ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

คิดให้ดีก่อนใช้กลูตาไธโอน



ในช่วงนี้ คงได้ยินข่าวเกี่ยวกับการใช้กลูตาไธโอนที่ทำให้ผิวขาวทั้งในด้านวิธีการใช้ และผลข้างเคียงจากการใช้ การนำกลูตาไธโอนไปใช้อย่างไม่เหมาะสมส่งผลทำให้ร่างกายได้รับอันตราย ดังนั้นก่อนจะใช้กลูตาไธโอนควรมีความรู้ ความเข้าใจก่อนตัดสินใจใช้บริการ อันดับแรกเราควรจะรู้ก่อนว่ากลูตาไธโอนคืออะไร

กลูตาไธโอน คืออะไร
กลูตาไธโอน เป็นสารแอนติออกซิเดนซ์ หรือสารที่ต้านอนุมูลอิสระ ร่างกายมนุษย์จะได้รับสารชนิดนี้จากการบริโภคอาหารประเภทโปรตีน ไข่และนม รวมถึงผลไม้ประเภทอะโวคาโด และจะถูกเก็บไว้ที่ตับ ทั้งนี้สารกลูตาไธโอนเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทำให้ร่างกายเกิดความ สมดุล โดยเฉพาะเมื่อร่างกายต้องรับสารอนุมูลอิสระเข้าไป สารต้านอนุมูลอิสระก็จะช่วยปรับให้สภาพร่างกายเกิดความสมดุล และยังเป็นตัวขจัดของเสีย หรือสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย ตั้งแต่สารปรอท ยาฆ่าแมลง หรือยาบางชนิดที่เราต้องกินเข้าไปและเหลือตกค้าง ตับจะทำหน้าที่ขับสารพิษออกมาโดยสารกลูตาไธโอนมีบทบาทสำคัญในขบวนการดัง กล่าว
นอกจากนี้ ร่างกายเราสามารถสังเคราะห์สารกลูตาไธโอนขึ้นเองได้ มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วน โดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกายทำหน้าที่สังเคราะห์โปรตีน ช่วยให้เม็ดเลือดแดงมีความแข็งแรง ช่วยเร่งการซึมผ่านของสารอาหารเข้าสู่เซลล์

กลูตาไธโอนทำให้ผิวชาวแน่หรือ ?
จากข้อบ่งใช้ของกลูตาไธโอน จะเห็นได้ว่าไม่มีข้อบ่งใช้ในการทำให้ผิวขาว แต่ที่มีผู้นำกลูตาไธโอนมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อรับประทานหรือใช้ฉีดเพื่อให้ผิวขาวโดยอาศัยกลไกการออกฤทธิ์ที่อาจ อธิบายได้ดังนี้ คือ กลูตาไธโอนไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส เปลี่ยนการสร้างยูเมลานีน ซึ่งเป็นสีผิวคล้ำเป็นฟีโอเมลานิน ซึ่งเป็นสีผิวจางหรือผิวขาว แต่อย่างไรก็ตามการเพิ่มฟิโอเมลานิน (เม็ดสีขนาดเล็กพบในคนตะวันตก) ของกลูตาไธโอนทำให้สีผิวจางลง แต่เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ระดับยีน เมื่อหยุดการใช้กลูตาไธโอน ร่างกายก็จะสร้างยูเมลานิน (เม็ดสีที่พบมากในคนผิวคล้ำ) เหมือนเดิมและสีผิวกลับมาคล้ำเช่นเดิม ทั้งนี้การทำให้ผิวขาวโดยใช้กลูตาไธโอนเป็นเพียงผลข้างเคียงเท่านั้น ยัง ไม่มีผลงานวิจัยรับรองว่าใช้เป็นยาที่ทำให้ผิวขาวได้ และไม่มีข้อมูลยืนยันถึงขนาดที่รับประทาน ระยะเวลา และผลข้างเคียงจากการใช้เป็นเวลานาน อย่างแน่ชัด ทำให้การใช้กลูตาไธโอนมีความเสี่ยงในเรื่องของการได้ไม่คุ้มเสีย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลูตาไธโอน
ก่อนอื่นต้องสร้างความเข้าใจกันก่อนว่าการอนุญาตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็น ไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2548 เรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คือ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะต้องมีคุณภาพหรือมาตรฐานที่กำหนด ได้แก่ มีคุณลักษณะเฉพาะตามชนิดของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ไม่พบจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค สารพิษจากจุลินทรีย์สารพิษตกค้าง สารเป็นพิษอื่น สารปนเปื้อน หรือยาสัตว์ ตกค้างเกินในปริมาณที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น และฉลากต้องได้รับอนุญาตก่อนนำไปใช้ แต่ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานแสดงประสิทธิภาพที่แน่ชัด ดังนั้นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและ ยา (อย.) ไม่ได้หมายถึงสามารถรักษาบรรเทาโรคใดๆ ตลอดจนเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานภายในร่างกาย หรือช่วยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกายได้ ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารที่มีสารกลูตาไธโอนก็เช่นกัน ไม่ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้ เนื่องจากสารกลูตาไธโอนไม่สามารถถูกดูดซึมจากกระเพาะอาหาร จะถูกย่อยสลายและขับออกทางลำไส้ การกล่าวอ้างว่ากินกลูตาไธโอนแล้วช่วยให้ผิวขาว จึงเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย ข้อหาขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลูตาไธโอนมักจะนำสารอื่น ๆ มาผสมในสูตรเพื่อนำมาใช้ประกอบสรรพคุณการทำให้ผิวขาว เช่น สารสกัดจากเมล็ดองุ่น สารสกัดจากเปลือกสน โปรตีนถั่วเหลือง คอลลาเจนจากปลาทะเล กลุ่มวิตามิน และอื่นๆ ซึ่งหากพิจารณาจากส่วนประกอบดังกล่าว บางตัวมีสรรพคุณที่ทำให้ผิวแลดูขาวขึ้นได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิดคิดว่ากลูตาไธโอนเป็นสารตัวหลักที่ ทำให้ผิวขาวได้ มีงานวิจัยที่ชัดเจนว่าการได้รับสารก ลูตาไธโอนโดยวิธีรับประทานร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เพราะไม่ถูกดูดซึมในระบบทางเดินอาหาร ใครที่คิดว่าจะรับประทานเพื่อเพิ่มความขาวอาจต้องผิดหวัง

ฉีดกลูตาไธโอน ... อันตราย
สารกลูตาไธโอนที่เป็นตัวยาฉีดเข้าร่างกาย อย.ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนตำรับยาแต่อย่างใด หากแพทย์นำไปฉีดให้คนไข้ถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย แม้จะเป็นตัวยานำเข้าหรือลักลอบซื้อมาจากต่างประเทศก็ผิดทั้งนั้น ในส่วนที่อ้างว่าสารกลูตาไธโอนผ่านการรับรองจาก อย. นั้น ก็เป็นเพียงอนุญาตให้ใช้ในรูปแบบกรดอะมิโนที่ใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร เพื่อใช้รับประทานร่วมกับวิตามินเป็นการบำรุงร่างกายเท่านั้น และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยที่จะยืนยันได้ชัดเจนว่ากลูตาไธโอนใช้เพื่อทำให้ผิว ขาวจริงหรือไม่

อันตรายหากหลงเชื่อคำโอ้อวดสรรพคุณ
การโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณกลูตาไธโอนสามารถพบเห็นได้ตามสถานเสริมความงามทั่วไป โดยโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงว่าฉีดสารกลูตาไธโอนเข้าไปในร่างกายแล้วจะเกิด ปฏิกิริยาทำให้ผิวขาวสวยใส เพื่อหลอกลวงผู้บริโภคให้มาใช้บริการ ทำให้เสียเงินจำนวนมาก และยังพบปัญหาการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงทางทีวี อินเตอร์เน็ต ขอให้ผู้บริโภคระวังอย่าหลงเชื่อ ให้ตระหนักไว้ก่อนว่าผู้ให้บริการไม่ใช่แพทย์ และอย่าเห็นแก่ราคาถูก เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย โดยผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ส่งผลให้เม็ดสีเมลานินในผิวหนังและที่จอตาลดลง ทำให้จอตารับแสงได้น้อยลง เสี่ยงต่อการมองเห็นในอนาคต และหากเม็ดสีที่ผิวหนังลดลง โอกาสทำให้ผิวเหี่ยวย่นเร็ว และแก่เร็วขึ้น รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งในผิวหนังด้วย

จากการที่ยังไม่มีผลการศึกษาที่ชัดเจนและไม่มีหลักฐานการวิจัยเพียงพอสำหรับ กลูตาไธโอนที่ใช้เป็นยาทำให้ผิวขาว อย.จึงยังไม่เคยขึ้นทะเบียนกลูตาไธโอนเป็นยาที่มีข้อบ่งใช้ว่าทำให้ผิวขาว ดังนั้นควรตระหนักและศึกษาอย่างรอบคอบก่อนการใช้กลูตาไธโอนเพราะผลข้างเคียง ที่ได้รับจากการใช้นั้นรุงแรงมากอย่างไม่คุ้มที่จะเสี่ยง










ที่มา ... กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค


Create Date : 21 มิถุนายน 2553
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 22:46:18 น. 2 comments
Counter : 1235 Pageviews.  

 
แวะมาเยี่ยมชมค่ะ


โดย: PePe_kotori วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:19:06:11 น.  

 


โดย: teawpretty วันที่: 28 กรกฎาคม 2557 เวลา:20:32:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]