Group Blog
 
All blogs
 

ชีวิตคู่และการเดินไปบนเส้นทางธรรม กับคุณแม่ศันสนีย์ เสถียรสุต

จากนิตยสารสารไท
ฉบับที่ 24 เมษายน - กรกฏาคม 2552























อยากให้ทุกครอบครัวเป็นครอบครัวอริยะแบบนี้จังเลยนะ

แต่อย่างไรก็แล้วแต่ มันอยู่ที่เราต้องสร้างขึ้นมา

คิดดี ทำดี อย่าเอาแต่แข่งขัน ควรจะเพิ่มการแบ่งปัน

อะไรๆ น่าจะดีกว่านี้เนอะ

เริ่มที่ตัวเรา สู้ๆ









 

Create Date : 08 สิงหาคม 2552    
Last Update : 8 สิงหาคม 2552 10:20:39 น.
Counter : 926 Pageviews.  

สร้างพระเครื่อง ปลุกเสกพระ ผิดหลักพุทธศาสนาหรือไม่?

เคยสงสัยเรื่องนี้อยุ่เหมือนกัน

พอดีได้ไปเจอหนังสือของหลวงปู่หล้า เขมปตโต ตอบปัญหาธรรมะ

ขอยกมาแค่พอเข้าใจคร่าวๆนะคะ แล้วที่ผู้อ่านชอบเป็นการส่วนตัว

คำถาม
ปัจจุบันมีเกจิอาจารย์จำนวนมาก ที่สร้างพระเครื่อง ปลุกเสกพระ ทั้งเพื่อประโยชน์แก่ศาสนา และอื่นๆ ไม่ทราบว่าผิดหลักพุทธศาสนาหรือไม่


คำตอบ
เรื่องพระเครื่องที่ปัจจุบันเกจิอาจารย์ทำมากเป็นการผิดหรือไม่และปลุกเสกพระทั้งเพื่อประโยชน์คือการสร้างพระขาย...ในข้อนี้หลวงปู่ไม่พอใจอธิบายจะว่าเป็นคำถามที่ไม่ควรตอบก็ถูก แต่ในชีวประวัติของหลวงปู่ได้เล่าเรื่องขององค์หลวงปู่มั่นแล้ว หลวงปู่มั่นกล่าวว่า"องค์ท่านเป็นพระพุทธเจ้าอย่างเต็มที่แล้ว เราดีอย่างไรจึงจะไปเสกให้ท่านขลัง"


อืมมมมมมมมมมมมมมมมมม

ถ้ามีเวลามากพอจะเอามาให้เต็มรูปแบบทั้งคำถามและคำตอบ

ท่านตอบคำถามที่เข้าใจง่าย แล้วไม่สุดโต่งจนเกินพอดี แล้วยังมีหลายๆอย่างที่เป็นข้อคิดที่ดีอีกด้วย




 

Create Date : 05 มีนาคม 2552    
Last Update : 5 มีนาคม 2552 21:46:22 น.
Counter : 366 Pageviews.  

พูดตรง

อ่านแล้วชอบจัง ขอเก็บไว้ซะหน่อยเอาไว้เตือนตัวเอง



มีคำพูดอยู่คำหนึ่ง ที่เราอาจได้ยินกันบ่อย ๆ โดยเฉพาะจากคนมั่น ๆ : ) ประเภทที่ว่า...

"ฉันก็เป็นคน พูดตรง อย่างนี้แหละ..."
"ขอโทษ อย่าหาว่าดูถูกเลยนะ แต่ พูดตรง ๆ @#$%+%&*+%&@... !!" (+_+")

พูดตรง... เหตุผลที่เหมือนตั้งต้นอยู่บนความจริงใจ
แต่พูดบอกออกมาทีไร กรีดใจและทำเอาคนฟังสะอึกอึ้งไปตาม ๆ กันทุกที
จนบางทีก็ยากจะแยกแยะ ว่ามันต่างกันตรงไหนหนอ
พูดตรง พูดพล่อย ๆ พูดทุกอย่างที่คิด พูดจาถือดี วจีจากโทสะ พูดแบบแอบสะใจ?

หลายครั้งที่เราเชื่อมั่นในความจริงใจ และเหมือนจะแสดงออกถึงความหวังดี
แต่กลับลืมวิธีที่จะสื่อออกไปด้วยพื้นฐานของ "เมตตา"

การพูดกัน การตักเตือนแนะนำกัน ด้วยคำจริง คำตรงนั้น
ย่อมดีต่อการปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่บกพร่องอย่างถูกจุดแน่นอนอยู่แล้ว
แต่การ "เลือก" วิธีสื่อสาร และวิธีใช้คำพูด
บนพื้นฐานของความปรารถนาดีต่างหาก
ที่จะทำให้ผู้รับฟัง เข้าใจ และเปิดใจยอมรับคำแนะนำนั้นมาสู่จิตสู่ใจจริง ๆ

แล้วทำไมต้องเหนื่อยคิดหาวิธีพูดและคำพูดกันให้ยุ่งยากด้วยเล่า?

ก็เพราะโดยพื้นฐาน ทุกคนรักตัวเอง ไม่มีใครชอบให้คนพูดจากระแทกใส่ตัวตนของเรา
สังเกตดูตัวเราเองง่าย ๆ ลองใครมาบ่นมาตำหนิเราสักแค่ประโยคสองประโยค
ใจเราก็อึดอัดแข็งแน่นด้วย "แรงต้าน" ขึ้นมาโดยอัตโนมัติฉับพลันอยู่แล้ว

และแต่ละคนก็เติบโตหล่อหลอมมาด้วยสภาพแวดล้อม วิธีคิด และวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนกัน
ด้วยคำพูดเดียวกัน วิธีรับสาร วิธีแปลสาร ของแต่ละคนจึงอาจแตกต่างกันได้โดยสิ้นเชิง

หากพูดด้วยความสะใจ หรือปน ๆ ว่าได้ยกตนข่มท่าน
คำพูดนั้นก็มักตั้งต้นที่มุมมองและจิตใจของผู้พูด
แต่หากพูดหวังผลลัพธ์ที่สร้างสรรค์ จากการติเพื่อก่ออย่างแท้จริง
คำพูดนั้นก็ควรตั้งต้นที่มุมมองและจิตใจของผู้ฟัง

บ่อยครั้งที่เรามักจะนึกถึงความหมายของคำว่า "สื่อสาร"
ว่าหมายถึง การพูด การบอกสิ่งที่อยู่ในใจออกไปยังคนที่ฟังเราอยู่ตรงหน้า
ทั้งที่จริงแล้ว การสื่อสาร ยังหมายรวมถึง การเปิดใจ "ฟัง" คู่สนทนาของเราอีกด้วย
แต่ไม่มีใครสักกี่คนนัก ที่จะสื่อสารสาระสำคัญของสิ่งที่ต้องการบอก ด้วยการฟัง

การพูดตรง จึงมักเป็นข้ออ้างให้หลายคนตั้งต้นด้วยการพูดออกไปอย่างใจคิด
โดยลืมเสียสนิทว่ามีอะไรอยู่ในใจของคนฟังบ้าง

ว่าแล้วก็มีนิทานจากหนังสือ "ทำบุญต้องได้บุญ" เรื่องหนึ่ง ที่อยากนำมาฝาก

"พี่เด็จ เอาของส่งให้เขา ๒ มือ ค่อย ๆ ประเคนส่งให้ต่อหน้า อันนี้ตรงไหม?"
"ตรง"
"ดีไหม?"
"ดีซิ"
"เอามือเดียวส่งให้ ตรงไหม?"
"ตรง"
"ของชิ้นนั้นน่ะ ขว้างหัวให้ ตรงไหม?"
"ตรงเหมือนกัน"

"พี่เด็จนะ... คำพูดก็เหมือนกัน พูดตรง ๆ น่ะดี
แต่ว่าประเภทของคำ ถ้าไม่ระวัง ก็อย่างที่ยกตัวอย่างให้ฟัง
ถ้าพูดด้วยคำชนิดหนึ่ง ก็เหมือนกับส่งของให้สองมือ
คำพูดอีกชนิดหนึ่ง ก็เหมือนกับส่งของให้มือเดียว
คำพูดอีกชนิดหนึ่ง ก็เหมือนขว้างหัวให้กันเลย
เพราะฉะนั้น คำพูดตรง ๆ ของพี่เด็จช่วยปรับ ๆ หน่อยนะ..." : )

แปลว่าในการพูดตรง เรายังมี "ทางเลือก" ในการสรรหาคำพูด และวิธีพูดอีกมากมาย
และก็ไม่ได้แปลว่าต้อง ครับผม คะขา โอ้โลม พูดจาภาษาดอกไม้กันเสมอไปนะคะ
แต่ยังมีกลวิธีและคำพูดอีกมากมาย ที่สะกิดใจกันได้ โดยไม่ฝากรอยร้าวให้แก่กัน



สังคมไทยเรา อย่างไรก็เป็นสังคมถ้อยทีถ้อยอาศัยนะคะ ถนอมน้ำใจกันไว้
คิดถึงใจเขาใจเรา เราไม่อยากได้ยินคำพูดแบบใด ก็งดการใช้คำพูดแบบนั้นกับคนอื่น
ขยายขอบข่ายของความรู้สึกเรา สวมหัวใจ นึกถึงความรู้สึกของคนรอบข้างอีกสักนิด

เคยได้ยินกับตัวเองนะคะ คำพูดที่เจือการกดข่มผู้ฟังอยู่เป็นนัย ๆ อย่างเช่น

"ขอโทษนะ พูดตรง ๆ จบปริญญาโทมา ไม่น่าถามคำถามแบบนี้
ระดับการศึกษาน่าจะช่วยให้คนคิดได้ ไม่ได้ดูถูก แต่ฟังแล้วรู้สึกเป็นห่วงชาติจริง ๆ"

"ถ้ามองความหวังดีของชั้นไม่ออกก็ตามสบาย จะพัฒนาตัวเองก็น่าจะต้องรับคำวิจารณ์ได้
เสียเวลาเอาเวลาอันมีค่ามาแนะนำให้คนไม่เห็นคุณค่า เซ็ง..."

ถ้าสวมวิญญาณคนฟัง ก็คงพอเดากันได้นะว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร
คำหลายคำ พูดออกไปแล้วอาจไม่ได้มีประโยชน์ต่อการติเพื่อก่อแต่อย่างใดเลย

และเพราะคำพูดนั้นเป็นสิ่งที่ปรุงออกมาจากจิต
หากเราหมั่นตั้งต้นที่พื้นฐานของ "ความเมตตา" ต่อผู้อื่นอยู่เสมอ ๆ แล้ว
เราก็จะค่อย ๆ ฉลาดในการค้นพบวิธีพูดและคำพูดที่สร้างสรรค์ได้เองค่ะ : )

แม้พระพุทธเจ้าท่านก็ได้ตรัสสอนถึงวิธีการใช้วาจาไว้ใน อภัยราชกุมารสูตร
ซึ่งนับเป็นหลักการพูดชั้นยอดเลยทีเดียวนะคะ มีใจความโดยสรุป ดังนี้ค่ะ

๑. วาจาใดไม่จริง ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
พระพุทธองค์ไม่ตรัสวาจานั้น

๒. วาจาใดจริง แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
พระพุทธองค์ไม่ตรัสวาจานั้น

๓. วาจาใดจริงแท้ ประกอบด้วยประโยชน์ แต่ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
พระพุทธองค์ย่อมรู้จักกาลอันควรหรือไม่ควรที่จะตรัสวาจานั้น

๔. วาจาใดไม่จริง ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
พระพุทธองค์ไม่ตรัสวาจานั้น

๕. วาจาใดจริงแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
พระพุทธองค์ไม่ตรัสวาจานั้น

๖. วาจาใดจริงแท้ ประกอบด้วยประโยชน์ เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น
พระพุทธองค์ย่อมรู้จักกาลอันควรหรือไม่ควรที่จะตรัสวาจานั้น


สังเกตไหมคะว่า ท่านจะเลือกกล่าวก็เฉพาะวาจาที่ จริง และมีประโยชน์ เท่านั้นเป็นพื้น
แต่แม้จะจริงแล้ว มีประโยชน์แล้ว บางอย่างก็อาจถูกใจผู้ฟัง บางอย่างผู้ฟังก็อาจไม่ชอบใจ
แต่หากมีเหตุอันควรให้พูด พระพุทธองค์ท่านก็ยังให้ รู้จักเลือกพูดในกาลอันเหมาะสม

บางคนอาจนึกโอดโอย โห... ก็พูดก็เม้าท์กันทั้งวันอย่างนี้ ใครจะไปทันตรองทุกคำที่พูดได้เล่า
แม้จะไม่ถึงกับต้องคาดหวังว่าเราจะคิด ๆ ๆ ก่อนพูด ๆ ๆ ได้ทุกคำ
แต่อุปกรณ์ที่จะช่วยเราได้ดีที่สุด และบ่อยที่สุดชิ้นหนึ่ง ก็คือ "สติ" นี่ล่ะค่ะ

สติ หรือความระลึกได้ ที่เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
จะช่วยให้เรารู้ทันความเคลื่อนไหวในจิตใจของเราเอง
ถ้าดักอีโก้ ดักโทสะ ดักความหลง ดักคำพูดร้าย ๆ นั้นได้ตั้งแต่เพิ่งก่อร่างสร้างตัวอยู่ในใจ
คำพูดที่เราจะ "เลือก" พูดออกไป ก็ย่อมมีโอกาสเป็นไปในทางสร้างสรรค์กว่ากันแน่นอน

***จำไม่ได้ว่าเอาเรื่องนี้มาจากที่ไหน กลับมาอ่านอีกทีก็ยังเป็นเรื่องที่เตือนสติได้ทุกที อ่านแล้วมันเกิดคำนี้ เออใช่ ๆๆๆ




 

Create Date : 31 มกราคม 2552    
Last Update : 31 มกราคม 2552 19:14:50 น.
Counter : 1273 Pageviews.  

จัดลำดับสลับใหม่

จัดลำดับสลับใหม่



จุดยืนแต่ละจุด มีพลังสร้างสรรค์ที่แตกต่าง

รวบรวม เรียบเรียง สลับตำแหน่ง

นำไปสู่วิถีทางใหม่ที่ท้าทาย

และแปลกใหม่ได้เสมอ




 

Create Date : 30 มกราคม 2552    
Last Update : 30 มกราคม 2552 22:53:41 น.
Counter : 580 Pageviews.  

เมื่อฉันกระโดดตึก

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.




 

Create Date : 30 มกราคม 2552    
Last Update : 30 มกราคม 2552 23:07:40 น.
Counter : 499 Pageviews.  

1  2  

ดูดีคู่สีจี๊ด
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เช็คข้อความหลังไมค์
ข่าวประจำวัน
หัดรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลาง


: Users Online

Friends' blogs
[Add ดูดีคู่สีจี๊ด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.