนี้ ยูต้องจ่ายแพงเกือบสองเท่านะ
นายนั่นก็ ตอบว่า จริงหรือ วาย โดส แทกซี่ คัม ดิสเวย์ ละ

ผมบอก ไอ ด้อนท์ โหนว แต่ยูบอกเองนะ ว่าให้ไอฟอลโล่ว
พี่ยุ่นก็หัวเราะ โอเค ซอรี่ๆๆ นอท ยัว ฟอล์ท

ตอนเที่ยงรถยังไม่ติด ไปได้เร็วรวดดีจริงนิ มีเตอร์ก็ขึ้นๆทุก หนึ่งในสี่ไมล์
ติ๊กละ15 เซ็นต์สมัยนั้น (ตอนนี้ ติ๊กละ40 เซ็นต์แล้วครับ)

ก็ผ่านทางเรียบติดทะเลช่วงของ new york harbor อ้อมมาจนถึงเข้าอุโมงค์ battery
ออกจากอุโมงค์ ก็ตรงเข้าwestside highway มาออกที่ west 72nd.street
แล้วก็ผ่านมาจนถึงจุดหมาย tavern om the green

อ้าวผมเห็น ที่ลานกว้างหน้าร้าน อะไรกันนิ รถแทกซี่ที่มาถึงก่อนผม
ทั้งเก้าคัน ยังจอดอยู่ คนขับออกมานอกรถหมด
พี่บังคันแรกและอีกสามคน ถูกล้อกด้วย กุญแจมือ ยืนอยู่กับตำรวจ
ที่กำลังสอบอะไรกันอยู่

มีตำรวจ มีเจ้าหน้าที่ TLC กระจายเต็ม มีรถtow truck คือรถลากรถจอดเตรียมพร้อม

ค่าแทกซี่มีเตอร์รถผมอ่านได้ 58$ บวกค่าโทลผ่านอุโมงอีก2.50$ ก็เป็น60.50$
นายยุ่นที่นั่งมาในรถ บอกขอใบเสร็จ และบอกให้รอก่อน
ด้วยสำเนียงอังกฤษ ชัดเปรี๊ยะแบบคนเมกัน

มีตำรวจคนหนึ่ง กับ เจ้าหน้าที่ TLC มาที่รถผม ผมได้ยินนายยุ่นพูดออกไปว่า
"normal .. one and a half per cent slow meter...no zapper"

แล้วยื่นเงินค่าโดยสารให้ผม เจ็ดสิบเหรียญ รวมทิป
ก่อนลงรถนายยุ่นคนหนึ่งบอกว่า
"you good..you can go now..and don't try to be a crook.. okay"

วันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์NEW YORK DAILY NEWS พาดหัวข่าว และภาพเต็มหน้า
"BAD CABBIES BUSTED"
เพราะได้รับรายงานการถูกแทกซี่โกง จากพวกชาวญี่ปุ่นมานาน
โดยเฉพาะพวกทัวริสท์
เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและTLC จึงวางแผนให้ตำรวจชาวเอเชียคนจีนอเมริกัน
ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว จัดการกับพวกแทกซี่ขี้โกงทั้งหลาย
ข่าวว่า นายสี่คนนั่น ใช้zapper บวกกับการอ้อมระยะ กับทริปเมื่อวานนี้
ค่าโดยสารจากJFK เข้าแมนฮัทตั้น ที่น่าจะไม่เกิน 32$
แต่มันชาร์ท ไปตั้ง 110$ ถูกดำเนินคดีฉ้อโกง ยึดใบขับขี่
และยึดป้าย taxi medalion ยึดรถแทกซี่ สมน้ำหน้า

หลังจากนั้นมา ข่าวการโกง เลยซาไปพักหนึ่ง

แทกซี่ไทยคนนี้ ไม่เอ๊า ไม่เอาไม่โกงอะ เสียชื่อไทยแลนด์หมดนะ หากทำอย่างนั้น
เอ้า ปรบมือกันหน่อย โอ่เค๊















Create Date : 11 สิงหาคม 2548
Last Update : 11 สิงหาคม 2548 13:40:13 น. 4 comments
Counter : 839 Pageviews.

 


โดย: ตุ้มเม้ง ริวซากิแอล IP: 202.142.216.225 วันที่: 18 สิงหาคม 2548 เวลา:4:49:43 น.  

 


โดย: nutxnut วันที่: 20 กันยายน 2548 เวลา:10:14:44 น.  

 
ทำดีมีคนเห็น ทำชั่วก็มีคนเห็น


โดย: ณัฎฐะมุกวารินทร์ IP: 116.58.231.242 วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:20:54:44 น.  

 
เข้ามาปรบมือให้พี่แท็กซี่คนดีด้วยคนค่ะ...


โดย: ดอกเฟื่องฟ้า IP: 58.8.108.150 วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:22:26:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

smartupid
Location :
New York United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




กรุณาตรวจตราสิ่งของก่อนลงจากรถไป แค่ลืมหัวใจไว้ในรถ คนขับก็สดชื่น.... โอ่เค้
Please check your belongings before leaving my cab, just leave your heart here ...Thank You
Friends' blogs
[Add smartupid's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.