อะไรก็ได้ .. ตามใจผม
Group Blog
 
All Blogs
 
โครงกระดูกในตู้ โดย ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมท


ขอเรื่อยเปื่อยหน่อยครับ ... ถ้าไม่อยากอ่าน ก็ข้ามไป รีวิว ด้านล่างได้เลยครับ

วันนี้ เป็นวันว่างสบายๆ แต่ก็ต้องตื่นแต่เช้า  เพราะมีโปรแกรมยาวเหยียด คือ ต้องไปตัดผม เอากางเองที่แก้ไว้ แล้วไปถ่ายรูปที่สตูดิโอ แถวลาดพร้าว ด้วยความครึ้มใจสมัยน้ำมันแพง เลยคิดจะเปลี่ยนงานไปเป็นสจ๊วต สายการบินตะวันออกกลางดูกับเค้ามั่ง .. ก็ว่ากันไป .. เสร็จแล้วไปเล่นเวทที่ Fitness First ที่ตึก Q-house ลุมพินี .. หลังจากนั้น เป็นนัดสำคัญ คือไป ทานข้าวกลางวันกับ "คุณแฟนเก่า" ก็นัดกันไปกินที่ ฟูจิ สาขา โลตัสพระรามสี่ .. แหม ทำไมมันเขิลลล อย่างนี้เนี่ย ทำอะไรไม่ค่อยถูกเลย ผับผ่า แต่ก็ OK คุยกันมีความสุขดี แต่ ..... ทานไปได้ซักพัก ดั๊นนน ปวดท้องหนัก จึงต้องขอตัวไปทำธุระโดยด่วน เมื่อเสร็จกิจจึงกลับมา พร้อมกับนั่งคุยไปเรื่อยเปื่อย ซักพักจึงเอะใจว่า "ลืมกระเป๋าเงิน และโทรศัพท์มือถือ" ไว้ในห้องน้ำ จึงรีบกลับไปดู โดยด่วน ปรากฎว่าหายไปเรียบร้อย ถามแม่บ้านซึ่งสวนกันตอนทำธุระเสร็จก็บอกว่าไปเห็น ก็กลับมารายงาน คุณแฟนเก่าว่า ให้ลองโทรไปซิ ก็ปรากฏว่าโดนตัดสายตลอด เป็นอันเข้าใจได้ว่า ไม่ได้คืนแน่นอน.. แต่ก็ มีเงินสดในกระเป๋าแค่เกือบ 2 พัน เพราะตอนเช้าใช้ไปเยอะ แล้วก็โทรศัพท์ชราๆ หนึ่งเครื่อง ....
แต่คนที่เครียด กลับเป็นคุณแฟนเก่าซะอย่างงั้น .. แทนที่จะปลอบผม ผมกลับต้องปลอบคุณแฟนเก่าแทน ว่า ช่างมันเถอะ หายไปแน่ๆ เศร้าเสียใจไปก็เท่านั้น อย่างไรเสียก็คงไม่ได้คืน .. ก็ปลอบกันไป

แต่จริงๆแล้วคงเป็นเพราะของที่หายไปมันไม่เท่าไหร่มั๊ง คือเงินพันกว่าก็เสียดาย แต่อย่างที่บอก ช่างมันเถอะ โทรศัพท์ ก็ชรามากแล้ว คิดจะเปลี่ยนใหม่อยู่พอดี แต่ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผมไม่ค่อยยึดติดกับสิ่งของมากเท่าไหร่ หายไปก็หาใหม่ได้ แต่จะแคร์มากๆในเรื่องความรู้สึกมากกว่า

เพราะวันนี้ ถึงแม้ว่าสิ่งของจะหายไป แต่ผมคงได้เปลี่ยน "คุณแฟนเก่า" มาเป็น "คุณแฟน" อีกครั้งหนึ่ง นั่นเอง

หลังจากที่ปลอบใจกันพักใหญ่ ก็ขับรถกลับ และต้องขอบคุณรถทุกคันบนถนนพระรามสี่ ที่ทำให้การจราจรติดได้อย่างสะใจ จนทำให้ผมตกลงกับคุณแฟนในรถได้ว่า สุดสัปกาห์นี้จะไปดูหนังกัน และ ต้นเดือนหน้าจะขับรถไปทำบุญและเลยไปชายทะเลด้วยกันให้ได้

ปล. ถึงแม้ว่าจะอิ่มใจที่ได้คุณแฟนกลับมา แต่ก็ยังเสียดายบัตรต่างๆอยู่นะครับ .. สมมติแบบลมๆแล้งๆว่าใครก็ตามที่เก็บได้ แล้วเข้ามาอ่าน blog ก็กรุณาส่งบัตรต่างๆของผมลงตู้ไปรษณีย์หน่อยเถอะครับ เสียดายจริงๆ



เกริ่นนำเรื่องส่วนตัวมาซะยืดยาว ก็เข้าเรื่องหนังสือเล่มต่อไปเสียที (แม้ว่า ธรรมแห่งอริยะ ยังจะรีวิวไม่เสร็จ ก็ตามที่)


อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าว่าวันนี้ทั้งวันมีอะไรต้องทำมากมาย และคงมีเวลาว่างอยู่มิใช่น้อย จึงคิดจะหาหนังสือซักเล่มมาอ่าน โดยคิดจะให้จบภายในวันนี้เสียเลย จึงเดินไปเลือกดู เห็นเรื่อง "โครงกระดูกในตู้" ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ (อีกแล้ว) นั้นน่าสนใจอยู่ ด้วยความหนาเพียง 109 หน้า จึงคิดว่าน่าจะพอไหว จึงซื้อมาในราคา 130 บาท และเริ่มอ่าน เมื่อเวลา 11.30 น. โดยอ่านไปเรื่อยๆเมื่อว่าง และอ่านจบในเวลา 16.30 น. และโดยไม่ต้องเสียเวลาพิจารณา หนังสือเล่มนี้ เก็บขึ้นหิ้งแน่นอน !

โครงกระดูกในตู้นั้น ท่านผู้เขียนได้ตั้งชื่อเรื่องตามสำนวนฝรั่งที่ว่า skeleton in the cupboard ซึ่งมีความหมายในภาษาไทยว่า การปกปิดเรื่องของคนในตระกูลที่ได้ทำเรื่องไม่ดีไม่งามไว้ ซึ่งเหตุที่ท่านตั้งชื่อเรื่องแบบนี้ก็ด้วย หนังสือเล่มนี้ท่านแต่งขึ้นเพื่อแจกลูกหลานของท่าน โดยเป็นการบรรยายสาแหรก (family tree)ของบรรพบุรุษของราชสกุลปราโมทโดยสังเขป หากแต่ท่านมิต้องการบรรยายแบบ "อภินิหารบรรพบุรุษ" คือแสดงแต่คุณงานความดีของบรรพบุรุษ มิได้กล่าวถึงข้อเสียเลย ท่านเห็นว่าความไม่ดีทั้งหลายนั้น ย่อมเกิดขึ้นได้แก่มนุษย์ ผู้ซึ่งจะต้องเกิด แก่ เจ็บตาย ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง ด้วยกันทั้งสิ้น และสิ่งที่ไม่ดีไม่งามนั้น ก็ยังสามารถเป็นอุาหรณ์เตือนใจให้คนรุ่นหลังมิให้กระทำตามได้ด้วยอีกประการหนึ่ง

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมท เป็น โอรส ในพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าคำรบ กับ หม่อมแดง ปราโมท โดยสาแหรกฝ่ายท่านพ่อนั้น นับได้ไปถึง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และสาแหรกฝ่ายท่านแม่นั้น นับไปได้ถึง เจ้าระยามหาเสนา (บุนนาค) อันเป็นเชื่อสายขุนนางใหญ่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะฉะนั้น การบรรยายสาแหรกของท่านจึง เกี่ยวข้องกับ พระบรมวงศ์สานุวงศ์ และขุนนางผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงอาจกล่าวได้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเกร็ดพงศาวดารขนาดมินิ ซึ่ง บรรยายเหตุการณ์ต่างๆโดยเฉพาะในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นไว้อย่างน่าสนใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แหล่งข้อมูลต่างๆที่ท่านผู้เขียนได้นำมาลงไว้นั้น ได้มาจากการเล่าของบรรพบุรษของท่าน ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นโดยตรงแทบทั้งสิ้น

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับใคร

1 ผู้ซึ่งสนใจประวัติโดยสังเขปของผู้เป็นต้นสกุล และราชสกุลต่างๆ อันเป็นที่รู้จักดีในปัจจุบัน อาทิเช่น ปราโมท, บุรณศิริ, บุนนาค , พหลโยธิน  เป็นต้น

2 ผุ้ซึ่งสนใจเหตุการณ์ต่างๆ ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ วิถีชีวิตชาววัง ทั้งในวังหลวง และวังเจ้านายต่างๆ

3. ผู้ที่ติดใจงานเขียนในลักษณะที่เป็นการเล่าเรื่องของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ที่มักแทรกอารมณ์ขัน เจ็บๆคันๆ ไว้เสมอ

อ่านแล้วชอบอะไีร

หนังสือเล่มนี้อ่านสนุก อ่านเพลิน ชอบทุกเรื่องที่ท่านเล่าให้ฟัง เพราะเรื่องราวส่วนมากนั้น เป็นเรื่องราวยุคต้นรัตนโกสินทร์ ที่ไม่รู้มาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ท่านพ่อของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ครั้นดำรงพระยศเป็น พลโท ดำรงตำแหน่งแมทัพ นั้น ท่านได้มีเรื่องวิวาท กับ พี่สาวของท่าน ท่านลุแก่โทสะ คว้าปืนไปยิงขึ้นฟ้าที่หน้าตำหนัก แต่มิได้หมายจะทำร้ายใคร คงแค่ระบายพระโทสะ แต่พี่สาวท่านไปแจ้งต่อ กลาโหม ผลคือ ท่านถูกปลดจาก พลโท แม่ทัพ เป็นทหานกองหนุน เสียงเดี๋ยวนั้น ... ซึ่งทั้งที่มิได้มีใครบาดเจ็บ และเป็นเรื่องภายในครอบครัว ทั้งท่านยังเป็นราชวงศ์ที่มีตำแหน่งสูง แต่กฏยังเป็นกฏ เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม .. แต่ภายหลัง เรื่องร้ายก็กลายเป็นดี อยากรู้ ว่าเป็นอย่างไรไปหาอ่านเองครับ

อีกซักเรื่องคงเป็นเรื่องที่ เจ้านายหลายพระองค์ไม่ได้มีความเป็นอยู่อย่างหรูหราฟุ่มเฟือย หลายพระองค์ต้องประกอบอาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง อย่างที่พอจะเรียกได้ว่า อัตคัตเลยที่เดียว ถึงแม้วาพระองค์นั้นจะเป็นหลานของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลก่อนก็ตาม หรือแม้แต่ พระเจ้าลูกเธอที่ยังเล็กยังต้องหมอบกราบขุนนางผู้ใหย่ผู้มีอำนาจบารมี ก็ได้รู้จากเล่มนี้เช่นกัน

หนังสือเล่มนี้ อ่านแล้วไม่ผิดหวัง เชื่อขนมกินได้ว่า "อ่านสนุกครับ"






Free TextEditor


Create Date : 22 กรกฎาคม 2551
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 21:00:18 น. 9 comments
Counter : 2823 Pageviews.

 
ยัง ไม่คล่อง กับลูกเล่นต่างๆ นะครับ

ไว้จะฝึกไปเรื่อยๆ ครับ


โดย: oscilated วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:02:04 น.  

 
เรื่องที่ประพันธ์โดย ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ถือเป็นวรรณกรรมชิ้นเอกทุกกรื่อง ขอแนะนำให้คนรุ่นใหม่ได้อ่าน และผมคงต้องกลับไปอ่านทบทวนอีกครั้งครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:47:52 น.  

 
เพิ่งซื้อมาตอนกลับไปไผยคราวนี้เองค่ะเล่มนี้ ยังไม่ได้อ่านเลย อ่านย่อๆจากบล๊อคแล้วชอบจังเพราะชอบอ่านเรื่องเก่าๆ

เรามีงานเขียนของท่าน เกือบจะทุกเล่มเลยค่ะ ชอบมาก


โดย: grippini วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:25:44 น.  

 
อ่านมานานมากแล้ว ชักจะลบเลือน เดี๋ยวต้องไปอ่านอีกรอบ


โดย: Eueng 03 IP: 222.123.18.25 วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:54:41 น.  

 
สวัสดีค่ะ มาเคาะประตูเชิญมาแวะเยี่ยมบล๊อกแม่ค้าหนังสือมือสองค่ะ หนังสือมือสอง นำเข้า ภาษาต่างประเทศเจ้าค่ะ ร้านอยู่ที่เสรีเซ็นเตอร์ ถ้าชอบอ่านหนังสือ อยากให้แวะมาดูรูปค่ะ


โดย: หนังสือมือสอง (AngelTomorrow ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:03:04 น.  

 
ชื่อหนังสือ น่าอ่านมากๆๆ
+++
ภารกิจเยอะจังเลยนะคะ
5555
+++
เสียดายของที่หายเเทนเลยนะคะ


โดย: yopathum วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:51:34 น.  

 
คอนเฟิร์มว่าสนุกจริงๆ ค่ะ

แต่ก็เป็นมุมมองของท่านและจากตระกูลท่านน่ะนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:38:48 น.  

 
อืม อ่านแล้วเหมือนกัน ชอบตรงที่ท่าน ตรงไปตรงมา ค่ะ สำนวนเขียนออก แนวเขียนให้ลูกหลานอ่าน เป็นหนังสือที่ อ่านรวดเดียวจบเลย ชอบค่ะ เป็นหนังสือ ที่อยู่ในใจอีกเล่มค่ะ


โดย: มะนาว (manow_noi ) วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:13:58:26 น.  

 
คือผมจะหาอ่านได้จากที่ไหนคับ

ปัจจุบัน หาไม่ได้เลย

ถ้าหาได้รบกวนติดต่อที่เบอร์ 0841834960

ด้วยนะครับ

ขอบคุนครับ


โดย: lucjfer IP: 223.207.52.100 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:23:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

oscilated
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add oscilated's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.