"เหตุผล มักมาหลังจากตลาดได้ปรับตัวแล้ว"
นำมาจากกระทู้ใน //www.thaivi.com ครับ
คุณกระทิงแดงตั้งกระทู้เอาไว้ ให้ข้อคิดดีๆมากมายครับผม

//www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?p=368120#368120

กระทิงแดง wrote :

พี่พอใจเคยบอกว่า "เหตุผล มักมาหลังจากตลาดได้ปรับตัวแล้ว"
ผมมาคิดดูก็ถูกแหะ

ตอนหุ้นลง ก็บอกฝรั่งขาย เพราะกองทุนที่อเมริกา ถูกขาย ทำให้ต้องขายหุ้นทั่วโลก
ตอนหุ้นขึ้น ก็บอก Fed ลดดอกเบี้ย ทำให้เงินไหลเข้าตลาดทุนต่างประเทศ (นอกจากอเมริกา)

แล้วเราควรจะทำยังงัยละเนี่ยะ

ส่วนตัว ผมว่า เหมือนหลายๆคนในนี้ หุ้นลงเป็นโอกาสซื้อของถูก ควรจะเน้น micro มากกว่า macro ของบริษัทนั้นๆมากกว่า
ถ้าคิดภาพรวมมากไป จะทำให้มี noise มากเกินกว่าจะลงทุนได้ดี
เชื่อในผลประกอบการ ดูตลาดของ product นั้นๆว่าโดนกระทบมากขนาดไหน
มั่นใจแล้วค่อยๆซัดเลย



Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2551 11:02:50 น.
Counter : 240 Pageviews.

0 comment
การเดินทางในแต่ละวัน กับ การลงทุนหุ้น (ที่มาขอการเตือนสติตนเอง)
วันนี้ผมเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินครับ

ขาไป เดินทางตอนประมาณ 13.00 น. คนว่างมากๆ เลือกที่นั่งได้สบาย
ขากลับ ออกมา 18.30 น.

คนเยอะมาก แบบว่า เลือกที่ยืนยังไม่ได้เลย คนเยอะมากๆ แค่เข้าไปได้ก็ดีแล้วครับ

รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง
และรู้สึกเห็นใจคนที่เดินทางโดย การขนส่งสาธารณะครับ
(รวมตัวผมด้วยคน แต่โชคดีที่เดินทางไม่ค่อยตรงกับคนอื่นเค้า)

ถ้าสังเกตดีๆในรถไฟฟ้ามีคนอยู่มากมายครับ

มีทั้งคนที่ยืนขวางอยู่เฉยๆ ใครเค้าจะไปไหน ก็ขวางซะอย่างอ่ะ อุดมคติสูงส่ง
มีทั้งคนขยับออกมา และบางคนลุกให้คนที่ยืนไม่ไหวกว่าตนได้นั่ง(ขอยินดีในความดีด้วยคนนะครับ)
บางคนรีบร้อน รีบไป ไม่สนใจใคร ข้าจะรีบบบบบ...
บางคน ค่อยๆเดิน ค่อยๆไป คนเยอะ อ๊ะ รอได้

จากตรงนี้ พอมองเห็นอะไรไหมเอ่ย
ผมน่ะนึกถึงตลาดหุ้นบ้านเรานะครับ

ลองดูที่ตัวอย่างข้างบน

บางคนเค้าอยากจะประกาศตัวว่าตนเองได้กำไรอย่างนู้นอย่างนี้ แต่ไม่ได้บอกว่า เสียค่า commission เท่าไหร่
และความจริง เค้าเสียเงิน/ได้เงินกันแน่
และเค้าอาจลืมไปว่า

ชีวิตคนเรา มีอะไรอีกมากมาย ที่เงินซื้อไม่ได้
เราก็เห็นกันอยู่ว่าเศรษฐีแสนล้าน อาจไม่มีความสุขเท่าคนที่มีเงินแค่หมื่น ถ้าเค้ารู้ถึงความพอเพียงของเค้า

บางคนชอบหุ้นปั่น ชอบหุ้นที่เป็นข่าว ... แต่บางที ถามว่า หุ้นนั้นดี(จริงๆ)อย่างไร
ก็ตอบไม่ได้

บางคนคิดว่าตนเองเก่ง ข้าแน่ แล้วคนที่ไม่เข้ากับข้า / เถียงข้าเนี่ย ...(คิดเอาเอง)
แต่แล้ว การที่เค้าไปสร้างศัตรูไว้มากมาย แล้วเค้าจะได้อะไรล่ะครับ

เราไม่ทราบหรอกว่า อนาคต เราต้องเจอะเจอใครบ้าง ต้องร่วมทุกข์สุขกับใครบ้าง

แต่เรารู้กันว่า การมีศัตรูสักคน ก็เป็นทุกข์แล้ว..

เอ๊ะๆ เขียนไปเหมือนไปอัดเซียนเกรียนเทพบางคนหรือเปล่านะ กลับเข้าเรื่องดีกว่าเนอะ

จริงๆผมว่า ถ้าเราจะลงทุนหุ้น
ถ้าอยากศึกษาจริงๆลองอ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ดูนะครับ เนื้อหาในนั้นดีกว่าที่อ่านจาก blog ผมแน่ๆ

แล้วคุณจะทราบว่า

ความสุขในการลงทุนมันเป็นอย่างไร

คนเราคิดไม่เหมือนกันหรอกครับ
แต่ต่างคนก็ต้องเคารพความเห็นของแต่ละคน
คนไทยเราไม่มีใครชอบคนที่อวดว่าตัวเก่ง
(ซึ่งจริงๆต้องพิสูจน์กันหลายปี ไม่ใช่รายวัน)
แต่ก็ นะ ... ก็อย่างที่เห็นแหละครับ

แล้วแต่คนจะชอบว่าเค้าอยากลงทุนแบบไหน

มีความสุขในการลงทุนนะครับ
และมีความสุขในการใช้ชีวิต และทำสิ่งดีๆ(ที่ทำแล้ว ไม่มีโลภ / โกรธ / หลง)

แล้วเค้าจะเข้าใจว่า กำไรแบบค่อยเป็นค่อยไป

นอกจากจะได้จากการลงทุนที่เป็นตัวเงิน
ยังได้อะไรดีทางจิตใจด้วยครับ



Create Date : 28 มกราคม 2551
Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 8:49:59 น.
Counter : 282 Pageviews.

1 comment
ค่าความนิยม (goodwill)
บางคนที่ลงทุนในหุ้น พอดู book value กับราคา ณ ปัจจุบัน แล้วก็รู้สึกว่า ทำไมมันต่างกันจัง

ยกตัวอย่างครับ

ข้อมูล ใน //www.set.or.th ณ วันนี้(24 ธค.50)
มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น(บาท) ของ SCC อยู่ที่ 66.57 บาท

แต่ ราคาณ ปัจจุบันอยู่ที่ 228.00 บาท

ทำไมราคามันต่างกันจังงงงงง....
ซื้อแล้วมันจะคุ้มไหมเนี่ย


ค่าอันหนึ่งที่ทำให้ราคาปิด กับ ราคา book value ต่างกัน ก็เพราะว่า หุ้นนั้น มีค่าความนิยม หรือที่เรียกว่า goodwill อยู่ครับ

ยกตัวอย่างเช่น

ถังGas ปตท กับ ถังGas ยี่ห้อ จมูกชมพู่หวาน

...ถามว่า จะเลือกยี่ห้อไหนมาใช้เป็นถัง gas ในบ้านเอ่ย

แน่นอน ต้องเลือก จมูกชมพู่หวาน ใช่ป่าว เพราะชื่อมันน่ารัก และคิดมาได้อย่างไร ....

...แต่เลือกมาเป็น joke นะครับ



จริงๆใครๆก็คงเลือกถังgas ปตท. ถ้ามีให้เลือกแค่ 2 ยี่ห้อตามข้างบน

ส่วนเราจะประเมินค่า goodwill อย่างไร
บางทีเราประเมินเป็นตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้หรอกครับ แต่ว่า เราอาจกะคร่าวๆได้นิดหน่อย

ผมขออนุญาติพูดถึง Waren Buffett นะครับ

เซียนหุ้น VI (Value Invester) ของโลกผู้นี้ เป็นถือหุ้นใหญ่บริษัท Coca Cola อยู่ครับ ถือมานาน และก็ยังคงถือต่อไป

มีคนไปถามเค้าว่า ทำไมถึงชอบ Coca Cola เค้าก็ตอบไปว่า

Coca Cola เป็นบริษัทที่ดีที่สุดในโลก
(คำตอบคล้ายตอนถามคุณสรยุทธเรื่องความเห็นเกี่ยวกับสโมสร liverpool)
เพราะตัวเค้าเอง อยู่กับ Coca Cola มาตลอด ทานแต่ Coca Cola

ส่วนเวลาถามเรื่องค่า goodwill ของ Coca Cola เค้าก็บอกว่า

ค่า goodwill ของ Coca Cola หมายถึง

การลบคำว่า Coca Cola ออกจากโลกนี้ ต้องใช้เงินเท่าไหร่

นั่นแหละค่า goodwill ของ Coca Cola


คำตอบที่ได้ อาจดูเป็นนามธรรมไปหน่อย

แต่สำหรับผม มันก็ทำให้ได้ idea คร่าวๆนะครับ

พอเรามาวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียน
บางบริษัท มีค่า goodwill เกิน 98 % ของมูลค่าจริงอีก

ถ้านึกไม่ออกลองดูหุ้นของบริษัท traf สิครับ
อันนี้นำมาจาก //www.set.or.th อีกเช่นเคย นำมาให้ดูยกแผงเลยครับ

TRAF : บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ล้านบาท)

ณ วันที่ 2007
30/09/2550 2006
31/12/2549 2005
31/12/2548 2004
31/12/2547 2003
31/12/2546

สินทรัพย์รวม 162.05 164.87 417.81 472.46 528.89

หนี้สินรวม 120.71 203.71 340.77 366.23 197.00

ส่วนของผู้ถือหุ้น 25.65 -52.58 49.00 73.31 245.04

มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 120.00 342.78 342.78 241.38 208.73

รายได้รวม 117.10 401.77 523.06 708.85 606.26

กำไรสุทธิ -11.76 -118.21 -148.95 -237.53 -108.32

กำไรต่อหุ้น(บาท) -0.07 -0.34 -0.55 -1.04 -0.53

ROA(%)* -11.86 -48.96 -41.25 -51.96 -22.97

ROE(%)* N.A. N.A. -243.54 -149.23 -35.55

อัตรากำไรสุทธิ(%) -10.05 -29.42 -28.48 -33.51 -17.87

ณ วันที่ 21/12/2550 29/12/2549 30/12/2548 30/12/2547 31/12/2546

อัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(เท่า) N.A. N.A. N.A. N.A. N.A.

อัตราส่วนราคาปิดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี(เท่า) 59.41 N.A. 26.68 3.41 3.33

มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น(บาท) 0.21 N.A. 0.06 0.74 1.19

อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน(%) - - - - 3.37

ราคาล่าสุด(บาท) 12.70 0.46 1.19 2.52 3.98

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1,524.00 157.68 407.90 608.29 830.74


นั่นแสดงว่า บริษัทนี้มีค่าความนิยมสูงมาก

แล้วเรารู้จักบริษัทนี้ดีแล้วหรือยังเอ่ย

เป็นบริษัทที่ชื่อดังมาก หายใจเข้าออกต้องนึกถึงกันทุกคน

ไปไหนใครก็พูดถึง

หรือว่า ค่า goodwillมันสูงไป

หรือมีใครลากราคามา
(ปกติไม่มีเจ้ามือในตลาดหุ้นนี่นา )

มีความสุขกับการลงทุนนะครับ

ปล. รูปประกอบกระทู้น่าจะบอกได้ดีถึงความน่ารักของน้อง stop นะครับ
(เกี่ยวกันไหมเอ่ย)

ภาพก็นำมาจาก pantip.com ห้องหนอน นะครับ คนอื่นเค้าไปถ่ายรูปน้อง stop ไว้
ใครได้มาดู ก็จำกันได้ดี

อย่างนี้ค่า goodwill มหาศาลครับผม



Create Date : 24 ธันวาคม 2550
Last Update : 24 ธันวาคม 2550 11:29:05 น.
Counter : 1702 Pageviews.

1 comment
ข่าวดี ข่าวร้าย การลาก การทุบ การควบคุมอารมณ์ และความเข้าใจในกิจการของเรา
ช่วงนี้ (15 ตค - 16 ตค.50) เป็นช่วงที่มีความแตกต่างกันของอะไรหลายๆอย่างในตลาดหุ้นครับ

อาทิตย์ก่อน มีต่างชาติ มาลากราคา banpu & PTT ขึ้นไป ...

หากใครสังเกตุราคาช่วงเกิด sub prime...

BANPU ราคา 250 บาท
PTT ราคา 270 บาท ...

ช่วงนั้นน่าซื้อสุดๆ

แต่ช่วงนี้

BANPU ทำ new high เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ 41_+ (>410บาทครับ)

PTT ตอนนี้(16 ตค.50) = 382 บาท
มีการบอกว่า ราคาน้ำมันสูงขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น(จริงเหยอ)
มีการเพิ่มราคาค่าโดยสารรถเมลล์ (ขึ้นแล้วลงยากมากๆ หรือไม่เคยลงเลยอ่ะ)
SET index จะขึ้นถึง 1,000 ได้แน่นอน ฟันธง(เห็นธงหักตั้งแต่ สค.50 แล้วอ่ะ เซียนบางคนพูดถึงขนาดจะยอมให้ตัดคอ (คอคนอื่นมั้ง) ถ้าSET index ไม่ถึง1,000 จุด ภายใน กย.50)

ทั้งๆที่หลายๆอย่าง มันไม่ได้เป็นข่าวดีขนาดนั้นนะครับ

ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ต้นทุนก็มากขึ้น

กำไรอาจไม่เพิ่มก็ได้ จริงป่าวครับ

มันเหมือนขายก๋วยเตี๋ยว เดิม 15 บาท

เดี๋ยวนี้ขึ้นเป็น 25 บาท ..บอกว่า กำไรแทบไม่มี เพราะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
(อาจมากกว่ากำไรด้วยซ้ำนะจ๊ะคนดี)

อยากบอกว่า ... ยังไงก็ใจเย็นๆ คิดดีๆ ก่อนทำการลงทุนหุ้น ...เหมือนกับหัวข้อที่ผมเขียนไว้นะครับผม

ซื้อบ้าน เรายังดูแล้วดูอีก ว่ามีตำหนิหรือไม่
มีรอยร้าวหรือไม่

ซื้อหุ้น อย่างน้อยก็ราคาเป็นหมื่นขึ้นไป แทบไม่ได้ดูอะไรเลย

ฟังแต่หมอดู

แต่ลืมดูว่า ชีวิตจริงเป็นอย่างไร

.....

....

ใครติดดอย

ก็ลองดูว่า บริษัทที่ท่านถืออยู่นั้น ต่อไปมันจะดีหรือไม่
(อย่างน้อยควรดูล่วงหน้าไป 2-3 ปี นะครับ)

ถ้ายังน่าจะมีอนาคตอยู่ และเงินที่ลงทุนเป็นเงินเย็นล่ะก็

เก็บหุ้นนั้นไว้เถอะครับ
จะ cut loss ทำไมถ้ามันเป็นเงินเย็น

อย่าเสียรู้ "เจ้ามือเลยครับ"

แต่ถ้ามันเป็นการลาก การปั่นหุ้น ไปสู่ราคาที่อีก 10 ปี อาจไปไม่ถึง
(ผมยกตัวอย่างแบบเดาๆเอานะครับ เพราะไม่มีใครรู้ว่าอีก 10 ปีจะเป็นเช่นไร)

...เช่น picnic ล่ะกัน

แต่ก่อนราคา > 20 บาท
ใครบางคนยังกำหนดราคาเป้าหมาย เป็น 40 + บาท
เขากำหนดอย่างนั้นทำไมล่ะครับ
เพราะเขาอยากให้ราคามันขึ้น(= ล่อแมงเม่า)

มีการแปลงงบการเงิน โดยไปปูดค่าเช่าถัง gas เปล่า ซะบานเบอะ

และแล้ว ราคาก็ไปสู่ราคาที่ควรจะเป็น (ตอนนี้ราคาต่ำกว่า 50สตางค์อ่ะ)

....

....

DCF หรือการคำนวณอื่นๆ ผมว่า ไม่ดีเท่า เราเข้าใจในหุ้น/บริษัทนั้นๆ

ลองดูงานวิจัยของ peter lynch ที่ไปสอบถาม เด็กอนุบาล แล้วให้เลือกหุ้นที่ชอบสิครับ

อนุบาล - ประถม เอาชนะ เซียน(ปลอมๆ)ที่จบ CFA มาแล้ว

ก็ดูเขายกตัวอย่างสิครับ

เด็กอนุบาลบอกว่าหุ้น Disney น่าซื้อ เพราะเด็กทุกคนชอบไปเที่ยวที่นั่น(เหตุผลจับต้องได้)

แต่ CFA หลายท่าน คำนวณเอา...จากสูตรนั่นสูตรนี่

อันนี้ไม่ได้ต่อว่าCFA นะครับ

แต่อยากเตือนผู้ที่ลงทุนหุ้น ให้ลองพิจารณาหุ้นที่ตนลงทุน "ด้วยตัวท่านเอง"
.... ถ้าท่านตอบได้ว่า ทำไมท่านถึงอยากซื้อหุ้นนั้น

....และมันเป็นเหตุผลที่เหมาะสม ... ก็ทำไปเลยครับ

......เหมือนเหตุผลที่ทำไมผมถึงรู้สึกชอบผู้หญิงคนหนึ่งทั้งๆที่พึ่งได้คุยกันไม่ถึงสัปดาห์
ได้คุยกับเธอแบบคุยกันต่อหน้า เจอกันตัวเป็นๆ ก็เมื่อวาน

แต่ถ้าเราได้ใช้วิจารณญาน โดยไม่นำความหลงมาเกี่ยวข้อง
(จริงๆก็ต้องมีบ้างแหละ
)

.... แล้วท่าจะรู้ว่า จริงๆแล้วสิ่งดีๆที่ท่านใฝ่หา แบบในเพลง I need somebody ของบี้...

อยู่ไม่ไกลตัวท่านในตอนนี้เลย


มีความสุขกับการลงทุน และมีความรักที่สมหวัง

และถนอมสิ่งดีๆนั้นไว้นานๆนะครับ

เพราะเราไม่รู้ว่า เราจะได้สัมผัสกับสิ่งดีๆนั้นอีกเมื่อไหร่ และนานเท่าไหร่

.... อ้าวเขียนไปเขียนมากลายเป็นเรื่อง loveๆ แล้วอ่ะ



Create Date : 16 ตุลาคม 2550
Last Update : 16 ตุลาคม 2550 16:28:20 น.
Counter : 277 Pageviews.

3 comment
blogนี้ ขอขอบคุณผู้มีพระคุณของผมครับ
อยากขอบคุณคนหลายๆคนที่ทำให้ผมพอมีความรู้เรื่อง common stock อยู่บ้างนิดหน่อยนะครับ (แม้ไม่เป็นเซียนหุ้น แม้ยังไม่รวย แต่ก็มีความสุขกับการลงทุนตอนนี้นะครับ)

*2 คน แรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้
ผมขอกราบขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ผมที่ได้เลี้ยงดูผมมาเป็นเวาลาพอควร(ไม่บอกอายุได้ป่าว^.^)

*น้อง A สุระ ...เป็นบุคคลคนแรกที่ทำให้ผมเข้าใจว่าจริงๆแล้ว การลงทุนหุ้น
-ไม่ใช่การพนัน
- เราสามารถลดความเสี่ยง โดยการเพิ่มความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหุ้น โดยเฉพาะบริษัทที่เราลงทุน
-สอนการมองสิ่งต่างๆโดยเป็นมุมมองของ VI แท้ๆ
-การมีวินัยทางอารมณ์ การอ่านเกมส์แบบมองระยะยาว...
ถ้าใครถามพี่ว่าใครเป็นสุดยอด VI ในดวงใจ พี่ยกให้น้อง A ครับผม

*ผู้เขียนหนังสือ& blog การลงทุนแนว VI ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น

Peter Lynch
Warren Buffett


ดร.นิเวศน์
พี่มนตรี พี่วิบูลย์

น้องอ้อม
พี่โจ๊ก คุณ bezos พี่สุมาอี้
คุณ yoyo คุณ invisible hand

พี่คลายเครียด

พี่ลูกอีสาน
พี่ mprandy
ลุงขวด
พี่พอใจ
น้อง three dot
น้อง tanapol
คุณ bremner
คุณ บี (porche b)
โบ sulfin, พี่ปลา, พี่เฮียง


ทุกๆท่านใน web thaivi, templeboxing, ห้องสินธร และห้องกระทิงเขียว
(ไม่สามารถเอ่ยนามทุกท่านทั้งหมดได้ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ)




ขอให้โชคดีในการลงทุนทุกคนนะครับ



Create Date : 16 ตุลาคม 2550
Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 8:48:26 น.
Counter : 742 Pageviews.

3 comment
1  2  

noooon010
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



สวัสดีครับผม ^^

slumdog millioanaire สุดยอดจริงๆครับ

คนทุกคน มีค่าเท่าๆกัน
คนที่ดูถูกคนอื่นเท่านั้น ที่เป็นการดูถูกตัวของคุณเอง

มาสร้างสิ่งดีๆให้โลกนี้กันดีกว่าครับ
Friends Blog
[Add noooon010's blog to your weblog]