Group Blog
 
All Blogs
 

พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม



พระราชวังสนามจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ประมาณ 2 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 888 ไร่ 3 งาน 4 ตารางวา สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากพระองค์สวรรคต พระราชวังสนามจันทร์ใช้เป็นที่ทำการของส่วนราชการต่าง ๆ ของจังหวัดนครปฐม รวมทั้ง เป็นวิทยาเขตหนึ่งของมหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบัน พระราชวังสนามจันทร์อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักพระราชวัง

ประวัติ
พระราชวังสนามจันทร์เป็นพระราชวังที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นบนบริเวณที่คาดว่าเป็นพระราชวังเก่าของกษัตริย์สมัยโบราณที่เรียกว่า เนินปราสาท เพื่อเป็นสถานที่ประทับครั้งมานมัสการองค์พระปฐมเจดีย์และเมื่อบ้านเมืองถึงยามวิกฤต

พระราชวังใช้เวลาก่อสร้างนาน 4 ปี โดยมี หลวงพิทักษ์มานพ (น้อย ศิลป์) ซึ่งต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯเลื่อนยศเป็นพระยาวิศุกรรม ศิลปประสิทธิ์ เป็นแม่งาน และสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2450 เมื่อสร้างแล้วเสร็จจึงได้พระราชทานนามว่า "พระราชวังสนามจันทร์" ตามชื่อสระน้ำโบราณหน้าโบสถ์พราหมณ์ (ปัจจุบันไม่มีโบสถ์พราหมณ์เหลืออยู่แล้ว) สระน้ำจันทร์ หรือ สระบัว

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชพินัยกรรมแสดงพระราชประสงค์ยกพระราชวังสนามจันทร์ให้เป็นสถานที่ตั้งของโรงเรียนนายร้อยทหารบก โดยมีใจความว่า

" บรรดาที่ดินตึกรามทั้งใหญ่ น้อย ที่รวมอยู่ในเขตซึ่งเรียกว่า "พระราชวังสนามจันทร์" เป็นสมบัติส่วนตัวของข้าพเจ้าโดยแท้ไม่ได้รับมฤดกมาจากสมเด็จพระบรมชนกนารถมิได้ ข้าพเจ้าได้เก็บทุนในตำแหน่งหน้าที่พระยุพราชและทุนอื่น ๆ สร้างที่สนามจันทร์ และสร้างพระที่นั่งซึ่งเรียกว่า พระพิมานประฐม นั้นขึ้นก่อน ต่อมาเมื่อข้าพเจ้าได้ราชสมบัติแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้เอาเงินพระคลังข้างที่ทำนุบำรุงที่นี้ตลอดมาเป็นส่วนตัวทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นจะเอาที่พระราชวังสนามจันทร์ไปรวมเข้ากับกองมฤดกใหญ่นั้นหาควรไม่ ข้าพเจ้ามีสิทธิ์ตามกฎหมายเหมือนสามัญชน ที่จะยกที่นี้ให้แก่ผู้ใดก็ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อสิ้นตัวข้าพเจ้าไปแล้ว ข้าพเจ้าขอยกที่นี้ให้แก่รัฐบาลสยามเป็นสิทธิขาด เพื่อทำเป็นโรงเรียนนายร้อยทหารบก"

ในปัจจุบัน พระราชวังสนามจันทร์อยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง โดยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2546 คณะกรรมการอำนวยการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งมีสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นองค์ประธาน ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย นายนาวิน ขันธหิรัญ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ลิขิต กาญจนาภรณ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ได้น้อมเกล้าฯ ถวายคืนพระราชวังสนามจันทร์แก่สำนักพระราชวัง

พระราชวังสนามจันทร์มีสิ่งก่อสร้างมากมาย ประกอบด้วย
พระที่นั่งพิมานปฐม
พระที่นั่งอภิรมย์ฤดี
พระที่นั่งวัชรีรมยา
พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์
พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์
พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์
พระตำหนักทับแก้ว
พระตำหนักทับขวัญ
เทวาลัยคเณศร์
เรือนพระยานนทิการ
เรือนพระธเนศวร
เรือนทับเจริญ
อนุสาวรีย์ย่าเหล




 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 14 กรกฎาคม 2554 12:30:54 น.
Counter : 966 Pageviews.  

ล่องแก่งทีลอเร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก



สีสันแห่งบ้านอุ้มผางเริ่มขึ้นในฤดูกาลน้ำหลาก หมู่บ้านในหุบเขาที่อยู่ติดกับชายแดนพม่าแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของผืนป่าตะวันตก ซึ่งมีเส้นทางการผจญภัยที่นับเป็นสุดยอดอีกแห่งในเมืองไทย คือ การล่องเรือยางกลางลำน้ำแม่กลอง แม่น้ำที่ถือกำเนิดในผืนป่าตะวันตก นับเป็นสายน้ำที่มีความยาวและสำคัญที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย

การล่องแม่น้ำแม่กลองตอนล่าง เริ่มต้นที่บ้านปะละทะ หมู่บ้านกะเหรี่ยงเก่าแก่ ที่มีสาธารณูปโภคเข้าถึง แต่ชาวกะเหรี่ยงที่นี่ยังคงแต่งกายแบบดั้งเดิม แต่ละบ้านจะทอผ้าใช้กันเองด้วยหูกทอผ้า ปลูกพืชผัก เลี้ยงหมูไก่ไว้เป็นอาหาร และเลี้ยงช้างไว้เป็นพาหนะ การล่องในช่วงแรกสายน้ำจะราบเรียบคดโค้งตามแนวเขาแนวป่าทึบที่อุดมสมบูรณ์

ผ่านบ้านกะเหรี่ยงโคทะ ก่อนที่จะพบกับแก่งเลเกติ เป็นแก่งใหญ่และยาวหลายกิโลเมตร ผ่านน้ำตกเล็ก จนถึงแก่งคนมอง ที่มีสายน้ำหลากไหลเชี่ยว มีโขดหินจำนวนมาก แก่งสุดท้ายก็จะเป็นแก่งกะซิจิ๊เล จากนั้นจะถึงเวิ้งน้ำไหลโค้งสู่เพิงผาริมน้ำ มองเห็นน้ำตกทีลอเรไหลผ่านหน้าผาเขาหินปูนสูงลงสู่ผืนน้ำ

ความยากการล่องเรือนี้จัดอยู่ในระดับ 3-4 จึงเหมาะสำหรับการล่องด้วยเรือยางมากกว่าแพไม้ไผ่ ระยะการล่องประมาณ 27 กิโลเมตร ใช้เวลา 6-7 ชั่วโมง ขากลับจากน้ำตกไปบ้านปะละทะ ต้องเดินป่า ผ่านป่าทึบ สลับการขึ้นเขา ซึ่งอาจจะพบเห็นสัตว์บ้าง ควรนั่งช้างสลับกับการเดิน ระยะทางรวม 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 8-10 ช.ม.

ทิป การเตรียมตัวสำหรับการล่องแพ

สวมเสื้อผ้า และรองเท้าแบบสบาย ไม่หนาและรัดเกินไป
สวมหมวกกันแดด
ใส่เสื้อชูชีพ
กระเป๋ากันน้ำ สำหรับใส่สิ่งของที่จะพกไป
ถุงขยะสำหรับนำมาทิ้งที่รับรองขยะบนบก
เชือกมนิลายาว 30 - 50 เมตร เผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน
หมายเหตุ: ต้องตระเตรียมอุปกรณ์และอาหารสำหรับการพักค้างแรม 2 คืน

การเดินทางท่องเที่ยวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้ก่อน โดยกรอกรายละเอียดลงในฟอร์มและรับการประทับตรา สป.7 เพราะพื้นที่นี้ไม่ใช่พื้นที่ท่องเที่ยว เป็นการอนุญาตให้เข้าศึกษาธรรมชาติเท่านั้น




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2554 10:28:05 น.
Counter : 807 Pageviews.  

โรยตัวที่น้ำตกธารรัตนา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดปราจีนบุรี



อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก มีเนื้อที่ประมาณ 1.36 ล้านไร่ แต่เดิมเป็นพื้นที่ที่ถูกบุกรุกถางป่าเพื่อการเพาะปลูก ทำไร่เลื่อนลอย และเป็นแหล่งหลบซ่อนของผู้ร้าย ทางการอพยพผู้คนมาอยู่ในพื้นที่ราบ และปล่อยให้พื้นที่เขารกร้างเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ จนในปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้เดินทางมาตรวจพื้นที่ และให้มีการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเพื่อดูแลรักษาป่าไม้ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 18 กันยายน 2505 ในปี พ.ศ. 2521 ได้มีการประกาศเพิกถอกพื้นที่บางส่วน เพื่อใช้ก่อสร้างสถานีเรดาร์และสถานีถ่ายทอดโทรคมนาคม และในปี พ.ศ. 2542 ก็ได้มีการประกาศเพิกถอกพื้นที่อีกส่วนหนึ่ง เพื่อใช้ในการสร้าง เขื่อนคลองท่าด่าน พื้นที่เป็นเทือกเขาสูงมีทุ่งสลับป่าไม้ มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก เป็นแหล่งต้นน้ำสายสำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำนครนายก แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำลำตะคอง แม่น้ำพระเพลิง ป่าไม้จะมีความหลากหลายรูปแบบ มีทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น ป่าดิบเขา ทุ่งหญ้า ป่ารุ่น หรือป่าเหล่าที่เกิดจากการทำไร่เลื่อนลอย สัตว์ป่าที่สามารถพบได้บ่อยครั้ง ได้แก่ เก้ง กวาง และยังพบ ช้าง เสือ กระทิ่ง เลียงผา หมี ชะนี เม่น หมาใน ชะมด กระต่ายป่า นก แมลงต่างๆ อากาศในพื้นที่จะเย็นสบายตลอดปี ไม่ร้อนจัด หรือหนาวจัด อุณหภูมิเฉลี่ยที่ 23 องศาเซลเซียส
ในพื้นที่ของอุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวประเภทต่างๆ หลากหลายกันออกไป ซึ่งเอื้ออำนวยต่อกิจกรรมนันทนาการแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่องสัตว์ ดูนก เล่นน้ำตก ชมทิวทัศน์ ล่องแก่ง ปีนหน้าผา เดินป่าระยะสั้นและระยะไกล

น้ำตกธารรัตนา เป็นน้ำตกเล็กๆ ที่เกิดจากคลองวังบอน มีต้นน้ำจากเขาสมอปูน ไหลลงสู่หุบเขา อยู่ในตำบลเนินหอม ห่างจากที่ว่าการเมืองปราจีนบุรีเพียง 25 กิโลเมตร ทางเข้าน้ำตกจะอยู่บนเส้นทางเขาใหญ่-ปราจีนบุรี ซึ่งจะมีป้ายบอกเส้นทาง ที่ใต้น้ำตกจะมีหุบเขากว้างใหญ่ มีน้ำตกชั้น และทุ่งดอกไม้ที่จะผลิดอกในช่วงฤดูดอกไม้ ซึ่งหุบเขานี้ไม่มีทางเดินป่า จึงยากแก่การเข้าไป

การ โรยตัว ที่ น้ำตกธารรัตนา มีความสูงรวมหลายร้อยเมตร และต้อง โรยตัว ถึงที่ 4 ชั้น ชั้นแรก ผาเขมร สูงประมาณ 60 เมตร ต้อง โรยตัว ข้างสายน้ำ หน้าผาชัน 70 - 90 องศา ชั้นที่สอง สูงประมาณ 15 เมตร ชันประมาณ 70 องศา ธารน้ำตกจะตกลงด้านหนึ่ง นัก โรยตัว ปีนลงมาอีกด้านหนึ่ง จากนั้นต้องเดินข้ามทางน้ำไหลแรงริมหน้าผา ไปจุด โรยตัว ที่สาม ซึ่งมีความชัน 90 องศา และสูง 20 เมตร จากนั้นเดินตามสายน้ำ ที่มีทั้งตื้นเดินได้ และลึกขนาดลอยคอ จนถึงลานทรายกว้าง มาถึงจุดสุดท้ายเป็นการ โรยตัว จากหน้าผาของน้ำตกวังบอน ลงสู่เรือคายัค ที่อยู่ด้านล่างซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำวังบอน

การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ถึงรังสิตแยกขวาใช้ทางหลวงหมายเลข 305 ผ่านนครนายกแล้วใช้เส้นทางหมายเลข 33 ถึงสี่แยกเนินหอมเลี้ยวซ้ายใช้เส้นทางหมายเลข 3077 ขึ้นเขาใหญ่อีก 51 กิโลเมตร
ด่านตรวจอุทยานฯ ทั้งสองด้านเปิดเวลา 06.00-21.00 นาฬิกา




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 12 กรกฎาคม 2554 10:36:26 น.
Counter : 809 Pageviews.  

ทะเลใน หมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี



อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศตะวันตก ประกอบด้วยเกาะเป็นเขาหินปูน จำนวน 42 เกาะ ซึ่งมีความแตกต่างแปลกตากันออกไป บนเกาะมีลักษณะเป็นป่าดงดิบแล้งเป็นส่วนมาก แต่ก็สามารถพบป่าชายหาด ป่าเขาหินปูน ป่าชายเลนอยู่บ้าง มีการค้นพบพันธุ์พืชและสัตว์ป่าหายาก ได้แก่ กล้วยไม้รองเท้านารีช่องอ่างทอง ที่ถ้ำบัวบก เกาะวัวหลับ และเกาะสามเส้า และ ค่างแว่นถิ่นใต้ ที่ เกาะวัวหลับ นอกจากนี้ ยังพบแหล่งน้ำจืดที่มีน้ำตลอดปีอยู่หลายแห่ง เช่น ถ้ำน้ำ บน เกาะวัวหลับ พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นน้ำทะเล ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปะการังและสัตว์น้ำ มีการสำรวจพบปลาโลมาและปลาวาฬ และที่บริเวณช่องอ่างทองก็เป็นแหล่งปลาทูวางไข่มากที่สุดในประเทศไทย ตลอดทั้งปี จะมีลมค่อนแรงและมีฝนตกชุก โดยมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ย ประมาณ 23 องศาเซลเซียส
บน เกาะวัวหลับ ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ จะมีจุดชมวิวบนยอดเขา ซึ่งมองออกไปได้รอบทิศทาง มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่บริเวณอ่าวคา และมีที่พักไว้บริการ ซึ่งต้องติดต่อสำรองที่พักล่วงหน้าที่ 02 562 0760 แต่ถ้าหากสนใจขอเช่าเต็นท์ เช่าอุปกรณ์ หรือกางเต็นท์สามารถติดต่อโดยตรงที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

ความแปลกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมากของอุทยานฯ คือ ทะเลสาบน้ำเค็ม หรือ ทะเลใน ซึ่งพบที่เกาะแม่เกาะ 1 แห่ง และ เกาะวัวหลับ 2 แห่ง สันนิษฐานว่าเกิดจากการยุบตัวของหินปูน ทำให้เกิดบ่อลึก มีหน้าผาล้อมรอบ มีอุโมงค์ใต้น้ำเชื่อมสู่ทะเลเปิดด้านนอก เป็นทางผ่านของสายน้ำและฝูงปลา และทำให้มีน้ำขึ้น-น้ำลงเช่นทะเลทั่วไป ทะเลใน กลางเกาะแม่เกาะมีความงดงามดูคล้ายเป็นสระมรกต มีความยาว 250 เมตร กว้าง 200 เมตร

การเดินทาง
อัตราค่าโดยสารเรือโดยสาร 550 บาท ต่อคน ต่อเที่ยว หรืออัตราเหมาลำเรือเร็ว 10 คน 4,000 - 4,500 บาท ต่อเที่ยว หรืออัตราเหมาลำเรือทัวร์ 70-100 คน 12,000 - 15,000 บาท ต่อเที่ยว ติดต่อรายละเอียดเรือบริการได้ที่ บริษัท แอร์ซีทัวร์ โทรศัพท์ 0 7742 2263 หรือ บริษัท ไฮซีแทรเวล โทรศัพท์ 0 7742 1285, 0 7742 1290




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 10 กรกฎาคม 2554 9:36:39 น.
Counter : 696 Pageviews.  

ยอดเขาโมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงศ์ นครสวรรค์



ด้วยความสูงกว่า 1,950 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดแห่งหนึ่งในผืนป่าตะวันตก ตลอดทั้งปีที่นี่จะปกคลุมด้วยสายหมอกและเมฆฝน ยอดเขาแห่งนี้จึงได้ชื่อตามภาษากะเหรี่ยงว่า " โมโกจู " หมายถึงสถานที่ซึ่งมีฝนตกตลอดเวลา ในช่วงฤดูหนาวอากาศเย็นยะเยือก ดอกไม้นานาชนิดและกุหลาบป่าจะผลิบาน มองจากยอดเขาลงไปจะเห็นทะเลหมอกห่มคลุมผืนป่าจดโค้งขอบฟ้า เหนือป่าตะวันตกอันกว้างไกลสุดสายตา

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อนตามเทือกเขาถนนธงชัย ยอดที่สูงที่สุดคือ ยอดเขา โมโกจู เทือกเขานี้เป็นต้นน้ำของลำน้ำหลายสาย รวมถึงลำน้ำแม่วงก์ ป่าไม้ทั่วไปเป็นป่าเบญจพรรณสลับกับป่าเต็งรัง พบป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง และทุ่งหญ้าในบางพื้นที่ และเนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทำให้มีการสัญจรของบรรดาสัตว์ป่านานาชนิด สภาพอากาศร้อนหนาวจัดตามฤดูกาล ฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ ฤดูร้อน เดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เดือนมิถุนายน - เดือนตุลาคม
เส้นทางเดินป่าระยะไกล พิชิตยอดเขา โมโกจู เป็นการเดินทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนประสงค์ เพื่อเก็บเกี่ยวความประทับใจ และภาพทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขา การเดินทางไป-กลับ ต้องใช้เวลา 4-5 วัน ซึ่งทางอุทยานฯ จะจัดการเดินป่าในช่วงเดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อจองช่วงเวลากับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ โดยตรงที่ 0 5571 9010-1 และจะต้องดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนของทางอุทยานฯ ก่อนการเดินทางมาอุทยานฯ

ภายในอุทยานฯ มีบริการสาธาณูปโภคไฟฟ้าและร้านค้า/ อาหาร มีบริเวณที่ทำการอุทยานฯ เท่านั้น และหากนักท่องเที่ยวประสงค์จะค้างแรม ก็มีบ้านพักไว้บริการที่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ จำนวน 2 หลัง ในอัตรา 2,000 บาทต่อคืน และบริเวณช่องเย็น จำนวน 5 หลัง ในอัตรา 1,500 บาทต่อคืน ทั้งนี้ จะต้องติดต่อจองที่พักล่วงหน้าที่ 0 2562 0760 หรือหากประสงค์จะกางเต็นท์ อุทยานฯ ได้จัดสถานที่ไว้บริการ 4 จุด คือ บริเวณที่ทำการอุทยานฯ บริเวณแก่งผาคอยนาง บริเวณจุดชมวิวกิ่วกะทิง และบริเวณช่องเย็น สำหรับการจองเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามที่อุทยานฯ โดยตรง มีอัตราค่าเช่าระหว่าง 250 - 800 บาท ตามชนิดและขนาดเต็นท์ รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย ในกรณีที่มีเต็นท์มาเอง ต้องเสียค่าธรรมเนียมสถานที่ 30 บาทต่อคนต่อคืน หากต้องการเช่าชุดนอนทางอุทยานฯ ก็มีบริการให้เช่าในอัตรา 150 และ 200 บาทต่อชุดต่อคืน




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2554 12:02:01 น.
Counter : 940 Pageviews.  

1  2  3  4  

wvhso6
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Friends' blogs
[Add wvhso6's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.