YoU CoUlD SaY ThAt I'm A NeRd, BuT I'm A cHiC NeRd!!!
Group Blog
 
All Blogs
 

ReVieW ★★ Hadalabo Arbutin whitening สูตรผิวขาวชุ่มชื้น พร้อมเปรียบเทียบ Hadalabo ทั้งสามสูตรเลยค่ะ



สวัสดีค่ะ สาวๆ
วันนี้กิ๊บจะเอาไอเทมโปรดที่ขาดไม่ได้ตัวหนึ่งเลยของกิ๊บมารีวิวให้ดูกันค่ะ
นั่นคือ Hada labo นั่นเอง สาวๆหลายๆคนคงเคยใช้มาบ้างแล้ว
แต่ด้วยความที่มีสามสูตร เลยยังมีสาวๆงงกันบ้าง
ว่าแต่ละสูตรต่างกันยังไง และเหมาะกับผิวแบบไหน
วันนี้กิ๊บเลยจะมาเปรียบเทียบให้ดูกันแบบละเอียดเลยจ้า


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและข่าวโปรโมชั่นได้ที่
 facebook page ของ Hada labo นะคะ 
//www.facebook.com/WeLoveHadaLabo



เล่าประวัติกันก่อน Hada labo เป็นแบรนด์ของบริษัท Rohto จากประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นการผลิตเครื่องสำอางค์และสกินแคร์
มุ่งเน้นสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยน และมีประสิทธิภาพ
ไม่ใส่ส่วนผสมที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง ที่ไม่จำเป็นด้วยจ้า
ซึ่งตัวที่ขายดีที่สุด ก็คือ Hada Labo ตัวสีขาว ที่ฮิตมากกกก
ขายได้หนึ่งขวดในทุก 2 วินาทีกันเลยทีเดียว แต่ว่าสาวๆอาจจะยังไม่รู้ว่า
ในไลน์ของ Hada labo ทั้งหมดจริงๆ มีผลิตภัณฑ์เยอะมากเลย
และจะเหมาะสมกับลักษณะผิวของสาวๆไม่เหมือนกันด้วยล่ะ
วันนี้กิ๊บเลยอยากจะมาช่วยให้สาวๆเลือกตัวที่เหมาะกับผิวตัวเองมากที่สุดจ้า



หลักๆผลิตภัณฑ์ของ Hada labo มีทั้งหมด 3 ไลน์ด้วยกันค่ะ
สาวๆหลายคนก็มีข้อสงสัย ว่าผิวตัวเองเหมาะกับ Hada labo lotion แบบไหน
วันนี้มีเฉลยช่วยให้เลือกสูตรได้ง่ายขึ้นแล้วค่ะ ลองตอบคำถามอันนี
้้ดูน้า


ปัญหาไหนที่สร้างความกังวลให้กับผิวหน้าของคุณ
1. หิวหน้าแห้งมาก ลอกเป็นขุยอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าหนาว
2. ผิวหน้ามีรูขุมขนกว้างจนสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจน
3. ผิวหน้าคล้ำง่าย โดนแดดนิดเดียวก็ดำขึ้น
4. มีรอยจุดด่างดำจากสิว หรือรอยคล้ำจากการแพ้อื่นๆ เต็มไปหมด
5. ผิวแพ้ง่ายมาก ใช้อะไรก็แพ้เป็นผื่นแดงหรือแสบคัน
6. ผิวหน้ามีริ้วรอยเห็นได้ชัดเจน ไม่สดใส เปล่งปลั่ง



ลองเปรียบเทียบปัญหาผิว กับสูตรของ Hada labo ที่เหมาะตามนี้เลยค่ะ
1,2,5 ใช้สูตรสีขาว Super hyaluronic acid lotion เหมาะกับคนผิวแห้ง
ลอกเป็นขุยง่าย ขาดความชุ่มชื่น
3,4 สูตรสีน้ำเงิน Arbutin whitening lotion เหมาะกับคนผิวขาดความชุ่มชื่น
แต่มีปัญหาผิวคล้ำ สีผิวเข้มง่าย หรือมีปัญหาสีผิวคล้ำรอยดำจากสิว
6 สูตรสีแดง Retinol lifting and firming lotion ผิวขาดความชุ่มชื้น
แต่มีริ้วรอยเห็นได้ชัด ผิวไม่สดใส ไม่เปล่งปลั่ง




สาวๆหลายๆคนอาจจะสับสนว่าตัวไหนใช้ก่อนกัน
กิ๊บเรียงลำดับวิธีการใช้ให้ง่ายๆนะคะ คือใช้ตามรูปนี้เลยค่ะ

Cleansing oil > cleansing foam > lotion เลือกสูตรตามสภาพผิว >
eye cream > moist essence > moisturizing milk ตบท้ายค่า
ถ้าวันไหนอยากมาส์ก ก็มาส์กได้หลังเสร็จการบำรุงจ้า 
ก็มีรูปมาให้ดูเรียงง่ายๆตามนี้ค่ะ
(picture credit from //iwanttotryanewlife.wordpress.com)









วันนี้ตัวที่เราจะมาดูกันเป็นพิเศษเลยคือ
สูตรสีน้ำเงิน หรือ Hadalabo Arbutin Whitening

ซึ่งสูตรนี้มีความพิเศษ แตกต่างจากสูตรอื่นๆคือ
เหมาะกับคนที่ผิวหมองคล้ำง่าย โดนแดดแป๊บเดียวก็ผิวคล้ำขึ้นแล้ว
หรือผิวหน้ามีรอยด่างดำ มีรอยคล้ำที่เกิดจากสิว

เพราะมีส่วนผสมพิเศษที่เพิ่มจากสูตรอื่นคือ Arbutin
ซึ่งตัว Arbutin เป็นสารที่สกัดมาจาก bearberry และข้าวสาลี
จากการสกัดมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของ melanin
ที่เป็นตัวต้นกำเนิดที่ทำให้เม็ดสีผิวเข้มขึ้นนั่นเองจ้า

โดยที่นอกจากมีส่วนผสมที่ทำให้เพิ่มความกระจ่างใส
และลดริ้วรอยหมองคล้ำแล้ว ก็ยังมีส่วนผสมของ Super Hyaluronic Acid
ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีสุดๆ เหมือนกันกับ Hada labo สูตรอื่นๆค่า
ทุกตัวในไลน์ของ Hada labo ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สี และน้ำหอม
ทำให้มีโอกาสการเกิดการแพ้น้อยลงมากค่ะ


ในไลน์นี้มีจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 4 ตัวนะคะ
Arbutin Whitening Face Wash (100g / 289 บาท)
Arbutin Whitening Lotion (170ml /520 บาท)
Arbutin Whitening Essence (30 ml / 690 บาท)
Arbutin Whitening Milk (140ml / 559 บาท)

แต่ที่วันนี้กิ๊บจะมารีวิวกัน เป็นสองตัวที่ขายดีที่สุดคือ Lotion และ essence ค่ะ









Hadalabo Arbutin Whitening Lotion (170ml /
520 บาท)
ขนาดที่กิ๊บได้มาลองเป็น 100ml ที่มีวางขายในเฉพาะร้าน Watsons จ้า

ตัวนี้เป็นโลชั่นน้ำใส ที่เน้นการบำรุงเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
เพราะฉะนั้นจะไม่ได้ใช้เหมือนโทนเนอร์นะจ้า ตัวนี้เลยไม่ต้องหยดลงบนสำลี
แต่ใช้หยดลงบนฝ่ามือแล้วใช้ตบลงบนผิวหน้าได้เลย

เนื้อโลชั่นจะออกเป็นน้ำค่อนข้างเหลว และมีสีออกขาวขุ่นนิดๆ
ปริมาณที่กำลังดีในการใช้ต่อหนึ่งหน้า ก็ประมาณเหรียญ 5 บาทจ้า
จากนั้นค่อยๆนวดกระจายให้ทั่วฝ่ามือ แล้วประคบให้ทั่วใบหน้า ลำคอ
โดยการแนบฝ่ามือลงบนผิวหน้าแล้วกดเบาๆ ให้ความร้อนจากฝ่ามือ
ช่วยทำให้โลชั่นซึมลงผิวได้เร็วมากขึ้นด้วยจ้า

หลังจากทาเสร็จแล้ว ผิวจะหนึบๆนิดนึง เหมือนเป็นฟิลม์เคลือบ
ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าด้วยจ้า ถ้าทิ้งไว้นานๆจะซึมไปเองจ้า










Hada labo Arbutin Whitening Essence (30 ml / 690 บาท)

ตัว Essence นี้เป็นเหมือนกับ Serum ค่ะ คือจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสารเข้มข้น
และให้การบำรุงในขั้นตอนที่มากกว่าขั้นตอนอื่น และจะซึมซาบลงผิวได้ดีที่สุด
ส่วนตัวกิ๊บชอบ Essence ทุกตัวของ Hada labo มากๆ เพราะ
ที่เคยลองทุกตัว สามารถให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิวได้เลิศที่สุดเลยจริงๆ
บางวันถ้าขี้เกียจทาบำรุงผิวหน้ามากๆ กิ๊บจะใช้ตัวนี้ลงตัวเดียวแล้วนอนเลย
จุดที่เลิศสุดๆ คือ นอกจากจะเข้มข้น บำรุงผิวได้ทั้งการชุ่มชื้นและลดรอยดำ
ในขั้นตอนเดียวแล้ว ยังซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหน้าด้วยล่ะ

Essence จะเป็นกึ่งข้นกึ่งเจล สีขาวขุ่น เนื้อตอนบีบออกมาจากขวด
จะรู้สึกว่าเนื้อแน่น แต่พอลองเกลี่ยแล้วจะรู้สึกว่าเเกลี่ยง่าย และเนื้อบางเบามาก
พอเกลี่ยแล้วจะกลืนกับผิวไปเลย และซึมเร็วค่ะ










ชอบตัวแพคเกจแบบนี้มากๆค่ะ ที่เป็นแบบหัวป๊ม ที่นอกจากจะสะอาดแล้ว 
ทำให้กะปริมาณการใช้ง่ายด้วยล่ะ โดยทั่วไปกิ๊บจะใช้ประมาณสองปั๊ม
จะสามารถทาทั้งหน้าได้พอดี











มาดูเนื้อผลิตภัณฑ์กัน
ตัวเนื้อ Lotion จะเป็นเนื้อเหลวคล้ายน้ำเลย
ส่วนตัว Essence จะเป็นกึ่งข้นกึ่งเจล แต่เกลี่ยง่าย และซึมเร็วค่ะ 











ทีนี้มาดูเปรียบเทียบ Hada labo ทั้งสามสูตรกันเลยดีกว่า

เริ่มจาก Hada labo lotion กันก่อนเลย
ทั้งสามตัว วิธีการใช้และวัตถุประสงค์เหมือนกันเลย คือ
ใช้ตบเบาๆที่ผิวหลังล้างหน้า และใช้ก่อนการก่อนลง essence
เพื่อเป็นขั้นตอนการบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว








สูตรสีขาว - ตัวนี้จะเป็นตัวที่เนื้อเหลวคล้ายน้ำที่สุด และเนื้อใสที่สุด ตัวนี้จะซึมเร็ว
สูตรสีน้ำเงิน - ตัวนี้เนื้อจะขุ่นกว่าสูตรสีขาว และเนื้อข้นกว่าสูตรสีขาวเล็กน้อย
สูตรสีแดง - ตัวนี้จะเนื้อค่อนข้างข้น ถึงจะยังคล้ายน้ำแต่หนืดกว่าตัวอื่น
และจะมีสีอมเหลืองอ่อนๆ ตัวนี้จะซึมช้ากว่าตัวอื่นหน่อยค่ะ
คล้ายเป็นฟิลม์เคลือบผิวค้างไว้ค่ะ

กลิ่นทั้งสามตัวจะเป็นกลิ่นอ่อนๆคล้ายๆกัน กลิ่นหอมดีค่ะ 













ต่อมามาดู Hada labo essence กันค่ะ

สามตัวนี้เป็น essence เหมือนกัน ตัวนี้เป็นเหมือนเซรั่มที่เป็น
ขั้นตอนการบำรุงผิวอย่างเข้มข้นเหมือนกัน 
แต่ว่าเนื้อจะแตกต่างกันพอสมควร













สูตรสีขาว - ตัวนี้เนื้อสีขาวกึ่งขุ่นกึ่งใส ค่อนหนืดกว่าสูตรสีฟ้า เกลี่ยง่าย

แต่จะซึมช้ากว่า และเหมือนเป็นตัวเคลือบผิวมากกว่าสูตรอื่น
ส่วนตัวแล้วกิ๊บชอบตัวนี้มากค่ะ ในทั้งสามตัว ตัวนี้เป็นตัวที่ให้ความชุ่มชื้นผิว
ได้ดีที่สุดเลย ถ้าช่วงไหนมีปัญหาผิวหน้าแห้งเป็นขุย กิ๊บจะทาตัวนี้
สามวันเช้าเย็นติดกัน รับรองว่าผิวจะชุ่มขื้นหายเป็นขุยทันทีเลย
ตัวนี้เลยเป็นตัวโปรดที่ใช้กู้ภัยเวลาผิวแห้งวิกฤต
สูตรสีน้ำเงิน - ตัวนี้เนื้อสีขาวขุ่น ค่อนเหลวกว่าสูตรสีขาว
เป็นตัวที่เกลี่ยง่ายและซึมเร็วที่สุดในสามสูตรค่ะ

สูตรสีแดง - ตัวนี้จะเนื้อข้นและแน่นมากที่สุด สีอมเหลือง เกลี่ยแล้วจะหนืด
กว่าตัวอื่น แต่พอเกลี่ยแล้วจะกลายเป็นเนื้อใส และค่อยๆเกลี่ยง่ายขึ้นเรื่อยๆ
แต่เทีบยแล้วสุดท้าย สูตรสีขาวจะเหนอะผิวมากกว่า

 กิ๊บชอบตัว Essence มากๆทุกตัวเลยค่ะ แต่ตัวที่เรียกว่าเป็นตัวโปรดในดวงใจ
จะเป็นสูตรสีขาว เพราะแก้ปัญหาผิวแห้งได้ชะงัดจริงๆ
แต่ด้วยความที่ข้นและเข้มมาก อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวมัน
หรือไม่ชอบความเหนอะหนะสักเท่าไหร่ เพราะจะเข้มข้นกว่าสูตรอื่น
ถ้าไม่ได้มีปัญหาผิวแห้งมากนัก จะแนะนำให้ใช้สูตรน้ำเงินจะดีกว่าจ้า










สุดท้ายแล้ว ขอแถมด้วยวิธีการใช้ lotion ของ Hada labo ค่ะ
วิธีการที่ง่ายที่สุดเลย คือหยดขนาดเท่าเหรียญห้าบาทลงบนฝ่ามือ
แล้วเอาฝ่ามืออีกข้าง แนบลงไปให้เนื้อโลชั่นกระจายเท่าๆกัน
แล้วแนบฝ่ามือทั้งสองข้างลงบนผิวหน้า ค่อยๆกดกึ่งตบเบาๆ
ที่ผิวหน้า กระจายให้ทั่ว เพื่อให้ความร้อนจากฝ่ามือ
และจากการตบเบาๆ ทำให้ตัว Hyaluronic สามารถซึมเข้าผิวไปบำรุงได้ดียิ่งขึ้น

วิธีการแบบนี้ สามารถทำได้ทั้งช่วงเช้าและก่อนนอนค่ะ
แต่พิเศษหน่อย ตรงที่ช่วงเช้า อาจจะลดปริมาณโลชั่นลงนิดนึง
จะได้แต่งหน้าต่อได้สบายมากขึ้นค่ะ










ส่วนวิธีที่สอง คือเอา lotion มาทำเป็นมาสก์ที่ทำขึ้นเอง
วิธีไม่ยากเลย วัสดุที่หาได้ง่ายที่สุดคือสำลีแบบแผ่นค่ะ
แค่ใช้สำลีประมาณ 6-7 แผ่นวางในชามเล็กสะอาด แล้วหยดโลชั่นลงไปจนชุ่ม
จากนั้นก็แปะลงบนผิวหน้ากระจายให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
แบบนี้เป็นการบำรุงแบบเข้มข้น ทำให้โลชั่นซึมเข้าผิวได้ดีมากขึ้น
รับรองว่ามาสก์แบบนี้ ทำให้ผิวหายแห้งแน่นอนค่ะ











อีกวิธ๊การมาสก์ที่สะดวกกว่าคือ ซื้อมาสก์ทิชชู่สำเร็จรูป ที่อาจจะอยู่ในรูปแบบ
อัดเม็ดแบบในภาพ หาชามเล็กๆมาวางเม็ดมาสก์ไว้ แล้วหยดโลชั่นจนชุ่ม
แล้วค่อยๆกางมาสก์มาวางบนหน้า
วิธีนี้สะดวกกว่า และใช้ปริมาณโลชั่นน้อยกว่าด้วย เป็นการประหยัดไปในตัวด้วยจ้า










สำหรับสาวๆที่ไม่อยากยุ่งยาก Hada labo เค้ามีแผ่นมาสก์หน้าด้วยนะ
สาวๆคนไหนไม่มีเวลา ก็ไปซื้อแผ่นมาสก์มาใช้เลย สะดวกดีจ้า






สุดท้าย ต้องขอบอกว่า Hada labo arbutin เป็นตัวที่น่าสนใจมากๆจริงค่ะ
เพราะว่ามีส่วนผสมที่ทั้งทำให้ผิวชุ่มชื้น และยังมีส่วนผสมที่ช่วย
แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ และสีผิวไม่สม่ำเสมออีกด้วยล่ะ
เลยเป็นตัวที่ตอบโจทย์สาวๆผิวแห้ง ที่อยากมีผิวกระจ่างใสด้วยได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญ ด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และมีส่วนผสมที่อัดแน่นมาเต็มขวด
ใช้ได้นานแบบนี้ ทำให้เป็นสกินแคร์ที่เรียกได้ว่า คุ้มค่าจริงๆจ้า
เอามาประยุกต์ใช้เป็นมาสก์ได้ด้วย โดยที่ไม่ทำให้กระเป๋าเบาแบบนี้
ขอบอกว่าเลิฟที่สุดเลยค่ะ









ขอบคุณสาวๆที่เข้ามาชมนะคะ





Disclaimer: These products were given to me for review.
I am not affiliated to​ Hada labo and all opinions
expressed were wholly my own and were not influenced
by any companies in any way.






ชอบใจยังไง อย่าลืมกด like ที่ fanpage SuperGiBZz ที่ link ด้านล่างด้วยนะค้า
มีข่าวสารความงามและกิจกรรมให้เล่นกันด้วยจ้า


SuperGiBZz

Promote Your Page Too







 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2556    
Last Update : 5 กรกฎาคม 2556 11:27:02 น.
Counter : 52180 Pageviews.  

ReVieW ★★ BSC Cosmetology Expert White Sun Protection SPF50 PA+++ กันแดดเนื้อเลิศ แนะนำจริงๆจ้า




สวัสดีค่า สาวๆ
รู้สึกมั้ยคะ ว่าเดี๋ยวนี้อากาศร้อนแดดเปรี้ยงเหลือเกิน
ไม่ว่าจะฤดูไหนแดดก็แรงตลอด แค่ออกไปยืนกลางแดดแป้บเดียว
ก็ทำให้ผิวคล้ำขึ้นได้แล้ว แถมยังมีแสงไฟนีออนในออฟฟิสที่เป็นตัวร้ายอีก
ที่สำคัญ ผิวหน้ายิ่งคล้ำแดดง่ายมากๆเลย
แถมแดดตัวร้ายยังเป็นสาเหตุการเกิดฝ้าในอนาคตด้วยล่ะ น่ากลัวจริงๆ

ครีมกันแดดเลยเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ในทุกๆวันเลย
และยิ่งถ้าเลือกใช้ครีมกันแดดที่ยิ่งมีค่า SPF สูง
ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันผิวของเราได้มากขึ้นค่ะ

วันนี้ได้ลองครีมกันแดดที่เลิศมากๆตัวนึง เนื้อแจ่มมากๆ
เลยต้องรีบเอามาแนะนำกันจ้า


BSC Cosmetology
Expert White Sun Protection SPF50 PA+++


ขนาด 20 กรัม ราคา 600 บาท
ขนาด 40 กรัม ราคา 1,100 บาท














ตัวนี้เป็นครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าค่ะ SPF50 PA+++ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า
ช่วยดูแลผิวหน้าจากแสงแดดได้อย่างแน่นอน
ครีมกันแดดตัวนี้ ใช้ได้ทุกวัน ลงหลังการบำรุงผิว และก่อนการแต่งหน้าจ้า

เป็นหลอดบีบๆแบบนี้ ใช้ง่ายค่ะ











พอลองบีบเนื้อออกมาแล้ว
เนื้อจะเป็นคล้ายๆกึ่งโลชั่น แต่จะมีความบางเบา
ทำให้เกลี่ยไปกับผิวได้ง่ายมากๆเลย









พอลองปาดแล้วยิ่งเลิศค่ะ เพราะว่าเนื้อเกลี่ยง่ายมากๆ
และซึมเร็วสุดๆเลยอ่ะ พอซึมสักพักจะแนบกับผิวไปเลย
ไม่ทำให้หน้ามันเลยค่ะ แป้บเดียวก็สามารถแต่งหน้าต่อได้เลย
ขอบอกว่า เป็นหนึ่งในครีมกันแดดที่เนื้อเลิศที่สุดตั้งแต่เคยใช้มาเลยอ่ะ








เวลาใช้ กิ๊บจะปาดที่หน้าทั้งหมดห้าจุดตามแบบในภาพ
แล้วค่อยๆเกลี่ยให้ทั่วหน้าเลยค่ะ






พอปาดลงบนผิวหน้าแล้วจะรู้สึกได้เลยนะว่า
เนื้อบางเบามาก ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะเลย ซึ่งอันนี้เลิศจริงจัง 
และไม่ทิ้งคราบขาว ไม่ทำให้หน้าวอกด้วยล่ะ
ทำให้แต่งหน้าต่อได้เลยทันที
แถมยังแอบทำให้หน้าเนียน ลงรองพื้นต่อง่ายด้วยจ้า ^^







กิ๊บเคยลองครีมกันแดดสำหรับผิวหน้ามาหลายตัวแล้ว
แต่
กิ๊บขอบอกเลยว่าตัวนี้ เลิศจริงจังค่ะ เนื้อดีมากกกกก ใช้ง่ายมาก
โดยไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่ทำให้ผิวหน้าแห้งและระคายเคือง
แต่ซึมได้เร็ว และไม่เหนอะหนะเลยจริงๆ
ตอนนี้เลยเป็นครีมกันแดดผิวหน้าในดวงใจเลยค่า ชอบมากๆ
หมดแล้วมีซื้อมาใช้ต่อแน่นอนเลย เลิฟๆมากค่ะ


สถานที่จำหน่าย
เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง BSC Cosmetology ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่   Call center 02-295-0779

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่จ้า

www.facebook.com/bsc.cosmetology
www.bsccosmetology.com


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมนะคะ











Disclaimer: These products were given to me for review.
I am not affiliated to BSC Cosmetology and all opinions
expressed were wholly my own and were not influenced
by any companies in any way.






ชอบใจยังไง อย่าลืมกด like ที่ fanpage SuperGiBZz ที่ link ด้านล่างด้วยนะค้า
มีข่าวสารความงามและกิจกรรมให้เล่นกันด้วยจ้า


SuperGiBZz

Promote Your Page Too










 

Create Date : 18 มิถุนายน 2556    
Last Update : 18 มิถุนายน 2556 19:51:47 น.
Counter : 3867 Pageviews.  

ReVieW ★★ La Roche-Posay Anthelios XL Dry touch Gel-cream กันแดดได้เลิศๆโดยหน้าไม่มันเลยจ้า



สวัสดีค่ะ สาวๆ
เข้าช่วงหน้าร้อนกันอีกแล้ว ไอเทมที่ขาดไม่ได้กันเลยตอนนี้ คือครีมกันแดดใช่มั้ย
แดดตอนนี้แรงเหลือเกินค่ะ ถ้าออกจากบ้านโดยไม่ทากันแดด
แค่แป้บเดียว กลับบ้านมาก็รู้สึกแล้วว่า หน้าคล้ำขึ้น แย่เลย
ตอนนี้เลยต้องทากันแดด ทั้งตัวและหน้าตลอดทุกวันเลยค่ะ

แต่ปัญหาของการใช้ครีมกันแดด คือความเหนอะหนะ ใช้มั้ยคะ
ยิ่งถ้าเป็นการทาหน้าด้วยแล้ว แต่งหน้าต่อเป็เรื่องยากมากๆเลย
ตอนนี้มีไอเทมใหม่ ที่บอกว่าลดความเหนอะหนะได้ มาแนะนำให้รู้จักกันค่ะ





www.larocheposay-th.com
www.facebook.com/LaRochePosayThailand









Anthelios XL Dry touch Gel-cream SPF50+ PPD31
50ml./1150 บาท

มีจำหน่ายทุกที่เคาน์เตอร์ ลา โรช-โพเซย์ ณ โรงพยาบาล ร้านขายยา
boots & watsons ทั่วประเทศ



ตัวนี้เป็ครีมกันแดด สำหรับทาผิวหน้า สูตรใหม่ล่าสุดของ La roche-posay
ที่พิเศษกว่าสูตรอื่นคือ Dry touch gel-cream
เป็นสูตรที่พัฒนามาให้มีผิวสัมผัสกึ่งเจ เนื้อจะเบาบาง และซึมเร็ว
และหลังจากทาแล้วจะให้ความู้สึกแห้ง ไม่เหนอะผิวค่ะ
ให้การปกป้องรังสี UVB/UVA สูง สำหรับผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย
เนื้อผลิตภัณฑ์แห้งบางเบา ด้วยสองประสิทธิภาพสารต่อต้านความมันเงา
ซึมทราบสู่ผิวทันที แห้งภายหลังการใช้ ไม่ทิ้งคราบขาวไม่เหนียเหนอะหนะ
สูตร Non-comedogenic 
เหมาะสำหรับผิวผสมถึงผิวมัน ปราศจากน้ำหอม และพาราเบน
ผ่านการทดสอบแล้วโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวพรรณ
ปกป้องผิวด้วย SPF50+ พร้อมการปกป้องจากรังสี UVA*
(สูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดโดยยุโรป)
ด้วยรูปแบบสารกรองแสงลิขสิทธ์เฉพาะ Mexoplex®




ผลิตที่ประเทศฝรั่งเศส หลังเปิดใช้เก็บได้หนึ่งปีค่ะ









แพคเกจเรียบๆค่า บีบออกมาจากปลายหลอดแบบนี้ค่ะ










มาดูเนื้อกันค่ะ เนื้อมองผ่านๆจะคล้ายๆเนื้อครีม แต่พอสัมผัสจะรู้สึกว่า
บางกว่าเนื้อครีมทั่วไปค่ะ เนื้อเหมือนเป็นการผสมของเจลกับครีม
พอเกลี่ยออกตอนแรกจะคล้ายๆครีมกันแดดทั่วไป ที่จะมีเนื้อขาวๆอยู่
พอเกลี่ยอีกแป้บนึงจะบางเนียน เนื้อขาวหายไปหมดเลย
และทิ้งให้ซึมแป้บนึง จะเนียนกับผิไปเลย จับแล้วจะิ้งความมันไว้บนผิวน้อยมากๆ ทำให้รู้สึกว่าผิวไม่มันเลยค่ะ 


หลังใช้ สามารถแต่งหน้าได้เลยหลังจากปล่อยให้ซึมลงผิวแป้บนึง










ตอนนี้กิ๊บใช้ตัวนี้เป็นครีมกันแดดประจำตัวอยู่ค่ะ
โดยรวมชอบนะคะ เพราะว่าเนื้อบางกว่าครีมกันแดดแบบครีมทั่วไป
และซึมเร็วดี แต่งหน้าต่อได้ง่ายด้วย ไม่เหนอะผิว
แต่ช่วงระหว่างวันก็ยังมีผิวมันขึ้นมากว่าไม่ได้ลงกันแดดเลยบ้าง
แต่รวมๆแล้วถือว่าทำได้ดีเลย สำหรับกันแดด แบบเนื้อครีม

้าเทียบกันกับ กันแดดเนื้อบางที่มีแอลกอฮอล์ผสม ก็ต้องยอมรับว่า
ตัวนี้เนื้อจะแน่นและมีความมันมากกว่า แต่ด้วย SPF50+
และไม่มีแอลกอฮอล์ผสม ตัวนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่า
ในคนที่ผิวแห้ง่าย หรือไม่อยากส้มผัสแอลกอฮอล์จ้า










ขอบคุณสาวๆทุกคนที่เข้ามาชมนะคะ




Disclaimer: These products were given to me for review.
I am not affiliated to​ La Roche-Posay and all opinions
expressed were wholly my own and were not influenced
by any companies in any way.






ชอบใจยังไง อย่าลืมกด like ที่ fanpage SuperGiBZz ที่ link
ด้านล่างด้วยนะค้า มีข่าวสารความงามและกิจกรรมให้เล่นกันด้วยจ้า


SuperGiBZz

Promote Your Page Too





















 

Create Date : 18 เมษายน 2556    
Last Update : 18 เมษายน 2556 22:26:46 น.
Counter : 7239 Pageviews.  

ReVieW ★★ Bioderma Hydrabio เพื่อการดูแลผิวที่ขาดน้ำและขาดความชุ่มชื่นค่ะ




สวัสดีค่า สาวๆ

กิ๊บเป็นคนมีปัญหาผิวหน้าแห้งมาก แต่ว่าจะมันช่วง T zone
ซึ่งยากมากๆเลยกับการหา skin care ที่จะพอดี
ไม่ทำให้ส่วนผิวมัน มันมากไป และให้ควมชุ่มชื้นส่วนแห้งได้พอดี
กิ๊บว่าสาวๆหลายคนก็คงมีปัญหาแบบนี้เหมือนกันล่ะเนอะ

พอดีได้ลอง skin care ไลน์ใหม่ของ Bioderma แล้ว

เลยลองเอามาแนะนำให้ด
ูกันจ้า
กิ๊บชอบโปรดักส์แบรนด์นี้มากๆเลย เพราะเป็นเวชสำอางค์ที่มาจากฝรั่งเศส
ที่คุณภาพเกินราคามากๆ อย่างตัว Sensibio cleanser เลิฟสุด อ่านรีวิวที่นี่ค่ะ





Bioderma Hydrabio
มีวางขายที่ห้างสรรพสินค้า ร้า Watsons
และแผนกเวชสำอางค์ในโรงพยาบาลค่ะ

ในไลน์นี้มีไอเทมทั้งหมด 3 ตัว มีขายจัดเป็นเซตแบบนี้ด้วยจ้า





ไอเทมในไลน์นี้ จะมีสามตัวคือ

Treatment : Hydrabio Serum ีรั่
Maintain : Hydrabio Exfoliating Cream สครัปเซลล์ผิว
 Maintain : Hydrabio Moisturizing mask มาสก์


รุ่นนี้ผลิตมาเพื่อผิวที่บอบบางแพ้ง่ายด้วยล่ะจ้า
(แต่มีส่วนผสมของน้ำหอมอ่อนๆนะคะ)





มาดู ingredient ของแต่ละตัวกันค่ะ

ทุกตัวจะมีเทคโนโลยีหลักคือ

AQUAGENIUM® PATENT เพิ่มประสิทธิภาพระบบ
ส่งผ่านความชุ่มชื่นตามธรรมชาติของเซลล์ผิว
ป้องกันการสูญเสียน้ำ และเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว
DAF PATENT
Hyaluronic acid, Xylitol ช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื่ให้กับผิว
Non-comedogenic, hypoallergen ไม่ทำให้เกิดสิว และไม่ทำให้แพ้ค่ะ








ก่อนอื่นต้องขอเตือนก่อนเลยว่า เพราะว่าความฮิตของ Bioderma Sensibio
เลยมีของปลอมขายด้วยจ้า เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย
เลือกซื้อในร้านที่ไว้ใจได้ และมีสติกเกอร์แบบนี้
รับรองว่าเป็ฯของแท้ ที่ได้รับการอิมพอร์ตโดย SM Pharmaceutical แน่นอนจ้า









มาดูแต่ละตัวกันเลยดีกว่า


Treatment : Hydrabio Serum ีรั่
40 ml 1200 บาท

ตัวนี้เป็น concentrate serum ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวอย่างล้ำลึก
ช่วยเพิ่มประสิทธภาพระบบส่งผ่านความชุ่มชื้นของผิว
และปรับสมดุลของชั้นผิวในการปกป้องผิวตามธรรมชาติ ป้องกันการสูญเสียน้ำ
และเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว

ทาวันละ2 ครั้ง ทั้งเช้าและเย็นค่ะ





เนื้อตัวนี้จะเป็นคล้ายๆเนื้อเจล สีใสค่ะ
เนื้อข้น แ่ตทาง่าย ทาแล้วบางเบา ซึมลงผิวได้เร็วค่ะ
ทาแล้วชอบมากๆ เพราะว่าซึมได้เร็ว
และหลังทารู้สึกเลยว่าผิวนุ่มและชุ่มชื้นขึ้นทันที

ที่ชอบอีกอย่างคือ ไม่ทำให้ผิวมันเหนอะหนะเลย ผิวไม่มันมากขึ้น
สามารถทาได้ก่อนแต่งหน้าตอนเช้าด้วย


ช่วงไหนที่ผิวไม่ได้มีปัญหาแห้งจนเป็นขุยกิ๊บจะใช้ตัวนี้ล่ะจ้า
แต่ถ้าผิวแห้งสุดๆไปเลยแบบนั้น อาจจะต้องใช้ครีมที่เข้มข้นกว่านี้ค่ะ





Maintain : Hydrabio Exfoliating Cream สครัปเซลล์ผิว
75 ml 850 บาท

ตัวนี้เป็น gentle moisturizing scrub มี microbead เล็กๆช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า
ช่นวดทั่วใบหน้า 1-2 นาที แล้วล้างออกด้วยน้
ใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง และควรใช้มาสก์ตาม เพื่อลดความระคายเคือง




ตัวนี้ เนื้อจะเป็นสีขุ่น และเห็นเม็ดบีดส์เต็มเนื้อไปหมดเลย
ช้นวดทั่วๆหน้า เม็ดบีดส์จะขจัดเซลล์ผิวที่ตาย
สูตรนี้ดีตรงที่เป็นสครัปที่ทำมาเพื่อสาวผิวแห้ง เพราะฉะนั้น
สครัปได้โดยไม่ทำให้ผิวแห้งมากขึ้น เหมือนสครัปทั่วไป

ส่วนตัวกิ๊บใช้แล้ว รู้สึกว่าเม็ดบีดส์ยังใหญ่ไปหน่อย
แต่ก็ิวไม่แห้งดีหลังใช้ 


อ้อ ถ้าผิวบอบบางแพ้ง่ายมากๆจริงๆควรข้ามขั้นตอนนี้นะคะ
เพราะว่าการสครัปจะทำให้ผิวบอบบาง เกิดการอักเสบได้จ้า
แต่ถ้าสาวผิวธรรมดาๆ การสครัปจะลดเซลล์ที่ตาย ทำให้บำรุผิวดีขึ้
ซึมเข้าผิวได้มากขึ้น ลดการเกิดสิวอุดตันด้วยค่ะ




 Maintain : Hydrabio Moisturizing mask มาสก์
75 ml 1400 บาท

mask บำรุงผิว ตัวนี้ทาทั่วใบหน้าได้โดยไม่ต้องล้างออกเลย
จะให้ความชุ่มชื้นผิวได้อย่างล้ำลึก และเพิ่มประสิทธิภาพด้วย
Glycerine และ Xylitol เข้มข้น เพื่อช่วยให้ผิวที่ขาดน้ำ ฟื้นฟูขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

วิธีการใช้ ทา mask บนหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาที สัปดาห์ะ 1-2 ครั้ง




ตัวนี้เนื้อคล้ายๆครีมค่ะ จะเข้มข้นกว่า serum
จะซึมช้ากว่า serum นิดหน่ย แต่ว่าซึมยังถือว่าเร็ว และ
ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะเหมือนกันเลย ตัวนี้รู้สึกว่าทาแล้ว ผิวนุ่มดี
และให้ความชุ่มชื้นผิวได้ดีมากๆ มากกว่าตัว serum
ิ่งถ้าใช้พร้อมกันกับเซรั่มนะ หน้านุ่มเลย ชอบๆจัง
ข้อเสีย คือ ถ้าช่วงที่หน้าแห้งสุดๆไปเลย อาจจะยังไม่เข้มข้นพอค่ะ




วิธีการใช้ เรียงตามลำดับ จาก exfoliating cream >> serum >> mask เลยจ้า

ส่วนตัวกิ๊บชอบตัว serum และ mask มากๆค่
แต่ตัว exfoliating cream ยังเฉยๆนะ

สาวๆคนไหนที่มีปัญหาผิวแห้ง อยากได้สกินแคร์เบาๆ ใช้ง่ายๆ ไม่ทำให้หน้ามัน
ก็ลองไลน์นี้ดูได้จ้า เพราะว่า เนื้อบางเบาและซึมได้เร็วจริงๆ



***การทดลองเป็นความเห็นส่วนบุคคล แต่ละคนอาจได้ผลไม่เหมือนกัน
อย่าลืมอ่านแล้วไปลองเองก่อนซื้อนะจ้า
***









ขอบคุณสาวๆทุกคนที่เข้ามาชมค่ะ







Disclaimer: These products were given to me for review.
I am not affiliated to Bioderma and all opinions
expressed were wholly my own and were not influenced
by any companies in any way.






ชอบใจยังไง อย่าลืมกด like ที่ fanpage SuperGiBZz ที่ link ด้านล่างด้วยนะค้า
มีข่าวสารความงามและกิจกรรมให้เล่นกันด้วยจ้า


SuperGiBZz

Promote Your Page Too














 

Create Date : 10 มีนาคม 2556    
Last Update : 10 มีนาคม 2556 22:04:57 น.
Counter : 6874 Pageviews.  

ReVieW ★★ เครื่องกำจัดขน Emjoi Light Caress ประสิทธิภาพเลิศ ลงทุนครั้งเดียวคุ้มค่ะ



สวัสดีค่า สาวๆชาว bloggang
เชื่อว่าสาวๆทุกคนต้องมีปัญหาเรื่องขนส่วนเกินที่มาคอยรำคาญใจอยู่
ต้องมาคอยกำจัดกันอยู่เรื่อยๆ
อย่างกิ๊บมีขนตามตัว แขนขา รักแร้เยอะอยู่ ก็เบื่อมากๆเหมือนกัน
เคยไปทำเลเซอร์ที่ขา แต่ก็ไม่ถาวร และราคาแพงมาก
เลยมีวิธีที่ลงทุนครั้งเดียวคุ้มมาแนะนำกันค่า


//www.facebook.com/emjoithailand



ก่อนหน้านี้กิ๊บเคยใช้เครื่องกำจัดขนของ Emjoi อยู่แล้วแต่เป็นรุ่นเก่า
พอทาง Emjoi ส่งรุ่นใหม่มาให้เลยเอามารีวิวให้ดูกันค่า


Emjoi Light Caress Nano Gold Plated Rechargeable
ราคา 3200 บาท
หาซื้อได้ที่เคาทเตอร์ Emjoi ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป

รุ่นนี้เป็รุ่นใหม่ ที่เลิศที่สุดของ Emjoi ตอนนี้เลยค่ะ


เครื่องถอนขนถนอมผิว นาโนโกลด์เพลท พร้อมระบบชาร์จไฟอัตโนมัติ

7 เหตุผลที่จะต้องใช้ Emjoi Light Caress Nano Gold Plated 
1. ไม่ระคายเคือแม้ผิวแพ้ง่าย ด้วยแผ่นหนีบทอง 24k
2. สว่างชัดด้วยไฟส่องสว่างที่หัวเครื่อง
3. ถอนแนบทุกส่วนด้วยการออกแบบเข้ากับสรีระร่างกาย
4. ผิวไม่บอบช้ำด้วยระบบ Double Sensor Safety
5. เกลี้ยงเกลาด้วยแผ่นหนีบจำนวน 54 แผ่นหนีบ
6. สะดวกด้วยระบบชาร์จไฟอัติโนมัติ
7. เร็ว 10 เท่า ด้วยความเร็วรอบถึง 79,200 รอบ/นาที

หน้าตากล่องจะเป็นแบบนี้ แต่ล่าสุดกิ๊บไปดูที่เคาทเตอร์ Emjoi
จะเปลี่ยนแพคเกจเป็นกล่องสี่เหลี่ยมแล้วค่ะ





วิธีการใช้ ดูตามภาพได้เลยจ้า
สามารถใช้ได้กับขนทุกส่วน รวมทั้งรักแร้ และ bikini line ด้วย






เปิดแพคเกจด้านในจะเจออุปกรณ์ทั้งหมดแบบนี้

มีตัวเครื่อง, ฝาปิด, ที่ชาร์จ, ถุงเก็บอุปกรณ์, แปรงทำความสะอาด,
 ใยบวบ,หัวอุปกรณ์พิเศษนวดผิว
คู่มือวิธีการใช้กับใบรับประกันที่นาน 2 ปีค่ะ









ตัวเครื่องหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
ถ้าไปดูที่เคาทเตอร์ จะเห็นว่ามีเครื่องหน้าตาคล้ายๆกัน ทั้งหมด 3 สีคือ
สีเหลือง เขียวและแดง แต่ว่าจะคุณสมบัติเครื่องของแต่ละสี
จะไม่เหมือนกันนะ ตอนแรกกิ๊บก้อเข้าใจผิด 555
ที่ตัวเครื่องจะสามารถปรับความเร็วในการหมุนรอบของเครื่องได้
ขึ้นอยู่กับปริมาณขนในบริเวณที่เราต้องการกำจัด
และสามารถกดปุ่มขาวตรงกลาง เพื่อทำการล็อคเครื่องได้ด้วยค่ะ












ส่วนแต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไง ลองถามที่เคาทเตอร์ได้เลยจ้า

ตัวเครื่องรุ่นใหม่ เค้าปรับรูปทรงให้เข้ากับมือ ทำให้จับถนัดมากขึ้นด้วยนะ







หัวแปรงหนีบของเครื่อง ทำจากทอง 24K เพราะฉะนั้นจะระคายเคืองน้อ
ใช้กับผิวที่แพ้ง่ายด้วยค่ะ
ด้านข้างของแผ่นหนีบสองข้าง เป็นเครื่องนวดผิว ช่วยให้สบาย ลดความเจ็บ
ตรงตัวเครื่องจะมีไฟดวงเล็ก ช่วยให้ใช้เครื่องได้ ในที่แสงน้อยอย่างในห้องน้ำค่ะ





ตัวเครื่องเป็นทรงโค้ง จับถนัดมากๆ
และหัวแปรงก็แนบกับผิวได้ดี ทำให้กำจัดขนได้สะดวกมากๆค่ะ





ส่วนตัว กิ๊บเคยใช้วิธีการกำจัดขนทั้งแบบถอนด้วยแหนบ มีดโกน ครีมกำจัดขน
เลเซอร์ก็เคยทำมาแล้ว แต่ทุกวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
แต่การใช้เครื่องถอนขน ก็เป็นวิธีที่ได้ผลดีมากๆเลย
เพราะส่วนตัว รู้สึกว่า ใช้เครื่อง Emjoi แล้ว
เจ็บน้อยกว่าการถอนด้วยแหนบ และใช้เวลาน้อยกว่าเยอะเลยด้วย

นื่องจากเป็การถอน ขนเลยขึ้นช้ากว่าและไม่ระคายเคืองมากเท่าการโกน
ก็ถือเป็นการลงทุนเครื่องครั้งเดียว และสามารถใช้ได้อีกนานเลย
ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการกำจัดขนจ้า

ข้อเสีย : ราคาเครื่องค่อนข้างสูง และเป็นการถอนขน
เพราะฉะนั้นอาจเกิดตุ่มที่ผิว และขนขึ้นใหม่คุดได้ หลังใช้ไปนานๆ
ต้องขยันขัดผิวด้วยใยบวบที่มีให้ในกล่อง ด้วยนะคะ








ขอบคุณสาวๆทุกคนที่เข้ามาชมค่ะ




Disclaimer: These products were given to me for review.
I am not affiliated to Emjoi and all opinions
expressed were wholly my own and were not influenced
by any companies in any way.






ชอบใจยังไง อย่าลืมกด like ที่ fanpage SuperGiBZz ที่ link ด้านล่างด้วยนะค้า
มีข่าวสารความงามและกิจกรรมให้เล่นกันด้วยจ้า


SuperGiBZz

Promote Your Page Too














 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2556 19:28:05 น.
Counter : 12603 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

SuperGiBZz
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 65 คน [?]





สวัสดีค่า SuperGiBZz หรือจะเรียกกิ๊บก็ได้
ปีนี้ก็เขียนบลอคมาเป็นปีที่ห้าแล้ว
บางคนอาจจะจำกันได้ในชื่อ Login เดิม"แบแบ"ค่ะ

ก็เป็นผู้หญิงธรรมดาที่ชอบเรื่องความงาม แฟชั่น
ไลฟ์สไตล์ อาหารอร่อยๆ
และที่สำคัญชอบซื้อเครื่องสำอางค์ม้ากกกก
เลยอยากจะมาแชร์ความชอบกับเพื่อนๆค่ะ
ไม่ใช่คนแต่งหน้าเก่ง ไม่ได้ผิวดีเลิศเลอ
แต่มีอะไรดีดีก็อยากมาแบ่งปันจ้า

ยินดีต้อนรับเพื่อนๆทุกคนนะค๊าาา
ติดต่อกิ๊บได้ที่ skippyth@yahoo.com

มีอะไรสอบถามเพ่ิมเติมได้ ยินดีตอบทุกคำถามจ้า

Blog created : 4/12/2007








free hit counter
start counting since 19 Aug,2012
New Comments
Friends' blogs
[Add SuperGiBZz's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.