Bloggang.com : weblog for you and your gang
อิสระตามเส้นสี...ของชีวิต
สีน้ำกับพู่กัน
Location :
นครราชสีมา Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
โลกยังหมุน ตะวันยังมี ฉ้นยังอยู่ต่อไป
Group Blog
ตลาดปรัชญา
นิทานเวตาล 25 ตอน
ภาษาพาเพลิน
พักผ่อนหย่อนใจ
ของพรีเมี่ยมทำเองได้
ทำนายทายทัก
ชีวิตคือการเดินทาง
ชีวิตอยู่ได้เพราะรัก
ริมหน้าต่าง
ในวันหนึ่งของฉัน
กินเจชีวีสดใส
หนังสือดี ประเทืองปัญญา
เรื่องราวประวัติศาสตร์
ธรรมะนำชีวิต
Long Live The King
ขำขันวันละนิด
ตอบ Tag tag taging ทางนี้จ๊ะ
Thank you
ท่องต่างแดน
กระเป๋า นารายา
ก้าวไปกับนูสกิน Anti aging
All Blogs
วิวัฒนาการทรงผมของฉัน
น้ำท่วม รพ.นม. .ภาค 2
ครั้งหนึ่งในชีวิต น้ำท่วม รพ.มหาราช นม.
"People Organization But Leave their boss" เข้าทำงานเพราะองค์กร แต่ลาออกเพราะหัวหน้า
เพื่อน "กูรักมึงว่ะ"
ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา
Friends' blogs
ณณินธร
Sweetpigko
ต่อตระกูล
มิสเตอร์ฮอง
นายพลโอไบ
ป้ามด
p_tham
พลอยสีรุ้ง
นายอร
เริงฤดีนะ
PaYoonNoy
Webmaster - BlogGang
[Add สีน้ำกับพู่กัน's blog to your web]
Links
sanook
manager
kapook
yahoo
hotmail
MEC
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
mindcyber
The secret
NuSkin
BlogGang.com
"People Organization But Leave their boss" เข้าทำงานเพราะองค์กร แต่ลาออกเพราะหัวหน้า
ได้รับเมลล์จากเพื่อนคนหนึ่งต่างแผนกกัน และกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่พอดี จึงลงให้เพื่อนๆ ชาวบล๊อกแก๊งค์ได้อ่านว่า เป็นอีกคนหรือเปล่าที่กำลังรู้สึกแบบนี้
โดยเฉพาะท่านที่เป็นผู้บังคับบัญชาทั้งหลาย หลาย ๆ ท่านคงคงเคยได้ยินสำนวน ฝรั่งที่ว่า "People Organization But Leave their boss." ที่มาของสำนวนนี้เกิดจากหลาย ๆ องค์กรที่พยายามสรรหาบุคคลากรเก่งๆ
เข้ามาสู่องค์กร แต่ไม่สามารรักษาคนเหล่านั้นไว้ได้
ส่วนใหญ่เรามักเข้าใจว่าการดึงดูดและรักษาคนให้อยู่ทำงาน
กับองค์กรนั้นขึ้นอยู่กับเงินหรือค่าตอบ แทนที่น่าพึงพอใจ
แต่หากถามว่าเงินคือตัวแปรสำคัญอย่างเดียวหรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่
เพราะการจากไปของพนักงานมาจากหลายสาเหตุ
การที่จะค้นหาตำตอบที่แท้จริงว่าพนักงานลาออกจากองค์กรเพราะเหตุใด
ต้องอาศัยระยะเวลา ตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
เพราะแค่การสัมภาษณ์ตอนลาออก (Exit Interview) และเหตุผลที่เขียนในใบลาออกเพียงอย่างเดียวคงไม่ใช่คำตอบที่แท้จริง เพราะคำตอบที่พนักงานส่วนใหญ่ ตอบ คือ " ไปเรียนต่อ ไปช่วยงานที่บ้าน ได้งานใหม่ " ล้วนแต่เป็นคำตอบเดิม ที่อาจจะจริง หรือ ไม่จริงก็ได้ อยากรู้คำตอบไหม
การหาโอกาสค้นหาต้นตอของการลาออกด้วยการโทรศัพท์ไป
สอบถามพนักงานที่ลาออกจากองค์กร แล้วสักระยะเวลาหนึ่ง
ดูจะได้ผลมากกว่า เพราะคนที่โบยบินไปแล้วมักจะยินดีให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
พบว่ากว่า 80% ของพนักงานที่ลาออกไปแล้ว ส่วนใหญ่กลับคำให้การของตัวเองและค้นพบด้วยสาเหตุหลักของการลาออกนั้นมักมาจาก
ปัญหาที่เกิดจากหัวหน้างาน สอดคล้องกันกับงานวิจัยของ สถาบันด้านการพัฒนาบุคลากรทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ว่า คนเข้าทำงานเพราะองค์กร
แต่จากไปเพราะหัวหน้าได้เป็นอย่างดี จากการพูดคุยกับผู้จักการหรือหัวหน้างานในหลากหลายองค์กร พบว่าไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้างานเท่าที่ควรนัก ส่วนใหญ่มักเลื่อนจากตำแหน่งพนักงานให้มาเป็น หัวหน้าโดยอาศัยเกณฑ์ Technical Skill มากกว่า People Skill
หรือมักเลื่อนตำแหน่ง จากชิ้นงานมากกว่าการบริหารจัดการคน
ความเชื่อเหล่านี้ไม่ถูกต้องจริง เพราะหัวหน้าที่ดีต้องมี People Skil
ประกอบด้วยแต่ องค์กรมักมองข้ามข้อนี้ไป มีไปไม่กี่องค์กรเท่านั้นที่มีการพัฒนาเรื่อง People Skill ให้กับคน ที่ จะขึ้นมาเป็นหัวหน้า บางองค์กรเลวร้ายกว่านั้นคือไม่มีการพัฒนา People Skill ให้กับคนที่ จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าเลย จนทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังและส่งผลให้คนดีคนเก่งในองค์กรต้องหลีกหนี หัวหน้างานเหล่านั้นไปเอง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีปรมาจารย์ด้าน Executive Coaching ท่านหนึ่ง ชื่อ Marshall Goldsmith ได้บรรยายหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาวะผู้นำ
และทิ้งข้อคิดไว้เตือนสติหัวหน้า หลาย ๆคนที่นั่งฟังวันนั้นว่า
What got you here, won't get you there" หมายความว่า
"วิธีการที่ท่านให้ในอดีตและทำให้ท่านประสบความสำเร็จในวันนี้
อาจไม่ใช่วิธีการที่ท่านจะนำ ไป ใช้เพื่อสร้างความสำเร็จในอนาคต
"Peter Drucker" ปรมาจารย์ด้านภาวะผู้นำ กล่าวไว้ว่าพวกเราใช้เวลามากมายในการสอนหัวหน้าว่าพวกเขาควรต้องทำอะไรเพิ่มเติมที่จะเป็น
หัวหน้าที่ดี แต่เราไม่ได้ให้เวลามากพอที่จะบอกหัวหน้าว่าพวกเขาควรหยุดทำอะไรเพื่อที่เป็นหัวหน้าที่ดี หัวหน้าจำนวนกว่าครึ่งที่ผมเคยเจอไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม ถ้าเพียงพวกเขารู้จักที่จะหยุดทำ อะไรสักอย่างหนึ่งที่ไม่ควรทำพวกเขาจะเป็นหัวหน้าที่ดีขึ้นได้ในทันที
ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่หัวหน้าควรหยุดทำสั 5อย่างมาให้ดูกันนะ
1. รับปากแล้วไม่ทำหรือรับปากในสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ด้วยอำนาจหรือหน้าที่ของตนคนเดียว เช่นรับปากจะขั้นเงินเดือนให้ หรือจะให้โบนัสต้นปี หรือปรับเลื่อนตำแหน่งให้เพื่อรั้งให้ลูกน้องทำ งานให้ต่อไป เป็นต้น เพราะจะทำให้ลูกน้องเสียความรู้สึก เสื่อมศรัทธานับถือในเรื่องที่รับปาก แล้วทำไม่ได้ อาจทำให้ลูกน้องหมดกำลังในการทำงาน
2. รับชอบแต่ไม่รับผิด ไม่กางปีกปกป้องลูกน้อง ดร. เสรี วงษ์มณฑา
เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การเป็นหัวหน้าที่ดีคือการรู้จักใช้มือ ใช้หัว และใช้หน้าหมายถึงการเป็นหัวหน้าต้องรู้จักที่จะใช้ มือในการลงมือทำให้ลูกน้องได้เห็น ใช้หัวเพื่อสร้างสรรค์ความคิดใหม่ ไม่ใช่คอยจับผิดลูกน้อง และที่สำคัญใช้หน้า
เพื่อใช้เอาไว้ยืดหน้ารับความผิดแทนลูกน้อง อย่างคำโบราณว่า "รับหน้า "
ไม่ใช่ทุกอย่างโบ้ยว่า ไม่รู้ มอบหมายให้ลูกน้องทำแล้ว ลูกน้องเป็นคนทำ
แล้วจะเรียกว่า หัวหน้า ได้อย่างไร
3. ตัดสินโดยไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น หรือไม่อธิบายเหตุผลใด ๆ
เป็นการตัดสินใจโดยยึดความคิดของตนเองเป็นหลัก>> >อย่าบังคับลูกน้องทำในสิ่งที่เขาลำบากใจ ควรฟังเหตุผลส่วนตัวของลูกน้องบางหรือเมื่อตัดสินใจออกมาเบื้องต้นแล้วบอกว่ามันเป็น "นโยบาย " ซึ่งการอธิบายแค่นี้ไม่สามารถให้ลูกน้องเข้าใจได้กลับยิ่งจะทำให้เข่ารู้สึกไม่ดีต่อองค์กรมากขึ้นไปอีก
4. พูดจาไม่ให้เกียรติลูกน้อง หัวหน้างานจำนวนหนึ่งมักมีความคิดว่าตัวเองมีความสนิทสนมกับลูก น้องเป็นอย่างดี จึงไม่จำเป็นต้องระวังคำพูดมากนัก ยิ่งลูกน้องที่ทำงานด้วยกันมานานยิ่งสนิทคิด ไปเองว่าลูกน้องคงรู้จักนิสัยของตนดีอยู่แล้ว ทำให้หัวหน้าหลายๆ คนไม่ระวังคำพูดและปฏิบัติกับ ลูกน้องไม่ค่อยให้เกียรติกับลูกน้องอยู่บ่อย ๆ
5. ตำหนิลูกน้องต่อหน้าธารกำนัล หัวหน้าจำนวนมากไม่ไว้หน้าลูกน้อง
ถ้าทำพลาดก็ซัดกันตรงนั้นเลย พูดเสียงดังในสิ่งที่เป็นปมด้อยและความผิดพลาดของลูกน้องต่อหน้าพนักงานแผนกอื่นทำให้ลูกน้องรู้สึกอายและ
ไม่อยากทำให้งาน ที่สำคัญไม่เคยชม นัยว่ากลัวเหลิงอะไรทำนองนั้นอย่างหนึ่งสำคัญคือความเสมอภาคเท่าเทียม ความยุติธรรมและความเป็นกลาง การให้สิทธิพิเศษ กับลูกน้องคนใดคนหนี่งจนทำให้เห็นความแตกต่าง คือ ลูกน้องบางคนทำดีและทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีข้อบกพร่อง แต่อีกคนทำผิดระเบียบบ่อยครั้งแต่ได้รับผลงานและผลตอบแทนเท่ากันหรือดีกว่าทำให้ลูกน้องอีกคนที่ทำดีอยู่แล้วไม่มีกำลังใจในการทำงานและเสียความรู้สึกได้คุณควรจะเป็นหัวหน้าที่มีความยุติธรรมมากกว่านี้ไม่ควรเอาความรู้สึกส่วนตัวตัดสินมากเกินไป
นี่คือพฤติกรรม 5 อย่างที่หัวหน้าหลาย ๆ คน สั่งสมไว้
ถ้าคนเป็นหัวหน้าลองย้อนมองดูตัวเอง ด้วยใจเป็นกลาง แล้วประเมินว่า
"มีสักกี่ข้อแล้ว"
Create Date : 03 ตุลาคม 2550
Last Update : 4 ตุลาคม 2550 9:45:50 น.
1 comments
Counter : 678 Pageviews.
Share
Tweet
ส่วนมากจะเป็นแบบนี้ละ ลาออกเพราะหัวหน้า
โดย:
ต่อตระกูล
วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:12:48:10 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.