Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องของ “ตีน!”

ตีนของผู้มีบุญ.......


เมื่อวันศุกร์ที่ ๙ เมษายน ของเดือนนี้ล่ะ ในที่สุดปีก็พาฉันไปหามาร์ตินหลังจากที่ฉันคิดว่าปีคงจะลืม ฉันเองก็งอนจนลืมไปแล้วเหมือนกัน แต่อยู่ๆ เย็นวาน ปีก็นัดแนะเวลากับฉันซะงั้น
“บ่ายโมงที่เจอกันที่ออฟฟิตนะ”
“อะไร ทำไมหรือ?”
“ก็ไปหามาร์ตินงัย เรื่องเท้าเธอน่ะ”
“......”
ฉันยิ้มอิ่มใจที่ปียังไม่ลืม นี่เขายังห่วงใยฉันอยู่.... ฉันก็ผู้หญิงธรรมดาแม้จะพยายามทำความเข้าใจกับชีวิต บางทีก็เห็นๆ ข้อเท็จจริงอยู่แท้ๆ แต่ฉันก็ยังอดยกเอาใจตัวเป็นใหญ่ไม่ได้



ฉันมีปัญหากับตีน เพราะตีนฉันเป็นตาปลาตรงช่วงอุ้งปลายตีนมาสองสามปีแล้ว ไปหาหมอทั้งผ่า ทั้งจี้ มันก็ยังขึ้นมาอีก จนหนสุดท้ายหมอเลยลงความเห็นว่ามันคงเป็นโดยสันดาน เอ๊ยไม่ใช่ มันคงเกิดเพราะสาเหตุอื่นๆ แล้ว
“ที่บ้านเป็นพื้นไม้หรือพื้นปูนครับ”
“พื้นไม้ กะกระเบื้องค่ะ”
“คุณทำงานอะไรครับ”
“เอ่อ... แม่บ้านค่ะ”
“ปกติเดินนานแค่ไหนครับ”
“เอ่อ... แทบไม่ได้เดินเลยค่ะ ในแต่ละวันเดินมากหน่อยก็หนึ่งชั่วโมงค่ะ”
คุณหมอชะงัก เงยหน้ามองฉันเล็กน้อย เดาอารมณ์ว่า (มันล้อกูเล่นเปล่าวะ)
“คุณใส่รองเท้าเดินในบ้านหรือเปล่า”
“ไม่ได้ใส่ค่ะ”
“งั้นคุณต้องลองใส่นะครับ ที่มันเป็นไม่หายนี่ น่าจะเพราะการเสียดสี หารแพ้... หรืออีกทีอาจเพราะใส่รองเท้าไม่เหมาะกับเท้า บลา บลา .. ยังไงลองใช้แผ่นรองเท้าดูนะครับ”
“ค่ะ....”



ทันทีที่จ่ายค่ารักษาเสร็จ ฉันตรงรี่ไปที่ช็อป... ที่เค้ามีแผ่นรองเท้าเพื่อสุขภาพขาย ฉันไม่มีเหตุที่ทำให้รู้ให้เข้าใจกับเรื่องนี้มาก่อนดอก นึกว่าไปชี้ๆ ลองๆ ใส่ก็ใช้ได้แล้ว แต่ปล่าว มันต้องแสกนเท้า ดูการวางน้ำหนักเท้า ... และรายละเอียดอะไรอื่นๆ ประกอบเข้าด้วยกันอีก เจ้าหน้าที่ประจำช็อปให้ฉันยืนบนเครื่องแสกนที่มีรูปร่างยังกะตาชั่งยุคไฮเทค
“ของพี่ต้องใช้รุ่น... นี้ เท้าแบนน่ะพี่”
เธอหันไปหยิบแผ่นรองเท้าพร้อมยื่นมันมาให้ฉันได้ลอง
“อย่างนี้ พี่จะมีปัญหา เป็นตาปลา ปวดเข่า ปวดขา ปวดเอว... บลา บลาฯ นะคะ เอ้าพี่ลองใส่ดู ของพี่น่าจะเป็นไซด์นี้”



ฉันรับมันมาลองสวมเข้าไปในรองเท้าแล้วสวมเท้าทับไปอีกที เออแน่ะ มันรู้สึกดีแฮะ
“เอาค่ะพี่ ทีนี้พี่ลองถอดมันออกก่อนค่ะ เดี๋ยวหนูจะทดลองอะไรให้พี่ดู”
ฉันทำตามเธออย่างว่าง่าย
“พี่ลองยืนกางขานิดๆ นะพี่ แล้วเอามือประสานกันหงายไว้รับกำปั้นหนูนะคะ หนูจะทิ้งน้ำหนักตัวทดสอบสมดุลของพี่ค่ะ”
ทันทีที่เธอกดน้ำหนักตัวลงมา ฉันเซทันที
“เอาอีกทีค่ะพี่ ทีนี้.... (อะไรอีกก็ไม่รู้ อีกสองท่า ฉันลืมไปแล้ว)”
ในทุกท่าที่เธอทำการทดสอบฉัน ฉันเสียสูญ เสียดุลหมด เธอเริ่มใหม่คราวนี้เธอให้ฉันลองใส่แผ่นรองเท้าที่ว่านั่นแล้วทำการทดสอบแบบเดิม เออแน่ะ ฉันนิ่งไม่เซ ยืนได้นิ่งไม่มีเอนไม่มีเอียงดีแฮะ.... และด้วยการทดสอบเพียงเท่าที่ว่า ฉันก็จำต้องควักตังค์จ่ายค่าแผ่นรองเท้าเพื่อสุขภาพนั่นเกือบแปดพันบาท



เนื่องจากเมื่อเร็วๆ มานี้ มาร์ตินปรึกษาหารือกับปีเรื่องซื้อบริษัทผลิตแผ่นรองเท้าเพื่อสุขภาพ ปัญหาเรื่องตีนของฉันจึงถูกปีหยิบยกขึ้นมาปรึกษากับมาร์ตินอีกครั้ง


มาร์ตินให้ฉันถอดถุงเท้าแล้วจับเท้าฉัน พลิกซ้าย พลิกขว่า กลอกตาดูตรงนั้น ตรงนี้ แล้วก็บอกเออใช่เท้าเธอแบนน่ะ
“มันทำให้เธอมีปัญหาล่ะ”
มาร์ตินหันไปพยักหน้าให้ปี บอกกล่าเพื่อนอย่างการันตรีว่ามันเป็นปัญหาแน่ๆ
“เธอมักบ่นปวดเข่าด้วย มันเกี่ยวกันหรือเปล่ามาร์ติน”
“ถอดกางเกงออกซิ”
มาร์ตินสั่งฉันแล้วหันไปเตรียมอะไรกุกกิก ในความช็อกฉันหันไปมองปีเพื่อขอคำแปลที่แน่ๆ อีกทีว่านี่ฉันฟังผิดเปล่าวะ
“ใช่ มาร์ตินให้เธอถอดกางเกง”
ปีหันมาบอกยิ้มๆ กับฉันอย่างเข้าใจกับความเป็นไทยที่แฝงอยู่ (แม้จะน้อยนิดก็ตาม) มาร์ตินหันมาทำหน้าเหลอหลาจนปีต้องอธิบายมาร์ตินเสียหน่อยว่าฉันยังไม่ชินที่อยู่ต้องถอดเสื้อถอดกางเกงต่อหน้าใคร มาร์ตินส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ ไม่เห็นเหตุที่จะต้องอายเลย ในที่สุดฉันก็ต้อง....ถอด... อายแสนอาย ไม่เข้าใจทำไมต้องถึงขั้นต้องถอดกางเกงด้วยวะ ตรวจเข่านะโว้ยไม่ใช่ตรวจภายใน!



“แล้วหมอบ้านเธอเค้าตรวจกันยังงัย?”
มาร์ตินถามฉันอย่างหมั่นไส้เล็กๆ งงหน่อยๆ กับความอายของฉัน
“จะดูว่ามันมีปัญหาอะไร ก็ต้องดูความเกี่ยวข้องกันทั้งหมด ไม่ว่าจะกล้ามเนื้อ..... บลา บลา..... แล้วถ้าเธอไม่ถอดแล้วจะเห็นได้อย่างไร?”
มาร์ตินฉายหนังยาว
ในแง่ของฉันก็ต้องบอกว่า คุณเอ๊ยยยยยย เพิ่งเคยเจอ


ในขณะที่ฉันนอนเปลือยท่อนขาให้มาร์ตินตรวจ มาร์ตินก็จับพลิกตรงโน้นเล็งตรง อิฉันก็อดเสียวไม่ได้.... เอิ๊ก......
“เธอถนัดข้างไหน ข้างซ้าย?”
“ข้างขวา”
“.......”
“เวลาเธอกระโดด เธอใช้ขาไหน”
“..........”
เจอคำถามนี้เล่นซะฉันงงเต๊ก ไม่เคยสังเกตุตัวเองสักที จะไปรู้ได้งัยวะ มาร์ตินจับลูกสะบ้าฉันโยกเล่นอยู่พักหนึ่งก็บอกว่า ข้อเข่าเธอหลวมมากถ้าปล่อยไว้อีกหน่อยแย่แน่ๆ
“เธอเล่นกีฬาอะไร”
“ไม่อะ ฉันไม่ได้เล่นอะไรเลย จะมีบ้างก็ตามปีไปปั่นจักรยานบางครั้งบางคราวทั้งนั้น”
“.......”
มาร์ตินมองฉันอย่างแปลกใจ
“ชีเล่นนั่งอยู่แต่หน้าคอมทั้งวันน่ะมาร์ติน”
ปีได้จังหวะแทรก
“เธอต้องปั่นจักรยานให้ได้อย่างน้อยวันละชั่วโมงนะ ให้กล้าเนื้อท่อนขาบนแข็งแรงมันจะช่วยได้”
มาร์ตินแนะนำ ปียิ้มร่า
“เห็นมั้ย เธอต้องปั่น ปั่น ปั่น”



ตรวจเช็กร่างกายเรียบร้อย มาร์ตินก็เริ่มตรวจเช็ก วิจัยด้วยเครื่องตรวจวัดอันทันสมัย (หรือเปล่าไม่แน่ใจ อิอิ) เริ่มจากฉันต้องเดินผ่านแผ่นจับการก้าวย่าง ให้ได้ทั้งซ้ายขวา มาร์ตินให้ฉันเดินอยู่ห้าหกรอบเพื่อดูความแน่นอน เสร็จแล้วมาร์ตินก็ให้ฉันยืนบนเครื่องแสกนเท้าอันเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการค้นหาปัญหาของฉัน

มาร์ตินเรียกให้ฉันกับปีไปดูที่จอมอร์นิเตอร์ แล้ววินิจฉัยให้ฟัง จากจอภาพ โปรแกรมฉายให้ฉันเห็นสเต็ปการเดินของตัวเอง มาร์ตินชี้ให้ดูการทิ้งน้ำหนักไปเฉพาะส่วนอย่างขาดดุลที่ควรจะเฉลี่ยให้ทั่ว พูดให้เข้าใจง่ายอีกหน่อยก็คือควรจะวางน้ำหนักตัวให้ทั่วเท้า แต่ของฉัน ฉันลงน้ำหนักเท้าไปที่ส้นเท้า แล้วข้ามไปปลายเท้าเลย .......... บลา บลา อะไรอีกก็ไม่รู้ เพราะปีไม่ยอมแปลทุกเม็ด อีกทีก็คือฉันแปลศัพท์ภาษาแพทย์ไม่ถูก หุหุ



วินิจฉัยกันเสร็จแล้ว มาร์ตินก็ปริ๊นภาพตีนออกมาให้ฉัน โฮ้......... ตื่นเต้นๆ ฮ่าๆ ก็แหมนะ สมัยฉันยังเล็กๆ เพิ่งคลอด แม่ฉันก็ไม่ได้เก็บภาพไว้ให้ได้เห็นว่าอีตอนหอยใหญ่กว่าฝาตีนมันมีรูปร่างยังไง ได้แต่แอบอิจฉาเด็กรุ่นใหม่ที่พ่อแม่มักจะพิมพ์ไว้ให้ลูกๆ ได้ดู วันนี้ไม่อิจฉาแระ แม้จะเห็นอีกทีตอนตีนใหญ่กว่าหอย อิอิ


มาร์ตินเรียกคนที่บริษัททำแผ่นรองเท้าเพื่อสุขภาพมารับข้อมูลของฉันเพื่อไปตัด จัดทำให้ฉัน และในอีกห้าวันต่อมาปีก็หิ้วมันมาให้ฉันทดลองใช้ พร้อมคำสั่งแพทย์มาร์ตินให้ฉันใส่เดินให้ได้สามชั่วโมงต่อวัน แล้วค่อยไปตรวจวัดดูผลกันอีกทีในอีกสองอาทิตย์ถัดไป
โห้................. เรื่องมันยาว


อยู่เอาเรื่องตีนมาเล่าสูฟัง เพื่อนฝูงคงแปลกใจอยู่ไม่น้อย ช่วงนี้ฉันห่างหายไปจากห้องแชทมาระยะหนึ่ง จะว่าไปตามจริงก็คงตั้งแต่การเมืองเริ่มดุเดือดขึ้นอีกครั้ง มันตรงกันอย่างบังเอิญ............ อิอิ เพื่อนฝูงที่เคยได้พูดคุยผ่านตัวหนังสือทายทักเข้ามา “เป็นอะไร ทำไมอยู่ๆ หายไป” ฉันจะอธิบายว่าฉันต้องเดินวันละสามชั่วโมง (คือต้องห่างคอมสามชั่วโมงน่ะ) และช่วงนี้ก็ไม่รู้เป็นอย่างไรธุระปะปังมันมารุมพิลึก อธิบายความเป็นมาเป็นไปยาวๆ กับเพื่อนทุกคนคงไม่ไหว เพราะพอบอกเล่าให้ฟังปุ๊บ ก็แทบจะไม่มีใครรู้จักโรคเท้าแบนเลย คนสองภาคเลยถือโอกาสเอามาบอกเล่าสู่กันฟัง แต่ก็อย่างเคยนั่นล่ะนะ คนอ่านบล็อกนี้ต้องเข้าใจว่าอ่านอะไรก็ชั่งในบล็อกนี้ ต้องไปกรองเนื้อหากันเองอีกที เอิ๊กๆ


ได้ยินเค้าว่าคนตีนแบนนี่คนมีบุญ มันใช่บุญอันเดียวกันมั้ยนิ๊


“โรคเท้าแบนส่วนหนึ่งมาจาก พันธุกรรม ส่วนหนึ่งมาจากสรีระของเท้าที่ผิดเพี้ยนไป สาเหตุของอาการปวดเข่า ปวดขา หรืออาการปวดส่วนอื่นๆ ซึ่งมีการวิจัยว่าแผ่นรองเท้าเพื่อสุขภาพสามารถช่วยจัดเรียงตัวของโครงสร้างกระดูก เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ ให้เป็นไปตามหลักกายภาพ เพื่อการเคลื่อนไหวของร่างกายที่สมดุล”
ย่นย่อมาจาก //www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=2301



้อ้อ.. นึกออกว่าตัวเองอยากจะโทษเหตุที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นเพราะสมัยก่อนฉันอยู่บ้านไม้ ผู้ใหญ่ก็จะคอยปราม คอยสอนให้เดินอย่างแมว ฉันต้องคอยย่องๆ เดินด้วยปลายเท้า ....


และพอกาลต่อมา ถึงคราวัยทำงานก็ต้องส้นสูง

ฉันว่านะตั้งเพราะไอ้สองสาเหตุนี้แน่ๆ เลย หุหุ

อะนะฉันก็มนุษย์ขี้เหม็นคนหนึ่ง หาเรื่องแก้ตัวไปได้เรื่อย เค้าว่าเรื่องโยนขี้ให้คนอื่น ไม่มีสัตว์ชนิดไหนเก่งไปกว่าคนแล้ว......


Create Date : 19 เมษายน 2553
Last Update : 19 เมษายน 2553 20:29:00 น. 31 comments
Counter : 1242 Pageviews.

 
วันนี้อ่านบล็อกคุณก๋า สะดุดหน้าแทบคว่ำกับประโยคที่ว่า "การมีชีวิตอยู่อย่างหลับไหล" .....

รู้สึกร้อนเนื้อ ร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก ๕๕๕+ กำลังสงสัยอยู่ว่าตัวเองใช้ชีวิตอย่างนั้นอยู่หรือเปล่า.....

แต่ก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ หลับหรือเปล่า....
เราก็ว่าเราไม่หลับนะ

แต่เรายังจับทิศทางตัวเองไม่ได้ต่างหาก.... เอ๊ะใช่หรือเปล่า....????


น่าขายหน้าเหมือนกันนะ อายุก็ปานนี้แล้ว ยังหาหนทางแห่งตนไม่เจอเลย... เฮ้อ...........


โดย: คนสองภาค วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:19:34:30 น.  

 
สวัสดีเพคะ เคี้ยกเคี้ยก XD


โดย: yosita_yoyo วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:19:44:30 น.  

 
เเวะเข้ขามาทักทายกันน่ะค่ะ

กู๊ดไนท์น่ะ


โดย: ยังไงก็น้อง วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:23:14:47 น.  

 
หวัดีตอนดึก ๆ ค่ะพี่แมว
โธ่ ถ้าแค่หลงทางปายบ่ยั่นอยู่แล้ว
แต่นี่หลงด้วย น้ำหมดก็หมดอีก
ดีที่ในโลกนี้มันมีระบบ GPS
ไม่งั้นปายตายเลยค่ะพี่
มันคงน่าหงุดหงิดใจ
ไม่น้อยไปกว่าตาปลา
ที่ตามล่าหาวิธีรักษายังไงก็ไม่หายขาดเป็นแน่แท้
โยง GPS ไปเกี่ยวกับตาปลาของพี่ได้ไงเนี่ย
...
นิทราสวัสดิ์นะคะ ฝันดีค่ะพี่


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:0:53:48 น.  

 
อืมมมมมมม

กลิ่นตุๆนะ

คิกๆๆ


โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:18:01:20 น.  

 
ใครจะล้มสถาบันนะ?


ล้มแล้วยังไง?



โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:23:16:08 น.  

 
ปายจบนิเทศค่ะพี่แมว
แต่ทำงานแต่ละแนว ไม่ใช่ที่ถนัดเลยสักอย่าง
แต่ปายก็อาศัยความรู้รอบแถ ๆ ไปอ่ะค่ะ พอเอาตัวรอดได้
พ่อกับแม่ให้ทำอะไรเราก็ทำไป
เพราะถ้าไป "เอ๊ะ" เดี๋ยวก็โดนว๊ากอีก


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:0:04:06 น.  

 
โอ้ยโย๋



โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:2:33:21 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ

โหยยย --- ดูพี่เป็ดแกตั้งคำถามสิครับ

ปล. อ่านบล้อกนี้จบ
ผมก้มลงตรวจสอบสภาพเท้าตัวเองทันทีเลยครับ 555








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:7:55:16 น.  

 


โดย: zyberbeing วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:9:42:40 น.  

 
เมื่อคืนจะวิ่งมาอีกรอบ ก็มัวแต่ติดคุยเอ็ม
เรื่องใบปลิวแดงล้มสถาบัน ที่แปะกันเกลื่อน
ไม่รู้คนแปะใบปลิวคิดอะไรอยู่
วิธีการต่อสู้อย่างอื่นไม่มีแล้วหรือไงกัน
...
คนไทยเรานอกใจยิ้มเก่งแล้ว
...
ก็ยัง..รักสถาบัน เชื่อมั่นอุดมการณ์ (ของใครของมัน)
อ่อนไหว ใจหวั่น ปันใจให้แกนนำ (ของใครของมัน)
เดี๋ยวสถานการณ์ก็จะยิ่งอุรุงตุงนังไปกันใหญ่
...
แต่ดูไปถ้าเปรียบเป็นมวยคู่ก็สูสี
ฝั่งรัฐบาลท่านมีคำพูดเพราะดี ..ว่าขอคืนพื้นที่
ฝั่ง นปช เค้าก็มีคำพูดเพราะดี ..ว่าจะไม่ไปสีลมแล้ว
เพราะรัฐบาลส่งทหารไปยึดไว้หมดแล้ว
รอให้รัฐบาลถอนทหารเมื่อไหร่
นปช แดงทั้งแผ่นดินเคลื่อนขบวนไปเยี่ยมให้กำลังใจ
...
เกมส์นี้ทางรัฐบาลคงต้องเหนื่อยหากลยุทธ์กันหน่อย
ส่วนแดงเค้าก็อาศัยตามเกมส์
น่าลุ้นนะคะเนี่ยพี่แมว


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:12:56:26 น.  

 
ปายไม่ได้เคี่ยวนะพี่แมว แต่อีตาอหิงสาเค้าเค็มก่อนอ่ะ

ปายก็เสียเซลฟ์เหมือนกัน เจอคนแบบนี้

ทีแรกนึกว่าสวยละตรู เจรจาไม่สำเร็จ บอมส์ลงแน่

ความที่เราเป็นพวกหัวคิดอะไร ปากไปแบบนั้นอยู่ด้วย

กลายเป็นรอดตัวไป ปายโล่งอกมากเลยค่ะพี่


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:17:26:58 น.  

 
^
^
^






โดย: คนสองภาค วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:17:45:26 น.  

 
สวัสดีครับ

คืนนี้ ต้องระวังกันอีกแล้วนะครับ



โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:20:40:08 น.  

 
ฮ่ะๆๆ

แพนด้าแดง



โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:21:01:16 น.  

 
เมือ่ก่อนผมก็เคยเป็นคนช่างฝันนะครับ
จินตนาการบรรเจิดเลยครับ 5555


แต่พอเราผ่านความทุกข์มาในระดับหนึ่ง
ผมว่าเราจะฝันน้อยลง
แล้วก็มองโลกอย่างที่มันเป็น
ไม่ใช่อย่างเราอยากจะฝันอยากเห็น

ปัญหาเดียวถ้าจะมีก็คือ
ถ้าความจริงมันโหดร้าย
แล้วเรากล้ารับความจริงนั้นได้
บางทีเราอาจไม่ต้องการความฝันวันเก่ามาชุบชูใจแล้วล่ะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:21:01:18 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ตามมาจากบ้านคุณอัยย์ค่ะ

อ่านแล้วชอบค่ะ สนุกดี


โดย: ข้าวกับดิน วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:6:49:31 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:8:16:46 น.  

 
วันนี้งานยุ่งทั้งวันเลยค่ะพี่
แทบไม่มีเวลาแว่บเข้ามาเลย
เข้าได้ผลุบ ๆ โผล่ ๆ เป็นวิญญาณเลย อิอิ


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:17:36:43 น.  

 
แสดงว่าเป็นกังวลกับสถานการณ์มาก
โดยไม่รู้ตัว น้องขอแนะนำให้บริโภคสื่อ
ลดลงเล็กน้อยถึงปานกลางค่ะ ^----^
เพราะข่าวตึงเครียดแบบนี้ ถ้าเรารับเข้าไป
มาก ๆ มันจะทำให้เราเครียดไปด้วยนะคะ
พี่แมว พวกเราทำได้แต่ส่งกำลังใจ
เพราะสภายังไม่ยุบ
ถ้ายุบ...เราก็ไปทำหน้าที่ใช้สิทธิกันต่อไป
ตอนนี้คงได้แต่ภาวนา ว่าอย่ามีอะไรรุนแรง
มากไปกว่านี้เลย
...
ไม่เครียดนะคะพี่สาว
Take care ka.


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:19:47:26 น.  

 
แม่น้องข้าวเป็นนักอ่านค่ะ เป็นนักเขี่ยได้นิดหน่อย แต่เป็นนักเขียนไม่ได้ค่ะ เวลาคิดอยากเขียน ไอ้ที่ตั้งใจเอาไว้พอเอาเข้าจริงๆกลับเขียนไม่ออกเลย หล่นหายไปไหนหมดก็ไม่รู้



แต่ชอบอ่านที่เพื่อนๆเขียนกันค่ะ ได้อ่านเรื่องสนุกๆ ได้คุยกันด้วย ชอบค่ะ


โดย: ข้าวกับดิน วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:20:13:27 น.  

 
โรคนี้เป็นแล้วรักษายากนะคะ
ไงก้อเอาใจช่วยให้หายไวๆ นะคะ

ปอแวะมาเสิร์ฟกาแฟยามค่ำค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ



โดย: Butterflyblog วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:20:58:22 น.  

 
ระเบิดสีลม

ตายไปหนึ่ง

ก็ว่ากันไปเนอะ


โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:22:22:03 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ


สีลม = สมรภูมิครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:8:03:42 น.  

 
ปอแวะมาเสิร์ฟเครือ่งดื่มยามบ่ายที่อากาศร้อนแสนร้อนค่ะ

ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ งุงิ ^ ^


โดย: Butterflyblog วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:14:25:38 น.  

 
พี่แมวเจ้าขา...ปายมาจัดแถลงข่าว

ต่อกรณีที่ว่าปายเจ้าชู้อ่ะ ไม่จริ๊งงงง ไม่จริง

แค่ไม่ทำตัวปิดกั้นตัวเอง เองค่ะพี่

สาบานได้ว่าไม่ได้ไปเผลอทำพฤติกรรมอะไร

ให้ใครเค้าเข้าใจผิดแน่นอน

แต่ปายชอบคบเพื่อนแลกเปลี่ยนทัศนะกันเท่านั้นเอง

แล้วก็เรียกเพื่อนให้มันอินเทรนนิ๊ดส์นึง อิอิ

...

มีความสุขอิ่มอร่อยกับมื้อเย็นนะคะพี่สาว


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:18:48:22 น.  

 
ผมคิดว่าเม้นท์ของพี่คนสองภาค
มีประโยชน์กับเพื่อนบล้อกทีไ่ด้อ่านนะครับ
อย่างน้อยที่สุด
เราก็ควรจะให้อภัยคนที่เราเกลียดได้
ยังพูดคุยกันได้...

เพื่อนผมเคยเลิกกับแฟน
แล้วเขานั่งด่าผู้หญิงให้ผมฟังนานครึ่งชั่วโมง
พอเขาเงียบ
ผมเลยถามกลับไปว่า

"ถ้ามรึงดีแบบนี้ แล้วเธอเลวแบบนั้น
เธอจะเลิกกับมรึงทำไม ?"

เพื่อนผมอึ้งเงียบไปเลยครับ 555

ผมว่าเมื่อความรักจบ
ก็จบกัน
จากกันด้วยดีหรือไม่ดี
ก็อย่ามานั่งด่าทอกันมาทีหลังเลย....




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:21:06:35 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:8:05:43 น.  

 
อ่านเรื่อง "ตีน" จบจนได้
นี่เราก็นั่งหน้าจอคอมฯ จนไหล่อักเสบ
ซื้อยามากินเอง
ถ้าเกิดไปหาหมอ จะให้เราถอดเสื้อผ้าหรือเปล่านี่


โดย: ไกลเกินใจสายเกินแก้ วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:8:19:59 น.  

 
มาชวน จขบ ไปสนามหลวง 2 ด้วยกันตอนสายๆค่ะ

ขอให้ทุกวันเป็นวันดีๆของคุณนะคะ


โดย: cd2lucky วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:8:19:59 น.  

 
ช่วงนี้เมืองไทย สถานการณ์งวดเข้าไปทุกทีแล้วเนาะ

ลุ้นๆๆ



โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:13:37:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนสองภาค
Location :
Praha, Czech Republic

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




****คนสองภาคใช้ชื่อนี้เฉพาะในพันทิปและบล็อกแก๊งแห่งนี้เท่านั้น****


จากใจสู่ใจเพื่อนบล็อก

ขอเกริ่นออกตัวก่อนว่าคนสองภาคเป็นเพียงผู้ด้อยการศึกษา ดังนั้นไม่การันตีในความสุภาพของคำพูดคำจา

นอกจากนั้นคนสองภาคค่อนข้างเป็นคนลมเพลมพัด หากเพื่อนคนไหนแวะเข้ามา อยากเม้นต์ก็เม้นต์ อันไหนที่ไม่สะดวกเม้นต์ ก็ไม่ต้องเกรงใจค่ะ เพราะคนสองภาคเองท่องไปเรื่อย เจอตรงไหนอยากแจมก็แจม ตรงไหนคนสองภาคไม่รู้จะแจมอย่างไร คนสองภาคเองก็ไม่ได้ทิ้งรอยไว้เช่นกันค่ะ


***** คนบล็อกนี้ต้านเผด็จการ และ ทุกการปกครองที่นอกเหนือไปจากระบอบประชาธิปไตย*****




บล็อกนี้เดี๋ยวปิด เดี๋ยวเปิด เอาเป็นว่าสักปีสองปีค่อยกลับมาเยี่ยมกันทีแล้วกันค่ะ

*****หรือฉันกำลังแสวงหาเพื่อน... อยู่นะ*****
Friends' blogs
[Add คนสองภาค's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.