We always love you, Roger Federer !
Group Blog
 
All Blogs
 
Thus Spoke Roger Federer.


Thus Spoke Roger Federer.



ช่วงปิดฤดูกาลเนี่ยเงียบเหงามากเลยนะ คิดถึงเฟด คิดถึงเทนนิส
คิดถึงเพื่อน ๆ ที่เคยร่วมกรี๊ด ๆ กันมา อีกตั้งเดือนนึงแน่ะกว่าจะถึง AO ปีหน้า
ตอนนี้เลยไปรื้อเอกสารเก่า ๆ เจอบทสัมภาษณ์เฟดเมื่อตอนกลางปี
เห็นน่าสนใจดีเลยเอามาเล่าสู่กันฟัง เผื่อจะหายคิดถึงกันไปได้บ้างนะ

Bill Simons บรรณาธิการ Inside Tennis Publisher สัมภาษณ์เฟดลงใน
Inside Tennis เมื่อเดือนพฤษภาคม ปีนี้ค่ะ

Inside Tennis : ในอีก 25 หรือ 30 ปีข้างหน้า คุณอยากจะให้นักเทนนิสรุ่นนั้น
พูดถึงคุณว่าอย่างไร


RF : ผมหวังว่าพวกเขาจะยังคงจำผมได้อยู่ เพราะว่าในบางครั้งพวกเรา(นักเทนนิส) มักจะจำเรื่องราวในอดีตได้ไม่ค่อยแม่นยำนัก สิ่งที่สำคัญสำคัญสำหรับนักเทนนิสทุกคน คือการที่คนอื่นจำเราได้ในด้านดี ผมหวังว่าผมจะสามารถจบเส้นทางอาชีพผมได้เป็นอย่างดี ผมอยากให้เขาจดจำผมได้ในเรื่องงานการกุศลของผม ผลการแข่งขัน และเรื่องความมีน้ำใจนักกีฬาของผม



IT : มีเหตุการณ์หนึ่งที่คุณคงสะเทือนอารมณ์มาก ๆ ตอนที่ร็อด เลเวอร์มอบถ้วยแชมป์ออสเตรเลียน โอเพน ให้คุณในปี 2006 ผมเห็นคุณร้องไห้ออกมาป็นเพราะว่าเขาเป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่หรือเปล่า

RF : นั่นก็ส่วนหนึ่งด้วย อีกอย่างหนึ่งคือเส้นทางการได้แชมป์ปีนั้นมีความหมายกับผมมากทีเดียว

IT : อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ - การที่คุณมาจากครอบครัวธรรมดา ๆ มีพื้นฐานที่ธรรมดามากในสวิสเซอร์แลนด์ แต่มาถึงเดี๋ยวนี้คุณกลายเป็นคนดังไปแล้ว - ในระดับโลกซะด้วยซิ ผมเดาได้ว่า คงมีสถานที่แค่ไม่กี่แห่งเท่านั้นที่คุณจะไปได้โดยไม่มีใครรู้จักคุณ

RF : ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น

IT : คุณเคยมาคิดทบทวนว่ามันเหลือเชื่อบ้างไหม หรือทำให้คุณประหลาดใจบ้างหรือเปล่า

RF : มันเกิดขึ้นในเวลาค่อนข้างรวดเร็ว เริ่มจากการมีชื่อเสียงในระดับภาค
ระดับชาติ แล้วก็มาถึงนานาชาติ แต่ก็เป็นไปในทางที่ดี ผมกลายมาเป็น
icon ไปแล้ว อาจจะตอนที่ผมได้แชมป์วิมเบิลดันครั้งแรกก็ได้ มีคนรู้จักผมมากขึ้น จากชัยชนะครั้งนั้น การที่ผมร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจที่สวิสได้แชมป์วิมเบิลดันอีกครั้งนึงหลังจากที่ฮิงกิสเคยทำได้ พวกเขามีความสุขมาก และมันคงเริ่มจากจุดนั้น ชาวสวิสชื่นชมในความพยายามของผม และผมกำลังพยายามที่จะทำหน้าที่ทูตที่ดีของสวิสเซอร์แลนด์ มันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับประเทศเราที่เราจะสะท้อนภาพที่ดีของประเทศออกไป
เพราะสวิสเซอร์แลนด์นั้นเป็นประเทศที่สวยงามมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลกนี้ ผมมีความสุขมากที่ได้ทำอย่างนี้ ถึงแม้บางครั้งพวกเขาจะไม่แสดงออกมากนักว่าชื่นชมผม แต่นั่นเป็นเพราะว่า พวกเราเป็นอย่างนี้ คือไม่แสดงออกรวดเร็วจนเกินไป (ไม่ยินดีแบบเว่อร์ ๆ มั๊ง) มันทำให้ผมต้องได้มาอีกหลายแกรนด์ สแลมและอีกหลาย ๆแชมป์ เรื่องดี ๆแบบนั้นถึงได้เกิดขึ้น แต่ผมก็ได้ชัยชนะมาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แม้จะยากก็ตาม

IT : ทุกคนมักจะมองเห็นแต่ความมีสีสันของการเป็นคนดัง ที่จริงแล้วมันมีด้านลบ หรือมีอะไรที่คุณคิดว่าเป็นภาระที่คุณต้องแบกไว้บ้างไหม

RF : เรื่องดีอย่างหนึ่งก็คือ ในสวิสเซอร์แลนด์ไม่มีปาปารัสซี่ คุณสามารถไปไหน ๆ ได้โดยไม่มีคนมาห้อมล้อมคุณ มาสนใจคุณมากจนเกินไป นี่เป็นเรื่องที่ดี และเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมต้องการที่จะอยู่ที่นี่เมื่อผมอายุมากขึ้น



IT : ถ้าอย่างนั้นมีอะไรในความเป็นสวิสเซอร์แลนด์ที่ช่วยคุณในฐานะนักเทนนิสได้บ้าง

RF : ผมเองก็ไม่รู้ว่า มันเป็นสายเลือดสวิส หรืออาฟริกาใต้กันแน่นะ หรือว่าเป็นเรื่องของการทำงานหนัก ผมมักจะเป็นผู้นำเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่โรงเรียน หรืออยู่ในสนามกีฬา ผมต้องการที่จะเป็น the best เสมอ และผมรักที่จะเป็นผู้นำทีม ดังนั้นผมเลยไม่รู้ว่า มันจะช่วยผมได้มากไหมกับการที่ว่าผมมาจากทีไหน ผมเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดี พ่อแม่ของผมเป็นคนที่วิเศษที่สุด และสวิสเซอร์แลนด์ก็ให้โอกาสผมในทุก ๆเรื่อง สหพันธ์ดีกับผมมาก ๆ และให้ผมในหลายเรื่อง ผมมีโค้ชที่ดีที่สุด และผมคิดว่าผมโชคดีจริง ๆ พวกเขาไม่เคยหยุดที่จะเชื่อว่า ผมจะกลายเป็นนักเทนนิสที่ไม่เพียงแต่จะยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่จะเป็น the best อีกด้วย และนี่คือความแตกต่าง

สำหรับผมแล้วการเป็นลำดับที่ 100 ของโลกแค่นั้นยังไม่พอ ผมมักจะต้องการเป็น "ที่สุด" เสมอ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ผมเล่นในระดับจูเนียร์หรือซีเนียร์ก็ตามที มันเป็นแรงผลักดันที่ดีและผมก็ภาคภูมิใจในความสำเร็จของตัวเองด้วย

IT : เมียร์ก้าเคยบอกว่า เธอไม่คิดว่าจะมีใครอีกแล้ว ที่จะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับมีความสุขความพึงพอใจในตนเองมากไปกว่าที่คุณเป็นอยู่ คุณคิดว่าคุณเป็นอย่างที่เธอพูดหรือเปล่า

RF : เป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียวล่ะ เพราะว่า ผมมีความสุขกับสิ่งที่ผมทำอยู่ ผมทำตัวดีกับทุก ๆ คน นั่นเป็นธรรมชาติของผม แต่ขณะเดียวกันผมก็มีแรงกระตุ้น แรงจูงใจอยู่เสมอ ๆและยังเป็นคนที่คิดบวกอีกด้วย นานมากทีเดียวที่คนจะเห็นผมมองอะไรในด้านลบซะทีนึง และนี่ก็เป็นสิ่งที่ประทับใจเมียร์ก้าเอามาก ๆเลยทีเดียว (เอ้อ! ตรงนี้เค้าไม่ได้ถามนะ แฟนคลับก็ไม่อยากรู้อ่ะว่า เมียร์ก้าประทับใจเฟดตรงไหน ตอบทำไมเนี่ย)



IT : แต่คุณก็มีช่วงเวลาที่คุณทุกข์ร้อนอย่างยิ่ง เมื่อหลายปีก่อนโน้น ช่วงที่ปีเตอร์ คาร์เตอร์ บุคคลที่มีความสำคัญกับคุณมาก ๆ คนที่เป็นยิ่งกว่าโค้ชของคุณ แล้ววันนึงตอนที่คุณกำลังแข่งอยู่ที่แคนาดา คุณก็ได้รับข่าวว่า ปีเตอร์เสียชีวิตกระทันหันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ จากนั้นคุณก็พบว่า คุณต้องโดดเดี่ยวและเศร้าสร้อยกับความพ่ายแพ้ที่โตรอนโตอยู่ตามลำพัง ในคืนนั้นทุกคนจำได้ดีว่า คุณเศร้าซะจนต้องออกไปเดินอยู่ตามถนนเพียงคนเดียว

RF : ใช่ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมทุกข์ใจมาก เพราะมันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ จนถึงเดี๋ยวนี้ ผมก็ยังไม่เคยต้องเผชิญกับการตายจากไปของคนใกล้ตัวผมแบบนั้นอีกเลย เหตุการณ์นั้นสอนให้ผมเข้มแข็งขึ้น สำหรับผมแล้วปีเตอร์เป็นคนให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับผมให้กลายมาเป็นนักเทนนิสจนได้ ในตอนที่คุณยังเด็กอยู่นั้น การที่โค้ชคนนึงดูแลคุณ เขามักจะเป็นยิ่งกว่าโค้ช เป็นที่ปรึกษา เป็นกำลังใจ เป็นเพื่อน เป็นตัวแทนของพ่อแม่คุณ ในยามที่ท่านมาอยู่ใกล้ ๆคุณไม่ได้ และนี่เองการจากไปของปีเตอร์จึงมีความสำคัญกับผมมาก ผมไม่อาจจะพูดได้ว่า เหตุการณ์นั้นปลุกให้ผม "ตื่น" ขึ้นมาก็จริงอยู่ แต่มันก็ทำให้ผมเริ่มทำงานหนักขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่ามันแสดงให้คุณเห็นแล้วว่า เรื่องมันจบได้รวดเร็วเพียงใด


IT : การตายของปีเตอร์ มีผลกับคุณมากเลยใช่ไหม

RF : ใช่ครับ มีผลต่อเกมการเล่นของผมมาก

IT : คุณเคยพูดถึงความสำคัญของการได้แชมป์ที่ฮัมบูร์ก ในปี 2002 ก่อนหน้านั้นคุณบอกว่า คุณยังไม่ติด Top 10 และคุณก็ได้แต่หาวิธีการว่าทำอย่างไรคุณถึงจะติด Top 10 ได้ คุณกลายเป็นพวกที่อยู่ในกลุ่มที่มีศักยภาพมาก แต่ก็ยังเป็นแค่คนๆ หนึ่งที่น่าจะทำได้ แต่ก็ทำไม่ได้สักที หลังจากที่คุณได้แชมป์ รายการนั้นแล้ว คุณก็มั่นใจมากขึ้นว่า คุณจะเป็นมือ 1 ให้ได้

RF: ตอนนั้นผมเล่นได้ไม่ค่อยดีเลย อาทิตย์ก่อนหน้านั้นผมแพ้ Andrea Gaudenzi แล้วตกรอบแรกที่โรม จากนั้นผมเริ่มเปลี่ยนแร็คเก็ต เปลี่ยน strings เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง กลายมาเป็นอย่างที่ผมเล่นอยู่ทุกวันนี้ เกือบจะหกปีแล้วได้มั๊ง ก่อนหน้านั้นผมใช้ Pete's racket (Wilson ProStaff) ช่วงนั้นเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านของผม ที่ผมประสบกับปัญหาในการเล่นบนคอร์ตดิน ผมแพ้แบบหวุดหวิด เช่น 7-5 อะไรแบบนี้ ผมแพ้ติดต่อกันเลยนะ 11 จาก 12 แมทช์บนคอร์ตดิน ผมรู้ตัวว่า ผมสามารถเล่นได้ดีบนคอร์ตดิน แต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมแพ้ติด ๆ กันซะขนาดนั้น ผมอาจจะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน และเพิ่งจะผ่านจากช่วงจูเนียร์ขึ้นมาเล่นอาชีพ ดังนั้นทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่ฮัมบูร์ก และผมเอาชนะได้ ทำเอาผมเกือบ ๆ ช็อคไปเลยล่ะ ผมทำได้แล้ว ผมเอาชนะคู่แข่งชั้นยอดอย่างกูก้า อย่างซาฟิน เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก ๆ เลยทีเดียว

IT: แล้วก่อนที่คุณจะได้แชมป์แกรนด์ สแลมรายการแรก ก่อนที่จะมาไกลได้ขนาดนี้ (แชมป์ 53 รายการ เป็นรายการใหญ่ซะ 12 แล้วก็เป็นมือ 1 มายาวนานกว่า 4 ปี) มันยิ่งใหญ่และจะกลายเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของวงการ คุณคิดว่าอะไรเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้คุณทำได้ขนาดนี้ เป็นอย่างที่ใคร ๆ กล่าวถึงหรือเปล่าว่า คุณมีการจัดระบบที่ดี มีความสุขุมรอบคอบ ลองบอกหน่อยได้ไหมถึงแรงบันดาลใจ หรือว่าพื้นฐานของคุณว่า......

RF: ทั้งหมดนี้มีพื้นฐานมาจากอะไร ฟอร์มการเล่นที่ดี มันมีพื้นฐานมาจากทักษะความสามารถ ความล้มเหลวในการตีช็อตต่าง ๆ ความสามารถในการปรับตัวและการอ่านสถานการณ์ (ในระหว่างการเล่น) ของผม ทั้งหมดนี้มันรวม ๆกันอยู่ในสิ่งที่เรียกกันว่า talent ซึ่งผมต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักมาก ๆ วันแล้ววันเล่า เพื่อที่จะพัฒนามันขึ้นมาเป็นอาวุธร้ายประจำตัวของผม กว่าที่จะมาถึงตอนนั้นผมก็ผ่านการพ่ายแพ้มามากต่อมาก ผมต้องพยายามที่จะเล่นช็อตยาก ๆ ผมต้องเริ่มที่จะพยายามทำความเข้าใจกับเกมของตัวเอง ช็อตของตัวเอง และในเวลานั้นผมต้องเริ่มทำให้มันดูง่ายขึ้นและต้องทำด้วยความอดทนอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมสามารถพัฒนามันขึ้นมาและเปลี่ยนแปลงได้จากหน้ามือเป็นหลังมือคือ mental ability ของผมเอง เพราะก่อนหน้านั้นมันคอยแต่จะต่อต้านตัวผมเองอยู่เสมอ หลายปีหลังจากนั้น กลับกลายเป็นว่า ผมมีชื่อเสียงมาก ๆ ในเรื่องของการควบคุมจิตใจและอารมณ์ตัวเอง เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากจริง ๆที่ผมสามารถเปลี่ยนแปลงตรงนี้ได้


เฟดตอนได้แชมป์มาสเตอร์แรกที่ฮัมบูร์ก ปี 2002



ตอนนั้นนี่ดูมาดเซอ มาก ๆ เลยนะ ไม่เป็นคุณชายเหมือนเดี๋ยวนี้เลย



IT : หากว่า คุณสามารถเลือกความสำเร็จในอาชีพของคุณได้อีกอย่างหนึ่ง ระหว่างได้แชมป์เดวิส คัพ ได้เหรียญทองโอลิมปิค ได้แชมป์ที่โรลังด์ การอส หรือทำลายสถิติแชมป์แกรนด์ สแลมของแซมพราส คุณคิดว่าจะเลือกอะไร

RF : ไม่รู้เหมือนกันนะ ผมก็เหมือนคนเห็นแก่ตัวทั่ว ๆไปแหละ คืออยากได้มันหมดเลย ผมอยากได้เฟรนช์ โอเพน ผมเกือบจะทำลายสถิติแกรนด์
สแลมของพีทอยู่แล้ว ผมว่าผมก็อยากจะได้ทั้งหมดก่อนที่ผมจะรีไทร์นะ ตอนนี้ผมอยากได้แชมป์เฟรน โอเพ่นมาก ๆ เลยล่ะ เพราะผมประสบความสำเร็จเรื่องอื่นมามากแล้ว และผมก็ยังอยากได้เหรียญทองโอลิมปิค อยากได้แชมป์
เดวิส คัพ มันคงทำให้ผมมีความสุขมาก ๆ เลยนะ เพราะผมรักการเล่นเป็นทีม และรักโค้ชของเรามาก คงเป็นเรื่องที่ดีมากที่จะเห็นทีมก้าวหน้าไปได้มากขนาดนั้น ผมก็หวังว่า ผมจะทำได้ทั้งหมดตามที่ผมหวังไว้


อิอิ ถ้ายัง "hungry" ขนาดนี้ล่ะก็ เฟดคงไม่ท้อหรือเลิกราง่าย ๆหรอก

IT : ที่ผ่านมานักเทนนิสอันดับ 1 หลาย ๆคนเลือกที่จะอยู่ให้ห่างจากการเมืองภายในและนโยบายทั้งหลายแหล่ของ เอทีพีเข้าไว้ แต่นั่นไม่ใช่คุณ คุณมักจะให้ความเห็นต่าง ๆเสมอ เวลามีอะไรเกิดขึ้นในเอทีพี อย่างเช่น การใช้ฮอค-อาย ประเด็นต่าง ๆในวิมเบิลดัน การลดขนาดรายการเก่าแก่อย่างรายการที่มอนติ-
คาร์โล หรือการทดลองเอาระบบราวน์โรบิ้น มาใช้ในการแข่งขันของเอทีพี ทำไมคุณถึงเลือกที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องพวกนี้


RF : ก่อนอื่นคุณต้องนึกถึงว่า วงการเทนนิสนั้นเป็นอะไรที่หยั่งรากลึกมายาวนาน เราไม่ได้เพิ่งจะมีกันมาแค่ 5-6 ปีที่คุณจะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ โดยที่ใคร ๆ ก็จะยอมรับมันโดยไม่โต้แย้ง ผมโตขึ้นมากับเทนนิส ในแบบที่มันเป็นอยู่นี่ ผมก็ไม่ต้องการให้มันเปลี่ยนแปลง เพราะผมคิดว่ามันเป็นเกมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ ปัญหาของเราตอนนี้คือ เราต้องการสปอนเซอร์เพิ่มมากขึ้น หาเงินเข้ามาให้ได้มากขึ้น และกลับไปถ่ายทอดผ่านรายการทีวีที่เป็นฟรีทีวี (ไม่ใช่เคเบิลทีวี) นี่คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเรา เรามีปัญหาการทำธุรกิจกับ ISL การเจรจามันล้มเหลวไปแล้ว ซึ่งทำให้เราเดือดร้อนกันมากในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดผ่านฟรีทีวี พวกเขาขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดให้กับเครือข่ายเคเบิลทีวี นั่นเท่ากับทำลายตลาดของเราไปแล้วในส่วนที่เกี่ยวกับสปอนเซอร์ รวมทั้งโอกาสในการดูรายการของแฟน ๆทั่วไปด้วย ที่นั่งในสนามก็ขายไปหมดแล้ว แล้วพวกที่ชอบดูเทนนิส รักกีฬาเทนนิสจะทำอะไรได้ เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ แต่เราอาจจะย้อนกลับไปได้อีกครั้งหนึ่ง หากเรามีแพ็คเก็จดี ๆที่น่าสนใจ ปัญหาเหล่านี้ต่างหากที่เราควรจะให้ความสนใจ และพยายามที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆน้อย ๆที่ดูหน่อมแน้ม (เฟดใช้คำว่า stupid) มาก ๆอย่างการเอา rr เข้ามาใช้ในการแข่งขัน




Create Date : 15 ธันวาคม 2551
Last Update : 23 ธันวาคม 2551 20:36:19 น. 30 comments
Counter : 551 Pageviews.

 
ยังมีต่อนะคะ.......

ช่วงนี้เงียบ ๆ เหงา ๆจังเลย ไม่มีเทนนิสให้ดูเนี่ย
มีใครผ่านมาอ่านแวะทักทายกันบ้างนะคะ
ตอนนี้น้องลูกแก้วเค้าลาไปจำศีลดูหนังสือสอบมิดเทอมค่ะ
บล็อกเลยเงียบเข้าไปใหญ่เลยล่ะ


โดย: เวสาตรี วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:23:02:44 น.  

 
เฟดตอนอายุ 15 ดูตลกมาก ๆ แต่ก็น่ารักดีนะ
ทำผมทรงน้ำพุ เหมือนเด็กไทยสมัยนู้นเลยล่ะ


โดย: เวสาตรี วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:23:48:01 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณนุช

เข้าเวปมาเห็น blog คุณนุช ดีใจที่สุด
คุณนุชต้องมีอะไรมาเล่าแก้เหงาอีกแล้ว

ท่านผู้ดำเนินรายการร่วม (น้องลูกแก้ว) ลาไป
อ่านหนังสือซะแล้ว ขอให้ได้ A หมดทุกวิชาเลยนะคะ

เฟดรูปมัดจุกเนี่ยพี่ช๊อบบบชอบค่ะ
เคยเห็นตอนลงสนามสมัยจูเนียร์บ้าง น่ารักดี
แต่ตอนนี้คงไม่กล้าทำตอนแข่งแล้วล่ะค่ะ
เห็นบ้างตอนซ้อมประปราย
สงสัยกลัวเสีย look เทพ


โดย: พี่ชมพู่ (Mattendy ) วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:9:11:35 น.  

 
ถ้าเฟดทำผมทรงนี้ลงแข่ง สงสัยฮาไม่เลิกแน่ ๆเลยค่ะ



โดย: เวสาตรี วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:9:40:50 น.  

 
รูปนี้นานรึยังคะ คุณนุช
ผมสั้นขนาดนี้น่าจะซักปีนี้หรือปีที่แล้วนะคะ
แต่ดูจากกล้ามพุง น่าจะเร็วๆนี้มังคะ

น่ากินจัง


โดย: พี่ชมพู่ (Mattendy ) วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:10:15:13 น.  

 
ซินซินเนติปี 2008 ค่ะ ตอนซ้อมค่ะ อยากเห็นเฟดไว้ผมทรงนี้ลงแข่ง แล้วให้ไนกี้ทำโบว์ผูกผมแทน
เผื่อจะได้แฟชั่นใหม่ประจำปี 09 ไง


โดย: เวสาตรี วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:11:11:24 น.  

 
ยังแว๊บๆ เข้ามาในห้องเทนนิสเสมอเลยนะครับ และจะดีใจมากที่ได้เห็นบล็อคใหม่ๆของพี่นุชอีกครั้ง
ตามอ่านเสมอนะครับ


โดย: พาดาวันคนหนึ่ง IP: 125.24.83.73 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:17:43:51 น.  

 
เมื่อเช้าลืมไปว่า ล็อคเอาไว้ให้ โพสต์ได้เฉพาะสมาชิก
ตอนนี้แก้ไขให้โพสต์ได้ทุกความเห็นแล้วนะคะ
ดีใจที่พี่ชมพู่กับคุณพาดาวัน ฯแวะมาเยี่ยมนะ
ตอนนี้นับถอยหลังให้ถึง 5 มกราเร็ว ๆ ค่ะ
จะได้ดูเฟดที่การ์ต้า....
แต่ยังไม่รู้จะมีเว็บไหนถ่ายทอดรึป่าวนะ


โดย: เวสาตรี วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:19:00:15 น.  

 
มาเยี่ยมจ้ะ


โดย: Rafa Ivanovic วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:19:08:15 น.  

 

หวัดดีค่ะ คุณราฟา ช่วงนี้เงียบจังเลย
บรรยากาศไม่เหมือนใกล้ปีใหม่เลยล่ะ


โดย: เวสาตรี วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:19:20:54 น.  

 
สวัสดีตอนสายค่ะ

เฟดตอนได้แชมป์ที่ฮัมบูร์กนี่ ยังดูรกๆ รุงรัง
ยังไงชอบกลนะคะ แต่ไอ้รอยยิ้มเนี่ย
เห็นแล้วชื่นใจเหมือนเดิม เป็นมาแต่ไหนแต่แล้วค่ะ

พี่ก็นั่งนับวันให้ถึงเร็วๆ เหมือนคุณนุชเลยค่ะ
เวปไหนมี รบกวนส่งข่าวด้วยนะคะ (รบกวนตลอดทุกเรื่อง)
นี่เหงาๆ ก็เปิดดูรูปเก่าๆ
น้องเรานี่มันเซอร์ได้ใจจริงๆ นะคะสมัยนู้นน
แต่เดี๋ยวนี้นี่ไม่มีหลุดให้เห็นเลย
เนี๊ยบบบบบบบบบบ..ทุกกระเบียดนิ้ว

พูดถึงนับวันรอให้ถึงฤดูแข่งปีหน้านี่
พี่รู้สึกสบายๆ นะคะ ไม่เครียด แพ้หรือชนะไม่ห่วงเลย
ขอให้ได้เห็นเฟดลงมาพริ้วไปพริ้วมาในสนาม
ก็เป็นสุขใจแล้ว (ก็มันคิดถึง) จะแพ้หรือชนะ
เป็นหน้าที่ของเฟดที่เค้าจะบอกเราเองวันนั้น


โดย: Mattendy IP: 203.154.188.20 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:10:08:34 น.  

 

สิ่งที่เฟดไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นจนถึงเดี๋ยวนี้
คือแววตามุ่งมั่นกับรอยยิ้มที่สดใสค่ะ เหมือนเดิมจริง ๆ

ช่วงนี้ลองทบทวนดูสถิติการแข่งขันของเฟด
ตั้งแต่เริ่มเทิร์นโปร แล้วก็เจออะไรบางอย่างที่น่าประหลาดใจ นั่นคือ รายการ GS ที่เฟด
เข้ารอบได้ลึกที่สุดเป็นรายการแรก
กลับเป็น GS รายการเดียวที่เฟดยังไม่เคยได้แชมป์
เฟดเข้ารอบ QF รายการใหญ่ได้เป็นครั้งแรกที่
โรลังด์ การ์รอสค่ะ ปี 2001 แต่ยังไม่เคยได้แชมป์ที่นี่เลย
ปีเดียวกันนั้นเองก็ชนะพีท แซมพราสที่วิม ฯ
เข้ารอบ QF ได้เหมือนกัน .......

พี่ชมพู่ถ้านุชได้ link ดูรายการที่การ์ต้ามาจะบอกให้นะคะ
แต่ที่จะบอกว่า นุชก็อาศัยรู้จากคุณอื่นเหมือนกัน
อย่างคุณปุ้ย หรือน้องลูกแก้ว เค้าเซียนกว่าเยอะค่ะ
เอาเป็นว่า ถ้าใครรู้ช่วยมาแปะบอกเพื่อน ๆด้วยละกันนะคะ


โดย: เวสาตรี วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:11:08:07 น.  

 
เอ.. ปีนี้ สำหรับ AO ไนกี้จะทำอะไรกับชุดของเฟดหนอ
พี่ว่าเฟดใส่เสื้อสีพื้นๆ เรียบๆ เนี่ยดีสุดแล้วนะคะ
อย่างมากก็มีแถบสีอื่นมาเบรค ตรงปก หรือปลายแขน
เหมือนเดิมก็น่าจะพอ หวังว่าคงไม่มีลวดลายมาแซม
ให้ปวดตา ปวดใจนะคะ

แต่ชุดสีพื้นนี่ก็ใช่ว่าจะดูดีทุกชุดไปนะคะ
ดูอย่าง US Open สิคะ ชุดกลางคืนนี่ สีน้ำตาลล้วนๆ (เอ..หรือว่าสีกากี..หรือว่าสีเขียวขี้ม้า...
โอ่ย...อะไรซักอย่างนี่แหละค่ะ)
มันก็ดีอยู่หรอกนะคะ แต่ชุดกลางวันสวยกว่าเยอะ
โชคดีที่ใส่แค่หนเดียว อาศัยว่าหล่อเป็นทุนอยู่แล้ว
และเรามีใจให้ เลยพอกล้อมแกล้ม :D


โดย: Mattendy IP: 203.148.221.20 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:15:51:57 น.  

 
ชอบเสื้อตัวที่เฟดใส่แข่ง AO ปี 07 ค่ะ
เสื้อฟ้าอ่อน ๆ ใส่แล้วดูดีมาก ๆเลย



โดย: เวสาตรี วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:17:37:18 น.  

 
ส่วนที่ไม่ชอบเลยนอกจากตัวที่ใส่ในยูเอส โอเพ่นปีนี้
ที่พี่ชมพู่บอกแล้ว ก็ต้องเป็นตัวสีเทาตัวนี้ค่ะ
ที่ใส่ในมาสเตอร์ คัพ ปี 2006 มีความรู้สึกว่า
เฟดใส่เสื้อสีแบบนี้ไม่ขึ้น
ใส่สีฟ้าหรือสีแดงจะดูดีกว่า



โดย: เวสาตรี วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:17:40:59 น.  

 
นี่เลย ตัวนี้เลย เชยมากกกก..
พี่ว่าเฟดใส่เสื้อสีเข้มที่เอามาทำเป็นสีอ่อนเนี่ยไม่สวยค่ะ
(งงมั๊ยคะ) คืออย่างสีเทา สีน้ำตาล สีน้ำเงิน ถ้าจะให้หล่อก็ต้องออกเข้มมากๆ มืดตึ้บไปเลย จะแนวเข้มปานกลางอย่างตัวบนเนี่ย..แถมมีแถบเหลืองอีก ..แม่เจ้า...หล่อแค่ไหนก็เอาไม่อยู่

แต่ถ้าจะใส่สีอ่อนเนี่ยก็สวยเป็นบางสีนะคะ อย่างสีฟ้าข้างบนเนี่ยเป็นเสื้อลายที่ Nike ทำออกมาดีที่สุด (พี่หมายถึงสำหรับให้เฟดใส่แข่งนะคะ)
AO ปี 2003 สีดำลายฟ้าเนี่ยก็ขัดใจ
AO ปี 2006 สีขาวลายเขียวก็เกือบดี
พี่ทำรูปมาให้ดูไม่เป็น จินตนาการเอาหน่อยนะคะ
กลายเป็นวิจารณืเรื่องเสื้อผ้าไปซะงั้น
Nike มาอ่านเค้าจะเอาเรื่องเรามั๊ยคะนี่


โดย: Mattendy IP: 203.148.221.20 วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:9:43:37 น.  

 
ไม่เป็นไรค่ะ พี่ชมพู่ ไนกี้ควรดีใจมาขอบคุณเราถึงจะถูก
ที่ช่วยออกความเห็นโดยไม่ต้องจ่ายเงิน
พูดเหมือนแน่จริงเลยนะเนี่ย เดี๋ยวไปหาเสื้อ AO ปี 03
กะ 06 มาให้ค่ะ ของปี 09 หนูลูกแก้วเคยเอามาแปะแล้ว
แต่นุชยังหาไม่เจอ :)


โดย: เวสาตรี วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:9:53:11 น.  

 
หนุ่มมาดเซอ กับเสื้อลายขัดใจพี่ (ชมพู่)
ตอนนั้นเฟดยังไม่ดังค่ะ
เลยต้องใส่เสื้อเหมือน ๆ คนอื่น
ไม่เหมือนตอนนี้ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว



โดย: เวสาตรี วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:10:32:05 น.  

 
มันไม่สวยเอาซะเร๊ยยยย
ขอบคุณ คุณนุชค่ะ
พี่ว่า เฟดใส่เสื้อมีปกดูดีมากกว่ากันเยอะเลยนะคะ

ทั้งหมดที่ผ่านมา พี่ชอบเสื้อน้ำเงิน ปกขาว ปลายแขนขาว
ขอบเอวกางเกงขาว ที่ใส่ตอน FO
(แล้วแพ้นาดาลราบคาบในนัดชิง) ปีนี้มากที่สุดเลยค่ะ
แต่ยังดีที่ได้ใส่ที่รับถ้วยแชมป์ที่ 2 ของปี
ที่ Halle เท่ห์ที่ซู๊ดดดดดด


โดย: Mattendy IP: 203.154.188.20 วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:11:41:56 น.  

 
ไปแอบแฮปมาจากห้องแป้งค่ะ พี่ทอมเอามาแปะไว้
ไม้เทนนิสของ chanel ค่ะ ไม่แพงหรอก
อันละ $375 เอ๊ง !!!



โดย: เวสาตรี วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:18:01:09 น.  

 
นุชชอบชุดนี้อีกชุดนึงค่ะ ชุดทีมชาติสวิสตอนแข่งโอลิมปิคน่ะ ชอบตรงเข็มขัดสีแดงกับกางเกงขาวเนี่ยแหละ



โดย: เวสาตรี วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:18:05:04 น.  

 
อันนี้ถูกต้องค่ะ หล่อพอๆ กับชุดขาวใน Wim ปีนี้เลย
ปีที่แล้วแค่เบรเซอร์ กับกางเกงขายาว ก็หล่อจะแย่
ปีนี้มีคาดิแกน กับไอ้เรื่องแอบมีเข็มขัดเนี่ยยยย ...
มันโด๊นนนโดนค่ะ

ไม้เทนนิสที่คุณนุชแฮปมาให้ชมเนี่ย มันตีได้จริงๆ มั๊ยคะ


โดย: Mattendy IP: 203.148.221.20 วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:19:26:06 น.  

 
ตีได้จริง ๆค่ะ พี่ชมพู่ เนี่ยว่าจะลองไปซื้อมาหัดตีดูสักหน่อย 555 + นุชเป็นพวกบ้าเทนนิสที่ตีเทนนิสไม่เป็นอ่ะ ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวในกลุ่มแฟนเฟดรึป่าว เพราะที่คุย ๆมาเนี่ยเค้าตีเป็นกันทั้งนั้นเลยนะ บางคนเป็นประมาณว่าได้เหรียญสมัยเรียนมาแล้วด้วยซิ

พี่ทอมยังถามเลยว่าทำไมโรเจอร์ไม่ใช้ไม้รุ่นนี้

สงสัยเรื่องชุดแข่งเฟดอีกอย่างนึงว่า มีเข็มขัดไว้ทำไมฟระ
แล้วของคนอื่น ๆ เนี่ยเค้ามีอ่ะป่าว ไม่เคยสังเกตสักที


โดย: เวสาตรี วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:22:29:15 น.  

 
วันนี้กว่าจะเข้าชมบล็อกพี่นุชได้ก็ดึกเลยนะครับ เพราะจะเข้ามาตอนแรก มีข้อความว่า"ขณะนี้มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากกรุณาลองอีกครั้ง" อะไรประมาณนี้ล่ะครับ
มันมากอย่างนั้นเลยเหรอครับ น่าดีใจแทน


โดย: พาดาวันคนหนึ่ง IP: 125.25.109.197 วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:22:41:36 น.  

 
อืมมมมม...ถ้าเป็นอย่างคุณพาดาวันฯ ว่า ก็น่าชื่นใจค่ะ
คุณนุช พี่เป็นคนนึงที่ชอบฟังคุณนุชเล่าเรื่องค่ะ

น้องๆ ในห้องเทนนิส ส่วนใหญ่ เล่าเรื่องอะไรๆ สนุก
ดีมากค่ะ อยู่ที่เป็นแฟนคลับใครก็อินไปทางนักกีฬา
คนโปรดของตัวเองมากหน่อย แต่ก็ไม่เหน็บนักกีฬา
คนอื่นหรือแฟนคลับคนอื่น จนน่าเกลียด

หรือใครที่ไม่ได้อินกับนักกีฬาคนไหนเป็นพิเศษ
ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสถานที่ที่ใช้แข่งขัน ที่ตัวเอง
ได้เข้าไปอยู่ในบรรยากาศนั้นหรือประวัติอะไรต่างๆ
ที่ล้วนเป็นสิ่งที่บางทีไม่ได้มีใครเคยทราบมาก่อน

สรุปว่าเป็นเรื่องเล่าที่สนุก เพิ่มเติมสีสรรไปตาม
อารมณ์ของคนเล่า และมีเกร็ดความรู้มากมาย
ทำให้คนหลังเขาอย่างพี่ ได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตา
แล้วก็สนุกสนานเห็นภาพไปตามที่น้องๆ เล่าไปด้วย

ขอบคุณทุกๆ คนนะคะ


โดย: Mattendy IP: 203.154.188.20 วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:8:53:00 น.  

 
ลืมไปอย่างนึงค่ะ คุณนุช

เข็มขัดที่คุณนุชถามว่ามีไว้ทำไมฟร๊ะเนี่ย
พี่ว่ามันคงมีเอาไว้...ทำหล่อ...อย่างเดียวมังคะ
Nike คงรู้ว่าช่างภาพต้องจับภาพไว้ทุก shot
แล้วเวลาตีเนี่ยเสื้อแสงมักจะสะบัดปลิว
เปิดขึ้นมาอย่างที่เห็น ก็เลยอยากให้โชว์หล่อ
มันไม่ได้เป็นแค่เข็มขัดธรรมดา มันมีรายละเอียด
initial ของเฟด แถมมีรูปถ้วยพร้อมจำนวนแชมป์
ของรายการนั้นๆ เก๋พอๆ กับจำนวนดาวบนรองเท้าแหละค่ะ


โดย: Mattendy IP: 203.154.188.20 วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:9:01:03 น.  

 

มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คุณพาดาวันฯ เมื่อคืนพี่นุชก็เข้าบล็อกตัวเองไม่ได้ ขึ้นข้อความแบบที่คุณเห็นนั่นแหละ
เข้าใจว่าเมื่อคืนทุกคนเข้ามาดูบล็อกหลาย ๆ บล็อกพร้อม ๆกันมั๊ง ไม่เฉพาะของพี่นุชหรอก มันก็เลยเข้าไม่ได้ อิอิ
เลยยังไม่ได้ up เพิ่มเลย คงต้องเป็นคนนี้แล้ว ที่จะมาต่อให้จบ......

ชอบคำตอบพี่ชมพู่จังค่ะ มีไว้ทำหล่อ

เฮ้อ ! ไม่ต้องทำก็ยังหล่อ แล้วก็คุณช้าย...คุณชายซะขนาดนั้น

มีใครจำได้บ้างคะว่า ในรายการไหนสักรายการนึงที่ 'เมกา
ประมาณปี 06 หรือ 07 นี่แหละ เฟดตีพลาดในช็อตสำคัญ
แล้วตะโกนออกมาว่า "shit" โห! คนดูตกใจกันทั้งสนามเลย นักข่าวก็เอามาเขียนแซวอยู่ตั้งหลายวันแน่ะ.....
แหม! เฟดก็คนนะ จะอะไรกันหนักหนา


โดย: เวสาตรี วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:9:34:57 น.  

 
♥ แวะมาอ่านจ้ะ ^^ ♥




โดย: Rafa Ivanovic วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:16:45:32 น.  

 

แวะมาหวัดดีจ้ะ เดี๋ยวจะขึ้นบล็อกใหม่แล้วนะ


โดย: เวสาตรี วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:19:29:34 น.  

 
ขอแปะรูปเฟดอีกรูปนะ ใส่เสื้อสีฟ้าสวยมาก ๆ
ตอนได้แชมป์ที่เอสโตริลเมื่อเดือนเมษา
นุชชอบสีฟ้าน่ะ



โดย: เวสาตรี วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:20:05:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เวสาตรี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add เวสาตรี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.