ทฤษฎีความเหงา

ก็ไม่รู้ช่วงนี้อากาศหนาวไป หรือคนมีความรักเยอะไปกันแน่
แต่คนไม่มีรักเกิดอาการ เหงาไป เป็นจำนวนมาก

ในช่วงเกือบเดือนที่ผ่านมา คนรอบๆข้างมีคนเหงาประมาณ 70%
คนบาดเจ็บ 20% คนบาดเจ็บสาหัส อาการโคม่า 10%
แน่นอนว่าคนจิตใจปกติสบายดี จะไม่คิดถึงเพื่อนในเวลานี้ เลยไม่มีเปอร์เซนต์จะให้

แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น

ประเด็นอยู่ที่ คนเหงา มัวทำอะไรกันอยู่ ????

จากการปฏิบัติหน้าที่เป็น คนแก้เหงา มาระยะ(ยาว)นึง
ทำให้รู้ว่า คนเหงา กับ คนเมา มีแค่เส้นบางๆกั้น แต่ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
ไร้สติสัมปชัญญะ ไร้ความสามารถในการตัดสินใจ ที่สำคัญคือ ไม่สามารถเอาผิดใดใดได้!

อาการของคนเหงาจะพบหลักๆอยู่สองอย่าง ตามแต่สถานการณ์ที่เจอ
ส่วนมากจะพบอาการแรกมากกว่า แต่ในบางกรณีก็อาจพบทั้งสองอาการในคนเดียว

อาการแรกที่พบทั่วไปก็คือ การทำร้ายตัวเอง
ในกลุ่มนี้จะมีคนที่เพิ่งเคยเหงา ยังไม่ชินกับความเหงาและพวกไม่ยอมชินซะที อยู่รวมๆกัน
อาการมักกำเริบเวลาอยู่คนเดียว และมักกำเริบหนักถ้าเกิดฟังเพลงไปด้วย
อาวุธที่ใช้ทำร้ายตัวเองส่วนมากที่พบคือ เหล้า และ โทรศัพท์
(ในยุคนี้ขอพูดรวมถึง Hi5 และสื่ออินเตอร์เนตอื่นๆด้วย)

เวลาคนเหงาทำร้ายตัวเอง จะมีอาการดื้อแทรกซ้อน บางรายจะไม่แสดงอาการให้เห็น
แต่ในบางรายจะขอความเห็นจากคนรอบข้างก่อน หากคนรอบข้างพยายามห้ามปรามก็ยังจะทำอยู่ดี (แล้วถามเพื่อ)
อาการทำร้ายตัวเอง เช่น
- กินเหล้าเมาแล้วพรั่นอย่างไร้ขอบเขต ขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ เรื่องไม่เกี่ยวๆ ที่พอจะนึกออกทั้งหมด แล้วพ่นออกมาในคราวเดียว
- หยิบโทรศัพท์ เลือกเบอร์คนที่จะพูดด้วย(อยู่นาน) แต่สรุปสุดท้าย เลือกเบอร์แฟนเก่าหรือคนที่มีท่าทีจะทำให้ผิดหวังมากขึ้น
การสนทนาจะเป็นไปอย่างแน่นิ่ง มีเรื่องมากมายอยากพูด แต่ไม่ทราบจะเริ่มจากตรงไหน จึงต้องวางสายไปในเวลาอันสั้น
- อีกหนึ่งอาการคือ การเข้าไปขุดคุ้ยดูเรื่องราวของ แฟนเก่าหรือคนที่มีท่าทีจะทำให้เราเจ็บหนักได้ ใน Hi5 เช่น ดูรูป อ่านบล็อก
เชคทอปเฟรน ลิ้งๆๆไปเรื่อย และนำเอามาต่อกันเป็น story ว่าเขาเป็นอย่างไร รักเราอยู่ไหม รักใครหรือยัง ฯลฯ

เมื่อทำร้ายตัวเองเป็นที่เรียบร้อย คนเหงาจะเริ่มรู้สึกตัวได้ ว่าเมื่อครู่ทำอะไรลงไป จากนั้นจะเริ่มหาที่พึ่ง ซึ่งส่วนมากคือ เพื่อนสนิท
กรณีนี้ คนรอบข้างมักจะรับรู้ในตอนที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงอย่างเดียวคือ อยู่เป็นเพื่อนและปลอบใจ
แต่ในบางรายก็ต้องใช้วิธีการซ้ำเติมและถากถางบ้าง ถ้าหากวิธีปกติไม่สามารถทำให้หลาบจำและยังกลับมาทำร้ายตัวเองอยู่บ่อยๆ

คำพูดที่มักได้ยินอยู่เสมอและซ้ำไปซ้ำมา คือ อนาคตอยากจะพบใครสักคนที่ทำให้ตัวเองเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
(แต่ก็ยังทำตัวแหลกอย่างเดิม)

-----------------------------------------------

อาการถัดมา คือ การทำร้ายคนอื่น
อาการนี้มักมีผลกระทบรุนแรงจนบางครั้งกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยากแก่การแก้ไข
คนเหงาในกลุ่มนี้จะไม่แสดงออกอย่างชัดเจนว่า เหงา แต่เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเหงา
ก็จะรีบทำการบำบัดโดยการหาบุคคลมาแทนที่ความเหงาซะ เราเรียกเหยื่อเหล่านี้ว่า คนแก้เหงา
ลักษณะของการหาคนแก้เหงา จะแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คือ การจีบและการอ่อย

การจีบมักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นชายโสดหรือมีความสัมพันธ์แล้ว (เพราะมักมีสันดานใกล้เคียงกัน)
โดยมากการจีบในลักษณะนี้ จะต่างจากการจีบแบบปกติที่เราเข้าใจกัน มักจะมีลักษณะเด่นๆ อย่างเช่น
จีบในผับ เอาแค่หน้าเหมือนจะดีพอแล้ว , จีบเพื่อนของเพื่อน เอาแค่เพื่อนว่าดีพอแล้ว ,
จีบใน Hi5 เอาแค่รูปดูดีพอแล้ว หรือ จีบใครก็ได้ ขอให้เป็นเพศตรงข้ามก็พอแล้ว ฯลฯ

ลักษณะการจีบแบบนี้ ฝ่ายชายจะเทคแคร์ภายนอกดีทุกอย่าง กินข้าว ดูหนัง เวลามีเรื่องไม่สบายใจจะรีบทำทีมาปรึกษาเหยื่อ
โทรหาทุกวันเสมือนเป็นหน้าที่ แต่หากตั้งใจฟังดีดีจะรู้ว่าไร้ซึ่งความคิดถึงโดยสิ้นเชิง
สังเกตง่ายๆ ถ้ามีเรื่องจะรีบโทรมาหรือมาหาทันที ไม่ต้องการอะไรนอกจากคนนั่งฟังที่เป็นเพศตรงข้ามที่ไม่มีปาก ไม่มีเสียง ไม่เถียง ไม่ว่า
ต้องเห็นดีเห็นงามและให้ออดอ้อนได้ตามโอกาสที่อยาก ที่สำคัญคือ จะไม่ใส่ใจสารทุกข์สุกดิบของอีกฝ่าย

หากเหยื่อมีเรื่องไม่สบายใจอยากเล่าบ้าง จะฟังไม่ทันจบแล้วตัดบทว่า อย่าคิดมาก อย่าใส่ใจ อย่างงี้ใช่มั้ย อย่างงั้นใช่มั้ย พอ
ถ้าเหยื่อยังดื้อด้าน และเริ่มเกิดอาการน้อยใจหรืองี่เง่า นอกจากจะไม่ค่อยง้อ ยังแสดงท่าทีรำคาญอย่างโจ่งแจ้งในบางราย

และสำคัญของสำคัญที่สุดคือ หากเหยื่อเริ่มคิดจะคบจริงจัง หรือ เริ่มพูดแสดงความเป็นเจ้าของ คนเหงาสปีชี่นี้จะชิ่งหายไปอย่างแนบเนียนทันที
(แล้วเมิงจีบตั้งแต่แรกทำHereอะไรครับ)
--------------------

อีกลักษณะหนึ่งคือ การอ่อย มักพบในผู้หญิงมากกว่า แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันในผู้ชายก็พบมากขึ้นด้วย
อาการเหงาลักษณะนี้ คนเหงาจะแสดงออกกับผู้ที่มาชอบพอตัวเองในลักษณะการให้ความหวัง แต่ตัวเองก็ไม่คิดจะคบจริงจังอะไร

เริ่มแรกถ้าเกิดคนเหงารู้สึกว่าต้องการใครสักคน จะเริ่มคิดหาคนมาแทนที่ความเหงาเช่นเดียวกับกรณีแรก
แต่อาการนี้จะต่างออกไป โดยคนเหงาไม่ต้องเป็นฝ่ายเริ่มเอง อาจจะใช้วิธีรอให้เหยื่อมาหา หรือบังเอิญว่าไปเจอกันเถอะ

ในช่วงเวลานี้ก็จะทำการให้ความหวังเรื่อยเปื่อย โดยมีลิมิตอยู่ในใจว่า ให้ความหวังแค่ไหนจึงจะไม่น่าเกลียด
เพื่อที่ว่าในตอนที่ต้องเลิกรากันไป จะได้ไม่โดนประณามว่าเป็นคน ทิ้ง แต่ต้องให้ตัวเองดูเป็นฝ่าย ไม่เอา จะงามกว่า
กรณีนี้เจ้าตัวจะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า ดูๆกันไป ด้วย เพราะจะเป็นการลดทอนคนอื่นๆที่จะเข้ามาทางหนึ่ง

สังเกตง่ายๆ การพูดคุยกันจะมีแต่เรื่องสัพเพเหระ เรื่องส่วนตัวจะหลีกเลี่ยงไม่พูดถึง และหากพยายามดึงดันถามจะแสดงอาการไม่พอใจทันที
ลักษณะคำพูดจะเน้นอธิบายแต่ความเป็นตัวเอง สนใจแค่ว่า รับได้ก็อยู่ รับไม่ได้ก็ไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็รู้สึกดีนะ
แต่ลองถ้าเหยื่อมีท่าทีว่าจะไปเมื่อไหร่ ก็จะรีบเปลี่ยนท่าทีมาทำให้เหยื่อโง่ต่อไปได้อยู่ดี

คนเหงาสปีชี่นี้จะต้องการแค่คนที่จะไปไหนมาไหนด้วย เป็นเพื่อนคุย ไม่สนใจว่าใครจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร สนใจแค่ ว่างหรือไม่ว่าง จบ

ลักษณะสำคัญที่เหมือนกับกรณีแรกคือ หากเหยื่อคิดจะคบจริงจัง หรือ แสดงอาการสับสนและเสียใจให้เห็น
คนเหงาสปีชี่นี้ก็จะทำการชิ่งหายไปอย่างแนบเนียนเช่นกัน โดยมักจะให้เหตุผลว่า ไม่อยากทำร้ายใครต่อไป ขอโทษนะ

โดยรวมแล้วคนเหงาสปีชี่นี้ อันตรายและโหดเหี้ยมกว่ากรณีแรก เหยื่อมักจะเจ็บหนัก และจากไปยากที่สุด

-------------------------------

ด้วยประการทั้งปวง อยากจะขอให้คนเหงา กำลังเหงา หรือเหงามานานแล้ว
ไตร่ตรองการกระทำของตนเองสักนิดว่า ได้ทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายคนอื่น หรือไม่อย่างไร

คนเหงามักจะมีคำพูดติดปากว่า "ก็กูเหงา อย่าคิดว่ากูรู้สึกดีกับที่ทำนะเว่ย กูรู้สึกแย่นะ เมิงไม่เข้าใจหรอก"

การเดินสะเปะสะปะ เอาความเหงาเป็นที่ตั้ง ไม่ทำให้คนรู้สึกแย่มีคนเดียว
บางทีอาจมีคนที่ต้องมารู้สึกเจ็บปวดกับการระบายความเหงาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และการไม่แสดงออก ไม่ได้แปลว่าไม่รู้สึกอะไร

อย่าคิดอะไรตื้นๆ

คุณเหงา คนอื่นก็เหงาเป็น
เมิงเหงา กูก็เหงาเป็น
เธอเหงา ฉันก็เหงาเป็น

อย่าคิดว่าไม่มีใครเข้าใจ
อย่าคิดว่าการเข้ามาแล้วผ่านไป คนอื่นไม่รู้สึกอะไร
อย่าคิดว่าคงไม่มีใครจริงจัง
อย่าคิดว่าทุกคนก็เป็นเหมือนกัน

อย่าคิดอะไรตื้นๆ




 

Create Date : 03 มกราคม 2552    
Last Update : 3 มกราคม 2552 22:29:59 น.
Counter : 726 Pageviews.  

ความจริง กับ คำสารภาพ

"เรามีอะไรจะสารภาพ.."

ฉันได้ยินประโยคนี้อีกแล้ว
หลายคนอาจจะมองว่า สิ่งที่อยู่หลังจากประโยคนี้ มันน่าตื่นเต้น
แต่สำหรับฉัน มันไม่เลย

"เราชอบผู้หญิงอยู่คนนึง.."

ใช่แล้ว ! ประโยคที่ตามมา มักจะเป็นอะไรทำนองนี้เสมอๆ
คำพูดที่เหมือนพระเจ้าทรงจัดวาง

"แต่..ไม่รู้ดิ เราไม่รู้จะทำไงดี"

และสิ่งที่ตามมาต่อจากนี้ ก็คือ หน้าที่ของฉัน ที่ต้องทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไป


........


ขำหรือเปล่า ?

เพราะคุณเองก็คงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
เพื่อน พี่ น้อง ญาติสนิท มิตร สหาย ช่วยกันขนคำสารภาพมากองตรงแทบเท้า


แต่...!

แต่มันหาใช่คำสารภาพ "รัก" ไม่


หากความรักมันทำให้คนตาบอด
คนอย่างฉันคงเป็นสุนัขที่จูงคนตาบอดเหล่านั้นข้ามถนน


มันเป็นเรื่องสนุก หากใครจะมองว่ามันสนุก
การรับรู้เรื่องราวความรักของคนอื่นๆ แสดงถึงความไว้ใจที่เราได้รับจากคนเหล่านั้น


แต่....อีกแง่นึงล่ะ ?



ถ้าชื่อของคนที่อยู่ในคำสารภาพ มักซ้ำกันมากกว่า 2 หรือ 3 ?
ถ้าชื่อของคนสารภาพไปอยู่ในคำสารภาพของอีกคน ?
ถ้าชื่อของคนที่อยู่ในคำสารภาพของคนนึง กลายเป็นคนสารภาพถึงอีกคน ?
หรือมากกว่านั้น..
ถ้าชื่อของคนสารภาพหรืออยู่ในคำสารภาพ...อยู่ในใจเรา ?


ความจริงเป็นสิ่งล้ำค่า สำหรับคนทุกคน
ทุกครั้งที่ฉันฟังคำสารภาพ ก็คือทุกครั้งที่ฉันรู้ความจริงบางอย่างที่มีค่ามากๆสำหรับใครหนึ่งคน

ความรู้สึกดี...ที่เราเป็นหนึ่งคนที่เขาอยากให้รับรู้
ความเจ็บปวด...ที่บางครั้งต้องเก็บคำสารภาพของเราไว้อย่างมิดชิด
ความว่างเปล่า...ที่ชื่อของเราไม่ได้อยู่ในคำสารภาพนั้น


..............................................

ฉันยืนอยู่บนทางผ่าน ที่อยู่นอกความเป็นจริง
มองดูทุกสิ่ง กำลังเคลื่อนไหว
เก็บคำสารภาพ กับ ความจริง ให้ลึกจนสุดใจ
ให้เวลาผ่านพ้นไป เหลือเพียงความเหงาใจตรงที่เดิม




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2550 23:24:41 น.
Counter : 278 Pageviews.  


ตามอารมณ์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ตามอารมณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.