Before the devil knows you're dead,How we die?
Dr. Duncan MacDougall (c. 1866 October 15, 1920) ปีค.ศ.1907 ด.ร. แม็คดูกัล ทำการทดลองโดยให้คนที่กำลังจะตาย มานอนบนเตียงที่ชั่งน้ำหนักได้ ซึ่งพบว่าคนไข้ เมื่อตายแล้ว น้ำหนักร่างกายของเขาจะหายไป 3/4ออนซ์ หรือ 21กรัม จึงสันนิษฐานว่า เป็นน้ำหนักของวิญญาณ แต่เมื่อทดลองกับสุนัข กลับพบว่าน้ำหนักไม่เปลี่ยนแปลง จึงเชื่อว่ามันไม่มีวิญญาณ ซึ่งในความเป็นจริง นั่นอาจจะเป็นน้ำหนักที่เกิดจากแรงดันเลือดที่หยุดลง และสามารถคำนวณได้
ลักษณะใบหน้า ที่เพิ่งปราศจากชีวิต แตกต่างจากใบหน้าของคนหมดสติอย่างเห็นได้ชัด ภายในนาทีเดียว หลังจากหัวใจหยุดเต้น ใบหน้าของร่างคนตายจะเริ่มซีดขาว เสมือนซากที่ปราศจากเนื้อหาภายใน เพราะจิตวิญญาณได้ถูกพรากไป ดวงตาจะขุ่นมัวราวกับมีเยื่อสีเทา คล้ายเมฆปกคลุม จนเราไม่อาจมองเข้าไปภายในให้เห็นได้ ความกลมนูนของมัน ไม่มีอะไรรองรับอีกต่อไป กล้ามเนื้อ หากไม่อยู่ในสภาพชักกระตุก ก็จะกลายสภาพปวกเปียก คล้ายชิ้นเนื้อที่แล่ไว้ ความยืดหยุ่นของผิวหนังจะเสียไป ประกายที่เคยมี เมื่อผิวหนังต้องแสงธรรมชาติจะหายไป ถึงจุดนี้ ชีวิตได้ดับสิ้นไปแล้ว
เมื่อการไหลเวียนของเลือดหยุดลง การตายของเซลล์ ก็จะจบลงอย่างสมบูรณ์ แรกสุด ระบบประสาทจะตายก่อน ต่อไปก็เป็นเนื้อเยื่อ เกี่ยวพันของกล้ามเนื้อ และท้ายสุด จะเป็นโครงสร้างที่เป็นเส้นใยต่างๆ ภาวะช็อค Shock ทุกชนิด ให้ผลคล้ายคลึงกัน กล่าวคือ ทำให้เซลล์ขาดการแลกเปลี่ยนสารชีวเคมี และ ออกซิเจน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เซลล์ตาย สมอง เป็นอวัยวะที่อ่อนไหวเป็นพิเศษต่อการขาดออกซิเจน และกลูโคส มันจึงตายได้อย่างรวดเร็ว การสูญเสียเลือด อย่างรวดเร็ว ในปริมาณ 1/2 หรือ 2/3 ของปริมาณเลือดทั้งหมดในร่างกาย ก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจหยุดเต้น เมื่อเสียเลือด ในตอนแรกๆ ความดันเลือดจะตกลง หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น อันเต็มความพยายามที่จะชดเชยเลือดที่ลดลง ในการบีบตัวตัวของหัวใจแต่ละครั้ง ในที่สุด การปรับตัวภายใน ก็ไม่อาจทดแทนกับความสูญเสียนั้นได้ ความดัน และปริมาณเลือดที่ไหลไปสู่สมอง ลดต่ำลงเกินกว่าที่จะคงความรู้สึกไว้ได้ ผู้ป่วยจะเข้าสู่ภาวะโคม่า
สมองส่วน Cortex จะตายก่อน แต่สมองส่วนที่อยู่ลึกลงไป อาทิ ก้านสมอง และ Medulla จะคงอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นการหายใจ จะยังดำเนินต่อไป แม้ว่าจะมีการระส่ำระสายยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด หัวใจที่เกือบจะไม่มีเลือดอยู่ภายในแล้ว ก็หยุดลง ซึ่งในบางครั้ง มันจะสั่นระริกก่อน จากนั้นระยะดิ้นรนจึงเริ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากการกระตุกของกล้ามเนื้อ อันเนื่องมาจาก ภาวะความเป็นกรดในเลือด และก่อนจะจบลงด้วย การตายทางคลินิค(Clinical death)How we die Sherwin B. Nuland
"ความตาย มีประตูนับพันนับหมื่นสำหรับมนุษย์ ที่จะก้าวเข้าไป"John Webster The Duchess Of Malfi,1612.
ถ้าคุณอยากรู้ว่า วิญญาณของมนุษย์อยู่ในสมองหรือไม่คุณแค่ตัดหัวแล้วถามดูได้ แต่ต้องถามเร็วๆนะเพราะสมองที่ขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง 10-12 วินาที จะหมดสติทันทีและคุณอาจต้องบอกเจ้าของหัว ว่าให้ตอบคำถามด้วยการกะพริบตานะเพราะพอหัวตัดขาดความสัมพันธ์กับปอดแล้วจะทำให้ไม่มีลมขึ้นมาผ่านเส้นเสียง เขาจะพูดไม่ได้Stiff : The Curious Lives Of Human CadaversMary Roach
ที่ความสูง 25,000 feet บนเทือกเขา เราจะรู้สึกเหมือนจมน้ำ ทุกลมหายใจเข้าออก จะมีเสียงดังคล้ายกลั้วคอ ศรีษะจะมึนงง จนยืนไม่ได้ และ เพราะแรงกดอากาศบนร่างกาย+ออกซิเจนที่มีน้อย จนทำให้ของเหลวในร่างกาย ไหลท่วมปอด และสมอง ในที่สุดจะตายภายใน 24-48 ช.ม.
เมื่อหิมะถล่ม คนที่จมอยู่ใต้นั้นโอกาสรอดฝากไว้ที่การทุ่มเทช่วยชีวิตโอกาสรอด 85% ถ้าขุดหิมะทันใน 15 นาทีจะลดลงเหลือ 50% เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมงและจะเหลือเพียง 20% หลังจากครบชั่วโมงหลังจากนั้นก็ไม่ต้องหวังแล้ว
ร่างกายมีเซลล์ทั้งหมดประมาณ 6,000 ล้านเซลล์ แบ่งตัวตลอดชีวิต 40 ครั้ง ถ้าไม่เสื่อมสลายก่อนเวลาอันควร เราจะมีชีวิตเกิน 100 ปีขึ้นไป
การประหารโดยการแขวนคอ เมื่อนักโทษถูกปมบ่วงของเชือก คล้องใต้มุมกราม แล้วตกลงมาในระยะ 5-7 ฟุต อย่างกระทันหัน จะทำให้กระดูกสันหลังหัก และ เคลื่อนออกจากกัน ทีีตำแหน่งใต้กะโหลกศรีษะ ประสาทไขสันหลังจะถูกฉีกออกเป็น 2 ส่วน ทำให้เกิดภาวะช็อค เกิดอัมพาตของระบบทางเดินหายใจในทันทีทันใด และจะตายอย่างรวดเร็ว แม้ว่าหัวใจ จะยังคงเต้นต่อไปอีก 2-3 นาที
การประหารโดยเก้าอี้ไฟฟ้านักโทษจะถูกผูกติดกับเก้าอี้ให้แน่นหนา จากนั้นต่อขั้วไฟเข้าสองขั้วขั้วหนึ่งต่อเข้าไปที่หมวกหนังที่บุทองเหลืองไว้โดยใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำทะเลหรือน้ำเกลือจนโชกรัดไว้ด้วยขั้วไฟฟ้าอีกขั้ว เป็นแถบทองเหลืองหรือตะกั่วใช้ร่วมกับฟองน้ำชุบน้ำเกลือจนชุ่ม รัดเข้าที่น่องซึ่งโกนขนออกหมดแล้วของนักโทษกระแสไฟฟ้าสลับ 2000 โวลต์ จะเข้าไปทำลายขั้วแม่เหล็กในสมองรวมถึงโครงสร้างประสาทของก้านสมองทำให้อุณหภูมิสมอง สูงถึง 280-284 องศาเซลเซียสนอกจากนี้ กระแสไฟฟ้ายังเข้าไปทำลายอวัยวะต่างๆภายในจนเสียหาย การประหารโดยการฉีดยายาที่ใช้ฉีด ไม่ใช่ยาพิษ แต่เป็นยาทั่วไป ซึ่งเมื่อให้เกินขนาด ก็ส่งผลให้ตายได้เริ่มแรกจะฉีด Sodium pentathol เพื่อให้หลับเข็มที่สองเป็น Pancuronium bromide เพื่อคลายกล้ามเนื้อและเข็มที่สามเป็น Potassium chloride เพื่อหยุดการเต้นของหัวใจขั้นตอนการฉีดยาทั้งหมดนี้ ใช้เวลาประมาณ 20-30 วินาที
การจมน้ำในน้ำจืด น้ำจะถกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านปอด ทำให้เลือดมีความเข้มข้นลดลง สมดุลอันละเอียดอ่อนขององค์ประกอบทางเคมี และฟิสิกส์ของเลือดเสียไป เม็ดเลือดแดงจึงแตกทลาย ส่งผลให้โปแตสเซียมปริมาณมาก หลั่งไหลเข้าสู่กระแสเลือด โปแตสเซียม มีฤทธิ์เป็นพิษต่อหัวใจ โดยชักนำให้หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ การจมน้ำในทะเล กระบวนการจะสลับเป็นตรงกันข้าม น้ำจะถ่ายเทจากกระแสเลือด เข้าสู่ถุงลมของปอด ทำให้เกิดภาวะปอดบวมน้ำ แต่ลักษณะนี้ ก็เกิดจากการจมน้ำในสระน้ำได้ เพราะคลอรีนมีพิษต่อปอด ร่างกายมนุษย์ที่ปราศจากชีวิตนั้น หนักกว่าน้ำ และส่วนที่หนาแน่นที่สุดคือส่วนศรีษะ ส่วนหัวจึจมลงก่อน และยังคงลอยอยู่ใต้น้ำ จนกว่ากระบวนการเน่าเปื่อยจะดำเนินไป จนเกิดก๊าซในเนื้อเยื่อ มากพอที่จะทำให้เกิดแรงลอยตัว ยกเอาศพขึ้นสู่ผิวน้ำ กระบวนการนี้ ใช้เวลาตั้งแต่ 2-3 วันจนถึง 2-3 สัปดาห์
''DNA มีส่วนที่เป็นสาระ คือ คุมให้เราสูง ผมดำ คิ้วหนา ตาสีฟ้า 10% อีก90%ที่เหลือ ไม่ทำอะไรเลย เป็นแค่เอกลักษณ์ของคนคนนั้น สัจธรรมคือ เราไม่จำเป็นต้องมีสาระมาก เอาแค่10%พอแล้ว ความไร้สาระ ก็จำเป็นกับชีวิต ปัญหาคือ จะทำยังไง ให้สาระ10%นั้น เข้มแข็ง เอาจริงเอาจัง กับมันจริงๆ'' พ.ญ. คุณหญิงพรทิพย์ โจนสุนันท์
I hope they serve beer in hell.
คนที่ฆ่าตัวตาย ต่างกับ มือระเบิดพลีชีพอย่างไร? คนที่ฆ่าตัวตาย เกิดจาก อารมณ์ของการไม่เห็นคุณค่าของตัวเองแบบเฉียบพลัน มือระเบิดพลีชีพ เกิดจาก การเห็นคุณค่าของชีวิต กับสิ่งที่กระทำนั้น อย่างยิ่งยวด วัยรุ่นหนุ่มสาว ที่ฆ่าตัวตายเพราะความรักทุกวันบนโลกใบนี้ น่าเสียดายและน่าสังเวชที่สุด เพราะพวกเขายังไม่ได้รู้จัก ความรักจริงๆ ด้วยเพราะความหมกมุ่นกับตัวเองมากเกินไป ความรัก ไม่ใช่คณิตศาสตร์ ที่มนุษย์จะมีความเป็นเลิศได้เองในวัยเยาว์ เพราะการแก้สมการความรัก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ สูตร ตรรกะ หรือ มันสมองอันปราดเปรื่อง แต่ใช้ประสบการณ์ ความเข้าใจโลก แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่อยู่สะสมอายุได้มาก จะรู้จักความรักเหมือนๆกัน จนวันแก่ตาย บางคนก็ยังไม่รู้จักมัน นัก'คิดสั้น'ไม่เคยมีเวลาครุ่นคิดเกี่ยวกับชีวิตและความตายล่วงหน้า เพราะมัวแต่ คิดเข้าออก ระหว่างตัวเองกับผู้อื่น แต่สำหรับ นัก'คิดยาว'บางคน การฆ่าตัวตาย กลายเป็นศิลปะ ที่ต้องใช้เวลาชั่วชีวิตที่จะเรียนรู้ สิ่งที่น่าวิตกกังวลเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย คืออะไร? คือ แม้ว่า การฆ่าตัวตาย จะเป็นกิจของตัวเอง แต่ศพของเรา กลับเป็นธุระของคนอื่น
ถ้าเรารู้วันตาย และรู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ เราจะไม่แคร์สายตาคนอื่นว่าจะมองเราในรูปลักษณ์ใด ทรัพย์สินมีค่าเพียงอากาศธาตุ เราจะสงบนิ่งยิ่งกว่าเรือที่จมนิ่งอยู่ก้นสมุทร อากาศที่เราสูด จะไหลผ่านไปทั่วร่าง อาหารเช้าของเราจะอร่อยยิ่งกว่าทุกมื้อที่ใครๆเคยได้กิน น้ำทุกแก้วจะอร่อยยิ่งกว่าน้ำไหนๆที่เคยได้ดื่ม
ผมมักนึกคิดไปเสมอว่า ขณะผมขับรถอยู่ที่ความเร็ว 80km.-120/hour ผมจะหลับตาลง และเมื่อลืมตาขึ้นอีกที รถผมได้พุ่งเข้าชนท้ายรถพ่วง หรือประสานงากับรถที่สวนเลนมา และในขณะที่เดินอยู่ริมถนนที่กำลังก่อสร้าง ผมได้ถูกรถกระบะ ที่บรรทุกของมาเต็มท้ายรถ เฉี่ยวชนผมจากทางด้านขวา แล้วลากตัวผมไปกับพื้นถนนที่ยังสร้างไม่เสร็จ อะไรก็ได้..สักอย่าง... คุณเคยนึกภาพ ตอนตัวเองตายมั้ย
How many lives do we live? How many times do we die? They say we all lose 21 grams... at the exact moment of our death. Everyone.And how much fits into 21 grams? How much is lost? When do we lose 21 grams? How much goes with them? How much is gained? Twenty-one grams. The weight of a stack of five nickels. The weight of a hummingbird. A chocolate bar. How much did 21 grams weight?
not seen not mean nothing
see ya soon
Create Date : 23 มิถุนายน 2555 |
Last Update : 7 เมษายน 2561 12:37:29 น. |
|
0 comments
|
Counter : 935 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
เข้ามาเลย หมาบ้านเราไม่กัด
|
|
|
|
|
|
|
|
|