BlogGang.com : : เวสาตรี - Roger Federer : a practice session in Melbourn.

We always love you, Roger Federer !

Group Blog

All Blogs

Roger Federer : a practice session in Melbourn.

เพิ่งจะนึกอยู่เมื่อสองวันก่อนนี่เอง ว่าเฟดผมยาวจัง
อ้าว ! มาดูรูปตอนซ้อมวันนี้ ตัดผมแล้วค่ะ
ดูดีขึ้นเยอะเลย

ปีนี้ด้วยความที่เฟดต้องแข่งรายการอุ่นเครื่องที่คูยอง
ตั้งแต่ 14-17 มกราคม ข่าวการซ้อมของเฟดเลยน้อยมาก ๆ
รวมทั้งข่าวความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ด้วย
ทุกความสนใจมุ่งไปที่ดาวดวงใหม่อย่างแอนดี้ เมอร์เรย์
จนแทบจะหาข่าวเฟดซ้อมไม่ได้เลย
เพิ่งจะมีข่าวลงซ้อมอย่างจริงจังวันนี้เอง

พรุ่งนี้เฟดจะแข่งเป็นคู่ที่ 2 ของรอบกลางคืน
นักข่าวซึ่งอยากรู้เกี่ยวกับเฟดไปซะทุกเรื่อง
ไม่แพ้แฟนคลับ ถามเฟดเมื่อวานนี้
(หลังจากได้แชมป์ที่คูยอง)
ว่าเฟดชอบแข่งแมชท์กลางวันหรือกลางคืนมากกว่ากัน

เฟดบอกว่า ถ้าเป็นที่ยูเอส โอเพนเขาจะชอบกลางคืนมากกว่า
ที่โน่นกลางคืนมีชีวิตชีวามากกว่า
แต่ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นกลางคืนหรือกลางวัน
ก็มีคนดูคึกคักมากพอ ๆ กัน เป็นบรรยากาศพิเศษ
ของที่เมลเบิร์นที่ไม่เหมือนกับที่แห่งไหนเลย
ถ้าเป็นในอเมริกา แมทช์กลางคืนจะเป็นอะไรที่คึกคักมาก
พิเศษสุด ๆ แต่ตอนกลางวันไม่ได้เป็นแบบนั้น

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้เป็นคนแบบที่จะเดินไปบอก
กับผู้จัดการแข่งขันว่า "คุณต้องจัดให้ผมลงแข่งตอนกลางวันนะ
หรือคุณต้องจัดให้ผมลงแข่งตอนกลางคืนนะ" เขารับได้ในทุกเรื่อง
ที่ฝ่ายจัดการแข่งขันจัดมาให้ และเขาก็หวังว่า
มันจะทำให้เขาชนะได้ ไม่ว่าจะแข่งตอนไหนก็ตามที

เคยอ่านเจอในบทความจากหลาย ๆ แห่งที่พูดถึงเฟดว่า
เป็นนักเทนนิสที่ไม่เรื่องมาก .....ไม่ใช่เป็นมือ 1 ที่ไม่เรื่องมากนะคะ
แต่เปรียบเทียบกับบรรดานักเทนนิสด้วยกันเฟดก็ไม่เรื่องมาก
จำได้ว่าที่โรลังด์ การ์รอสปีที่แล้ว เฟดได้แข่งในคอร์ต ฟิลิป ชาติเยร์
แค่ 1-2 แมทช์เท่านั้นคือรอบเซมิ กับรอบชิง
ที่เหลือแข่งในคอร์ตซูซาน โลลอง นักข่าวถามเรื่องนี้กับเฟดเหมือนกัน
แต่เฟดก็ตอบเฉย ๆ ไม่ได้พูดอะไรให้มันเป็นประเด็นขึ้นมา

สำหรับข่าวของเฟดที่ออกมาในช่วงนี้
คือเรื่องที่เฟดในฐานะประธานสภานักเทนนิสของเอทีพี
(เฟดรับตำแหน่งนี้ต่อมากจากอีวาน ลูบิซิซ เมื่อไม่นานมานี้)
รวมทั้งนักเทนนิสระดับ top อีกหลาย ๆ คน
นาดาล, เมอร์เรย์เห็นด้วยว่า
การเลื่อนตารางการแข่งขันรายการ GS แรกของปี
ไปเป็นเดือนกุมภาพันธ์จะเอื้อประโยชน์ให้กับนักเทนนิสได้มากกว่า

คือตอนนี้หลาย ๆคนบอกว่า การแข่ง GS แรกของปีหลังจากเปิดฤดูกาลใหม่
มาได้แค่สัปดาห์เดียว เป็นอะไรที่เร็วเกินไป
หลาย ๆ คนไม่ได้เล่นแมทช์อุ่นเครื่องมากพอ
นาดาลบอกว่า จะดีกว่านี้ถ้าเลื่อนการแข่งขันออกไปอีกหน่อย

เมอร์เรย์เองก็เห็นด้วย ที่จะเลื่อนออกจากกำหนดเดิมไปอีก
สักสองอาทิตย์น่าจะ make sense มากกว่า
แถมบอกว่ารายการก่อนวิมเบิลดัน ก็ควรมีการปรับด้วยเช่นกัน
เพราะช่วงห่างระหว่างการแข่งขันเฟรนช์ โอเพน กับวิมเบิลดันน้อยเกินไป

อย่างไรก็ตามฝ่ายจัดการแข่งขันบอกว่า
เป็นเรื่องยากที่จะเลื่อนการแข่งขันออกไป
เพราะช่วงที่จัดอยู่ในปัจจุบันนี้ ตรงกับช่วง
the national summer holidays ของออสเตรเลียพอดี

มิน่าล่ะ คนถึงเยอะได้ทั้งกลางวันกลางคืน

อ่านข่าวเต็ม ๆได้ที่นี่ค่ะ
//sports.yahoo.com/ten/news?slug=ap-australianopennotebook&prov=ap&type=lgns

สำหรับความรู้สึกต่อการแข่งขันที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้
เฟดเปิดใจให้สัมภาษณ์ในวันนี้ว่า
ปีนี้เขาได้มีโอกาสวอร์มก่อนจะถึงแข่งจริงมาหลายแมทช์
ทั้งรายการ exhibition ที่อาบู ดาบี รายการที่โดฮา
และรายการที่คูยอง ซึ่งแตกต่างจากปีที่แล้วมาก
ที่เขาไม่มีรายการแข่งก่อนจะถึงออสเตรเลียน โอเพนเลย
และยังประสบปัญหาป่วยด้วยอาการอาหารเป็นพิษ
จนต้องถอนตัวจากการแข่งขันที่คูยอง

จากการที่ลงแข่งมาแล้วรายการทำให้เขาแน่ใจ
ว่าจะสามารถแก้เกมได้ในเวลาที่เจอกับแมทช์ที่หินมาก ๆ

ลูบปากแบบนี้ ไม่รู้ว่า เฟดอยากกินกระต่ายย่างของหนูลูกแก้วหรือเปล่า
เคยอ่านเจอในหนังสืออะไรก็ไม่รู้ จำไม่ได้ค่ะ
เค้าบอกว่า นอกจากบรรดา ' ติ๊ส ทั้งหลายที่มีนิ้วมือเรียวงามแล้ว
บรรดานักกีฬาชั้นนำของโลกก็ด้วย ส่วนใหญ่มีนิ้วมือเรียวสวยด้วยกันทั้งนั้น
เค้ายกตัวอย่างไทเกอร์ วู๊ดค่ะ นุชเพิ่มอีกคนละกัน
ว่าโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นิ้วมือยาวเรียวสวยมากค่ะ

กองเชียร์เฟดเริ่มออกทะเลอีกแล้ว เดี๋ยวต้องรีบกลับเข้าเรื่องด่วนเลย

ในปีนี้เฟดมีเป้าหมายที่จะกลับมาเป็นมือ 1 ของโลกให้ได้อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะในประวัติศาสตร์การจัดอันดับ
ของเอทีพี ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 1973 มีนักเทนนิสเพียงคนเดียวเท่านั้น
ที่หลุดจากการเป็นมือ 1 ไปแล้ว สามารถกลับมาครองตำแหน่ง
มือ 1 ได้อีกครั้งเมื่อจบปี นั่นคือ Ivan Lendl ที่เป็นมือ 1 ปี 1985-1987
ตกมาเป็นมือ 2 ในปี 1988 และกลับมาครองตำแหน่งมือ 1 ตอนจบปี 1989

นอกจากเฟดยังมีภารกิจตามหาแชมป์แกรนด์ สแลมรายการที่ 14
มาไว้ในครอบครองให้ได้ เพื่อจะได้ทำสถิติได้เท่ากับสถิติ
แชมป์แกรนด์ สแลมสูงสุดตลอดกาล 14 รายการที่พีท แซมพราสครองอยู่
จากข้อมูลในเว็บของเอทีพีบอกว่า เฟดได้แชมป์แกรนด์ สแลม 13 รายการ
จากการเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 38 ทัวร์นาเมนท์
ในขณะที่แซมพราสได้ 13 แกรนด์ สแลม จากการเข้าแข่งขันทั้งหมด 43 ทัวร์นาเมนท์
ส่วนแกรนด์ สแลมรายการที่ 14 ของแซมพราสนั้น
ได้มาจากทัวร์นาเมนท์ที่ 52 และเป็นทัวร์นาเมนท์สุดท้ายในการเล่นอาชีพของเขา

มาต่อที่บทวิเคราะห์ของเทนนิสดอทคอม
ชื่อ The change vs experience slam

คนเขียนบทวิเคราะห์ชื่อ Steve Tignor
เค้าเห็นต่างออกไปค่ะ เลยเอามาฝากให้อ่านกันเล่น ๆนะคะ

First quarter : สายนี้มีนาดาลอยู่บนสุดในฐานะมือวางอันดับ 1
ผลงานของนาดาลในออสเตรเลียนโอเพน
ที่ผ่าน ๆ มา ยังไม่ถือว่า “สุดยอด” เริ่มจากระยะแรก ๆ ของการเล่นอาชีพ
ที่นาดาลแพ้เลย์ตัน ฮิววิตต์ชนิดสูสี

ส่วนสองปีย้อนหลังเข้าถึงรอบเซมิ และแพ้เฟอร์นันโด กอนซาเลซ
กับซองก้า ตามลำดับ
คอลัมนิสต์คนนั้นบอกว่า นาดาลไม่ค่อยจะท๊อปฟอร์มนักในช่วงต้นปี
(หมายถึงทุกปีนะคะ ไม่เฉพาะปีนี้)
จริงอยู่เราอาจจะกล่าวได้ว่า คอร์ตที่เมลเบิร์นเหมาะกับนาดาล
นาดาลเล่นได้ดีบน slow and lively courts ของที่นั่น
แต่ความจริงอีกข้อคือ คอร์ตที่นั่นก็เหมาะกับเกมของคนอื่นเช่นกัน

ถ้าหากว่าปีนี้นาดาลไม่สามารถคว้าแชมป์ที่นี่ได้
ก็อาจจะเป็นการสะท้อนให้เห็นบางเรื่อง
ว่านาดาลเป็นนักเทนนิสที่มีโมเมนตัมดีมาก ๆ
หากว่าได้แชมป์มาก่อนหน้านั้นแล้ว
ไม่ใช่พวกที่จะเล่นได้ดี หรือสามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้
หากเริ่มจากมือเปล่า – คือไม่มีแชมป์ติดมือมาก่อนรายการนั้น

เมื่อบวกกับการที่นาดาลก็ยังไม่ฟิตเต็มที่เพราะเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ
ที่ทำให้ต้องถอนตัวจากการเล่นมาสเตอร์ คัพ และเดวิส คัพช่วงปลายปี

นาดาลคงต้องพยายามที่จะเล่นให้ดีที่สุด โดยเริ่มจากรอบแรกพบกับ Christophe Rochus
ส่วนในรอบ 3 ก็จะได้เจอกับพวกที่ไม่เคยเอาชนะนาดาลได้เลย
อย่างตูร์ซูนอฟ หรือทอมมี ฮาส ไม่เคยได้เซ็ตจากนาดาลเลยด้วยซ้ำ

จากนั้นจึงจะมาเจอกับกอนซาเลซหรือฮิววิตต์ (คู่นี้เจอกันรอบแรก)
กาสเกต์ ซีมง และมงฟิสที่รออยู่ในควอเตอร์เดียวกัน

ในจำนวนนี้มือ 6 อย่างซีมงเคยเอาชนะนาดาลได้ที่มาดริดเมื่อปีที่แล้ว
แต่ซีมงยังไม่เคยไปได้ไกลกว่ารอบ 3 ในรายการใหญ่ ๆ เลย
ดังนั้นตัดคนนี้ออกไปได้ก่อนเลย
ส่วนกอนซาเลซที่เคยเอาชนะนาดาลได้ที่นี่เมื่อ 2 ปีก่อน
แต่จากนั้นก็แพ้มาตลอด (รวมทั้งแพ้ที่โอลิมปิคปีนี้ด้วย)
ดังนั้นคนที่น่ากลัวที่สุดคือมงฟิส
นักเทนนิสคนล่าสุดที่เอาชนะนาดาลได้ที่โดฮาเมื่อสัปดาห์ก่อน
และดูจะเป็นคนเดียวนอก Top 4 ที่น่าจะไปไกลที่สุด
ตอนนี้มงฟิสเองก็มีการเตรียมตัวมาพร้อม

สำหรับควอเตอร์นี้ semifinalist เค้าให้เป็น Gael Monfils ค่ะ

รูปประกอบไม่มีคนอื่นนอกจากเฟดคนเดียว

Second Quarter

ควอเตอร์นี้มีเมอร์เรย์อยู่บนสุดและซองก้าอยู่ล่างสุด
นับได้ว่าเป็นเซ็คชั่นที่ดีมากสำหรับเขาแล้ว ตอนนี้เมอร์เรย์กำลังซ้อมหนักมาก
(ข่าวออกทุกวัน มีแต่รูปเมอร์เรย์ถอดเสื้อโชว์กล้าม อืม !)
และแน่นอนว่ามี pressure มากด้วย แต่เขาก็มีความเชื่อมั่นมาก
ที่จะฝ่าฟันไปให้ได้ เหมือนที่โจโควิชเคยทำได้เมื่อปีที่แล้ว

มือวางสูงสุดในควอเตอร์นี้ลำดับถัดมาคือ ซองก้า (5)
และอีกคนคือเจมส์ เบลค (9) โดยเมอร์เรย์จะเจอกับนักหวดรุ่นเก่า
อย่าง Andrei Pavel ในรอบแรก
และอาจได้เจอกับ Jurgan Melzer ในรอบที่สาม
จากนั้นจึงเป็น Radek Stepanek หรือ Fernando Verdasco คนใดคนหนึ่ง

ผู้เขียนคนนี้เค้าเชื่อว่า เมอร์เรย์กับซองก้าจะได้เจอกันในรอบ QF
ซึ่งปีที่แล้วซองก้าทำให้เมอร์เรย์ตกรอบแรกไปอย่างรวดเร็ว
แต่ปีนี้เมอร์เรย์มาในฟอร์มใหม่ สุดยอดกว่าเดิม
สามารถเล่นได้ดีและเอาชนะได้ในแต้มสำคัญ

ดังนั้นเชื่อได้ว่า เมอร์เรย์เอาชนะซองก้าได้อย่างแน่นอน
และจะผ่านเข้าไปเจอกับมงฟิสในรอบSF

นักเทนนิสดาวรุ่งที่น่าจับตาดูในควอเตอร์นี้คือ Ernests Gulbis
ซึ่งอยู่ด้านเดียวกับซองก้า และอาจจะเป็นคนนี้ที่ได้ผ่านเข้ารอบ QF
แทนซองก้า

อย่างไรก็ตาม Semifinalist ของควอเตอร์นี้ เขาให้เป็น Andy Murray ค่ะ

Third Quarter

มาถึงควอเตอร์ที่สาม ขึ้นต้นมาก็จิ๊ดเลย
คือ ขึ้นต้นว่า......เมื่อไม่นานมานี้เวลาประกาศดรอว์ส ออกมา
เรายังถามกันอยู่เลยว่า แล้วโจโควิชล่ะอยู่สายไหน
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะถามกันแล้ว

โจโควิช แชมป์ปีที่แล้วอยู่สายเดียวกับเฟด ร็อดดิก นาลบานเดียน
และรวมมาร์ดี้ ฟิชด้วยก็ได้ เผื่อบางคนยังข้องใจอยู่
ดูเหมือนโจโควิชจะไม่ต้องพบกับปัญหาหนักมากนักในรอบแรก ๆ
ถึงแม้ว่าเขาอาจะได้เจอกับ พวกที่กำลังมาแรงอย่าง Jeremy Chardy
และในรอบสามอาจจะได้เจอกับยาร์คโค นิมิเน่น
ที่เพิ่งจะเอาชนะเขามาได้ที่ซิดนีย์เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

แต่มือวางสูงสุดในเซคชั่นของเขาก็คือ Mathieu และ Soderling
ซึ่งไม่อันตรายอะไรมากนัก (ตรงนี้พี่พู่ไม่ชอบแน่เลยล่ะ)

เซคชั่นบนของควอเตอร์นี้ ร็อดดิกน่าจะได้เจอกับ ตัวอันตรายอย่าง
Philipp Kohlschreiber ที่ทำร็อดดิกตกรอบที่นี่เมื่อปีที่แล้ว
หรือเจอเพื่อนร่วมทีมเดวิส คัพอย่าง Sam Querrey
(ที่เปิดมาฟอร์มดีเพิ่งได้รองแชมป์ที่นิวซีแลนด์มาหมาด ๆ)

จากนั้นก็มาเจอกับนาลบานเดียนซึ่งตอนนี้ดูฟอร์มดีกว่าปกติ
นัลบานเดียนชอบคอร์ตแบบนี้มาก ๆ
และเกือบ ๆ จะเข้าถึงรอบชิงมาแล้วเมื่อปี 2006
ขาดไป 2 เกมเท่านั้น
หากร็อดดิกจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้น
อย่างน้อยที่สุดสำหรับการเล่นอาชีพที่ยังเหลืออยู่
มันก็น่าจะเป็นในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ไม่ใช่ตอนนี้ที่เขาเพิ่งจะร่วมงานกับโค้ชใหม่อย่าง Larry Stefanki
ซึ่งตามประวัติการเล่นของร็อดดิกแล้ว
เขามักจะทำผลงานได้ดีขึ้นในช่วงแรก ๆของการเปลี่ยนโค้ช

ผู้เล่นที่น่าจับตามองในควอเตอร์นี้ก็คือ Marcos Baghdatis รองแชมป์ปี 2006 ซึ่งอยู่กลาง ๆควอเตอร์ ถึงตอนนี้เขาจะไม่ฟิตเต็มที่นัก
จากอาการทางใจ (คือไม่ได้ injure แต่ hurt)
แต่เขาก็เป็นขวัญใจของกองเชียร์เจ้าบ้าน

Semifinalist : David Nalbandian

ตอนนี้เฟดซ้อมมากแล้ว ขอนั่งพักหน่อยละกัน

Fourth Quarter

ตอนนี้โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ดูแก่แล้วหรือ นี่เป็นความรู้สึกของผม
ที่รู้สึกอย่างนี้ทุกครั้ง เวลาที่มีคนพูดว่า โรเจอร์อายุ 27 แล้ว
โดยทั่วไปอายุเท่านี้ยังไม่แก่ ตัวผมเองก็ไม่แน่ใจว่าตอนอายุ 27
ผมทำงานแล้วหรือยัง

แต่ในเกมเทนนิสปัจจุบัน ที่เด็กอายุ 20-22 พาเหรดขึ้นมาใน top 10
กันเป็นแถว พอบอกว่า อายุ 27 ก็ฟังดูยังกับเป็นวัตถุโบราณ
(อย่างนี้กองเชียร์เฟดมิต้องพาเหรดกันเข้าไปอยู่ใน museum เหรอเนี่ย)

แต่ผมก็คิดว่า มันยังเร็วเกินไปที่จะเอาเฟด
ไปเข้าโปรแกรม the Andre Agassi treatment
ในเมื่อเฟดเองก็เพิ่งจะคว้าแชมป์ แกรนด์สแลม
รายการล่าสุดได้เมื่อ 4 เดือนก่อน

แต่เมื่อเหลียวมามองดูนักเทนนิสในดรอว์สเดียวกับเฟด
ก็ไม่ได้ทำให้เฟดดูเด็กลงเลย
มือวางสูงสุดในเซคชั่นนี้อีกคนคือ เดล ปอร์โต (9) อายุ 20 ปี
ซีลิค อายุ 20 เหมือนกัน !!

แต่คนที่เฟดจะเจอในรอบ 2 รอบ 3 กลายเป็นเพื่อนเก่าแก่
อย่างโมย่า และซาฟิน ตามลำดับ
จากนั้นอาจจะต้องเจอตัวเองไปทำศึกสายเลือด
กับพาร์ทเนอร์เล่นคู่อย่าง สตาน วาวริงก้า
แต่ผมก็กล้าพนันโดยถือหางข้างเฟดเต็มที่เลย
เที่ยวนี้ยังไงเฟดก็ไม่ไปก่อนหรอก
ถึงแม้ว่าจะแพ้เมอรย์ที่โดฮามาแล้ว รวมทั้งที่อาบูดาบีด้วย

แต่เขามักจะพูดเสมอ ๆ ว่า ตอนนี้เขาไม่มี pressure อะไรอีกแล้ว
Pressure ที่ว่านั่นก็คือ the “monster” of expectations
ที่เขาต้องแบกเอาไว้ในตอนที่มาเมลเบิร์นเมื่อปีที่แล้ว

แต่ก็ไม่ใช่แค่เรื่องจิตใจเท่านั้นที่จะตัดสินโชคชะตาของเขา
โชคชะตาของเขายังฝากไว้กับเรื่องง่าย ๆ อีกเรื่อง
นั่นคือ จะทำอย่างไรให้ forehand ของเขามันทำงาน
ได้อย่างสม่ำเสมอตลอด 2 อาทิตย์ข้างหน้า

Semifinalist: Roger Federer

Semifinals: Murray d. Monfils; Federer d. Nalbandian

Create Date : 18 มกราคม 2552

Last Update : 23 พฤษภาคม 2552 9:20:02 น.

88 comments

Counter : 1492 Pageviews.

จริงๆ ด้วย ข่าวของเฟดน้อยกว่าเมอร์เรย์มาก อาจเป็นเพราะ พี่(คาดว่าอายุตัวเองจะมากกว่าอายุคุณนุชอยู่ไม่น้อย)ติดตามข่าวจาก Eurosport UK ตื่นเต้นจังค่ะ ที่จะได้ดูและเชียร์เฟด ถ้าเล่นรอบเช้า คงลําบาก เพราะเวลาที่ออสเตรเลียเร็วกว่าประเทศที่พี่อยู่ 9 ชั่วโมง ถ้าเป็นรอบคําจะได้ดูเต็มที่ เชียร์เผื่อด้วยนะคะ

โดย: ขิง IP: 94.123.169.161 วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:20:35:30 น.

สวัสดีค่ะ พี่ขิง
ยินดีต้อนรับพี่อีกคนนึงในคลับเฟดค่ะ
พรุ่งนี้เฟดแข่งรอบค่ำค่ะ คู่ที่ 2 ของรอบค่ำ
คู่แรกเริ่ม 19.30 น.เวลาที่เมลเบิร์นค่ะ

ไม่เฉพาะ Eurosport หรอกค่ะ นุชว่าสื่ออื่น ๆก็เหมือนกัน
โดยเฉพาะรูปการซ้อมของนักกีฬาใน yahoo sports
ก็มีเมอร์เรย์มากที่สุด มือ 1 อย่างนาดาลยังน้อยกว่าเลยค่ะ
ไม่เป็นไร ตรงนี้ไม่ว่ากัน
นักข่าวต้องทำข่าวที่คิดว่า ขายได้ ไว้ก่อน
การมีข่าวมาก บางทีก็กดดันมาก
แบกความคาดหวังของคนจำนวนมากไว้
ไม่ใช่เรื่องสนุก เหมือนที่เฟดเคยเป็นมาเมื่อ 2-3 ปีก่อน
ที่ลงสนามปุ๊บ คนคิดว่าต้องชนะปั๊บนั่นแหละ