Seantun

เทคนิคการแก้ภาพเอียงใน Photoshop

เทคนิคการแก้ภาพเอียงใน Photoshop
มารู้จักเครื่องมือของ Photoshop ที่ถูกซ่อนเอาไว้ โดยเครื่องมือนี้สามารถแก้ไขภาพที่สแกนมาแล้วเอียงไม่ได้ระดับ หรือภาพที่ถ่ายมาแล้วเห็นแนวอย่างเช่นเส้นขอบฟ้าเอียงอย่างชัดเจน ให้ตรงได้ระดับพอดี ด้วยการสั่งหมุนภาพเพียงครั้งเดียว ซึ่งนอกจากจะทำได้รวดเร็วแล้ว ยังหลีกเลี่ยงการเสียคุณภาพของภาพไปจากการหมุนภาพหลายครั้งได้อีกด้วย

ช่วงนี้มีเพื่อนผมคนหนึ่งเอาภาพเก่าๆ จากอัลบั้มมาสแกนเก็บไว้ลงแผ่นซีดี ปัญหาหนึ่งที่เจอคือ เป็นการยากมากที่จะจับวางภาพให้ออกมาได้ตรงระดับ เมื่อสแกนมาแล้วภาพจะได้ไม่เอียง ซึ่งพยายามแค่ไหนก็ออกมาไม่ตรงซักรูป เรียกว่าเอียงซะเกือบหมด หรือหมดเลยก็ได้ นอกจากนี้การที่จะต้องมานั่งปรับภาพให้ได้ระดับใน Photoshop กับภาพเป็นร้อยๆ ภาพก็ไม่เรื่องสนุกเลย ที่สำคัญบางภาพต้องปรับแล้วปรับอีกกว่าจะได้ระดับ สำหรับคนพิถีพิถันแล้ว การปรับภาพจากที่เอียงให้ตรงนั้นหากปรับไ่ม่ได้ระดับแล้ว จะต้อง Undo ให้ภาพกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมแล้วค่อยปรับระดับใหม่ เพราะการปรับระดับไปเรื่อยๆ จะทำให้ภาพถูก Process ไปเรื่อยๆ คุณภาพจะลดลงทุกครั้งที่มีการปรับระดับ

ในที่สุดเค้าก็หมดความอดทนแล้ว ก็โทรมาถามผมว่ามีวิธีการไหนหรือเปล่าที่จะแก้ปัญหาพวกนี้ได้ เลยแนะนำวิธีเค้าไป เห็นว่าน่าสนใจดีเผื่อเพื่อนๆ คนไหนจะสแกนภาพถ่ายเก็บไว้แล้วเจอปัญหาแบบเดียวกัน รวมถึงการนำไปแก้ไขภาพถ่ายบางภาพ เช่นภาพถ่ายที่ต้องเห็นขอบฟ้ากับน้ำทะเล แล้วปรากฏถ่ายออกมาแล้วเส้นขอบฟ้าเอียง ก็เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ

เริ่มแรกขอแนะนำภาพตัวอย่างที่เราจะนำมาใช้ก่อนครับ เป็นภาพที่ถ่ายโดยมีทะเล และเส้นขอบฟ้าเป็นแบ็คกราวน์ด จะเห็นว่าขอบฟ้าเอียง ข้างขวาของภาพสูงกว่าข้างซ้าย

ให้เราไปเลือกเครื่องมือที่ชื่อว่า Measure Tool ซึ่งจะซ่อนอยู่ใน Eyedropper Tool ตามรูป โดยให้เลื่อนเม้าส์ไปยังสัญลักษณ์ Eyedropper Tool แล้วคลิ๊กเม้าส์ค้างไว้ซักครู่จะมีเครื่องมือที่ซ่อนไว้ปรากฏขึ้นดังรูป จึงเลื่อนเม้าส์ไปเลือก Measure Tool

เมื่อเปลี่ยนเครื่องมือเป็น Measure Tool เรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่ภาพคลิ๊กเม้าส์ยังตำแหน่งเริ่มต้นของจุดใดก็ไ้ด้ีที่เราเห็นว่าเป็น จุดเริ่มเอียง (ถ้าเป็นภาพสแกนมาก็ใช้บริเวณขอบรูปได้เลย) อย่างในภาพประกอบ ผมคลิ๊กที่เส้นขอบฟ้าจากทางด้านซ้าย จากนั้นกดปุ่มเ้ม้าส์ค้างไว้แล้วลากไปยังเส้นขอบฟ้าทางด้านขวาของภาพ ตามแนวเส้นสีแดงในภาพ แล้วค่อยปล่อยปุ่มที่เม้าส์
(เส้นที่ Photoshop จะวาดเป็นแนวจะเป็นเส้นสีดำ ดังที่เห็นเส้นสีดำขนาบไปกับเส้นขอบฟ้าในรูปประกอบ ระวังอย่าสับสนกับเส้นสีแดงที่เป็นเส้นซึ่งผมใส่เข้าไปในภาพเพื่อแสดงให้ เห็นว่าผมคลิ๊กเริ่มต้นที่ไหน และลากเส้นไปทางไหน)

ให้ไปเลือกที่ Option Arbitrary Rorate โดยคลิ๊กเมนูตามลูกศรหมายเลข 1 ถึง 3 บนจอจะปรากฏ Window เพื่อให้ป้อนตัวเลของศาของการหมุนภาพ ซึ่งความเอียงที่ Photoshop วัดไว้แล้วด้วย Measure Tool จะถูกเติมลงไปเองอัตโนมัติ ดังที่เห็นในวงกลมสีแดง ให้คลิ๊กที่ปุ่ม OK ที่ลูกศรหมายเลข 4 ชี้ไว้ได้เลย


ภาพนี้คือผลลัพธ์ที่ได้ ผลจากการหมุนภาพจะทำให้ภาพมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย

ให้ Crop ส่วนที่ไม่ต้องการออก ก็จะได้ภาพดังที่เห็น เป็นอันเสร็จขั้นตอนทั้งหมดครับ

Ref://www.thaidphoto.com




 

Create Date : 23 เมษายน 2549   
Last Update : 23 เมษายน 2549 0:53:40 น.   
Counter : 1206 Pageviews.  

การลดขนาดภาพและไฟล์ให้ได้พอดีแบบรวดเร็ว (ภาค 2)

การลดขนาดภาพและไฟล์ให้ได้พอดีแบบรวดเร็ว (ภาค 2)
บทความนี้เป็นภาคต่อจากบทความ "การลดขนาดภาพและไฟล์ให้ได้พอดีแบบรวดเร็ว (ภาค 1)" โดยในภาคนี้จะมีขั้นตอนการทำงานมากกว่าบทความในภาคแรก แต่จะให้ภาพหรือผลลัพธ์ที่มีความคมชัดกว่าด้วยเช่นกัน

ใน บทความภาคที่ 1 เราเขียนถึงวิธีการลดขนาดภาพและขนาดไฟล์ให้ได้ขนาดที่พอดีอย่างรวดเร็ว จะเน้นไปในเรื่องความง่ายและสะดวก เพราะสามารถทำทุกอย่างให้เสร็จได้ในคำสั่ง Save for Web เพียงขั้นตอนเดียว แต่เนื่องจากการย่อภาพจะมีผลข้างเคียงทำให้ความคมชัดของภาพลดลง (ภาพดูนิ่มขึ้น) ดังนั้นในบทความภาคสองนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการที่จะลดขนาดของภาพและไฟล์ให้ ออกมาได้พอดี เช่นเดียวกับในบทความภาคแรก แต่จะให้ความคมชัดมากกว่าครับ (ถ้าใครยังไม่ได้อ่านบทความในภาคที่ 1 รบกวนอยากให้กลับไปอ่านก่อน เพื่อที่จะเข้าใจบทความภาคนี้ได้ง่ายมากขึ้น

โจทย์ในบทความที่แล้วคือ เรามีภาพต้นฉบับที่มีขนาดของภาพ 1600x1200 pixel แต่เราต้องการที่จะย่อลงให้ด้านที่กว้างที่สุดมีขนาดไม่เกิน 450 pixel และมีขนาดไม่เกิน 50KB จึงขออนุญาตใช้ภาพประกอบเดิมนะครับ

หลังจากเข้าโปรแกรม Photoshop และเปิดไฟล์ที่ต้องการขึ้นมาแล้ว ให้ไปที่ คำสั่ง Image Size ตามขั้นตอนลูกศรหมายเลข 1 และ 2
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่องสี่เหลี่ยมที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 3 มีเครื่องหมายถูกอยู่ทั้งคู่ เหมือนในภาพ จากนั้นให้ใส่ตัวเลขของขนาดภาพลงไปในช่องที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 4
หมายเหตุ เนื่องจากภาพตัวอย่างที่นำมาประกอบบทความเป็นภาพแนวนอน จึงใส่เลข 450 ในช่อง Width ดังที่เห็นในภาพ ซึ่งหากภาพที่นำมาย่อขนาดเป็นภาพแนวตั้ง ให้ใส่ตัวเลขที่ช่อง Height แทน และการใส่ตัวเลขให้ใส่เพียงช่องใดช่องหนึ่งเท่านั้น เพราะอีกช่อง Photoshop จะทำการคำนวณตัวเลขที่ได้สัดส่วนใส่ลงไปให้เองอัตโนมัติ

ตามที่ได้เกริ่นนำไว้แล้วว่า การย่อขนาดภาพจะทำให้ความคมชัดของภาพหายไป หรือภาพจะดูนิ่มลง ดังนั้นเราจะใช้ Filter Sharpen เพื่อคืนความคมชัดให้กับภาพ ตามขั้นตอนที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 5 และ 6
หมายเหตุ อันที่จริงการทำให้ภาพดูชัดขึ้นนั้น Photoshop ทำโดยการหาจุดตัดกันของสี และทำให้สีฝั่งมืด ให้มืดลง และเพิ่มความสว่างของด้านสว่างให้สูงขึ้น ด้วยวิธีนี้ตาของมนุษย์จะรู้สึกว่าภาพคมขึ้น
Sharpen Filter เป็น Filter ที่มีการทำงานง่ายๆ ทำทุกอย่างให้เสร็จโดยอัตโนมัติ แต่หากท่านผู้อ่านท่านใดต้องการที่จะลองปรับแต่งค่าต่างๆ เพื่อควบคุมเรื่องของความคมชัดเอง สามารถใช้ Filter "Unsharp Mask" ได้ (วงกลมสีน้ำเงินไว้ในภาพประกอบ) ซึ่งจะให้ผลเช่นเดียวกัน แต่ Unsharp Mask Filter จะอนุญาตให้เราสามารถควบคุมค่าต่างๆ ได้เอง

มาถึงขั้นตอนนี้เราก็จะได้ภาพที่ถูกย่อขนาดลงเรียบร้อยพร้อมเซพแล้ว ให้เรียกคำสั่ง Save For Web ขึ้นมาตามลูกศรหมายเลข 7 และ 8 จากนั้นก็ทำซ้ำตั้งแต่ ขั้นตอน E ในบทความภาคแรกได้เลยครับ

ผลลัพธ์ของภาพที่ได้จากบทความภาคแรก

ผลลัพธ์ที่ได้จากบทความภาคนี้

Ref://www.thaidphoto.com




 

Create Date : 22 เมษายน 2549   
Last Update : 23 เมษายน 2549 0:44:52 น.   
Counter : 634 Pageviews.  

การลดขนาดภาพและไฟล์ให้ได้พอดีแบบรวดเร็ว (ภาค 1)

การลดขนาดภาพและไฟล์ให้ได้พอดีแบบรวดเร็ว (ภาค 1)

การอัพโหลดภาพขึ้นไปบนเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพส่วนใหญ่จะเจอข้อจำกัด อยู่สองอย่าง คือการจำกัดขนาดของภาพและการจำกัดขนาดของไฟล์ ในบทความนี้จะแนะนำวิธีการย่อขนาดของภาพ และขนาดของไฟล์ลงให้พอดีตามที่แต่ละเว็บไซต์กำหนดด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก
เพื่อความไม่สับสน ผมขออนุญาตอธิบายคำจำกัดความของขนาดภาพและขนาดไฟล์ก่อน เพราะเดี๋ยวจะงงไปกันใหญ่
  • ขนาดของภาพ หมายถึงจำนวน Pixel ของภาพทั้งแนวตั้งและแนวนอน เช่น ภาพขนาด 1600x1200 pixel
  • ขนาดของไฟล์ หมายถึง เนื้อที่บนฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ เมื่อนำภาพเซฟลงเป็นไฟล์ เช่น 50KB เป็นต้น

ผมขอสมมุติตัวอย่างขึ้นมาซักอันนะครับ ว่า เรามีไฟล์ที่ถ่ายมาจากกล้องดิจิตอลขนาด 1600x1200 pixel แต่เว็บไซต์ A อนุญาตให้เราสามารถอัพโหลดไฟล์ขึ้นไปโชว์ผลงาน โดยมีเงื่อนไขว่าขนาดของไฟล์จะต้องไม่เกิน 50K และขนาดของภาพสูงสุดด้านใดด้านหนึ่งจะต้องไม่มากกว่า 450pixel

นี่คือภาพตัวอย่างของเราครับ ให้เปิดไฟล์นี้ด้วยโปรแกรม Photoshop แล้วทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เลยครับ

เมื่อเปิดไฟล์ต้นฉบับของเราใน Photoshop เรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่เมนู Save For Web ตามขั้นตอนที่ลูกศรหมายเลข 1 และ 2 ชี้อยู่

เราจะได้ Window ใหม่ตามภาพประกอบ ซึ่งผมขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังที่มีตัวเลขสีน้ำเงินกำกับอยู่ในภาพ โดยผมขอพูดถึงในส่วนที่ 2 ก่อน โดยในบริเวณนี้จะเป็นบริเวณที่เอาไว้กำหนดค่าที่จะมีผลให้ขนาดของไฟล์ เปลี่ยนไป นั้นคือขนาดของภาพ และคุณภาพของภาพ เพราะค่าสองตัวนี้มีผลโดยตรงกับขนาดของไฟล์ครับ สำหรับส่วนที่ 1 นั้นจะแบ่งออกเป็นรูปสองรูปดังที่เห็นในภาพ โดยรูปทางด้านซ้ายมือจะเป็นต้นฉบับ ส่วนรูปทางด้านขวามือจะเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการเปลี่ยนค่าต่างๆ ที่อยู่ในส่วนที่ 2 ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น

เริ่มแรกเลย เราจะมาเปลี่ยนขนาดของภาพให้ได้ตามที่ต้องการเสียก่อน ซึ่งในข้อสมมุติที่เรายกตัวอย่างไว้ข้างบนระบุว่าขนาดของภาพด้านใด ด้านหนึ่งจะต้องไม่เกิน 450 Pixels ให้คลิ๊กตามลูกศรหมายเลข 3 และใส่ขนาดของภาพลงในช่องที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 4 (เนื่องจากภาพที่นำมาเป็นตัวอย่างเป็นภาพแนวนอน ดังนั้นค่า 450 เราจะใส่ในช่อง Width แต่ถ้าเป็นภาพแนวตั้ง เราจะต้องป้อนลงในช่อง Height) จากนั้นตามด้วย Apply ที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 5

หมายเหตุ การ ใส่ค่าตัวเลขขนาดของภาพนั้นใส่เพียงข้างใดข้างหนึ่งก็เพียงพอ เพราะเมื่อเราใส่ตัวเลขลงไปในด้านใดด้านหนึ่งแล้ว Photoshop จะทำการคำนวณค่าของอีกด้านหนึ่งให้ได้สัดส่วนเองโดยอัตโนมัติ

เมื่อเรากำหนดขนาดของภาพเสร็จแล้ว เราจะไปกำหนดคุณภาพของภาพให้ได้พอดีกับขนาดไฟล์ โดยคลิ๊กตามลูกศรหมายเลข 6 และ 7

ป้อนขนาดของไฟล์ที่ต้องการในช่องที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 8 (ในกรณีสมมุติของเราคือ 50KB) ตามด้วย "OK" ที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 9

คลิ๊กตามลูกศรหมายเลข 10 เพื่อ Save


เทคนิคเพิ่มเติมเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด
เพียงขั้นตอนที่กล่าวไปข้างบนทั้งหมดก็เพียงพอที่จะบรรลุถึงจุดหมายของการลด ขนาดภาพและขนาดไฟล์ให้ได้ตามต้องการแล้ว แต่สำหรับท่านผู้อ่านท่านใดที่อยากจะให้ภาพออกมามีคุณภาพที่ดีที่สุด โดยใช้ขนาดไฟล์น้อยที่สุดแล้ว เนื้อหาต่อไปนี้เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุดครับ

โดยเครื่องมือที่เราจะใช้ตรวจวัดคุณภาพ มีอยู่ 3 ตัวด้วยกันครับ ตามที่ลูกศรสีน้ำเงินทั้งสามชี้อยู่ในภาพประกอบ

ตัวแรก คือกลุ่มเครื่องมือที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 1 ซึ่งเครื่องมือที่ต้องใช้มีสองตัวดังนี้
เอาไว้ขยายภาพ หรือย่อภาพ เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพของภาพต้นฉบับที่อยู่ทางด้านซ้าย และตัวอย่างผลลัพธ์ของภาพที่ถูกเปลี่ยนแปลงคุณภาพไปแล้วซึ่งเป็นภาพทางขวา วิธีใช้เครื่องมือตัวนี้คือการคลิ๊กไปที่ภาพเพื่อซูมภาพให้ใหญ่ขึ้น (Zoom in) หรือกดปุ่ม Alt แล้วคลิ๊กไปที่ภาพ เพื่อถอยการซูมภาพออกมา (Zoom Out) ถ้าไม่เข้าใจว่า Zoom in หรือ Zoom Out เป็นยังไง แนะนำให้ลองเล่นดูครับ
กรณีที่เราซูมเข้าไปในรายละเอียด ภาพอาจจะใหญ่จนไม่สามารถแสดงภาพได้หมด ภาพจะถูกนำมาแสดงเฉพาะบางส่วน เราจะใช้เครื่องมือตัวนี้เลื่อนไปยังส่วนต่างๆ ที่ต้องการดูรายละเอียด วิธีใช้เครื่องมือตัวนี้ให้เลื่อน Pointer ของ Mouse ไปที่ภาพ จากนั้นให้กดปุ่มของเม้าส์ค้างไว้ แล้วทำการเลื่อนเม้าส์ ภาพบนจอจะเลื่อนไปมาในทิศทางเดียวกัน เมื่อได้ตำแหน่งที่ต้องการแล้วให้ปล่อยการกดปุ่มเม้าส์
ตัวที่สองคือระดับของคุณภาพของภาพ ถ้าตัวเลขตรงนี้ยิ่งสูงคุณภาพความคมชัดของภาพก็จะมียิ่งมาก แต่ขนาดของไฟล์ก็จะใหญ่ตามขึ้นไปด้วย (ตัวเลขคุณภาพสูงเกินไปก็เปลืองโดยเปล่าครับ อย่างคุณภาพระดับที่ 85 กับ 100 นี่ดูแทบไม่เห็นความแตกต่างกันแล้วครับ) ตัวเลขตรงนี้ผมแนะนำว่าระดับปานกลางจะอยู่ที่ 60-65, ระดับค่อนข้างดีจะอยู่ที่ 70-75 ในขณะที่คุณภาพดีมากอยู่ที่ 85 และค่าตรงนี้ไม่ควรต่ำกว่า 60 ครับ ไม่งั้นภาพที่ออกมาจะเริ่มดูแย่แล้ว ดังนั้น หลังจากทำตามขั้นตอนข้างบนมาทั้งหมดแล้ว หากพบว่าค่าตรงนี้เป็นตัวเลขที่มีค่าสูงเกินไปอาจจะปรับลดลง เพื่อให้ได้ขนาดของไฟล์ที่เล็กลงไปอีก หรือในขณะเดียวกันถ้าพบว่าค่าตรงนี้ต่ำเกินไป เช่นอาจจะต่ำกว่า 60 ผมแนะนำว่าควรจะเพิ่มค่าตรงนี้ให้สูงขึ้น และหากว่าการเพิ่มค่าตรงนี้ให้สูงขึ้นทำให้ขนาดของไฟล์ใหญ่เกินไป ผมแนะนำให้ย่อขนาดของภาพให้เล็กลง (ขั้นตอนลำดับที่ D.)
ตัวที่สาม หรือตัวสุดท้ายที่จะแนะนำคือตัวบอกขนาดของไฟล์ผลลัพธ์ที่จะถูกเซฟ ทั้งนี้ควรดูค่านี้ให้ดีครับ เพราะหากเราปรับแต่งคุณภาพของภาพเอง ด้วยเครื่องมือตัวที่สองที่กล่าวไป จะมีผลโดยตรงกับขนาดของไฟล์ ซึ่งอาจจะทำให้ขนาดของไฟล์ใหญ่กว่ากำหนดได้ ยังไงเมื่อลองปรับค่าต่างๆ ดูแล้ว ไม่ว่าจะขนาดภาพ หรือคุณภาพของภาพก็อย่าลืมตรวจสอบขนาดของไฟล์ตรงนี้ด้วยนะครับ
วิธีการทั้งหมดที่เราพูดถึงกันในบทความนี้เป็นวิธีที่รวดเร็ว และง่าย เพราะสามารถที่จะย่อภาพและขนาดของไฟล์ให้ได้ตามที่ต้องการได้ในขั้นตอนเดียว แต่อย่างไรก็ดี การย่อภาพจะทำการเกิดผลข้างเคียงขึ้นมาอย่างหนึ่ง นั่นคือความคมชัดของภาพหายไป ภาพที่ได้จากการย่อจะมีลักษณะดูนุ่มลงไป ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้ แต่จะมีขั้นตอนมากขึ้น นั่นคือการปรับขนาดภาพและปรับแต่งความคมชัดใน Photoshop ให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วจึงใช้คำสั่ง Save for Web ทำการเปลี่ยนเฉพาะระดับของคุณภาพ เพื่อให้ได้ขนาดของไฟล์ตามต้องการ ซึ่งรายละเอียดสามารถติดตามต่อได้ใน บทความภาค ต่อไป เลยครับ

Ref://www.thaidphoto.com




 

Create Date : 20 เมษายน 2549   
Last Update : 23 เมษายน 2549 0:43:22 น.   
Counter : 1355 Pageviews.  

1  2  

seantun
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




'
[Add seantun's blog to your web]