ออกัสเหมือนพิมพ์ผิดนะฮะ

ขอบคุณค่ะ อ่านแล้ว ลึกซึ้ง กินใจ ขอให้ความรักโอบล้อมทุกเส้นทางเสมอไปค่ะ

ก่อนอื่นดิฉันขอออกตัวก่อนนะคะว่า
ปกติแล้วดฉันเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่อง เกย์กระเทย เลสเบียนเลย แต่พอได้มาดูหนังแล้ว ความรู้สึกก็เปลี่ยนไป มีความเห็นใจบุคคลกลุ่มนี้มากขึ้นและเริ่มที่จะเข้าใจมากขึ้น
และยิ่งดูก็ยิ่งอินไปกับหนังค่ะ อยากให้มีการสร้างภาค 2
อีกจัง แล้วใช้นักแสดงกลุ่มเดิมนะคะ เพื่อความต่อเนื่อง
ของเนื้อหา ที่จะได้ทำให้คนดูรู้สึกพอดี ไม่ขาดไม่เกิน เพราะถ้าเปลี่ยนตัวแสดงแล้ว อาจจะทำให้มีปัญหาเรื่อง
แอคติ้ง เพราะคนแต่ละคนอารมณ์การรับรู้ไม่เหมือนกัน
ถ้าใช้นักแสดงตัวเดิม เค้าเคยแสดงไว้ เค้าย่อมจะจำ
อารมณ์ที่ตนแสดงได้ และจะเกิดความพอดี ไม่ล้นจนเกิน
และไม่ขาดจนทำให้เสียอารมณ์

มาเข้าเรื่องกันเลยนะคะ
คุณสวัสดีครับ คิดเหมือนดิฉันเลยค่ะ
(ฉากที่มิวเอาจมูกมาใส่ให้ตุ๊กตาไม้) ว่า
เหมือนมันมีช่องว่างเกิดขึ้นระหว่างมิวกับโต้ง
เป็นความรักที่ไม่ลงตัว เพราะรักกันแต่ไม่อาจอยู่ด้วยกัน

แต่ในชีวิตจริงของสังคมไทยในปัจจุบัน มีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นมาเยอะแยะมากมาย ซึ่งคนบางส่วน(ไม่แน่ใจว่ากี่%)
ก็เริ่มที่จะยอมรับบุคคลประเภทนี้(เกย์)ได้แล้ว เหมือนการยอมรับกระเทยให้เป็นเพศที่3 เพราะบุคคลประเภทนี้จะมีความสามารถมากกว่าชายจริงหญิงแท้บางคนเสียอีก
ที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่สร้างสรรค์อะไรเลย
ดูได้จากบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายท่าน ที่ออกมายอมรับ
(ด้วยการกระทำ) ว่าตัวเองเป็นบุคคลที่มีบุคลิกแบบนี้
(เกย์และกระเทย) แล้วก็สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
ได้อย่างดีระดับหนึ่ง ผิดจากพวกที่ยินดีในตัวเองว่าเป็นชายจริงหญิงแท้บางกลุ่ม ซึ่งนอกจากจะไม่สร้างชื่อเสียง
แล้ว ยังจะสร้างชื่อเสียอีก(ดูได้จากข่าวคาวทั้งหลายบน
หน้าหนังสือพิมพ์ มันเป็นข่าวคาวจริง ๆ ) บางคนก็คบกับผู้หญิงเพื่อปิดบังในส่วนมืดของตนเอง ( เหมือนที่คุณสวัสดีครับบอกนั่นแหละค่ะ ) เพราะเพื่อนดิฉันก็เป็น ปัจจุบัน เริ่มค้นพบตัวเองแล้วค่ะ ซึ่งดิฉันก็ยินดีกับเค้าด้วย

ดิฉันว่าถ้าจะทำเป็นภาค 2 จริง ๆ ก็น่าจะทำแล้วขายได้ไม่น้อยหน้าภาคแรกนะคะ และอีกอย่างสังคมไทยเราในปัจจุบันก็ยอมรับเรื่องพวกนี้กันบ้างแล้ว
(ดูจากการสร้างหนังเกย์อื่น ๆ อีกหลายเรื่อง และการนำนักแสดงชายมาแสดงในบทของสาวประเภทสองและการบริโภคหนังเกย์จากต่างประเทศ) มันแสดงให้เห็นว่าถ้า
บ้านเราจะมีการสร้างหนัง(เกย์)อีกซักเรื่อง ที่เป็นหนังที่มี
คุณภาพ ไม่ใช่หนังตลาด(แบบปัจจุบัน) ก็น่าจะลองนำเรื่อง
รักแห่งสยามมาพิจารณากันใหม่อีกซักรอบ เพียงแต่อย่าให้เนื้อหาเป็นแนว make love กันมากจนเกินไป เอาแค่พอดีเหมือนภาคแรก แค่นี้ก็ดีมากแล้วคะ ดูสะอาด เนียน ๆ สบายตา ไม่รบกวนจิตใจ พอน่ารัก (แต่อย่าให้นานไปเหมือนฉากจูบกันในภาคแรกนะคะ ขนลุกค่ะ) เพราะดิฉัน
คิดว่าการแสดงความรัก ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ชายหญิง ชายชาย หรือ หญิงหญิง แค่การกอด หอมแก้มหรือสัมผัสกันด้วยความนุ่มนวลแค่จับมือ ก็มีความสุขได้ค่ะ และขอจบแบบ happY ending ด้วยนะคะ ไม่อยาก
ให้ทั้งโต้งและมิว ต้องเจอการพลัดพราก เพราะมันเป็นการลงโทษที่เลวร้ายเกินไปสำหรับความรัก ถ้ามิวจะไปเรียนต่อ ก็ให้โต้งไปด้วยกัน อะไรประมาณ อาจจะให้
มิวเลิกเป็นนักร้องแล้วมาอยู่เบื้องหลังให้กับวงออกัส แล้วก็สามารถคบกับโต้งได้แต่ไม่ต้องแสดงออกมากมายเหมือนคู่รักทั่วไป เพียงให้รู้ว่า เขาทั้งสองคน ยังมีกันและกันก็พอ แค่นี้คนดูก็น่าจะยินดี และมีความสุขแล้วนะคะ
ที่คุณสวัสดีครับเรียบเรียงไว้ก็ดีค่ะ แต่ไม่อยากให้ทั้ง
มิวและโต้ง ต้องมาพบกับการรอคอยอีก เพราะเค้าสองคนก็รอกันและกันมานานเกินไปแล้ว (กลัวจะรู้ว่าตนเองชอบอะไร ก็นานหลายปี) พอเข้าใจในความรู้สึกของตัวเอง
ก็ดันต้องมาเจอกับการต่อต้านและการพลัดพรากอีก มันรันทดเกินไปค่ะ

พิมพ์ซะยาวเลย อยากให้คุณมะเดี่ยวมาเห็นข้อความต่าง ๆ ที่แฟนคลับ รักแห่งสยาม โพส ไว้ ทุกข้อความจังเลยค่ะ
เพื่อทีจะเปลี่ยนใจมาสร้างภาค 2 จริง ถ้าเป็นจริง ก็ขอนักแสดงชุดเดิมนะคะ เพราะน้อง ๆ เค้าแสดงกันไว้ได้ดีเยี่ยมค่ะ และจบแบบhappy ending นะคะ แค่เขา
มีความรักที่ผิดแปลกออกไป แค่นี้ ก็น่าจะเกินพอแล้ว อย่าต้องทำให้พลัดพรากจากกันอีกเลย