คลังชงอภิโปรเจ็กต์ภาษี 13 ก.ย. หั่นนิติฯ-บ้าน-รถ
เฮโลชงอภิโปรเจ็กต์ภาษี 13ก.ย.หั่นนิติฯ-บ้าน-รถ (ไทยโพสต์) ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
"คลัง" ชงมหาโปรเจกต์ภาษีประชานิยมเข้า ครม.อังคารนี้ ทั้งหั่นนิติบุคคล "บ้าน-รถ" หลังแรก พ่วงปรับรายได้ ขรก. 15,000 บาทต่อเดือน งบประมาณปี 55 ด้วย "คมนาคม" จ่อสานต่อ 4 โครงการรัฐบาลมาร์ค
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 กันยายนนี้ หลายกระทรวงเตรียมเสนอมาตรการและโครงการจำนวนมาก โดยนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่า ในวันที่ 13 ก.ย. กรมจะเสนอแพ็กเกจภาษีหลายเรื่องให้ ครม.เห็นชอบ
แหล่งข่าวจากกรมสรรพากรเผยว่า มาตรการภาษีที่จะเสนอในวันที่ 13 ก.ย.นี้ ประกอบด้วย
1. ร่างพระราชกฤษฎีกาลดอัตราจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23%โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2555 และลดภาษีเหลือ 20% ในปี 2556 ตามนโยบายที่รัฐบาลหาเสียงไว้ ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ภาษีในปีงบประมาณ 2555 ครึ่งปี หรือ 4.5 - 5 หมื่นล้านบาท และปี 2556 ที่ลดเหลือ 20% จะกระทบกว่า 7 หมื่นล้านบาท และปีที่ 3 กระทบ 3.5 หมื่นล้านบาท
2. มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยต้องซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ภายในปี 2555 จะได้สิทธิรับคืนภาษี 3 แสนบาท ระหว่างปี 2555 - 2559 หรือคืนปีละ 6 หมื่นบาท ซึ่งกระทบรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิตแจ้งว่า กรมจะเสนอมาตรการคืนภาษีรถยนต์คันแรกไม่เกิน 1 แสนบาท โดยราคารถยนต์ที่ซื้อไม่เกิน 1 ล้านบาทด้วย ซึ่งจะใช้วิธีออกคูปองให้ผู้ที่มีสิทธินำคูปองมาแลกเงินภาษีคืนจากกรม โดยกำหนดว่าต้องซื้อและโอนรถยนต์ภายในปี 2555 และสามารถขอคืนภาษีในปีถัดไป รวมทั้งต้องถือครองกรรมสิทธิ์รถไม่ต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งการคืนอาจภายในครั้งเดียว หรือทยอยคืนเป็นเวลา 3 ปี ปีละเท่า ๆ กัน คาดว่าจะกระทบรายได้ 1.4 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง ระบุว่า จะเสนอ ครม.เรื่องการปรับรายได้บุคลากรภาครัฐที่จบปริญญาตรีเป็น 15,000 บาทต่อเดือน ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2555 นี้ และอาจเสนอโครงการสินเชื่อบ้านหลังแรกของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดอกเบี้ย 0% ให้พิจารณาด้วย
นอกจากนี้ สำนักงบประมาณจะเสนอกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 วงเงิน 2.36 ล้านล้านบาท จากเดิม 2.25 ล้านบาท เป็นงบขาดดุล 4 แสนล้านบาท จากกรอบเดิมที่ขาดดุล 3.5 แสนล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเผยว่า กระทรวงเตรียมนำเสนอโครงการเก่าของรัฐบาลที่แล้วให้ ครม.ดำเนินการต่อเนื่องในเร็ว ๆ นี้ หลังจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งคืนมา 8 เรื่องให้ทบทวน คือ 1.โครงการก่อสร้างเขื่อนยกระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและน่าน วงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท 2.โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา จังหวัดสตูล วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท
3. โครงการพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษเชิงพาณิชย์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
4. การชดเชยผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2549
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา เป็นการขอความเห็นชอบจาก ครม.ว่าจะให้ดำเนินการแนวทางใด หลังจากที่ ครม.ชุดที่ผ่านมาต้องการให้เป็นท่าเรือท่องเที่ยว ส่วนโครงการก่อสร้างเขื่อนยกระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและน่าน จะมีจุดก่อสร้างเขื่อนยกระดับน้ำ 2 แห่ง คือ
1. เขื่อนตัวบน ที่ กม.345 ต.น้ำทรง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
2. เขื่อนตัวล่าง ที่ กม.205 ต.บ้านพระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
โดยงานก่อสร้างเขื่อนนี้จะมีงานก่อสร้างอื่นด้วย เช่น คลองลัด อาคารระบายน้ำ ประตูเรือสัญจร โรงไฟฟ้าพลังน้ำ บันไดปลา และทำนบดินปิดลำน้ำเดิม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Create Date : 12 กันยายน 2554 |
Last Update : 12 กันยายน 2554 11:03:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1078 Pageviews. |
|
|
|
|
| |