มองหน้าผมนานๆไม่กลัวท้องหลอ?
Group Blog
 
All Blogs
 
แอบ

“มานี่เดี๋ยวพี่เอ๋ทายาให้นะ” เธอเดินหายไปหลังเค้าเตอร์ สักพักก้อเดินกลับมาพร้อมกับขวดยาใส่แผลและกระดาษชำระม้วนเป็นแท่ง

“ไม่มีสำลีแต่คงใช้นี่แทนได้ แสบหน่อยนะ อ่อไม่หน่อยล่ะแสบมากๆเลย ห้ามเป่าล่ะ เดี๋ยวเชื้อโรคในปากจะลงไปที่แผล”
“เป็นไงล่ะเด็กซน เมื่อวานก้อเพิ่งเตือนไปเองนะว่าให้ขับรถดีดี ตรงใหนอีก”
ผมเริกขากางเกงขึ้น ถึงหัวเข่า โดยที่ไม่พูดอะไร
“อย่าโดนน้ำนะรู้มั๊ย เดี๋ยวจะอักเสพ”
พี่เอ๋พูดไปพลางเอายาทาไปที่แผลที่หัวเข่าของผม ผมอดไม่ได้ที่จะแอบมองใบหน้าพี่เอ๋ที่ตั้งใจทายาและปากก้อพูดสอนและเตือนผม อันที่จริงแล้วพี่เอ๋แก่กว่าผมแค่เพียงหนึ่งปีแต่ในสายตาพี่เอ๋มักจะมองผมเป็นเด็กๆเสมอ

ย้อนกลับไปเมื่อ 1เดือนที่แล้ว ผมได้รู้จักร้านกาแฟแห่งนี้ ด้วยเป็นคนที่ชอบทานกาแฟ กอรปกับในเมืองเล็กๆที่ผมอยู่มีร้านกาแฟไม่กี่ร้านนักที่บรรยากาศจะน่านั่งเท่ากับร้านี้ ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไร ในวันที่2ที่ผมมานั่งทานกาแฟที่ร้านนี้ผมได้เจอพี่เอ๋ และพูดคุยในฐานะ ลูกค้าและผู้ขาย แต่เนื่องจากผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือและพี่เอ๋ก้อคงเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือเช่นกันทำให้ทุกวันที่ผมมาที่ร้านกาแฟแห่งนี้ เราจะมีเรื่องคุยเกี่ยวกับหนังสือหรือไม่ก้อ เรื่องทั่วๆไป

โต๊ะกาแฟนอกร้านด้านในสุด ติดริมระเบียงมีแสงไฟจากโคมไฟดวงเล็กๆเป็นที่นั่งประจำของผมในช่วงเวลาหลังเลิกงานทุกวัน พี่เอ๋เองก้อมักจะมานั่งที่ม้านั่งยาวหันหน้าออกถนนมีกระจกใสบานใหญ่กั้นระหว่างข้างในกับข้างนอก เธอมักจะมานั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งปักครอสติส บ่อยครั้งที่ผมพักสายตาจากการที่นั่งอ่านหนังสือที่หยิบมาจากชั้นหนังสือภายในร้าน แล้วมองไปรอบๆ ผมมักจะสบตากับพี่เอ๋และพี่เอ๋ก้อจะโปรยยิ้มอ่อนๆกลับมาให้เสมอ

“สั่งอะไรหรือยังเอ” พี่เอ๋เห็นผมนั่งเอกขเนกอยู่บนโชฟาสีแดงภายในร้าน
“ไม่ทาน...ไม่อยากทานจะมานั่งเล่น ได้มั๊ย” ผมตอบพี่เอ๋ไปด้วยท่าทางยียวน แต่ความจริงผมสั่งสปาเก็ตตี้กับพี่น้ำไปแล้ว พี่เอ๋แอบชำเลืองดูในบิลแล้วก้อหันมา ค้อนผมว่า
“เดี๋ยวตีตายเลยเด็กคนนี้”
“หิวหรือไง” ผมไม่ตอบแต่ยักคิ้วให้พี่เอ๋ พี่เอ๋อดยิ้มกับท่าทางกวนๆของผมไม่ได้แล้วเธอก้อเดินไปดูลูกค้าคนอื่น
ถ้ามองเผินๆ จะไม่รู้เลยว่าพี่เอ๋อายุ34ปีแล้ว ด้วยรูปร่างเล็ก และผมซอยสั้นทำให้พี่เอ๋ดูอ่อนวัยกว่าอายุจริงอยู่หลายปี

ความจริงแล้วพี่เอ๋มีแฟนแล้วเป้นคุณหมอซึ่งผมเจอบ่อยๆในช่วงค่ำๆที่ร้าน ผมเคยลองถามตัวเองว่าผมคิดอะไรกับพี่เอ๋หรือเปล่า
คำตอบคือ “เปล่า ผมไม่ได้คิดอะไร” แต่แค่รู้สึกดีที่ได้คุยและได้เห้นหน้าพี่เอ๋

“แผลเป็นไงบ้างเอ” พี่เอ๋ถามผมหลังจากที่จัดการธุระเสร็จ
“ดีขึ้นแล้วน่ะคุณ ไกลหัวใจน่ะ” ผมตอบขณะที่ก้มหน้าจดงานอยู่บนเก้าอี้สูง
“ไม่ทำงานหลอวันนี้ ? “
“ทำฮะเพิ่งไปธุระกลับมาร้อนมาก”
“เดี๋ยวฝนคงตกนะพี่เอ๋ว่า ดูสิมืดมาเชียว อย่าไปโดนฝนอีกล่ะเดี๋ยวจะไม่สายเอาอีก แต่ถ้าไสบายก้อมาที่ร้านนะ พี่เอ๋มียา” พี่เอ๋พูดขณะที่ยังสารวนอยู่หลังเค้าเตอร์ชงกาแฟ
“เอ..พี่เอ๋ลืมอีกแล้ว เมื่อวานปิดร้านไม่มีเวลาไปใหนเลย ทำแต่ธุระส่วนตัว ไปหาหมอฟัน ...อะไรนะที่เอบอกน่ะ” พี่เอ๋คงดูในบิลว่าผมสั่งอะไรทาน
“ชีสแห้ง คาร์ฟูอยู่ใกล้แค่นี้เอง เดี๋ยวผมไปซื้อให้ก้อได้” ผมตอบพี่เอ๋
“เอาน่า คราวหน้าได้กินแน่”

พี่เอ๋สารวนอยู่หลังบาร์กาแฟ ส่วนผมนั่งทานสปาเก็ตตี้ฝีมือพี่น้ำ ไปเรื่อยๆ จนได้ยินพี่เอ๋มายืนปัดโน่นปัดนี่อยู่ที่โต๊ะข้างๆแล้วถามผมว่า
“สงกรานต์ไปเที่ยวใหน พี่เอ๋ว่าจะไปเกาะช้าง”
“ไม่น่ะคุณ ไม่ชอบ คงไปกาญฯหลังสงกรานต์น่ะ”
“ พี่เอ๋ก้อไม่ชอบ เล่นกันแรงๆ”
“ที่ใหนๆก้อเหมือนกัน พัทยา เชียงใหม่” ผมพดเสริมแต่ยังคงก้มหน้าทานสปาเก็ตตี้
“เคยไปเชียงใหม่ด้วยหลอ ? “ พี่เอ๋ถาม
“ก้อเคยเมื่อก่อนแฟนอยู่เชียงใหม่ “
“แล้วตอนนี้อยู่ใหนล่ะไ พี่เอ๋รีบถามสวนด้วยความสนใจ
“เลิกกันแล้วน่ะคุณ เลิกกันนานแล้ว”
“แล้วตอนนี้ล่ะ” พี่เอ๋ยังคงยิงคำถามใส่ผม
“ก้อเพิ่งเลิกกับแฟนได้เดือนกว่าๆ”
“เสียใจมั๊ย? “ แน๊ะ ยังยิงคำถามใส่ผมไม่หยุด
“ก้อ....บ้าง” ผมตอบพลางยกไหล่ขึ้น
“ผู้ชายจะคิดอะไรมาก จริงมั๊ย?” พี่เอ๋พูดเหมือนกับให้ผมตอบว่าเห็นด้วย
“ไม่น่ะคุณ ถ้าเราคบใครซักคนแล้วมองไปถึง คำว่าครอบครัว” ผมหันหน้าไป ตอบพี่เอ๋
พี่เอ๋มีคำถามมาถามผมเรื่อยๆ ผมเพียงเล่าเนื้อความในอดีตส่วนหนึ่งให้เธอฟัง

“จะกลับแล้วหลอ” พี่น้ำถามขณะที่ผมสะพายกระเป๋าแล้วลุกจากเก้าอี้
ผมไม่ตอบแต่ยิ้มและพยักหน้าให้พี่น้ำ
“แผลเป็นไงมั่ง” พี่น้ำถามขึ้นอีกครั้งที่เห้นรอยแผลถลกที่ข้อศอกผม
“ดีขึ้นแล้วน่ะฮะ แต่ที่หัวเข่ายังตึงๆอยู่” ผมตอบพี่น้ำพลางควักเงินจ่ายค่าอาหาร
“วันก่อนพี่เอ๋ทายาให้เอง เก่งนะไม่ร้องซักแอะเลย” พี่เอ๋ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สูงข้างชั้นวางหนังสือพูดเชิงชมฝีมือตัวเอง
“ผมไม่ใช่เด็กแล้ว จะได้ทายาแสบๆแล้วร้องน่ะ” ผมหันไปค้อนพี่เอ๋บ้าง
“ ขับรถดีดีล่ะ เดี๋ยวจะต้องมาให้พี่เอ๋ทายาให้อีกไม่รู้นะ” เธอยังแซวผมไม่หยุดขณะที่ผมจะเดินออกจากประตู
ผมไม่พูดอะไร เพียงแค่ ยักไหล่แล้วทำหน้ากวนๆใส่พี่เอ๋ ทำเอาพี่เอ๋หัวเราะออกมา
“ดูเขาทำ ไปได้แล้ว” เสียงพี่เอ๋ดังไล่หลังก่อนที่ผมจะเดิน ออกจากประตู



Create Date : 30 มีนาคม 2549
Last Update : 30 มีนาคม 2549 14:32:34 น. 1 comments
Counter : 240 Pageviews.

 
แวะมาอ่านน่ะ อืม ยังไม่จบใช่ป่ะ

แล้วมามอง(จอคอมฯ)นานๆ ไม่ท้องอ่ะน๊า


โดย: นาราคำ วันที่: 30 มีนาคม 2549 เวลา:17:03:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Silverblue
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นานเท่าไรไม่รู้ที่ผมไม่ได้ เขียน Blog นี้ ซึ่งเมื่อก่อนผมมักจะใช้เวลาว่างช่วงทำงานนั่งเขียนเล่าเรื่องราว ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผม ผ่าน Blog นี้ แต่ท้ายสุดเรื่องราวๆต่างๆที่บรรจงบันทึกไว้ กลับถูกลบไปเพราะเหตุผลอะไรก้อชั่งมันเหอะ

จนวันนึงเมื่อนึกถึง Blog oได้ ผม จึงอยากกลับมาละบายและบอกเล่าเรื่องราว ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวตและเก็บไว้เป็นบันทึกส่วนตัวอีกครั้ง

เรื่องราวที่กล่าวขึ้นใน Blog นี้ สรุปไม่ได้ว่าเป้นเรื่องจริงหรือเรื่องที่กุขึ้น แต่เท่าที่จำได้ตัวละครที่กล่าวไว้ในเรื่องทั้งหมด มีตัวตนจริงๆ ซึ่งถ้าชื่อที่ผมกล่าวไปตรงกับใครโดยที่ไม่ใช่หรืออาจจะใช่ท่าน ผมต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย
Friends' blogs
[Add Silverblue's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.