ภรรยาเหลือเฟือ มกจ๊ก  สุดทนอุ้มลูกโร่ร้อง “ปวีณา” ช่วยเหลือ แจงถูกสามีตลกดังซ้อมรายวัน อารมณ์ฉุนเฉียว เมากลับบ้านแทบทุกคืน  ระบุให้เงินใช้จ่ายแค่วันละ 200-300 บาท ….

เมื่อ เวลา 14.00 น . วันนี้ ( 7 ต.ค 2555)  น.ส.บี(นามสมมุติ) อายุ 28 ปี อาชีพแม่บ้าน ภรรยาตลกชื่อดัง “นายเจมศักดิ์ แจ้งทิพย์นาง” หรือ “เหลือเฟือ มกจ๊ก”​ พร้อมด้วยบุตรชาย อายุ 4 ปี พักอาศัยอยู่บ้านย่าน ซอยคู้บอน เขตคลองสามวา แขวงสามวาตะวันตก กรุงเทพฯ เดินทางเข้าพบนางปวีณา หงสกุล ประธาน มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกรณีถูกนายเจมศักดิ์  ทำร้ายร่างกายโดยการทุบตีรายวัน

น.ส.บี กล่าวทั้งน้ำตาโดยอ้างว่า ตนเองได้อยู่กินกับเหลือเฟือ มกจ๊ก มาเป็นเวลากว่า 6 ปี ซึ่งขณะนั้นตนเป็นนักร้องอยู่ในวงโปงลางของเหลือเฟือมกจ๊ก และเกิดชอบพอจนมีความสัมพันธ์กัน ต่อมาตนได้ตั้งครรภ์กับเหลือเฟือจึงได้อยู่กินกันอย่างสามีภรรยา

ช่วง แรกสามีเป็นคนดีและเอาใจ  แต่ต่อมาทุกครั้งที่กลับบ้านจะมีอาการเมามาตลอด บางครั้งไม่กลับบ้าน เมื่อตนสอบถามจะอารมณ์ฉุนเฉียวและตบตี ทำร้ายร่างกายตนถึงขั้นคิ้วแตก เลือดอาบ มีรอยฟกช้ำไปทั้งตัว แต่ตนก็ทนเรื่อยมา โดยหวังว่าสามีจะปรับตัวดีขึ้นเพื่อเห็นแก่ลูก แต่ก็ยังคงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เป็นประจำ พักหลังไล่ตนและลูกออกจากบ้าน

ที่ ผ่านมาให้ตนทำหน้าที่แม่บ้าน โดยเหลือเฟือให้เงินใช้ซื้อกับข้าวเลี้ยงลูกวันละ 200-300 บาท บางวันก็ไม่ให้เลย ตนต้องทนเลี้ยงลูกด้วยความยากลำบาก จึงไม่มีปัญญาที่จะไปไหนได้ ต้องทนอยู่ จนล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนถูกตบตีจนศีรษะปูดบวมฟกช้ำไปทั้งตัว ซึ่งคราวนี้ ทนรับสภาพแบบนี้ไม่ไหวแล้วจึงได้ตัดสินใจไปแจ้งความกับ พ.ต.ท.เทิดศักดิ์ ทักษิมา พงส.(สบ 3) สน.คันนายาวไว้ อีกอย่างเกรงจะไม่ปลอดภัย  จึงมาขอความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิปวีณาหงสุกลให้ช่วยเหลือเพื่อเกรงว่าจะ ไม่ได้รับความเป็นธรรม

ด้านนางปวีณา หลังทราบเรื่องได้ประสาน พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.คันนายาว เพื่อช่วยดูแลเรื่องคดี ส่วน น.ส.บี และลูกจะอยู่ในความดูแลของทางมูลนิธิฯ ไปก่อนเพื่อความปลอดภัย

ทั้ง นี้ เหลือเฟือ มกจ๊ก เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2518 ที่จังหวัดขอนแก่น ในครอบครัวที่ยากจน ชีวิตในวัยเด็กได้ออกจากการเรียนกลางคัน ช่วยพ่อแม่ทำการเกษตร และย้ายไปอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ก่อนจะเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานครเพื่อแสวงโชค  โดยเริ่มต้นจากเด็กรับใช้ในร้านอาหาร ได้มีโอกาสเข้าสู่แวดวงบันเทิงด้วยการ เล่นกลอง แทนมือกลองประจำวงดนตรีที่เล่นประจำโดยบังเอิญ จากนั้นจึงได้แสดงตลกบนเวที จนกระทั่งได้มาอยู่กับคณะมกจ๊กของ จาตุรงค์ มกจ๊ก ซึ่งต้องเวลาประมาณ 4-5 ปี ในการสั่งสมชื่อเสียงกว่าจะเป็นที่รู้จักเช่นในปัจจุบัน.

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

//www.thairath.co.th/content/region/296751