มีฟักทองเหลือ ๆ ไหมคะ

เราเป็นคนไม่ค่อยชอบกินมัฟฟิน ไม่รู้ทำไม นานๆ ทีถึงจะคิดอยากทำ ทั้งที่คนที่บ้านก็ชอบกิน
สงสัยตัวเองว่า คงเป็นเพราะมัฟฟินนี้ ส่วนใหญ่จะทำง่าย ไม่ยุ่งยาก เลยไม่ถูกกับนิสัย .. ไม่ใช่หรอกค่ะ ส่วนมาก มัฟฟินจะเป็นขนมที่เสิร์ฟร้อน ทำใหม่ๆ กินเลยจะอร่อยสุด ดังนั้น มันไม่ค่อยเหมาะกับอุปนิสัยคนทำที่มักจะทำอะไรทีละเยอะแล้วเก็บไว้กินได้

ก็อีกแหละ เคยอ่านที่ไหนไม่รู้ เกี่ยวกับเรื่องของบุคคลิกภาพ ตามราศีเกิด หรือวันเดือนปีตกฟาก อะไรซักอย่าง มีประโยคนึง เกี่ยวกับตัวเราเขียนไว้ว่า always do things the hard way..กร๊ากกก ไม่จริ๊ง ไม่จริง นั่นเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับเราหรอก  เป็นใครก็อยากทำเรื่องที่มันไม่ยุ่งยากทั้งนั้น

ใช่ไหม

มาเข้าเรื่องมัฟฟินฟักทองของเราดีกว่า
เนื่องจากเราได้ฟักทองจำนวนมากมายหลายลูก มาจากคุณพี่สาวผู้มีอุปการคุณ นัยว่าเก็บจากสวนของเธอที่เชียงใหม่ หลังจากวางกองไว้ในตะกร้าหน้าบ้าน ทำเป็นพร๊อพจัดแต่งบ้านอยู่นานนับเดือน ก็ได้ฤกษ์ต้องเอามาจัดการเสียที

ฟักทองจากสวน ปลูกเอง เนื้อไม่หนา ลูกเล็กๆ สีเข้ม จะเอามาทำอะไรดีหนอ คิดไม่ออกก็ส่งไปนึ่งให้สุก แล้วบดเก็บเอาไว้ในช่องฟรีซไปก่อน

จนวันหนึ่งก็พลิกๆ ตำราทำขนมเล่น ไปเจอสูตรนี้




อ่าน ๆ ดูเรามีของครบหมดทุกอย่าง แอบเกินด้วยซ้ำ
ได้การดังนั้นจึงลงมือ




ทำได้เร็ว และออกมาดีค่ะ เลยเอาสูตรมาแบ่งปัน เผื่อใครอยากจะทำบ้าง

PUMPKIN MUFFIN
ได้มัฟฟิ่นขนาดมาตรฐาน 12-14 ถ้วย เราปรับส่วนผสมนิดหน่อย ในวงเล็บคือต้นฉบับ

ส่วนผสม
เนยสด  112 กรัม เย็นๆ แต่ไม่แข็ง
น้ำตาลทรายแดง 120 กรัม         ( 3/4 ถ้วยแบบกดแน่น ๆ )
น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย                        (โมลาส 1/3 ถ้วย)
ไข่ไก่ 1 ฟองใหญ่ ตีพอแตก
ฟักทองนึ่งสุกบดละเอียด 1 ถ้วยตวง หรือประมาณ 8 ออนซ์
แป้งอเนกประสงค์ 160 กรัม
เกลือ 1/4 ช้อนชา
เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
ซินนาม่อนผง 1/2 ช้อนชา            ( 1 1/2 ช้อนชา)
ลูกจันทน์เทศป่น 1/2 ช้อนชา
แอปริค้อตแห้ง รวมกับแครนเบอรี่แห้ง หั่นละเอียด 1 ถ้วย   (1/4 ถ้วย)


วิธีทำ

-  อุ่นเตาอบไว้ให้ได้ 180 องศาซี เตรียมถ้วยมัฟฟินเอาไว้ตามจำนวน

-  ร่อนแป้ง ผงโซดา และเครื่องเทศทุกชนิดรวมกันสักสองรอบ

-  ใช้เครื่องผสมมือถือ ตีเนยให้กระจายตัว จากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป ตีจนเข้ากันดี  ใส่น้ำผึ้ง  ตีส่วนผสมจนฟู

-  หยุดเครื่อง ใส่ไข่ไก่ที่ตีพอแตก และฟักทองบด ตีต่อจนเข้ากันดี

-  ตามด้วยส่วนของแป้งที่ร่อนไว้แล้ว ใช้พายยางตะล่อมให้เข้ากันดี อย่าผสมนานเกินไป

-  ใส่ผสไม้แห้งที่หั่นละเอียดลงไป คนให้เข้ากัน

-  ตักใส่ถ้วย หรือพิมพ์มัฟฟิน ปริมาณ 3/4 ของพิมพ์  ส่งเข้าอบในเตาที่อุณหภูมิคงที่แล้ว  ใช้เวลา 15-17 นาทีโดยประมาณ หรือทดสอบโดยเมื่อแตะผิวของมัฟฟินแล้วเนื้อขนมสปริงตัวกลับ

-  เสิร์ฟอุ่นหรือเย็น


เห็นไหม ชอบตรงนี้แหละ ตรงที่มันเสิร์ฟแบบเย็นก็ได้ แล้วก็อร่อยดีด้วยค่ะ



เริ่มต้นจากการเตรียมฟักทองบดก่อนนะคะ ฟักทองนึ่งให้สุกแล้วบดละเอียด พอดีเรามีฟักทองบดอยู่ในช่องแอนทีคค่ะ





ผลไม้แห้ง เราใช้แอปริค้อตแห้งกับแครนเบอรี่แห้ง รวม ๆ กัน ใส่เยอะ ๆ อร่อยดี





น้ำตาลทรายแดง เอารูปมาลงเพราะเคยเห็นคนเรียกน้ำตาลทรายแดง แต่รูปเป็นน้ำตาลทรายขาวชนิดไม่ฟอกสี
แบบนี้คือ Brown Sugar หรือน้ำตาลทรายแดงค่ะ
หมายเหตุ ถ้าทำขนมอื่นที่ต้องการความละเอียดเนียน เราจะเอาน้ำตาลทรายแดงนี้ไปปั่นให้ละเอียดอีกทีนึงนะ





น้ำผึ้ง ที่เราใช้แทนโมลาส เพราะที่บ้านไม่มี และยังไม่คิดจะซื้อสะสมเอาไว้ด้วย
แต่น้ำผึ้งนี้มีติดบ้านตลอดเวลา  สะสมเอาไว้หลายขวดอยู่ค่ะ





แป้งที่ร่อนรวมกับโซดาและผงเครื่องเทศแล้ว ดูออกไหมค้าว่ามันมีผง ๆ อยู่ อิอิ





มัฟฟิน เป็นขนมที่ทำง่ายจนไม่ต้องมีขั้นตอนให้ดูก็ได้เนอะๆ
ในภาพคือหลังจากใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไปครบหมดแล้ว  พร้อมตักใส่พิมพ์อบค่ะ




ใส่ส่วนผสมลงประมาณ 3 ใน 4 ของพิมพ์  ที่จริงเราว่าใส่เยอะกว่านี้ก็จะดีนะ จะได้ชิ้นขนมอ้วน ๆ สูง ๆ หน่อย





มีเมล็ดฟักทองด้วย  เอามาโรยหน้าสักหน่อย





อบเสร็จแล้ว  กลิ่นหอมดีมาก ๆ ค่ะ หอมกลิ่นฟักทอง ผสานกับเครื่องเทศน้อย ๆ
เราไม่ค่อยชอบกลิ่นซินนาม่อนรุนแรงเท่าไหร่ ถ้าใครชอบจะใส่ตามสูตรต้นฉบับเลยก็ได้นะคะ




เราว่าถ้าใส่ส่วนผสมเยอะกว่านี้ก็น่าจะดีนะคะ มัฟฟินของเราหุ่นออกไปทางคัพเค้กมากกว่า
มัฟฟิ่นที่ได้ รสชาดดีมาก หอม ๆ และเนื้อขนมจะมีความเหนียวนุ่มจากฟักทอง มีเท็กซ์เจอร์ของผลไม้แห้ง และมีความชุ่มฉ่ำจากน้ำตาลทรายแดง รวมทั้งน้ำผึ้งที่ให้กลิ่นไม่จัดจ้านมาก

กินร้อน ๆ อร่อยอยู่แล้ว แต่ที่ชอบสูตรนี้คือ กินตอนเย็น ๆ ก็ยังอร่อยค่ะ ชอบตรงนี้ที่ซู้ด




ขอให้มีความสุขกับการค้นหาสมบัติจากตู้เสบียงในบ้าน มาทำเป็นของกินได้  เป็นเรื่องน่าสนุก และบางทีก็ได้พบว่า มีขนมหลายอย่างที่เราไม่คิดจะทำ แต่พอทำแล้ว เราชอบมันมากกว่าที่เคยนึก
เหมือนได้มีโอกาสทำความรู้จักกับหลายสิ่ง ที่เราเคยตั้งธงเอาไว้ว่าไม่ชอบ แต่พอได้สัมผัสจริง ๆ ก็จะได้ความรู้สึกตรงข้าม
เพียงแต่ต้องเปิดใจและให้โอกาสกับตัวเองเท่านั้น


ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่แวะมาใช้เวลาด้วยกัน ณ​ ที่นี้เสมอมาค่ะ

Create Date : 14 พฤษภาคม 2557
Last Update : 14 พฤษภาคม 2557 23:10:44 น.		22 comments
Counter : 4287 Pageviews.
Share Tweet