ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ประมวล “ศัพท์ฮิต“ เหตุการณ์น้ำท่วมไทยปี 54


ประมวล “ศัพท์ฮิต“ เหตุการณ์น้ำท่วมไทยปี 54

ประมวล “ศัพท์ฮิต“ เหตุการณ์น้ำท่วมไทยปี 54

เป็น
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่คนไทยทุกคนไม่อาจลืมเลือนได้กับประวัติศาสตร์หน้าใหม่
มหาอุทภัยน้ำท่วมประเทศไทยครั้งใหญ่ปี 2554
ซึ่งในช่วงเวลานี้เองคนไทยจะิคุ้นชินกับคำศัพท์ต่าง ๆ
ที่บางคำเกิดขึ้นมาใหม่และบางคำก็เป็นคำเก่าแต่เพิ่งจะคุ้นหูกับถูกใช้บ่อย
จากการรายงานข่าว  



ทีมข่าว S! News
ในฐานะสื่อที่เกาะติดการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา
จึงมีคำศัพท์ที่ใช้วนไปเวียนมาต่างกรรมต่างวาระต่างสถานที่แต่ถูกใ้ช้ในการ
รายงานข่าวทุกวัน ดูเหมือนจะวันละหลายรอบด้วย ทีมข่าวจึงขอประมวลเป็น
"ศัพท์ฮิต" ช่วงน้ำท่วมปี 54  















คันกั้นน้ำพัง (อีกแล้ว)  คันกั้นน้ำที่เรา ๆ
รู้จักนั้นมี 3 ประเภทด้วยกัน
 หนึ่งคือ คันกั้นของกทม.ที่ได้มาตรฐานยากที่จะแตกนอกจากน้ำล้นเท่านั้น สอง
คือ  คันกั้นของเอกชนที่สร้างมานานนับ 10
ปีแต่ไม่มีคุณภาพอยู่แทรกกลางระหว่างของกทม.  สาม คันกั้นน้ำแบบเฉพาะกิจ
สร้างรายวันเพื่อยับยั้งน้ำไม่ให้ไหลผ่าน และช่วงสถานการณ์น้ำไม่ปกตินี่เอง
เราจะได้ยินคำ่ว่าคันกั้นน้ำพัง เป็นข่าวรายวันแลยทีเดียว








บิ๊กแบ็ก เป็นศัพท์ใหม่ีอีกเช่นกันที่คนไทยได้ยินในยุคนี้ พ.ศ.นี้   บิ๊กแบ็ก คือกระสอบทรายยักษ์ ที่มาขอ บิ๊กแบ็ก มา
จากไอเดียของพระวัดธรรมกายที่เริ่มนำมาใช้ในการป้องกันน้ำท่วมบริเวณวัด จาก
นั้นนวัตกรรมบิ๊กแบ็ำกได้ถูกนำมาใช้โดยภาครัฐ
กองทัพได้นำกำลังพลเริ่มวางแนวบิ๊กแบ็กตั้งแต่ตำบลคลองหก
ถึงสถานีรถไฟดอนเมือง ประหนึ่งว่าบิ๊กแบ็กคือความหวังของคนกรุงเทพฯ
กลับกันเป็นก็ความชอกช้ำของคนที่อยู่หลังคันบิ๊กแบ็ก
เชื่อกันว่าผลจากการวาง บิ๊กแบ็ก
นั้นช่วยชะลอน้ำไม่ให้ท่วมกรุงมากไปกว่าเก่า
และผลจากการวางบิ๊กแบ็กนี้เองทำให้ประชาชนที่ได้รับความเืดือดร้อนพากัน
ประท้วงให้รื้อออก กลายเป็นกรณีพิพาทในหลายพื้นที่ที่ผ่านมา








เอาอยู่  เป็นวลียอดฮิตไปเลยสำหรับคำว่า "เอาอยู่" คำ ๆ
นี้ต้นตอมาจากการใ้ห้สัมภาษณ์ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์
และทีมงานของรัฐบาลที่เกี่ยวกับกับการดูแลเรื่องน้ำท่วม
ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล สามารถควบคุมสถานการณ์น้ำได้ "เอาอยู่" แน่นอน
ซึ่งเพียงข้ามวันเท่านั้นคำว่า "เอาอยู่" จากการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ
กลายเป็นน้ำท่วมเกือบมิดหัว กระทั่งคำนี้กลายเป็นคำล้อเลียนไปทั่วประเทศ
แม้แต่เสก โลโซ ยังหยิบวลีไปใช้กรณีเสพยาว่า "ผมเอาอยู่"
แหม! ฮิตไม่เลิกจริง ๆ








ศปภ.  คำนี้ถือเป็นคำที่เกิดใหม่ในปี 2554  ศปภ.
คือศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ประชาชนคนไทยจะได้ยินคำว่า
ศปภ.บ่อยและได้เห็นหน้าทีมงานของ ศปภ.ตลอดจนได้เห็นหน้าโฆษกของ ศปภ.
ผลัดเปลี่ยนไม่ซ้ำเช่นกัน ซึ่งจากคำประกาศคำเตือนของ ศปภ. นี่เองในหลาย ๆ
พื่นที่ที่บอกว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ แน่นอน
ซึ่งทุกอย่างกลับคลาดเคลื่อนไปหมด น้ำไม่ท่วมกรุง แต่เมืองก็จมมิดชนิดอก
เอว มิดหัวปรากฏให้เห็นก็หลายพื้นที่ เรียกว่าหลัง ๆ
ศปภ.ออกแถลงการณ์ประชาชนมักไม่ให้ความเชื่อถือว่าเท่าไหร่
จนกลายเป็นการล้อเลียนเปลี่ยนชื่อของ ศปภ. ให้ใหม่ เป็น
"ศูนย์ไร้ประสิทธิภาพป้องกันอุทกภัย"
 "ศูนย์เปลี่ยนแปลงข้อมูลจนไม่รู้สึกปลอดภัย"
"ศูนย์ปกปิดภัยพิบัติแห่งชาติ"  เชื่อว่าคนไทยจะจดจำชื่อของ
ศปภ.ไปอีกนานเลย








หัวน้ำ  ลุ้นระทึกกับคำนี้กันทั้งประเทศ
ยิ่งช่วงเวลาที่น้ำบุกยึดกทม.แล้ว สื่อต่าง ๆ
ตามติดสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดชนิดวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
ประชาชนใจระส่ำ เช็คข่าวกันถี่ยิบว่า หัวน้ำ อยู่ตรงจุดไหนบริเวณใดและคืบมาถึงบ้านตนเองหรือยัง








อพยพ ,ขนของขึ้นที่สูง  เป็นคำฮิตใน
การรายงานข่าวมากอีกหนึ่งคำ และเป็นคำที่ทำให้ประชาชนแอบเซงไปก็เยอะ
เพราะกทม.เล่นประกาศให้ขนของขึ้นที่สูงและอพยพกันเป็นรายวันเลยทีเดียว
ประกาศผิดบ้างพลาดบ้างก็มีปรากฏให้เห็นกันมาแล้ว
ยิ่งช่วงเดือนพฤศจิกายนกทม.ประกาศให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงในแต่ละ
เขตเกิดขึ้นทุกวัน จนคนกรุงเทพฯ แทบจะชินและไม่ตระหนกตกใจกันเท่าไหร่แล้ว
เนื่องจากทุกคนได้คำนวณและคาดการณ์ด้วยตนเองแล้วว่า
บ้านที่ตนเองอาศัยอยู่นั้นท่วมแน่นอน
หลายคนจึงอพยพออกไปก่อนที่กทม.จะประกาศเสียด้วยซ้ำ








ระดับน้ำ ช่วงที่ศปภ. กทม.
ประกาศว่ามวลน้ำก้อนใหญ่นั้นบุกเข้ากรุงแน่นอน
เป็นชั่วโมงที่ประชาชนคนไทยต่างพาเช็คกันให้วุ่นวาย
ระดับน้ำในคลองใกล้บ้านระดับไหน คำว่าระดับน้ำในคลอง
กลายเป็นศัพท์ที่อยู่ใกล้ตัวคนกรุงมากขึ้น
เป็นสิ่งใหม่ที่หลายคนให้ความสนใจมากกว่าปกติ
เพราะระดับน้ำในคลองยิ่งปริ่มตลิ่งเท่าไหร่ มันยิ่งบีบหัวใจมากเท่านั้น








น้องน้ำ  เป็นศัพท์ที่เรียกแทนน้ำท่วมและกำลังลุกคืบไป
ยังพื้นที่อื่น บางก็นิยามให้เป็น ป้าน้ำ
เพราะีหัวน้ำไหลผ่านย่านหลักสี่มาแล้ว บ้างก็เปรียบเปรยเป็นเรื่องเป็นราว
จดหมายจากน้องน้ำถึงพี่กรุง คำต่อว่าต่อขานของน้องน้ำกับน้องทราย
กลา่ยเป็นเรื่องขำขำรับสถานการณ์น้ำท่วมกันไป








น้ำกระฉอก 
เป็นศัพท์เก่าที่นำมาเล่าใหม่ในช่วงสถานการณ์ำน้ำท่วม
 น้ำกระฉอกเป็นการพูดถึงระดับน้ำที่คาดการณ์ว่าจะสูงสุดและอาจล้นระดับคั้น
กั้น ทำให้เกิดน้ำท่วมบางจุดนั้น ซึ่งท่านปราโมทย์ ไม้กลัด
ที่ปรึกษาพิเศษของผู้ว่าฯ กทม. นิยามให้เป็นเพียงแค่ "น้ำกระฉอก"
จากนั้นท่่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ได้หยิบมาใช้ในการให้สัมภาษณ์สื่อ
กลายเป็นว่าหลายคนนำไปเปรียบเปรยเชิงประชดประชันว่า น้ำกระฉอก
คาดคงกระฉอกแรงไปหน่อยน้ำจึงอยู่ระดับเข่า ระดับเอวในบางพื้นที่








มวลน้ำก้อนใหญ่ เป็นศัพท์ที่น่าสะพรึงกลัวมาก
ช่วงเกิดมหาอุทกภัยใหม่ ๆ
เพราะประชาชนคนไทยไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่ามวลน้ำก้อนใหญ่นั้นจะบุกเข้าจู่
โจมพื้นที่ใดบ้าง
ยิ่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านออกมาบอกว่ามวลน้ำก้อนใหญ่นี้มีปริมาณเท่ากับเขื่อน
ภูมิพล มีภาพถ่ายจากดาวเทียมมายืนยัน
สื่อเริ่มรายงานข่าวมวลน้ำก้อนใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ
จนกระทั่งคนไทยเริ่มสนิทสนมและคุ้นเคยกับคำว่ามวลน้ำก้อนใหญ่
รอว่าเมื่อไหร่จะเยี่ยมเยือนเท่านั้นเอง 


Create Date : 27 ธันวาคม 2554
Last Update : 27 ธันวาคม 2554 8:25:33 น. 0 comments
Counter : 2045 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]