Das Gesicht eines Menschen erkennst du im Licht, seinen Charakter im Dunkeln.
Group Blog
 
All blogs
 
ชีวิตอันเดียวดายในวัยชรา

ช่วงนี้โรงเรียนส่งไปทำงานใน ambulanter Pflegedienst ลักษณะของการจะเป็นการดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ไม่ว่าจะเป็น การทำความสะอาดร่างกาย การจัดยา ทานยา ฉีดยา ทำแผล งานดูแลทำความสะอาดบ้านเล็กๆน้อยๆ เช่น ซักผ้า ล้างจาน จัดเตรียมมื้ออาหาร(มักจะเป็นขนมปังทาเนย+แยม+กาแฟหรือชา) การนำขยะไปทิ้ง
ฯลฯ
ambulanter Pfelgedienst ถือว่าเป็นแนวการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากสังคมที่นี่ จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมปัจจุบันที่ขนาดครอบครัวหดลงเรื่อยๆ สถิติการหย่าร้างที่นี่อยู่ที่ 50%ครอบครัวหลังการหย่าร้างถ้าไม่แตกแยกก็จะพัฒนาไปในลักษณะ patched work family(คู่สมรสที่นำลูกติดมาอาศัยอยู่ด้วยกัน) อัตราการเกิดต่ำ อีกทั้งความนิยมในการแยกกันอยู่ของสมาชิกในครอบครัว(ที่นี่ใครที่อายุุเกิน20 แล้วยังอยู่อาศัยกับพ่อแม่ จะถูกตราหน้าว่า"ไม่รู้จักโต")

พอลูกๆย้ายออกไปสร้างครอบครัวใหม่สมาชิกในครอบครัวก็เหลือเพียงแค่คู่สามีภรรยา
เกือบทั้งหมดของผู้ป่วยที่ดูแลอยู่จะอยู่ใน case สามีที่แต่งงานกันมามากกว่า40ปี บางรายถึงเกือบ60ปีด้วยซ้ำเสียชีวิตตายจากไป ทิ้งภรรยาที่สูงอายุ ป่วย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า(ในสถานการณ์นี้ก็เป็นพยาบาลใน ambulanter Pflege)

บางคนอาจจะถามในใจว่า ทำไมเค้าถึงไม่อยากอยู่ในบ้านคนชรา
เหตุผลแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆได้สองประเด็น นั่นคือ
1.บ้านยังไงก็เป็นบ้าน คนไข้หลายๆคนเล่าในทำนองเดียวกันให้ฟังว่า บ้านที่เค้าสร้างมากับมือนี้ แม้เค้าต้องอยู่คนเดียวแต่ก็อยู่อย่างสงบใจในที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีในอดีต ต่างกับบ้านคนชราท่ีขนาดของห้องพักจะขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์และ Pflegestufe บ่อยครั้งที่ผู้สูงอายุต้องอยู่ห้องเตียงคู่เล็กๆกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ด้วยความที่อยู่ Pflegestufe เดียวกันก็ถูกจัดมาร่วมห้องโดยไม่สอบถามความคิดเห็นใดๆทั้งนั้น ฟังดูอาจจะน่าตื่นเต้นสำหรับคนรุ่นๆแต่สำหรับคนที่อยู่อย่างสันโดษเกือบทั้งชีวิตคงคิดในทางตรงข้าม
2.ปัญหาด้านเศรษฐกิจส่วนบุคคล ที่นี่รัฐบาลเค้าเลี้ยงไปจนตายก็จริงแต่กขึ้นอยู๋กับสถานการณ์ เช่นว่า บุคคลนั้นได้ส่งภาษีบำนาญเดือนละเท่าไหร่และเป็นเวลานานเท่าใด ประกันสุขภาพรับค่าใช้จ่ายแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เช่น ค่ายา ผ้าพันแผล ค่าอาหาร ฯลฯ ผู้ป่วยและญาติต้องควักกระเปําจ่ายบางส่วนเอง บางคนถึงต้องจ่ายเพิ่มถึง 5000 ยูโรต่อเดือนให้กับค่าดูแลในบ้านพักคนชรา ดังนั้น การอาศัยอยู่กับบ้านจึงเป็นทางออกในการประหยัดรายจ่ายด้านนี้

แต่สำหรับคนแปลกหน้าอย่างดิฉัน อดสะท้อนใจไม่ได้เวลาเห็นหญิงชราอยู่บ้านหลังใหญ่ที่เงียบกริบคนเดียว สิ่งบันเทิงใจอย่างเดียวอาจจะเป็น วิทยุเก่าๆรุ่นสมัยสงครามโลกหรือโทรศัพท์ที่นานทีปีหนจะมีคนโทรมาหา ห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยรูปภาพเก่าๆ ห้องครัวที่ไม่ได้ใช้งานมาแรมปีแม้จะถูกทำความสะอาดและจัดอย่างเรียบร้อยแต่ก็ยังสามารถ
สัมผัสบรรยกาศของชีวิตของหญิงชราผู้นี้ตอนที่ครอบครัวยังอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา

ครอบครัวคือสถาบันเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิตจริงๆ หากแตกแยกจากกันไปคนที่เหลืออยู่คงตรมใจถึงวันตาย


Create Date : 11 ตุลาคม 2550
Last Update : 17 ตุลาคม 2550 4:02:42 น. 3 comments
Counter : 447 Pageviews.

 
เศร้าใจ


โดย: จรวดทีม วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:10:55:22 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ อยู่เยอรมันเหมือนกันค่ะ


โดย: naynew1 วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:0:46:06 น.  

 
เศร้าจัง
อ่านแล้วนึกย้อนถึงตัวเอง เมื่อถึงเวลานั้น เราจะเป็นอย่างไรนะ


โดย: กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:0:33:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

schornstein
Location :
Berlin Germany

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Es gibt keinen Weg zum Glück. Das Glück selbst ist der Weg!
Friends' blogs
[Add schornstein's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.