Bloggang.com : weblog for you and your gang
Das Gesicht eines Menschen erkennst du im Licht, seinen Charakter im Dunkeln.
Group Blog
Berlin
Muenchen-Munich
Life of Nurse Student
Daily life in a bavarian hospital
NN
All blogs
เรียนภาษาง่ายนิดเดียว จริงหรือ???
NEW YEAR TAG : Tag ผ่านไปเกือบสองเดือนครึ่งแต่ยังเขียน 08อยู่ทุกที
เรียนภาษาง่ายนิดเดียว จริงหรือ???
มีคนถามมาหลังไมค์เยอะจริงๆ ว่าเรียนภาษาเยอรมันอย่างไรถึงจะเรียนให้เก่ง
มีคำตอบคำเดียวที่จะให้ได้นั่นคือ
"การฝึกหัด"
่ไม่ว่าจะเป็นทักษะการอ่าน การเขียน การฟังและการพูด
แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ
+เริ่มต้นด้วยการอ่าน
การอ่านหนังสือเยอะๆจะช่วยให้รู้จักและชินต่อรูปประโยคที่เคยเรียนมา การสร้างประโยคของภาษานี้ค่อนข้างจะยากและซับซ้อน บางทีประโยคเดียวกินไปครึ่งหน้า
วิธีแก้ปัญหานี้นั่นคือ อย่าไปegoนัก การเริ่มต้นด้วยการอ่านหนังสือเด็กที่เนื้อหาน่ารักๆ
เป็นวิธีจูงใจให้อ่านได้ดีทีเดียว แถมส่วนมากจะมีรูปประกอบ เคยอ่านหนังสือพิมพ์คอลัมล์หนึ่ง
ที่เขียนถึงการจำศัพย์ภาษาต่างประเทศว่า ทำไมเด็กที่มาอยู่ต่างประเทศหรือเด็กเล็กๆถึงเรียนคำศัพย์ได้ไว ซึ่งต่างกับผู้ใหญ่ที่เรียนแล้วก็ลืม
เค้าวิจัยแล้วก็สรุปออกมาว่า ผู้ใหญ่อย่างเราๆท่านๆมีวิธีการเรียนที่เด็กไม่มีโอกาสได้ใช้
นั่นคือการเรียนด้วยการเทียบกับสิ่งที่รู้มาก่อน จะเห็นได้จากเวลาเราเรียนภาษาต่างประเทศ
เรามักจะขีดเส้นใต้คำที่ไม่รู้แล้วเขียนภาษาไทยไว้ข้างๆตัวเล็กๆ ต่างกับเด็กที่เรียนด้วยวิธีมองเห็น
วัสดุแล้วจำคำนั้น ฟังดูแล้วยากแต่หากลองคิดชื่อภาษาต่างประเทศยากๆอย่าง Yves Saint Laurent ซึ่งบรรจุด้วยสามคำที่ไม่มีในภาษาไทย แต่นึกถึงชื่อนี้ก็สามารถบอกอย่างได้ทันที
ว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำด้วยการที่เคยเห็นภาพในนิตยสารต์หรือในโทรทัศน์มาก่อน
+การเขียน
ศัพย์และไวยากรณ์ภาษาเยอรมันเรียนแล้วปวดหัว ยิ่งการสะกดคำยิ่งแล้วไปใหญ่ เด็กที่นี่เรียน
สะกดคำด้วยการเขียนแบบที่พูด อย่างเช่น das Fenster เขียนด้วย F+E+N+S+T+E+R
แต่หากว่าเด็กคนหนึ่งมาจากทาง Schwabenซึ่งเค้าจะออกเสียง Sเป็น Sch เค้าไม่เขียน
Fenschterหรือ? ยิ่งคนเอเชียอย่างเราที่ออกคำบางคำไม่ได้จะใหนำวิธีนี้มาใช้
ยิ่งยากไปใหญ่
ดังนั้นไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการเขียน คำไหนที่จำไม่ได้ก็เขียนลงในกระดาษ เพื่อนที่เรียนด้วยกัน
คนหนึ่งเค้าจบประวัติศาสตร์มาจากปารีส เค้าก็ใช้วิธีนี้เหมือนกันตอนเรียนภาษาเยอรมัน
ครูทีีโรงเรียนก็เคยเปรยว่า อะไรที่ผ่านข้อมือออกมาจะเก็บอยู่ในสมองได้ดีกว่าสิ่งที่แค่ผ่านตา
+การฟัง
เชื่อหรือไม่ว่าคนที่นี่เวลาเค้าต้องพูดสนทนากับคนต่างชาติ(ส่วนมาก)เค้าจะพยายามพูดให้ช้า
และชัดเจน ตรงนี้เมื่อก่อนไม่เชื่อเพราะคิดว่าคนที่นี่ไม่ชอบคนต่างชาติ แต่พอนานๆเข้าถึงรู้ว่า
ภาษากลาง(Hochdeutsch)กับ ภาษาถิ่นอย่างBayerisch ต่างกันแค่ไหน
ตอนเวลาทำงานพอคนไข้รู้ว่าฟังภาษาถิ่นเค้ารู้เรีื่องเค้าก็มักจะ Brllllll ออกมาทันที
ซึ่งบางทีก็ไม่เข้าใจจนต้องัดเอาวิธีเดิมมาใช้นั่นคือ
การบอกให้เค้าพูดช้าๆลงหน่อยและศัพย์คำไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามเพราะรู้ดีกว่าไม่รู้
ที่นี่มีคำโฆษณาที่ติดหู Wer, Wie, Was; Wieso, Weshalb, Warum; Wer nicht fragt, bleibt dumm! พอได้ยินคำว่า dummหรือว่าซื้อบื้อก็
ดังนั้นอย่าไปกระดากอายเลยค่ะ คำถามๆแรกที่หลุดออกมาจากปากจะเป็นศัพย์คำต่อไปที่คุณจะจำได้แม่นที่สุด
+การพูด
ตรงนี้คนที่เรียนภาษาต่างประเทศจะมีปัญหามากที่สุด จะพูดอย่างไรให้คล่องและชัด
มีจุดๆหนึ่งอยากให้รู้ไว้ค่ะ คนเราพูดภาษาต่างชาติจะให้คล่องเพียงใดก็ไม่เหมือนคนท้องถิ่น
ยกตัวอย่าง Arnold Alois Schwarzenegger ไปอยู่ที่ USA จนเป็นgouverneur
แต่ก็พูดภาษาอังกฤษสำเนียง Austrainอยู่ดี ปัญหามันไม่ใช่อยู่ตรงที่ลิ้นแข็งหรือเปล่ว
แต่ว่ามันอยู่ที่การฝึกพูด ยกตัวอย่างจขบ.เอง เมื่อก่อนอยากจะ rrrr ในคอเหมือนคนฝรั่งเศส
ถามเพื่อนคนฝรั่งเศสว่าทำยังไง sheก็บอกวิธีการจัดปากและทิปให้ฝึกกับกระจก
ฝึกใหม่ๆแฟนก็ถามว่าเป็นอะไร พอrrrrได้ก็ไม่ชอบเพราะเคยมีคนไข้บอกว่า rrrrเหมือนคน
bayernมีเสน่ห์กว่า ซึ่งสำหรับคนไทยแล้วมันก็ง่ายกว่าเพราะเป็นการรัวลิ้นแบบธรรมดา
วันหลังจะมาเขียนต่อถึงปัญหาทำไมคนส่วนใหญ่ถึงอ่าน ฟังและเขียนภาษาต่างประเทศได้
แต่พูดไม่ได้
Create Date : 13 มีนาคม 2552
Last Update : 13 มีนาคม 2552 1:46:38 น.
10 comments
Counter : 2385 Pageviews.
Share
Tweet
Sawadee ka, just dropping by to say hello ka.
โดย:
CrackyDong
วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:4:04:58 น.
ภาษาอังกฤษหนูยังไปไหนไม่รอดเลยค่า
โดย:
คุณนายเหรียญบาท
วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:6:47:10 น.
โรงเรียนหนูจะเปิดจันทร์หน้าอยู่แล้วค่ะ
ยังไม่ได้ทบทวนเล๊ย.............
โดย:
currywurst
วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:12:14:12 น.
แม่มอมกำลังเรียนเกาหลีค่ะ
กะว่าจะพาลูกสาวมาเรียนคู่กันด้วย เดี๋ยวลองทำวิจัยดูดีกว่าเนาะ ผู้ใหญ่กับเด็กวิธีเรียนรู้คนละแบบ ผลสัมฤทธิ์จะต่างหรือเหมือนกันอย่างไร
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
ปอลอ นิ้งหน่องขี้อ้อนมาก และดูเป็นหมาที่ฝึกมาแล้ว เราเลยค่อนข้างมั่นใจว่ามีเจ้าของ
กลัวเด็กๆ จะเศร้าเหมือนกัน ถ้าเจ้าของเค้ามารับคืนน่ะค่ะ
โดย:
momster
วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:20:45:02 น.
แอม
เรามาอ่านแล้วเราก็พอเข้าใจนา
แต่แหม มันไม่ง่ายนะ
อ่านนะเราก้อ่านหนังสือทารก เรายังติกขัดเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าการอ่านมันมีส่วนมาก เราได้ภาษาอังกฤษมาบ้างก็เพราะการอ่าน แต่ก็อะนะ ภาษาเยอรมันอ่านทารกยังก่ายหน้าผาก แถมหนังสือเด็กก็ไม่ค่อยมี ประเทศฝรั่งเศสมี magazine เด็กเยอะกว่ามากเลย หนุกกว่ามากมาย
เฮ้อ ตอนนี้เราก็ต้องก้มหน้าเศร้าต่อปายยย ยากกก โค โค
โดย:
บะหมี่น้ำแสนอร่อย
วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:23:54:33 น.
จริงด้วยค่ะ พูดยากจัง ยิ่งไม่มีอะไรจะพูดด้วยแล้ว เกลียดที่สุดตอนสอบปากเปล่า ไม่รุ้จะพูดอะไรดี จะไม่พูดก็ไม่ได้
โดย:
menalina
วันที่: 22 มีนาคม 2552 เวลา:1:46:12 น.
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมค่ะ
กลับเมืองไทยพร้อมกันเลยเนอะ
เรื่องเรียนภาษาเห็นด้วยเลยค่ะ อีกอย่างเราว่าขึ้นกับพรสวรรค์แล้วก็ความชอบด้วย
โดย:
akachan
วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:8:03:15 น.
เห็นด้วยกับคุณนายเหรียญบาทค่ะ "ภาษาอังกฤษหนูก็จะไปไม่รอดแล้วค่า"
พยายามอยู่ค่ะ แต่ยังไม่ถึงที่สุด ยิ่งมีอคติว่ายากยิ่งทำให้ยากเข้าไปอีก เฮ้อ
โดย:
candleberry
วันที่: 1 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:15:19 น.
ดีแล้วแอม
พี่ว่า ที่แอมเริ่มวิเคราะห์จุดนี้ ซึ่งมันเป็นจุดที่หลายคนมองข้ามไป
พี่รู้จักพี่ๆหลายๆคน ที่เขาเก่งนะ เขียนเก่ง เรียนเก่ง แต่ไม่กล้าพูด ทั้งๆที่ศักยภาพของพี่ๆเขาสูงมาก และอยู่ที่นี่มานานแล้ว
มาเขียนต่อเร็วๆนะ พี่จะได้อ่านต่อ และจะขอไปให้น้องๆพยาบาลที่เพิ่งมาอยู่นี่ใหม่ๆวิเคราะห็ตาม และวางทางเรียนได้ถูกด้วย
จริงๆแล้ว พี่ก็มีเวลามาอัพเดท อ่านบล๊อกน้อยมาก หน้าร้อน คนทำงานน้อย ป่วยบ้าง อบรมบ้าง ยิ่งหน้าร้อน มีแต่อบรมๆ ต้องไปไกลๆเป็นร้อยกิโล ดังนั้นก็โผล่มา ตามเวลาที่มี
อยากให้มาวันรวมพยาบาล ที่ Hannover มากมีพี่ๆน้องมาจากเยอรมนี เดนมาร์ก นอรเวย์ แต่แอมบอกพี่แล้วว่ายุ่ง เข้าใจค่ะแต่สำหรับพี่น่าเสียดาย เพราะพี่คิดว่า แอมจะให้ข้อคิด คำแนะนำแก่น้องๆพี่ๆคนอื่นได้ ที่อาจจะต้องมาเรียนพยาบาลที่นี่ใหม่
โดย:
It-ta-tee
วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:3:27:26 น.
ตามมาอ่านค่ะ ขอบคุณที่ไปเม้นต์ในบล๊อกนกนะคะ
^^ เป็นมือใหม่หัดเขียนคร่า..าาา ^^
โดย:
Aery
วันที่: 28 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:03:11 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
schornstein
Location :
Berlin Germany
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Es gibt keinen Weg zum Glück. Das Glück selbst ist der Weg!
Friends' blogs
จรวดทีม
บะหมี่น้ำแสนอร่อย
Webmaster - BlogGang
[Add schornstein's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.