We always love you, Roger Federer !
Group Blog
Roger's news 2009
ATP Master Series
Roger Federer
ATP World Tour 250
Grand Slam
Roger & Mirka
It's me,Nuch
Others Tournaments
Fantastic Federer
Roger Federer 2012
Roger Federer 2013
Wimbledon 2013
Stan, the Swiss Warrior.
All Blogs
Roger Federer : เครียดมาทั้งปีแล้วมาเฮฮากันบ้างดีกว่านะ
Roger Federer: A smashing guy ......3
Roger Federer: A smashing guy .....2
Roger Federer: A smashing guy
The woman behind the modern day Borg........2
The woman behind the modern day Borg
Roger Federer: A smashing guy .....2
Roger Federer: A smashing guy
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ชายหนุ่มผู้วิเศษสุด
มาเล่าต่อจากตอนที่แล้วนะคะ...
เมื่อเย็นวันอังคารแอนดี้ ร็อดดิกนักเทนนิสมือวางอันดับ 2 ของรายการ
ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาที่มีต่อเฟเดอเรอร์ว่า
เขาน่าจะเป็นนักเทนนิสที่มีความสามารถมากที่สุดเท่าที่วงการเคยมีมา
ไม่ว่าจะเป็นทุกช็อตที่เขาตี หรือวิถีทางที่เขากลายมาเป็นนักเทนนิส
ที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ผมคิดว่า ยิ่งเห็นเขาเวลาอยู่นอกคอร์ตแล้ว
ผมก็ยิ่งนับถือเขามากขึ้น
แชมป์เปี้ยนที่เก่งกาจอาจจะมีอยู่อีกหลายคน
แต่เขา (เฟด) นั้นยอดเยี่ยมกว่ามากนัก
เวลาที่อยู่ในล็อคเกอร์ รูม หรือที่อื่น ๆ ก็ตามที
เขาไม่เคยทำตัวให้สูงกว่าหรือว่าอวดเบ่งใส่คนอื่นเลย
เขามักจะให้เกียรติผู้อื่นเสมอแม้ว่าคนนั้นจะเป็นเพียงผู้ดูแลล็อคเกอร์ รูม
หรือคนเสิร์ฟอาหารก็ตามที
คำพูดที่ติดปากของเขาก็คือคำว่า กรุณา.... และ ขอบคุณ
ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลที่ดีว่า
ทำไมเขาจึงเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นในทัวร์นาเมนท์อยู่เสมอ
ไม่มีใครเลยที่จะแสดงออกถึงความไม่เป็นมิตรกับเขา
แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นเหลือก็ตามที
การที่เฟเดอเรอร์มีลักษณะแบบนี้
เป็นเรื่องที่ต้องยกความดีให้กับพ่อแม่ของเขา
สมัยที่เขายังเด็ก
พ่อแม่ของเขาจะไม่ทนความเป็นคนเจ้าอารมณ์ของเขาเลย
แต่จะหาวิธีสั่งสอนให้เขารู้สึกตัว
พ่อและแม่ของเฟเดอเรอร์
ตอนเป็นวัยรุ่นใหม่ ๆ นั้น
เฟเดอเรอร์มีทีท่าว่าจะเป็นพวกที่ติดนิสัยชอบขว้างแร็คเก็ต
เวลาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ในสนาม
โรเบิร์ตพ่อของเขาซึ่งตอนนั้นเป็นเซลส์แมน
อยู่ในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างซีบ้า ไกกี้
มักจะตกใจมากเวลาเห็นลูกชายแสดงกิริยาแบบนี้
เขาจะออกคำสั่งทันทีให้ลูกหยุดทำ
จากนั้นก็ขับรถพากลับบ้านโดยไม่พูดอะไรด้วยสักคำเดียว
แม้บางครั้งจะต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านก็ตามที
ลูกชายของเขาจึงรับรู้ถึงสิ่งที่พ่อต้องการสื่อได้เป็นอย่างดี
เมื่อเขามาเล่นเทนนิสอาชีพในปี 1998
ตอนที่อายุได้ 16 ปี
เขาก็ได้เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ให้ได้แล้ว
เฟดตอนอายุ 16 ปีทำเซอร์ไพรซ์คนในครอบครัว
ด้วยการย้อมผมเป็นสีบรอนซ์
เฟเดอเรอร์เป็นลูกคนที่สองในครอบครัว เขามีพี่สาวอีก 1 คนชื่อ ไดอาน่า
พ่อของเขาเป็นชาวสวิส ส่วนลินเน็ตแม่ของเขานั้นเป็นชาวแอฟริกาใต้
ทั้งพ่อและแม่เล่นเทนนิสเป็นการออกกำลังกาย
และเพื่อเข้าสังคมที่สโมสรแห่งหนึ่งใกล้เมืองบาเซิล
โรเจอร์จึงเคยชินกับการไปดูพ่อแม่เล่นเทนนิส
ตั้งแต่ยังเดินเตาะแตะอยู่
เมื่อเขาอายุได้เพียง 3 ขวบก็เริ่มที่จะตีลูกบอลด้วยตัวเองได้
ซึ่งความกลมกลืนอย่างน่าประทับใจของเขานั้น
เป็นสิ่งที่สมาชิกของสโมสรแห่งนั้น
จดจำและระลึกถึงได้อย่างมีความสุขเสมอ
2-3 ปีหลังจากนั้นทั้งโรเบิร์ตและลินเน็ต
จึงตระหนักได้ว่าพวกเขามีสิ่งแปลกมหัศจรรย์อยู่ในมือ
แต่กว่าเด็กชายโรเจอร์ซึ่งมีบอริส เบคเกอร์เป็นนักเทนนิสต้นแบบอยู่ในใจ
จะได้มาพบกับโค้ชคนที่เหมาะสมกับตัวเขาก็ต่อเมื่อเขาอายุได้ 12 ปี
โค้ช Peter Carter เป็นชาวออสเตรเลียที่มาทำงาน
ให้กับสหพันธ์เทนนิสแห่งสวิสเซอร์แลนด์
คาร์เตอร์แตกต่างจากคนอื่นตรงที่เขาไม่ได้ตื่นเต้นจนเกินไปนัก
กับความแปลกมหัศจรรย์ของเฟเดอเรอร์
เขากลับสั่งให้เด็กชายฝึกการเล่นคู่อย่างเอาเป็นเอาตาย
ทั้งนี้ก็เพื่อพัฒนาเกมส์ของเขา
และเพื่อหลีกเลี่ยงอาการเหน็ดเหนื่อยที่อาจเกิดขึ้น
มากเสียจนเด็กชายเบื่อการเล่นเทนนิสไปเลย
และคาร์เตอร์ยังแนะนำอีกด้วยว่า
เขาไม่ควรจะสนใจแต่เทนนิสเพียงอย่างเดียว
จนละเลยเรื่องอื่น ๆ ในสังคมไปจนหมด
ต่อมาเมื่อเฟเดอเรอร์เปลี่ยนโค้ช มาเป็น Peter Lundgren
ชาวสวีเดนซึ่งเคยเป็นนักเทนนิสอาชีพมาก่อน
คาร์เตอร์ก็ยังคงเป็นที่ปรึกษาที่เฟเดอเรอร์ให้ความเชื่อถือ
ไว้วางใจเป็นอย่างยิ่ง และตัวเขาเองยังเฝ้ามองลูกศิษย์คนนี้
อย่างภาคภูมิใจที่ความเฉลียวฉลาดในการเล่นเทนนิส
ทำให้เขาก้าวสู่ระดับท็อปเทนของโลกได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตามเฟเดอเรอร์ต้องใช้ช่วงเวลานานที่เดียว
กว่าเขาจะก้าวไปคว้าแชมป์แรกในรายการแกรนด์ สแลมแรกได้สำเร็จ
เป็นเรื่องที่เชื่อกันไปทั่ว
ว่าเขาคงไม่มีความเหมาะสมและยังดื้อดึงเสียจน
ไม่สามารถที่จะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จได้ในช่วงเวลาการแข่งขัน 2 สัปดาห์
ทั้งที่เป็นเรื่องที่พูดกันมาตั้งแต่สมัยเขายังเด็กแล้วว่า
เขานั้นมีความเป็นอัจฉริยะอยู่ในตัว
มีจิตใจอันแน่วแน่มั่นคงที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
และยังต้องการที่จะเก็บเกี่ยวชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า
รวมไว้ด้วยกันอีกด้วย
อันดับโลกของเขาเริ่มที่จะลดลง
หนึ่งปีหลังจากที่เขาเอาชนะพีท แซมพราสได้ในการเล่นกันถึง 5 เซ็ต
เขากลับตกรอบแรกในการแข่งขันวิมเบิลดัน ในปีถัดมา (ปี 2002)
และนั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตนักเทนนิสของเขา
ที่เขาต้องเดินคอตกออกจากสนาม
แทนที่จะเชิดหน้าเหมือนที่เคยทำ
หลังจากนั้นก็มีโศกนาฏกรรมบางเรื่องเกิดขึ้น
ก่อนจะถึงวันครบรอบวันเกิดปีที่ 21 ของเขาไม่กี่วัน(8 สิงหาคม 2002)
ในระหว่างที่เขาลงแข่งในรายการที่แคนาดา
เฟเดอเรอร์ก็ได้รับข่าวร้ายทางโทรศัพท์จากโค้ช Lundgren
ซึ่งข่าวที่ได้รับนั้นทำให้เขาตกใจสุดขีด
นั่นคือ การที่คาร์เตอร์ อดีตโค้ชวัย 37 ปีของเขา
เสียชีวิตเนื่องจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
ในระหว่างการไปพักผ่อนที่แอฟริกาใต้
ซึ่งเฟเดอเรอร์เป็นผู้ขอร้องให้เขาไปพักผ่อนที่นั่นเอง
เหตุเกิดเมื่อรถจิ๊ปที่คาร์เตอร์เช่าไปขับเกิด
เสียหลักพลิกคว่ำบนสะพานและคาร์เตอร์ก็เสียชีวิตในทันที
วันเกิดปีนั้นเป็นปีที่เฟเดอเรอร์เศร้าโศกเสียใจเป็นที่สุด
และยังคงอยู่ในอารมณ์นั้นต่อมาอีกนานหลายเดือน
เฟเดอเรอร์บอกว่า
ปีเตอร์เป็นผู้ที่ให้ผมมากที่สุด
และผมก็ติดค้างเขาอยู่มากที่สุดเช่นกัน
ในตอนแรกนั้นประสิทธิภาพในการเล่นเทนนิสของเขานั้นยังคงตกต่ำลงมาอีก
จนกระทั่งเขาเริ่มที่จะฟื้นตัวจากความเศร้าโศกเสียใจได้ทีละเล็กละน้อย
พร้อมกับที่เขาพบวิธีแก้ปัญหาแบบใหม่
นั่นคือการสร้างช็อตที่น่าอัศจรรย์ของเขาขึ้นมา
ซึ่งเดี๋ยวนี้มันสมบูรณ์แบบมากขึ้นเพราะเขามีจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่
และยังประกอบด้วยทักษะที่ยากที่สุด
แต่ก็จำเป็นสำหรับนักกีฬาทุกคนที่ต้องการชัยชนะ
นั่นคือ
การฝึกให้มีสัญชาตญาณของนักฆ่า
สิบเอ็ดเดือนหลังการเสียชีวิตของคาร์เตอร์
เฟเดอเรอร์สามารถคว้าแชมป์แกรนด์ สแลมแรกของตัวเองได้สำเร็จ
ในการแข่งขันที่วิมเบิลดัน
ซึ่งเป็นชัยชนะที่ทำชื่อเสียงให้กับเขาได้มากที่สุด
เหนือกว่าชัยชนะอื่นทั้งหมด
หลังการแข่งขันจบลงเขาร้องไห้ออกมาอยู่พักหนึ่ง
แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงในขณะนั้น
ระหว่างความดีใจ ความภาคภูมิใจ และความโศกเศร้า
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเมื่อเขาได้แชมป์แกรนด์สแลมมาอีก 3 รายการ
เขาก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดออกมามากนัก
วันพรุ่งนี้มีแนวโน้มว่าเขาคงจะได้แชมป์แกรนด์ สแลม
อีกเป็นรายการที่ 5
แต่หากเขาต้องการที่จะแซงหน้าแซมพราส
ที่ได้แชมป์แกรนด์ สแลมทั้งหมดรวม 14 รายการ
เขาก็คงต้องมุ่งหน้าไปสู่ที่สูงและจะต้องปีนป่ายมันขึ้นไปให้ได้
แต่เขาเป็นชาวสวิสนี่นะ เพราะฉะนั้นเขาน่าจะรู้จักภูเขาได้เป็นอย่างดี
....ยังมีต่อตอนที่ 3....
Create Date : 12 ตุลาคม 2550
Last Update : 12 ตุลาคม 2550 19:58:50 น.
5 comments
Counter : 1420 Pageviews.
Share
Tweet
thank you so much for sharing the story na kha.
โดย: Rogina IP: 124.120.206.236 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:22:04:37 น.
แล้วแวะมาเยี่ยมเยียนกันบ่อย ๆ นะคะ
โดย: เวสาตรี (
เวสาตรี
) วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:17:05:35 น.
อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ
โดย:
nanny_nan
วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:12:53:03 น.
เรื่องราวชีวิตคน มักจะไม่ราบรื่น
แต่จากนี้ไป ให้น้องเฟดได้แต่ถ้วยๆๆๆ นะคะ
ถาดพอแล้ว
ขอบคุณคุณนุชสำหรับเรื่องดีๆๆ
อ่านเพลินลืมง่วงนอนเลย อิอิ
โดย: optical lens IP: 68.34.122.162 วันที่: 28 ตุลาคม 2550 เวลา:4:58:52 น.
อ่านแล้วน้ำตาซึมเหมือนกัน
โดย: เต่า IP: 203.146.71.174 วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:10:52:34 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เวสาตรี
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
Friends' blogs
Mrs.Unpredictable
ลูกแก้วใสกิ๊งระริ๊ง
YesterdayOnceMore
รวัลย์
yyswim
Webmaster - BlogGang
[Add เวสาตรี's blog to your web]
Links
FedEx
ATP
Tennis
Roland Garros
australianopen
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.