ประสีประสาสิงสาราสัตว์
Group Blog
สัตว์-ดูนก
All Blogs
T-25 เสือพ่อพระ
ล่าเสือเบงกอล
สัญลักษณ์แห่งฤดูกาล
1 คืนกับเจ้าสันหางดำ
ชะมด+แผง+หางปล้อง
ครอบครัวเสือโคร่ง
กระเบนชายฝั่ง
คิดถึงงูกระด้าง
งูไทยในยามน้ำท่วม
โธ่ ไอ้มุ
รักจากแมวจร
หะหายกระต่ายป่า
ตะกวดอวดจมูก
เรื่องดีๆ ของวรนุช
กระทาหลังบาร์
กระจ้อนเฒ่าไม่เข้าท่า
สอยอินทรี
ชะมดเช็ด...น้ำหอมแห่งราวไพร
1 แรงช้าง vs 163 แรงม้า
เผชิญช้างตกมัน
แรดตัวแรก
รังนกแท้ล้านเปอร์เซนต์
กระจงน้อย (กลอยใจ)
ค่างแว่นแสนประหยัด
ช้าๆ ได้หมาจิ้งจอก
กระรอกสวนมะพร้าว
กระรอกที่หายไป
แย้แต่ไม่ยี้
ส่องลิงลม
หมูป่ามาเยือน
ผจญจงอาง
หมูหริ่ง...หมูแพนด้า
สอยวัวบา
ล่าวัวแดง
หมูหริ่ง...หมูแพนด้า
มีสัตว์ป่าโหลๆตัวหนึ่ง ที่ผมคิดว่าโอกาสจะได้รูปมัน มีหวังต้องพึ่งลูกฟลุก จากการทิ้งกล้องดักถ่าย (Camera Trap) ไว้ในป่า
มันก็คือ หมูหริ่ง (Hog Badger)
เหตุที่ผมคิดเช่นนั้น เพราะหมูหริ่งออกหากินกลางคืนเป็นหลัก และก็ไม่มีนิสัยมาหาเศษอาหารกินใกล้ๆคนอย่างพวกชะมด อีเห็น จัดอยู่ในข่ายสัตว์ลึกลับ ไม่ค่อยมีใครพบเห็น
แต่ของพรรค์นี้มันบ่แน่ดอกนาย บทจะเจอขึ้นมาก็เจอแบบไม่ทันตั้งตัว
หมูหริ่งตัวหนึ่ง ซุกอยู่ในโพรงแตกโคนไม้ใหญ่ในตอนสายๆ ลักษณะคล้ายหมาจนตรอก ต้องหันหน้ามาเผชิญหน้าคน เพราะจะหนีก็หนีไม่ทันแล้ว
แต่ที่ต่างจากหมาจนตรอกอย่างน่าตกใจ จู่ๆ หมูหริ่งก็หลับตานอนดื้อๆ อ้าว!
ทั้งที่ผมกับเพื่อนช่างภาพสัตว์ป่าคนดัง กั๊ก-กุลพัฒน์ ศรลัมพ์ ก็ยืนค้ำหัวมันแค่ 3-4 เมตรเท่านั้น
ถ้าเป็นชาวบ้านโหดๆ ผ่านมาเจอแบบนี้ หาไม้ดุ้นเหมาะมือฟาดตุ้บเดียว ก็คงไม่รอด
บางครั้งผมเคลื่อนไหวแสกสากจนมันตื่นมามอง แต่แป๊บเดียวก็ม่อยกระรอกฟุบหลับไปอีก โอ้โห หลับได้หลับดี อย่างกะเสี่ยพลาดท่าโดนสาวมอมยา ยังไงยังงั้น
ผมกับกั๊กก็เลยนั่งคุยกันตรงข้างตัวหมูหริ่งร่วม 2 ชั่วโมง จะยกกล้องขึ้นถ่ายรูปก็ตอนมันตื่นมาขยับอิริยาบถ หรือเปลี่ยนท่านอน
ได้เห็นกันแบบประชิดตัวเช่นนี้ เราพร่ำเพ้อถึงความน่ารักของหมูหริ่งไม่ขาดปาก สีสันตามตัวชวนให้นึกถึงหมีแพนด้า
ผมก็เลยเรียกหมูหริ่งว่าหมูแพนด้าซะเลย แถมน่ารักกว่าหมีแพนด้าด้วยซ้ำ (555 ขอชาตินิยมซักหน่อย)
แปลก ขนของมันฟูสะอาด ไม่ยักเป็นขนแข็งๆแบบขนหมู เมื่อลองสูดหายใจแรงๆ เพื่อดมหากลิ่นตัวหมูหริ่ง เนื่องจากจำได้ ตำราระบุว่าหมูหริ่งเป็นสัตว์กลิ่นแรง
ผมกับกั๊กก็ไม่ได้กลิ่นสาบกลิ่นเน่าใดๆ จากสัตว์น่ารักราวตุ๊กตาตัวนี้ (แหะๆ อาจจะเข้าไปดมไม่ใกล้พอ)
ที่เด่นสะดุดตาสุดๆ เห็นจะเป็นเล็บยาวโง้งสีขาว ซึ่งปกติไว้ใช้ขุดคุ้ยตะกุยหาอาหารพวกไส้เดือน รากไม้ต่างๆ แต่ก็ใช้ป้องกันตัวจากศัตรูด้วย ในท่ายืนสองขากางเล็บ
เสี่ยเหยื่อสาวมอมยาคนเดิม เวลากลับบ้านไปโดนเมียฟ้อนเล็บซ้ำเข้าให้ อาจแค่หน้าเป็นแผลข่วนเลือดซิบ
แต่ถ้าใครโดนเล็บหมูหริ่งตะกุยเข้าจังๆละก็ ไม่แคล้วเหวอะหวะเลือดทะลัก
ความที่หมูหริ่งนอนได้นอนดี ไม่สนชีวิตตัวเองจะเป็นตายร้ายดี เขาจึงจัดให้มันเป็นสัตว์หากินกลางคืนขนานแท้
อย่างไรก็ดี บางสำนักไม่เห็นด้วย เชื่อว่าหมูหริ่งออกหากินตอนเช้าๆ เย็นๆ มากกว่า (ก็ว่ากันไป)
นอกจากหมูหริ่ง บ้านเรายังมีหมาหริ่ง และก็หนูหริ่งด้วย ล้วนแต่สัตว์แนวหาดูยากทั้งนั้น
ส่วนผมที่ถ่ายรูปหมูหริ่งป่าได้ มีความภูมิใจว่าน้อยคนนักจะมีโอกาสเช่นนี้
ก็เลยยกย่องตัวเอง ให้เป็นคนหริ่ง
ปริญญา ผดุงถิ่น เรื่อง/ภาพ
Create Date : 12 กรกฎาคม 2555
Last Update : 12 กรกฎาคม 2555 21:47:04 น.
1 comments
Counter : 5375 Pageviews.
Share
Tweet
เดี๋ยวจะโหวตให้ขึ้น Best Literature Blog เลย :)
โดย:
จะไปลาสา
วันที่: 24 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:46:47 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
HWAMEI
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add HWAMEI's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.