ทาสรักนางเหมียว
ห่างหายจากการอัพบล็อคส่วนตัวไปนาน อันเนื่องมาจากหลายเหตุผล เมื่อวานนอนคิดเรื่องลูกสาวตัวเองค่ะ เราถ่ายรูปลูกสาวบ่อยๆ แต่บ่อยครั้งก็ต้องทยอยลบทิ้งไปเพราะพื้นที่การ์ดเต็ม ก็เลยมานั่งคิดว่า งั้นอัพลงบล็อคดีกว่า ไหนๆก็ไหนแล้ว งั้นทำบล็อคไดอารี่ให้นางไปเลยละกัน บล็อกนี้เราจะรวบรวมความรู้คู่เจ้านายไปด้วยเรื่อยๆนะคะ
ตอนนี้เรามีแมวเป็นของตัวเองแล้ว1ตัวค่ะ ต้องดูแลนางคนเดียวทุกอย่าง เพราะเราอยากเลี้ยงแมวมากมาตั้งแต่เด็ก ที่บ้านก็มีแมวแต่เรามีหน้าที่แค่เล่นค่ะ ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลทุกอย่างของเค้า เมื่อปี57 ได้โอกาสเลี้ยงแมว เลยคว้าโอกาสนั้นไว้ และล่วงเลยมาจนถึงวันนี้ (บ่อยครั้งรู้สึกว่าพลาดค่ะ)
การเลี้ยงแมวยากไหมสำหรับคนรักแมว คำตอบของเราคือ ไม่ยากค่ะ แต่การเลี้ยงแมวก็ไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าคุณสักแต่ว่าอยากเลี้ยง (อยากเล่น อยากให้มีสัตว์มาคลอเคลีย) บอกเลยว่าน้อยคนนักที่จะได้เลี้ยงแมวที่มีนิสัยชอบคลอเคลียคน และที่บอกว่ามันไม่ง่ายเลยคือ ภาระที่ตามมาของการเลี้ยงสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าติสซ์ และรักอิสระ เสรีภาพ ไม่ชอบการโดนบังคับ (อันที่จริงคือมันเข้าใจแต่เมินค่ะ) การเลี้ยงแมว1ตัว คุณต้องมีความรู้และความอดทนอย่างมหาศาล(สำหรับท่านผู้โชคดีที่ดันคว้าเจ้านายติสซ์จัดเข้ามาร่วมใช้ทะเบียนบ้านกับท่าน)
เจ้าของบล็อก เลี้ยงแมวตามหลักการทางการแพทย์นะคะ บางอย่างคนทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าเราแปลกก็ได้
มาเข้าเรื่องลูกสาวเรากันดีกว่า (เกริ่นก่อนว่า เราเลี้ยงนางในคลีนิคสัตว8เดือนค่ะ) เราไปรับนางมาจากบ้านคนที่เค้าไม่ชอบแมว แต่แม่แมวจรเข้าไปกินนอนและคลอดลูกในบ้านเค้า ป้าเค้าก็ยังใจดีให้ข้าวให้น้ำ แต่ไม่ได้ทำหมันนะคะ เค้าไม่มีเงิน แถมไม่ชอบแมวด้วย คุณลุงลูกค้าเห็นว่าเรากำลังจะไปดอดแมววัดเค้าเลยแนะนำให้เราไปดูแมวตัวนี้ก่อนค่ะ ตอนเห็นแวปแรก คือปิ้งเลยค่ะ ปิ้งสีแม่แมว (สีเปรอะไข่ไก่ น้ำตาล ดำ) เมื่อเห็นลูกแมวที่เหลือรอดเพียงตัวเดียว ก็แอบคิดไปไกว่า เมื่อมันโตขึ้นสีมันจะเป็นสีไข่ไก้เหมือนแม่(เราชอบแมวสีไข่ไก่ค่ะ หายาก)
รูปแรกคือ หลังจากไปวิ่งไล่จับนางอยู่นานแสนนาน (นางกลัวคนมาก) หลังจากจับนางมาก็เอาไปอาบน้ำในซิงค์ล้างหน้าร้านหมอ แล้วจับเข้าไปนอนกรงค่ะ ตอนเย็นเราไปซื้อเบาะให้นางอันนึง แต่นางมุดเข้าไปนอนใต้เบาะอาทิตย์นึงเลย
ดวงตากลมโต และสุขภาพที่ดีงาม
หลังจากเริ่มซี้กัน ก็เริ่มเดินสำรวจบ้านใหม่ (นางกลัวคนค่ะ นางจะอยู่แค่กับเรา) พักดูสุขภาพกัน7วันก็เริ่มตารางทำวัคซีนค่ะ ตอนเรารับมาป้าเค้าบอกว่าแมวอายุ5เดือนแล้ว แต่หมอบอกว่าเป็นไปไม่ได้เพราะฟันน้ำนมยังมีอยู่เลย และน้องตัวเล็กมาก น่าจะอายุราวๆ 3เดือนค่ะ
มาดูการทำสมุดวัคซีนที่ถูกต้องกันค่ะ (สำหรับมือใหม่ในการเลือกซื้อสุนัขหรือแมวที่เจ้าของฟาร์มบอกว่าทำวัคซีนให้แล้ว)
ในสมุดวัคซีนมีอะไรสำคัญบ้าง 1. สติ๊กเกอร์วัคซีน(วันหมดอายุ) เจ้าของควรจำให้ได้ว่าวัคซีนเข็มแรกฉีดของบริษัทอะไร ฉีดไปแล้วมีอาการแพ้ไหม(นั่งชวนหมอคุยไปค่ะ15-30นาที) รอดูว่าหน้าบวมตาบวม ไหม วัคซีนเข็ม2 ควรฉีดของยี่ห้อเดิม บริษัทเดิม จะได้ไม่ต้องมานั่งหาเรื่องคุยกับหมอทุกรอบค่ะ 2. ชื่อแพทย์และเลขทะเบียนหมอ (จริงๆ) เอาแค่ชื่อหรือนามสกุลก็ได้ค่ะ แล้วไปเปิดในเวปตรวจสอบรายชื่อสัตวแพทย์ //www.vetcouncil.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=183
(กดเข้าไป พิมพ์ชื่อ หรือนามสกุลก็พอค่ะ ตะกี้เรางงเป็นไก่ตาแตก ทำไมพิมพ์ชื่อกับนามสกุลและหาไม่เจอ ) 3. วันที่ทำการฉีดครั้งแรก และนัดครั้งต่อไป (ในคนที่ซื้อแมว สนใจแค่วันแรกที่ฉีดก็ได้ค่ะ ว่าตรงกับอายุที่คนขายแจ้งไหม มีการฉีดล่วงหน้า หรือเมาวันใส่เราไหม) ส่วนคนที่เลี้ยงแมวตัวเองอยู่ที่บ้านจำแค่ครั้งล่าสุดที่ไปฉีดก็พอค่ะ (จำไม่ได้ ระวังโดนเริ่มโปรแกรมใหม่นะคะ)
ส่วนในเรื่องของวัคซีน จะเห็นว่า2ช่องแรกของเราว่าง แต่ไปแปะช่องที่3แทน มันมีเหตุผลค่ะ
วัคซีนมีหลายทางเลือก มีทั้ง ฉีดรวมและแยก กรณีฉีดแยกคือ เอาให้ชัวว์ว่าจะไม่แพ้ตัวใดตัวนึง หรือบังเอิญแพ้คู่ กับอีกอย่างคือ วัคซีนเฉพาะโรคใครโรคมัน
ช่องแรก คือวัคซีนหัดหวัดแมว (ระบบทางเดินหายใจ) ฉีดได้เลยค่ะ สำหรับแมวที่ตรวจสุขภาะเบื้องต้นผ่านแล้ว (หัด+หวัด)รวมเป็น1เข็มสีของน้ำวัคซีนต่างกันแล้วแต่บริษัท
ช่องที่2 ต้องใช้ทริกนิดหน่อยค่ะ ไม่สามารถฉีดได้เลยในกรณีแค่ตรวจร่างกาย (วัคซีนนี้ไม่ควรฉีดให้แมวที่เป็นโรคนี้เป็นเชื้อแฝงค่ะ) ส่วนใหญ่หมอจะไม่ฉีดก่อนทำเทสค่ะ (ราคาเทสค่อนข้างแพง)
ช่องที่3 เป็นวัคซีนรวมค่ะ รวม3โรค คือหัด +หวัด และลิวคีเมีย (กรณีนี้ฉีดให้สำหรับแมวที่มั่นใจว่าไม่เป็นโรคค่ะ
(อีจี๊ เราเสี่ยงดวงค่ะ แต่ตอนก่อนทำวัคซีน พอดีตอนนั้นเจ้านายเราได้เครื่องตรวจเลือดมาลองใช้ฟรี ก็เลยเอานางมาเป็นหนูทดลอง ผลเลือดผ่านทุกตัว เม็ดเลือดปกติ ไม่มีการติดเชื้ออะไร)
ก็เลยเสี่ยงทำวัคซีนรวมเข็มเดียวเลยค่ะ เพราะราคาถูกกว่าฉีดแยกเข็ม (เราเกรงใจเจ้านายอะ ฉีดฟรี)
ส่วนช่องสุดท้าย เป็นวัคซีนพิษสุนัขบ้าค่ะ
*** แอบดีใจที่วัคซีนเข็สุดท้ายไปตรงกับวันเกิดไอดอลเกาหลีที่เราชอบค่ะ เลยจำง่ายว่า วัคซีนประจำปีต่อๆไปต้องไปฉีดในวันเกิดน้องแทคนะ (คิคิ)
(เรื่องโรคของแมวจะมาแปะที่หลังนะคะ)
ต้าจี๊ คือชื่อที่เราตั้งให้ค่ะ แต่เราพลาดที่ให้เจ้านายทำบัตรประชาชนแมวให้ (ฮีเปลี่ยนชื่อเองเสร็จสรรพ) พอดีตอนนั้นเจ้านายได้แอฟทำบัตรประชาชนแมวมา เราคุยกันว่า น่าจะทำให้ลูกค้านะ แบบฟรี10ใบแรกไรงี้ (เจ้านายเราจัดโปรฟรี100ใบแรกเลยค่ะ พวกบ้าจี้ก็งี้) แต่เราก็ต้องลองทำตัวอย่างใช่ไหมคะ เจ้านายเราเลยเอาลูกสาวเราไปทำบัตรใบแรกค่ะ (ตอนแรกปริ๊นมาแผ่นใหญ่มาก) เราก็บ่นๆ (จะบ้าเหรอ ใหญ่ขนาดนี้ใครจะพกกัน ทำทั้งที่ทำให้มันเท่าบัตรคนสิ จะได้ลงกระเป๋าเงินได้) แล้วในที่สุดเราก็ได้บัครประจำตัวประชาชนแม้วแบบเท่าขนาดจริงมาค่ะ (บ่นราวกับเป็นเจ้านายของเจ้านายอีกที ดีไม่โดนหักเงินเดือน)
เมื่อได้บัตรอ่อนมา เราถึงกับอึ้งค่ะ (หมอ!!...อีจี๊ไม่ได้ชื่อนี้นะ...แล้วนามสกุล...โอ้ว!!
แต่มันเป็นบัตรฟรี(กลัวเจ้านายงอน) ก็เอาฟะ เอาตามนี้แหละ เมื่อได้บัตรมา ก็ข้ามถนนไปเคลือบบัตรที่ร้านเพื่อนค่ะ (เพื่อนขำ ถึงขั้นทำบัตรกันเลยทีเดียว
ลงรูปลูกสาวตอนเด็กดีกว่า (รูปน้อยมากเพราะโทรศัพท์เสียแล้วการ์ดเสียด้วย)
เกิดเป็นแมวคลีนิคต้องอดทนนอนในกล่องสริงค์เข็มฉีดยา เล็กแค่ไหนหนูก็นอนได้
ยามว่างของหมู่เฮ่า
ครั้งหน้าจะมาสอนวิธี ฝึกแมวให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติค่ะ จี๊ถูกฝึกให้เป็นแมวอัธยาศัยดี
Create Date : 27 มิถุนายน 2559 |
Last Update : 27 มิถุนายน 2559 20:08:21 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2346 Pageviews. |
|
|
น่ารักดีนะคะ..น้องแมว...หง่าวๆๆ